ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ใครขโมยเวลาของฉันไป

ชื่อภาษาไทย: ใครขโมยเวลาของฉันไป ชื่อภาษาอังกฤษ: How to save an hour every day เขียน: Michael Happell แปล: หฤทัย รามสูต จำนวนหน้า: 240 สำนักพิมพ์: Dream&Passion อ่านจบเมื่อ: 29 ธันวาคม 2562 เนื้อหาโดยสังเขป แบ่งเวลาเป็นช่วง และสร้างตารางบันทึกเวลา  โยน / แยก / โยก สะสางสมบัติที่มากเกินไป สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ จงเก็บเฉพาะสิ่งที่ผูกพันจริง ๆ เท่านั้น และเลิกสะสมกลับเข้ามาอีก เอาชนะนิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง ด้วยการกำหนดให้กิจกรรมอื่นเป็นรางวัล ตัดสินใจให้เด็ดขาด ก่อนหมดวันให้บันทึกสิ่งที่สำคัญที่สุด 5 ข้อสำหรับวันรุ่งขึ้น และวิธีจัดลำดับความสำคัญด้วยแผนภูมิ 4 ช่อง รับมือสิ่งกวนใจ - โดยเฉพาะ social media กับ เกมส์ เคล็ดลับประหยัดเวลาที่บ้าน เคล็ดลับประหยัดเวลาที่ทำงาน - ประโยค ขอความช่วยเหลือ เพราะ .... , การประชุมแบบ west wing, การใช้อีเมล์, คอมพิวเตอร์ เทคนิคขั้นสูง - กำหนดวันของฉัน, วันเรื่องสำคัญ และวันสัพเพเหระ, ทักษะการอ่านเร็ว ไอเดียแถมฟรี เวลาของเรามีจำกัด และไม่มีใครรู้ว่าจะนานเท่าไหร่ ใช้ทุกช่วงเวลาของชีวิตให้มีค่า คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ บันทึกคนอ่าน     เราเป็นคนโลภ

ลมหายใจขุนพลผี

ชื่อเรื่องภาษาไทย:          ลมหายใจขุนพลผี ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ:     Living Dead platform:                         WeTV ดูจบครั้งแรก:                   14 ธันวาคม 2562 เรื่องย่อ     "เมืองฝูเฟิง ห้ามจุดไฟยามราตรี วิญญาณครวญยามราตรี มากินเลือดเนื้อ เก็บเกี่ยววิญญาณ"     เวินหนิงเดินทางผ่านมาในเมืองฝูเฟิง พบศพที่ไม่เหลือเลือดเนื้อแต่กลับไม่มีบาดแผล เวินหนิงพยายามจะจับภูติ เช่นเดียวกับซือจุยที่ไล่ตามภูติผีจนมาพบกันโดยบังเอิญ อาหลายจึงช่วยกันสืบหาผีร้าย พวกเขาได้เบาะแสว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุฆ่าล้างตระกูลเซียวในคืนงานเทศกาลโคมไฟเมื่อปีก่อน      เซียวอี้ คุณชายรองตระกูลเซียวผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของตระกูลเซียว ตระกูลช่างทำโคมไฟอันเลื่องชื่อแห่งเมืองฝูเฟิง ซึ่งอ้างว่าถูกผีร้าย โจวชื่อซู ตัวการใหญ่ขังไว้ในคฤหาสน์เพราะต้องการภาพร่างมนต์ดำที่เขาขโมยไปซ่อน ตัวละครสำคัญ เวินหนิง:     ฉายาขุนพลผี ตระกูลเวินของเขาเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ พี่สาวของเขาเป็นหมอที่เก่งที่สุด เมื่อยังเล็กเขาถูกรูปปั้นเทวนารีบนเขาต้าฟ่านดูดวิญญาณไปหลายส่วน ร่างกายของเขาจึงถูกครอบงำได้ง่าย ตั้งแต่

นิทรรศการ จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินกับกองทัพทหารดินเผา

ชื่อภาษาไทย: จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินกับกองทัพทหารดินเผา ชื่อภาษาอังกฤษ: Qin Shi Huang The First Emperor of China  and Terracotta Warriors สถานที่จัดแสดง: พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ระยะเวลาจัดแสดง: 15 กันยายน - 14 ธันวาคม 2565 วันที่เข้าชม: 7 ธันวาคม 2565     นิทรรศการพิเศษที่จัดแสดงบางส่วนของกองทัพทหารดินเผา ซึ่งเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุซึ่งเป็นที่รู้จักที่สุดของประเทศจีน ซึ่งเราเองรู้จักโบราณวัตถุชนิดนี่ผ่านการดูหนัง จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่ภาพจำคือ ทหารดินเผานายนึงมีหินสีแดงอยู่ที่เกราะตรงอก เหมือนพระเอกจะตาย หรือถูกนำไปทำทหารดินเผาโดยมีศพจริง ๆ อยู่ข้างใน นางเอกหาเจอเลยฆ่าตัวตายโดยนอนซบบนอกทหารดินเผา หินสีแดงเดิมน่าจะเป็นหอนสีขาวซึ่งเป็นของแทนในนางเอกห้อยไว้ทีอกโดนเลือดย้อมเป็นสีแดง หลังจากนั้นก็ได้เห็นสารคดีผ่านตา แต่เรื่องที่ดังที่สุดเกี่ยวคงต้องยกให้เจาะเวลาหาจิ๋นซี อย่างหลังนี่ได้ดูแบบผ่าน ๆ เลยไม่ติดเป็นภาพจำสักเท่าไหร่     ในส่วนนิทรรศการ ที่จริงเราตั้งใจไปดูตั้งแต่วันแรก เพราะตรงกับวันที่ต้องไปราชการแถวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพอดี แต่วันนั้นยัง

ARRC 2019 Day3

      เช้าวันนี้ หลังเติมอาหารเช้าเพื่อเก็บแรงสู้ไอแดด ก็ได้เวลาเก็บของ check out ออกจากโรงแรม โดยฝากของไว้ที่สำนักงานของ Bric Box แล้วออกเดินทางโดยรถกอล์ฟของทางโรงแรมไปที่ Grandstand มาถึงแอบเหวอนิดหน่อย เพราะตอนมาคราวที่แล้วตอน MotoGP คนเต็มถึงขนาดที่ตรงทางเข้ากำชับให้เข้มงวดเรื่องปล่อยคนเข้า แต่คราวนี้โล่งมากค่ะ หาที่นั่งกันตามสบาย คราวนี้ไม่ได้มีเป้าหมายมาส่องใครเป็นพิเศษ เลยเลือกนั่งกลาง ๆ      นั่งดู MotoGP มา 3 วันเต็ม ๆ แอบไม่ชินกับจำนวนรอบที่น้อยกว่าครึ่งต่อครึ่ง ดูไปฟังพิธีกรเล่าโน่นนี่ไปเรื่อย ที่เซอร์ไพร์คือ พอถึงช่วงพัก ทางผู้จัดงานประกาศเชิญให้ทุกคนที่อยู่บนแกรนด์สแตนด์สามารถลงไปเดิน pit walk ได้ จากเดิมที่เปิดสิทธิ์เฉพาะคนที่มีตั๋ว VIP ถือว่าได้กำไร          แน่นอนว่า pit แรกที่ต้องเดินไปส่อง คือ pit ของ YAMAHA Rave your heart ทีมต้นสังกัดของอี้ป๋อ กับ รอสซี่ ใส่เสื้อมาแล้วต้องเอาให้สุด 555 ลงมาข้างล่างแล้วถึงได้รู้ว่าห้องข้างล่างลึกกว่าที่คิด จะว่าไปก็นึกถึงตอนที่ไปยืนรอรอสซี่ตรงทางออกด้านหลัง ด้านหน้าของ pit จะเต็มไปด้วยมอร์เตอร์ไซด์ ไม่เจอคุณ 85 ขอถ่ายรูปกับคุณ 86 ก็ย

ARRC 2019 Day2 - Brix Box Hotel - Buriram Castle

          ก่อนเข้าที่พัมาแวะตลาดตุนเสบียงเล็กน้อย ก่อนที่น้องคนขับรถจะมาส่งเราถึง ที่พักสำหรับการเดินทางคราวนี้ " BRIC BOX HOTEL" โรงแรมขนาดเล็กซึ่ง ตั้งอยู่บริเวณโค้ง 8 และโค้ง 9 ของสนามแข่ง   เดินทางมาถึงก็ติดค่ำนิดหน่อย  ถือว่านอนติดสนามแข่งอย่างแท้ทรู เดินทางมาถึงติดค่ำ หลังจากเช็คอินก็หิ้วกระเป๋าขึ้นไปดูห้องพักกัน รูปด้านล่างนำมาจาก Facebook https://web.facebook.com/bricbox/ ตอนไปดันไม่ได้ถ่ายรูป     ในห้องประกอบด้วยที่นอนแบบนอนคนเดียว ตู้ลอยข้างเตียง ตู้เก็บของแบบติดผนัง TV มีกาต้มน้ำให้ และห้องน้ำในตัวแบบมีเครื่องทำน้ำอุ่น และกระจกบ้านเลื่อน ติดที่นอนจะเป็นหน้าต่างแบบมีมู่ลี่ตึงขึ้นดึงลงมองออกไปเป็นสนามแข่งเลยฮับ ตอนเราไปวางเตียงไม่ได้วางแบบนี้ แต่วางขนานไปกับหน้าต่างเลยจ้า เวลาดูก็นอนบนเตียงได้ ถ้าจะดูให้ชัดและชิลกว่านั้นหน้าห้องมีโต๊ะพับ และเก้าอี้สตู เราจองตรงกับวันแข่ง ARRC สนนราคาประมาณคืนละ 1,400 บาท จ้า           วันรุ่งขึ้นหลังจากกินมือเช้าที่อาคารส่วนกลาง วันนี้ตั้งใจว่าจะนอนดูการแข่งขันจากโรงแรมให้คุ้มกับที่นอนติดสนามแข่ง ตั้งในว่าจะออกไปนั่งดูตรงระเบียงที่เข

ARRC 2019 Day1 - ปราสาทหินพนมรุ้ง - ปราสาทเมืองต่ำ - วัดเขาพระอังคาร - วนอุทยานเขากระโดง

      หลังจากปวารณาตัวเป็นแม่อี้ป๋อ และอยากเจอน้องมาก ๆ อยากเห็นน้องในมุมต่าง ๆ รวมถึงตอนแข่งรถ แต่ยังประสบการณ์ยังไม่แก่กล้าพอที่จะไปดูถึงสนามจู่ไห่ เราก็เริ่มจากรายการเดียวกันแต่เป็นสนามที่จัดในประเทศไทยก่อน และนี่ถือเป็นการซื้อตั๋วเพื่อไปดูการแข่งรถจริงจังเป็นรายการแรกในชีวิต แถมยังรีบไปจองตั๋วตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย      เนื่องจากมีประสบการณ์กับบุรีรัมย์มาแล้วครั้งนึงตอนไปดูแข่ง MotoGP แต่คราวนั้นอยู่แต่สนามแข่ง คราวนี้เลยจัด 1 วันเต็ม ๆ สำหรับการท่องเที่ยวปีนปราสาทกินพนมรุ้ง รวมถึงปราสาทหินอื่น ๆ ซึ่งเป็นของดีประจำจังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับการเดินทางคราวนี้ขอแบบสบายหน่อยด้วยการเช่ารถพร้อมคนขับ เพราะอย่างที่รู้กันดีกับการไปเที่ยวต่างจังหวัดว่าการจนส่งสาธารณะไม่หลากหลายเหมือนในเมือง การเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีดจุดหนึ่งด้วยรถสาธารณะอาจจะต้องแลกมาด้วยเวลาอันมีค่า และแรงกายที่เราควรเอาไปใช้เที่ยวมากกว่า      เราออกเดินทางด้วยรถทัวร์นครชัยแอร์เที่ยวเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี เพื่อที่จะได้ไปเช้าที่บุรีรัมย์พอดี โดยคราสนี้เปลี่ยนจุดลงเป็นหน้าโรงพยายาบาลบุรีรัมภ์ เนื่องจากประเมินว่าน่าจะเป็นบริเวณ