ชื่อภาษาไทย: จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินกับกองทัพทหารดินเผา
ชื่อภาษาอังกฤษ: Qin Shi Huang The First Emperor of China and Terracotta Warriors
สถานที่จัดแสดง: พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ระยะเวลาจัดแสดง: 15 กันยายน - 14 ธันวาคม 2565
วันที่เข้าชม: 7 ธันวาคม 2565
นิทรรศการพิเศษที่จัดแสดงบางส่วนของกองทัพทหารดินเผา ซึ่งเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุซึ่งเป็นที่รู้จักที่สุดของประเทศจีน ซึ่งเราเองรู้จักโบราณวัตถุชนิดนี่ผ่านการดูหนัง จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่ภาพจำคือ ทหารดินเผานายนึงมีหินสีแดงอยู่ที่เกราะตรงอก เหมือนพระเอกจะตาย หรือถูกนำไปทำทหารดินเผาโดยมีศพจริง ๆ อยู่ข้างใน นางเอกหาเจอเลยฆ่าตัวตายโดยนอนซบบนอกทหารดินเผา หินสีแดงเดิมน่าจะเป็นหอนสีขาวซึ่งเป็นของแทนในนางเอกห้อยไว้ทีอกโดนเลือดย้อมเป็นสีแดง หลังจากนั้นก็ได้เห็นสารคดีผ่านตา แต่เรื่องที่ดังที่สุดเกี่ยวคงต้องยกให้เจาะเวลาหาจิ๋นซี อย่างหลังนี่ได้ดูแบบผ่าน ๆ เลยไม่ติดเป็นภาพจำสักเท่าไหร่
ในส่วนนิทรรศการ ที่จริงเราตั้งใจไปดูตั้งแต่วันแรก เพราะตรงกับวันที่ต้องไปราชการแถวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพอดี แต่วันนั้นยังไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม หน้าประตูยังมีซุ้มสำหรับทำพิธีเปิดในช่วงเย็น เลยม้วนเสื่อกลับก่อน มาอีกรอบช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งใกล้สิ้นสุดช่วงเวลาให้เข้าชม (งานนี้ไม่มีคำว่าตรงกลาง ยังดีที่ไม่มาเอาวันสุดท้าย) และนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นการรอคิวชนิดที่แถวยาวเหยียดในพื้นที่พิพิิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่ปรกติมาแล้วโล่งโปรงสบาย (เพราะไม่ค่อยมีคน) ถึงขนาดต้องใช้ระบบคิวแบบที่รอเข้าวังช่วงงานราชพิธีในหลวงรัชการที่ 9 มาใช้ คือ หลังจากซื้อบัตรเข้าชมและฝากของพะรุงพะรังที่ห้ามนำเข้าไป ก็ต้องมารอในเต็นซึ่งวางเก้าอี้ เพื่อควบคุมให้คนเข้าและคนออกสมดุลกันจนพื้นที่จัดแสดงหนาแน่นเกินไป ลำดับเข้าชมของเราหลังสองแสนทีเดียว น่ายินดีกับทีมงานผู้จัด นิทรรศการแบางเป็น 4 หัวข้อหลัก โดยเรายกเนื้อหาตามตามที่เล่าในเอกสารแจก และยกตัวอย่างภาพโบราณวัตถุ 3 ชิ้นที่ชอบที่สุดในแต่ละหัวข้อพัฒนาการก่อนการรวมชาติ
สมัยราชวงศ์โจว สมัยชุนชิว และสมัยจ้านกว๋อ ประเทศจีนโบราณประกอบด้วยแคว้นเล็กแคว้นน้อยที่แบ่งแยกการปกครองเป็นเอกเทศ ยุคนี้มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการหล่อสำริด เช่น การผลิตอาวุธ เครื่องดนตรี ภาชนะ และเงินตรา รวมถึงความก้าวหน้าทางการทหาร ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้แคว้นฉินที่เป็นแคว้นขนาดเล็กในเขตชายแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนโบราณ กลายเป็นจักรวรรดิที่แข็งแกร่งในเวลาต่อมา
จิ๋นซีฮ่องเต้จักรพรรดิองค์แรกของจีนผู้ผนวกโลกมนุษย์และสวรรค์
มหาราชองค์แรกในประวัติศาสตร์จีนที่โลกต้องจารึก ประมาณ 2,200 กว่าปีมาแล้ว จิ๋นซีฮ่องเต้ประสูติในฐานะเจ้าชายแห่งแคว้นฉิน เมื่อพระชนมายุ 13 พรรษา ได้รับการสถาปนาขึ้นปกครองแคว้นฉินแทนพระราชบิดา และประกอบพิธีราชาภิเษกเมื่อประชนมายุ 22 พรรษา พระราชกรณียกิจของพระองค์ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน เช่น การสถาปนาราชวงศ์ฉิน การผนวกแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น การปฏิรูประบบการปกครองแบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง กำหนดมาตรฐานหน่วยชั่ง ตวง วัด ระบบเงินตรา ภาษาเขียน และพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น การสร้างถนนหลวง ซึ่งมีความยาวกว่า 6,000 กิโลเมตร การขุดคลองเชื่อมแม่น้ำ สร้างสะพาน สร้างระบบทำนบกั้นน้ำเพื่อขยายพื้นที่การเกษตร ทรงริเริ่มให้มีการก่อสร้างและเชื่อมต่อแนวกำแพงดินอัดของแคว้นต่าง ๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรูจนกลายเป็นกำแพงเมืองจีน นับเป็นคูณูปการต่อประเทศจีน นับเป็นคุณูปการต่อประเทศจีน ทำให้สาธาณณประชาชนจีนเป็นแหล่งอารยธรรมอันน่าอัศจรรย์ของโลก
สุสานจักรจิ๋นซี มหาอาณาจักรใต้พิภพ
จิ๋นซีฮ่องเต่เฝ้าค้นหาความเป็นอมตะ เสาะแสวงหายาอายุวัฒนะตลอดชีวิตทรงดำริให้มีการสร้างสุสานเมื่อพระชนมายา 13 พรรษา เรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้รับการบันทึกไว้โดยอาลักษณ์สมัยราชวงศ์ฮั่นซือหม่าเฉียน พรรณนารายละเอียดอันน่าทึ่งของมหาสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี ปริศนานี้ได้รับการเปิดเผย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2517 หลังจากชาวนาคนหนึ่งได้ขุดค้นพบหุ่นทหารดินเผา นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก จึงประกาศให้สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อพุทธศักราช 2530 ความมหัศจรรย์ของสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี คือ การใช้แรงงานคนจำนวนมหาศาลเพื่อดำเนินการก่อสร้างสุสานในระยะเวลาเกือบ 40 ปี มหาอาณาจักรแห่งนี้ครบคลุมพื้นที่ 60 ตารางกิโลเมตรโดยเป็นการจำลองนครเสียนหยาง เมืองหลวงแห่งสุดท้ายในสมัยราชวงศ์ฉินไว้ในสุสาน รัฐบาลจีนได้ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีแล้วกว่า 900 หลุม พบทหารดินเผาและรถม้ากว่า 8,000 ตัว พบสุสานบริวารของเจ้าชายเจ้าหญิง นางสนม ข้าราชการ คนงานสร้างสุสาน คอกสัตว์ และรถม้าสำริด
สืบสานความรุ่นโรจน์ ยุคราชวงศ์ฮั่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น