ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

From up on poppy hill

  plot     อุมิกับน้องๆอีก 2 คนมาอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณยายที่เปิดเป็นหอพักสตรีด้วย อุมิแบ่งเบาภาระของคุณยายด้วยการรับผิดชอบดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน ทุกเช้าเธอจะต้องออกไปชักธงสัญญาณที่เสาธงในสวน ธงสัญญาณเหล่านี้พ่อที่เป็นนายเรือสอนให้ตั้งแต่เด็กๆ เขาบอกว่ามันจะช่วยนำชาวเรือกลับบ้าน ถึงแม้ในตอนนี้พ่อของเธอจะเสียชีวิตในสงครามเสียแล้ว แต่อุมิก็ยังชักธงขึ้นเสาทุกวันไม่เคยขาด     ที่โรงเรียนนักเรียนกลุ่มหนึ่งซึ่งใช้ตึกทรงตะวันตกเป็นที่ตั้งชมรมต่างๆรวมตัวกันคัดค้่านการทุบตึก ชุนแกนนำลงทุนโดดจากหลังคาลงมาที่บ่อน้ำด้านข้างเพื่อแสดงพลัง ทำให้เขาเป็นที่โด่งดังในหมู่นักเรียนหญิง น้องสาวของอุมิขอร้องให้เข้าไปในตึกกิจกรรมเป็นเพื่อนเธอเพื่อขอลายเซ็นชุน พอดีมือข้างขวาของเขาเจ็บ อุมิที่สายมือสวยเลยถูกไหว้วานให้ช่วยเขียนกระดาษไขเตรียมโรเนียวเก็งข้อสอบ หลังจากนั้นอุมิก็มาช่วยเขียนกระดาษไขอีกหลายครั้งจนสนใจเรื่องตึกกิจกรรม เธอเสนอให้ชุนทำความสะอาดและซ่อมแซมตึกให้ดูดี ซึ่งจะช่วยโน้มน้าวนักเรียนที่สนับสนุนการทุบตึกให้เปลี่ยนใจได้บ้าง โดยเกณฑ์นักเรียนหญิงมาช่วยกลุ่มใหญ่     คุณหมอที่เช่าห้องอยู่ในที่พ

เกมร้ายเกมรัก

story      สายชลช่วยหญิงสาวแปลกหน้าที่ลอยมาติดที่ชายหาดเกาะมินหลังพายุ ถึงแม้ว่าแม่หมอประจำหมู่บ้านจะบอกว่าหมดหวัง แต่สายชลไม่ยอมแพ้พาเธอไปดูแลที่บ้านจนเธอฟื้น หญิงสาวไม่มีความทรงจำเหลืออยู่เลย สายชลเลยตั้งชื่อให้เธอว่านางฟ้าและคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด ชมพูแพรพี่สาวของนางฟ้า หรือชื่อจริงฟ้าลดาทราบข่าวร้ายจึงออกตามหาน้องสาว ชาวเกาะมินจัดประกวดธิดาเจ้าสมุทรตามประเพณี ซึ่งปีนี้นางฟ้าเป็นผู้ชนะ ความสวยน่ารักของนางฟ้าไปสะดุดตา ยาซะ คนเรือที่มักจะมารับซื้อปลาจากชาวเกาะมิน ยาซะจึงพยายามหาโอกาสเข้ามาทำดีเพื่อตีสนิทกับนางฟ้าทุกครั้งที่มีโอกาส แต่สายชลก็เข้ามาขวางทุกครั้ง ยาซะเลยใช้วิธีฉุดนางฟ้าออกมาจากบ้านระหว่างที่สายชลออกมาข้างนอก สายชลตามไปช่วยไว้ได้ทัน ชาวเกาะขับไล่พวกยาซะไม่ให้มาที่เกาะมินอีก หลังเหตุการณ์น่ากลัวผ่านพ้น นางฟ้ากับสายชลที่ตอนนี้รู้ใจตัวเองแล้วตกลงแต่งงานกัน ก่อนแต่งงานครูที่เคยมาสอนหนังสือที่เกาะมินแวะมาหาสายชล นางฟ้าถูกถ่ายรูปไปลงนิตยสารท่องเที่ยว เป็นเหตุให้ชมพูแพรรู้ที่อยู่ของน้องสาว คนที่ชมพูแพรส่งมาพาฟ้าลดากลับเจอกับยาซะ ยาซะที่มีความแค้นกับเกาะมินโดยเฉพาะสายชลเลยรับอาสา

Tari Tari

plot      โคนัตสึลาออกจากวงประสานเสียงเพราะไม่ได้รับโอกาสสุดท้ายในการแสดงในงานวัฒนธรรมหลังจากความผิดพลาดอันน่าอับอายเมื่อปีที่แล้ว โคนัตสึชวนซาวะเพื่อนสนิท ขอยืมชื่อของวาคานะเพื่อนร่วมห้องที่ย้ายมาจากหลักสูตรดนตรี แถมบังคับน้องชายให้ชวนรวบรวมเพื่อนๆมาจนตั้งเป็นชมรมประสานเสียงอีกชมรมได้สำเร็จ ถึงแม้จะมีอุปสรรคแต่โคนัตสึก็ได้แสดงบทเวทีอยากที่ใจอยากทำจนได้ หลังงานใหญ่สมาชิกที่เป็นรุ่นน้องลาออกไปจนหมด ทำให้ถูกยุบชมรมเพราะสมาชิกมีไม่ถึง 5 คนตามข้อกำหนดของโรงเรียน โคนัตสึรวบรวมคนจากชมรมแบดมินตันที่เจอปัญหาเดียวกัน ตั้งเป็นชมรมแบดมินตันประสานเสียงเพื่อให้ได้ทำกิจกรรมต่อไป     วาคานะที่ตัดใจจากดนตรีมีโอกาสได้เจอวงดนตรีรุ่นลายครามที่เคยร่วมงานกับแม่ของเธอ คนทรงจำต่างๆเกี่ยวกับคุณแม่ที่หวนกลับมาทำให้วาคานะกลับมาหาดนตรีอีกครั้ง โดยสิ่งแรกที่เธอจะทำคือการแต่งเพลงที่คุณแม่แต่งค้างไว้ก่อนจะเสียชีวิตต่อตามคำสัญญาว่า จะแต่งเพลงร่วมกัน       ชมรมประสามเสียงคิดตกลงกันว่ากิจกรรมที่จะแสดงในงานวัฒนธรรมของโรงเรียนคือการแสดงละครเพลง โดยนำเพลงที่วาคานะแต่งเป็นเพลงหลัก แต่ละคนรับหน้าที่คนละอย่าง ช่วยกันคน

Iron Man

  plot ภาค 1 –  26 กันยายน 2555     โทนี่ CEO Stark Industry ถูกโจมตีระหว่างนั่งรถกลับจากสถานที่สาธิตจรวดทำลายล้างชนิดใหม่ล่าสุดในอัฟกานิสถาน เขารอดชีวิตจากการโจมตีด้วยอาวุธหนักของบริษัทตัสเองในสภาพที่ต้องติดแม่เหล็กไฟฟ้าไว้ที่หน้าอกตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้สะเก็ดอาวุธที่เหลืออยู่ในร่างกายพุ่งเข้าทำลายหัวใจ     โทนี่ถูกกลุ่มก่อการร้ายบังคับให้สร้างจรวดทำลายล้างแบบที่เขาเพิ่งสาธิตด้วยอาวุธจากบริษัทตัวเองที่ผู้ก่อการร้ายครอบครองอยู่ แต่โทนี่แอบสร้างชุดเกราะเหล็กเพื่อใช้หนีจากรังโจร และเขาก็ทำได้สำเร็จตามเป้าหมายแต่ต้องสูญเสียเพื่อนที่ช่วยเหลือเขาทุกอย่างตลอดเวลาที่ติดอยู่ที่นั่น สิ่งที่โทนี่ได้เผชิญมาตลอด 3 เดือนทำให้ทำให้เขาตัดสินใจยกเลิกสายการผลิตอาวุธของ Stark industry ทั้งหมด โดยคาดหมายว่าจะเปลี่ยนไปพัฒนาเตาปฏิกรอาร์คขนาดเล็กที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อนเป็นแหล่งพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่หน้าอกแทนแบตเตอร์รี่รถยนต์แทน ระหว่างรอให้หุ้นส่วนที่เขาไว้ใจดำเนินการ โทนี่เก็บตัวพัฒนาเกราะเหล็กที่เขาเริ่มไว้     หุ้นส่วนของโทนี่หักหลังด้วยการเสนอให้บอร์ดบริหารแขวนโทนี่ แล้วผลิตอาวุธต่อเหมือนไม่

Level 7

      ละครพิเศษลำดับที่ 4 ในชุดซีรีย์ที่สร้างมาจากงานเขียนของ มิยูกิ มิยาเบะ  plot       เกิดคดีฆาตกรรมหญิงชราในเขตเซตะกายะ เงินเก็บจำนวน 50 ล้านเยนของเหยื่อหายไป จากปากคำของพยานแวดล้อมผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี       ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาในสภาพไร้ความทรงจำ ที่แขนมีรอยสักคำว่า level 7 นอกจากนี้ยังมีถุงกระดาษใส่เงินจำนวน 50 ล้านเยน ปืน ผ้าเปื้อนเลือด กระดาษโน๊ตที่เขียนตัวอักษรปริศนา และข่าวการฆาตกรรมหญิงชราในเขตเซตางายะ       หญิงสาวอีกคนที่อยู่ในห้องก็ฟื้นขึ้นมาในสภาพไร้ความทรงจำเช่นเดียวกัน เพราะความตกใจว่าจะถูกทำร้ายทำให้เธอหยิบปืนขึ้นมาขู่ชายหนุ่มแปลกหน้า ทั้งสองแย่งปืนกันจนทำให้กระสุนลั่นขึ้นมานัดหนึ่ง เสียงปืนเรียกตำรวจให้มาตรวจสอบที่ห้องซึ่งทั้งสองคนนอนอยู่ คนทั้งคู่หลบหนีไปด้วยกันเพราะไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นคนร้ายกับผู้สมรู้ร่วมคิดหรือไม่ หลังจากหนีพ้นทั้งสองพยายามสืบหาความทรงจำที่หายไปด้วยกัน ทั้งคู่ถูกคนกลุ่มหนึ่งทำร้ายระหว่างเดินอยู่ข้างถนน โชคดีที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน เขาคนนั้นพาชายหนุ่มที่บาดเจ็บเล็กน้อบกับหญิงสาวไปรักษาตัวที่คลีนิคของเพื่อนที่รู้จักกัน ความอารีของผ

Kamisama no Memochou

English Name : It’s the only NEET thing to do Thai Name : ขบวนการนึกสืบ NEET Plot     นารุมิที่เดินหลงเข้าไปในย่านโรงแรมไปเจอเหตุการณ์ที่ผู้หญิงโดดลงมาจากชั้น 2 กับกลุ่มคนประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นมาจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น พอขึ้นมัธยมปลาย นารุมิ ถูกอายากะเพื่อนร่วมห้องขอร้องให้เข้าชมรมทำสวนที่มีเธอเป็นสมาชิกอยู่เพียงคนเดียว นารุมิตอบตกลงอย่างเสียไม่ได้อายากะจึงชวนเขามาเลี้ยงฉลองที่ร้านราเมง ฮานามารุ ที่เธอทำงานพิเศษอยู่ นารุมิเลยได้พบกับคนกลุ่มนั้นอีกครั้ง แถมตกกระไดพลอยโจนไปช่วยงานกลุ่มนักสืบ NEET ที่มาสาวน้อยอลิซเป็นหัวหน้า charecter ฟุจิชิมะ นารุมิ : นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนมัธยมปลายมิโซโนะ ต้องย้ายโรงเรียนบ่อยเพราะงานของพ่อแต่นานๆเจ้าตัวจะโผล่มาให้เห็นหน้า อาศัยอยู่กับพี่สาวเพียงสองคน ส่วนคุณแม่เสียไปแล้ว เป็นหนุ่มจืดจาง พอเจอพวกอลิซก็กลายมาเป็นผู้ช่วยผู้ดูแลเรื่องความเป็นอยู่คอยส่งข้าวส่งน้ำ อลิซ : นักสืบ NEET ที่ล้วงข้อมูลจากทะเลข้อมูล online เป็นสาวผอมแห้งแรงน้อยที่กินแต่ราเมงต้นหอมกับ Dokupe ชิโนซากิ อายากะ : เพื่อนร่วมห้องของนารุมิ ทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านราเมง “ฮ