ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

นาฏกรรมอำพราง

เขียน เรณี ความยาว 403 หน้า สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ plot      ศิวนพที่รับหน้าที่เป็นผู้กำกับละครเวทีเรื่อง ทิวาราตรี โดยมี เจรตา แฟนสาวรับบทนำ มาขอบุคลากรจากภาควิชาการละครที่ตนเองเคยเป็นศิษย์เก่าให้ช่วยงานเบื้องหลัง   โดยการแสดงครั้งนี้จะเกิดขึ้นที่โรงละครนาฏยะ สถานที่เดียวกับที่เคยเปิดแสดงและเกิดโศกนาฏกรรมนางเอกฆ่าตัวตายบนเวทีต่อหน้าผู้ชมในรอบสุดท้ายเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่ง เศรษฐีชาวตะวันออกกลางบิดาของ เจรตา นักแสดงนำคนปัจจุบันทุ่มเงินซื้อพร้อมทั้งปรับปรุงใหม่เพื่อใช้เป็นเวทีเปิดตัวของลูกสาว       แววเพชรอดีตคนรักของศิวนพรับหน้าที่เป็นผู้กำกับเวที ถึงแม้ว่าเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตเธอจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอจบความสัมพันธ์แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกัน แววเพชรก็ยังหวั่นไหวแต่ต้องพยายามหมางเมิน ศิวนพที่ไม่เคยลืมแววเพชรอีกทั้งยังคาใจถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายขอจบความสัมพันธ์ก็มักจะพาตัวเองมาใกล้แววเพชรทุกครั้งที่มีโอกาส บวกกับเอกอรนางร้ายที่หมั่นไส้เจรตาที่ชอบทำตัวสูงส่งเป็นทุนเดิมคอยเป็นกองหนุน(แบบไม่ได้รับเชิญ) ทำให้ศิวนพแน่ใจในความรู้สึกที่มีต่อแววเพชรไปบอกเลิกกับเจรตา เจรตาที่เกิดมาแล้วไม่เคยพลาดหวังจา

Hotarubi no mori e

plot      โฮตารุ มักจะไปเที่ยวที่บ้านคุณตาคุณยายทุกฤดูร้อน แต่ฤดูร้อนที่เธออายุครบ 6 ขวบ เธอหลงทางอยู่ในป่า ในตอนนั้นเธอได้พบกับ กิง ภูติที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เพราะเขาจะดับสูญเมื่อสัมผัสตัวมนุษย์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ช่วยพาเธอออกจากป่า หลังจากวันนั้นเธอก็มักจะแวะเวียนไปหาเขาเสมอ เที่ยวเล่นในป่าด้วยกันทุกวันจนหมดฤดูร้อน หลังจากนั้นทุกปีเมื่อโฮตารุไปเที่ยวที่บ้านคุณตาเธอก็จะแวะไปหากิงเสมอ     เวลาล่วงเลยไปจนโฮตารุขึ้นมัธยมปลายแต่กิงก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เขายังเป็นเหมือนเมื่อตอนแรกเจอ ถึงแม้จะไม่ได้สัมผัสแต่อย่างน้อยก็อยากอยู่ด้วยกัน วันหนึ่งกิงชวนโฮตารุมาเที่ยวงานเทศกาลของเหล่าภูติผี โฮตารุรู้สึกเหมือนกับว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้พบเขา แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อกิงไปแตะถูกตัวเด็กมนุษย์ที่หลงเข้ามาในงานเทศกาลโดยบังเอิญ โฮตารุจึงมีโอกาสสัมผัสกิงเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะหายไป character ทาเคงาวะ โฮตารุ : สาวน้อยที่ไม่กลัวภูติผี กิง : เขาเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ถูกทิ้งไว้ในป่าตอนที่ยังเป็นทารก ท่านยามางามิร่ายมนต์ไว้บนตัวเขาให้มีชีวิตต่อไปไ

แผนร้ายพ่ายรัก

เขียน ปิ่นปินัทธ์ ความยาว 440 หน้า สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ plot      ทั้งที่เป็นเหมือนโลโก้ของสายการบินที่ทำงานอยู่ แต่ไม่รู้เป็นอย่างไรงานถึงเข้าเขมมิกไม่เลิก เริ่มตั้งแต่เหตุสะดุดล้มหงายหลังจนเป็นเหตุให้เค้กแต่งงานของลูกสาวเจ้าของสายการบินกับกัปตันอดีตแฟนเก่าของตัวเอง วันรุ่งขึ้นต้องขึ้นบินแทนรุ่นพี่นึกว่าจะหลบเรื่องฉาวได้ดันลืมตัวตอบโต้ผู้โดยสารชีกอจนอีกฝ่ายถึงกับเลือดตกยางออก ระหว่างที่กำลังลำบากเพราะถูกพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนอยู่นั้น คุณแสงสุดา ท่านรองประธานสายการบินที่เธอทำงานอยู่ให้ทำงานที่เธอกับเพื่อนมักจะรับจ๊อบหารายได้พิเศษเป็นครั้งคราว นั่นคือ ทำให้ลูกชายกับคนรักของเขาเลิกกันแถมด้วยต้องทำให้ฟาร์มหมูที่เขาบริหารอยู่เจ๊ง เพื่อให้เขากลับมาดูแลกิจการสายการบินและแต่งงานกับคนที่เธอเตรียมไว้ให้ อีกทั้งก่อนเดินทางเธอทราบว่าแม่ของเธอป่วยเป็นมะเร็งเธอยิ่งจำเป็นต้องทำ       เขมมิกเดินทางไปพัทลุงตามคำสั่ง  โดยคนของแสงสุดาติดต่อกับพิแสงไว้ก่อนโดยบอกแต่เพียงว่าเป็นเด็กฝึกงาน เขมมิกเตรียมตัวกะไปยั่วนายหัวบ้านนอกเต็มที่ แต่กลับกลายเป็นว่าเหยื่อของเธอไม่หมูเหมือนสัตว์ที่เค้าเลี้ย

ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์

ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ Howl’s Moving Castle เขียน Diana Wynne Jones แปล เศรษฐศิริ  วงศ์ศรานนท์ ความยาว 348 หน้า สำนักพิมพ์ มติชน plot       เมื่อพ่อเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน โซฟีซึ่งเป็นลูกสาวคนโต และโตพอที่จะออกจากโรงเรียนโดยไม่ต้องกลับไปเรียนอีก จึงต้องรับหน้าที่เป็นเด็กฝึกงานของร้านขายหมวก สมบัติของพ่อที่ตอนนี้แม่เลี้ยงของเธอเป็นผู้ดูแลอยู่เพื่อให้พร้อมสำหรับการสืบทอดกิจการต่อ ในขณะที่น้องสาวของเธอถูกส่งไปอยู่ที่อื่นเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆที่จะปูทางไปสู่อนาคตที่ตื่นเต้น ระหว่างประดิษฐ์หมวกแต่ละใบ โซฟีมักจะพูดกับหมวกไปด้วย เรื่องดีๆเหมือนที่โซฟีพูดกับหมวกเกิดขึ้นกับคนที่ซื้อหมวกใบนั้นไป ทำให้ร้านของเธอขายดี        วันหนึ่งแม่มดแห่งทุ่งร้างเดินเข้ามาในร้าน และสาปโซฟีให้กลายเป็นคนแก่ โดยบอกว่านี่เป็นการสั่งสอนที่โซฟีมายุ่งกับสิ่งที่เป็นของเธอ โซฟีเดินทางออกจากบ้านตามลำพังอย่างไร้จุดหมาย จนได้พบกับปราสาทเคลื่อนที่ของฮาวล์ โซฟีที่กำลังเหนื่อยอ่อนเดินเข้าไปในปราสาทด้วยความมั่นใจว่าด้วยรูปลักษณ์หญิงชรา เธอจะปลอดภัย เมื่อเข้าไปโซฟีพบเพียงไมเคิล ผู้ช่วยของพ่อมดฮาวล์เท่านั้น ค

พรายผยอง

เขียน หงส์หยก ความยาว 574 หน้า สำนักพิม์ พิมพ์คำ plot        มะลอ รับสืบทอดต่อจากอาจารย์เพื่อให้อาจารย์ที่ชุบเเลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็กได้จากไปอย่างสงบ เขาต้องทนทุกข์ทรมานเพราะความร้อนวิชาทุกคืนเดือนเพ็ญ จึงย้ายออกมาอยู่ในห่างไกลจากผู้คนกับ สีมา ภรรยาและ เมียงยา ลูกสาว  เมื่อ เมียงยา อายุได้ 18 ปี ร่างกายของมะลออ่อนแอลงทุกวัน อาคมกีรตา ในตัวเขาต้องการผู้สืบทอด มะลอกับสีมากลัวว่าบุตรสาวจะเป็นอันตราย สีมาจึงเริ่มหาลู่ทางส่งเมียงยาไปทำงานรับใช้ในบ้านของผู้มีอันจะกิน     เมียงยาไปช่วยทำขนมงานวันตรุษที่บ้านป้าดาวพี่สาวของแม่ เมียงยาได้ช่วยเหลือรัศมี เศรษฐีเจ้าของโรงสี จากโจรที่ที่ดักปล้นและหมายจะข่มขืนซ้ำ ป้าของเมียงยาจึงถือโอกาสฝากฝังให้รัสมีจึงรับเมียงยาเข้าไปทำงานรับใช้ที่บ้าน ซึ่งรัศมีก็รับปาก แต่ใจยังระแวงสามีที่เจ้าชู้ไม่เลือก เธอแก้ปัญหาโดยให้เมียงยาไปทำงานในครัวไกลหูไกลตาสามี ประกอบกับเมื่อเห็นเมียงยาชอบพออยู่กับชาติ ลูกจ้างในโรงสีก็เบาใจว่าไม่น่าจะเกิดเรื่อง หลังวันตรุษ เมียงยากลับบ้านไปบอกข่าวดีกับพ่อแม่ และเก็บข้าวของแต่โชคร้ายวันนั้นร่างกายของมะลอไม่สามารถทนทรมานจากมน

ไหว้พระ 9 วัด ขสมก. สายอยุธยา

     วันนี้จูงมือน้องร่วมสำนักงานมาไหว้พระเก้าวัดกับ ขสมก. ที่ไม่ได้ไปมาเสียนาน คราวนี้เลือกสาย อยุธยา ตามใจน้อง อีกทั้งยังเป็นการไปกราบหลวงพ่อวัดพนัญเชิงประจำปีนี้เสียด้วย 8:00 น. รถเมล์เฉพาะกิจสาย 510 ออกเดินทางจากอู่บางเขน   วัดอัมพุวราราม จังหวัดปทุมธานี     เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เป็นวัดของทหารชาวรามัญที่มาช่วยรบในสมัยสงคราม 9 ทัพ เมื่อชนะศัตรูแล้วโปรดให้มาดูแลพระนครด้านทิศเหนือ กลุ่มใหญ่ ชาวรามัญจึงได้สร้างวัดขึ้น ที่วัดนี้ชาวคณะสายอยุธยากับสายนนทบุรีมาทอดผ้าป่าร่วมกัน หลังจาดทำบุญแล้วชาวบ้านเลี้ยงข้าวต้ม กับข้าวแช่เป็นอาหารเช้าด้วย วัดนี้อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เลยได้เดินเลยไปให้อาหารปลาด้วย แต่ปลาที่นี่ตัวไม่ใหญ่และเยอะเท่าวัดระฆังที่ไปบ่อยๆ วัดท่าการ้อง      เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง โดยการรวมวัด 2 วัดเข้าด้วยกัน คือ วัดท่าและวัดการ้อง สร้างขึ้นก่อนราว พ.ศ. 2092 โดยไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง มีเพียงบันทึกในพระราชพงศาวดารว่าพม่าได้มาตั้งค่ายที่วัดการ้อง ถึง 2 ครั้ง คือ สมัยพระมหาจักรพรรดิ เมื่อ พ.ศ. 2106 โดย

จุมพิตพญามาร

  ชื่อภาษาอังกฤษ The Kiss of the Devil เขียน บาร์บารา คาร์ตแลนด์ แปล อมราวดี ความยาว 400 หน้า สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า plot     สกายเดินทางด้วยเรือยอช์ตไปพักผ่อนที่ ‘มาริโปซา’ กับจิมมี่อาของเธอ คุณตากับคุณยายของเธอเคยมาเยือนดินแดนแห่งนี้เช่นกัน และถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆในอดีตให้หลานสาวฟังเสมอ ทำให้สกายขวนขวายที่จะมาเห็นดินแดนแห่งนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่ในตอนนี้ ‘มาริโปซา’ ไม่เหมือนกับภาพจากคำบอกเล่าเสียทีเดียว เพราะเพิ่งเกิดการปฏิวัติเมื่อปีกลาย และนายพลอเลโจผู้นำเผด็จการคนปัจจุบันอยู่ในฐานะไม่มั่นคงเนื่องจากขาดคะแนนนิยมจากประชาชน     ระหว่างขี้ม้าเที่ยวชมภูมิประเทศรอบเมืองหลวงจาคารา สองอาหลานก็ได้เจอเรื่องไม่คาดคิดเมื่อขี้ม้าไปเจอศพที่ถูกแขวนคอ แถมสกายยังไปต่อปากต่อคำกับ ‘เอ็ล ดีอาบโล’ หัวหน้ากลุ่มเกาโชเจ้าถิ่น ถึงอาชญากรรมที่เขาออกปากว่าเป็นการลงโทษผู้ทรยศ หลังจากจิมมี่ต้องเดินทางไปราชการ สกายก็ตัดสินใจจะสืบเรื่องราวของ เอ็ล ดิอาบโล เพื่อเปิดโปงเขาแต่ไม่ว่าจะถามใครๆในจาราคาก็ต่างปิดปากเงียบ เรื่องรู้ไปถึงหูของคนที่เธอต้องการเปิดโปง เขาจึงออกอุบายให้ลูกน้องพาตัวเธอมา