ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮ่องกงวันที่ 4

  
        วันที่ 4 เช้านี้เริ่มกันที่วัดกลางเมืองกันก่อน วัด Wang Tai Sin องค์ประธานของวัดนี้คือ ท่านหวังต้าเซียน เดิมว่ากันว่าท่านเคยเกิดเป็นเต่าทองคำหน้าบัลลังก์เง็กเซียนฮ่องเต้ เห็นว่าโลกมนุษย์แห้งแล้ง จึง เปิด “แม่น้ำสวรรค์” ให้ไหลมายังโลกมนุษย์ เพื่อช่วยชาวไร่ ชาวนา จึงถูกลงโทษให้มาเกิดบนโลกมนุษย์ ท่านเลือกเป็นนักพรต ออกเดินทางช่วยเหลือผู้คนทั่วไปจนได้ชื่อว่า “นักพรตที่มีวาจาสิทธิ์” นอกจากองค์ประธานแล้วตรงทางขึ้นมีรูปองค์เทพ เห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมที่นี่ให้พรด้านสุขภาพ วิหารข้างก็มีองค์เทพให้บูชาหลายองค์ เจอองค์ไหนพนมมือตั้งจิตสักการะวนไป

     ช่วงที่มาทางวัดกำลังปรับปรุง ตัววัดเหมือนโดนผ่ากลาง เลยต้องเดินย้อนลงมาเพื่อไปไหว้ท่านเทพแห่งดวงจันทร์ที่แนะนำสำหรับคนที่จะขอเรื่องคู่ ทางไปมีภาษาไทยเขียนอธิบาย แต่ก็ไปไม่ถูกต้องถาม ที่สุดก็เจอแบบงง ๆ เพราะต้องเดินย้อนออกมาตรงทางขึ้นรถไฟฟ้า แล้วเดินเลยไปเข้าอีกซุ้มประตู ฝั่งนี้ก็มีวิหารเทพอีกหลายหลัง ส่วนท่านเทพแห่งดวงจันทร์มาคราวนี้มีเต้นกันแดดกับฉากหลังเป็นรูปพระจันทร์ให้คนที่มาขอคู่ด้วยจ้า

    ออกจากกลางเมืองมุ่งหน้าไป Bus Terminal เพื่อจับรถออกจากกลางเมืองไปอ่าวรีพัลส์เบย์ มีรถไปหลายสาย อันไหนแถวยาวก็เทไป ขาไปนั่งชิล ๆ พอมองรถเริ่มวิ่งเลียบทะเลก็มองหาตึกที่เจาะให้มังกรลอดก็ลงรถได้ แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ Tin Hau Temple ที่เราจะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่นั้นมันอยู่อีกฝากหนึ่งของอ่าน มองเห็นองค์ท่านอยู่ลิบ ๆ ด้วยความที่มาถึงประมาณบ่ายโมงซึ่งเป็นช่วงพีคของแสดงแดด บวกกับบรรยากาศริมทะเล ร้อนเบอร์ไหนคงจินตนาการออก แต่คนท้องถิ่นที่มาเที่ยวทะเลนี่ดูเฉยมากค่ะ มีหมู่คณะที่กินข้าวไป ร้องเพลงคาราโอเกะอยู่หลายวง ผิดกับคนไทยสองคนที่ต้องใช้อุปกรณ์กันแดดทุกชิ้นที่พกมาประคองตัวจนไปถึงวัด

  
   Tin Hau Temple เป็นวัดเล็ก ๆ ริมทะเล ตอนไปถึงบริเวณวัดเงียบกว่าที่จินตนาการไว้ เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดดังที่ทัวร์ไทยต้องมาลง อาจเป็นเพราะเรามาในเวลาที่โครตร้อนในวันธรรมดา เลยได้ไหว้พระแบบคนน้อย ๆ ไม่ต้องเบียดไปแย่งจุดอธิษฐานเจ้าแม่กวนอิมกับใครเขา และที่พลาดไม่ได้ก็ต้องหาแบงค์ไปลูบเคราเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยมาเก็บไว้เป็นขวัญถุง เทพอีกองค์ข้าง ๆ กันก็คือองค์เจ้าแม่ทับทิมสาวโฉดไม่สนเรื่องความรักอย่างเราต้องไปพลาดไปลูบ ๆ คลำ ๆ เหรียญเงินเรียกทรัพย์กันด้วยจ้า ก่อนจะเดินไปข้ามสะพานต่ออายุซึ่งตรงนี้รายการโทรทัศน์ไทยที่มาถ่ายแนะนำว่าต้องมาเดินข้าม โดยจุดสำคัญคือห้ามหันหลังกลับ ลงจากสะพานมาเจอของแปลกตาเลยคือเก๋งจีนที่มีช้างหมอบอยู่ตรงบันได เดินเข้าไปอ่าน ๆ ดูเหมือนจะสร้างเป็นที่ระลึกถึงบรรพชน ธูปที่ซื้อมาตั้งแต่วัดกังหันได้ใช้ประโยชน์จนวัดุสุดท้ายเลย


 
    เสร็จภารกิจก็เดินข้ามอ่าวกลับไปรอรถเมล์กลับเข้าเมืองที่จุดเดิม กลับไปแวะร้านเดิมหาของกินใส่ท้อง (นาทีนี้ขี้เกียจเดินหาร้านละ) ขึ้นห้องได้หลับเลยจ้า เพลียแดดขนาดหนัก ค่ำถึงค่อยลุกขึ้นไปฉายเดี่ยวเดิน Mong Kok ซื้อของฝาก ส่วนคุณเพื่อนมีคิวไปดูคอนเสิร์ต

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชมรมรัก คลับมหาสนุก

ชื่อเรื่องภาษาไทย ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น ชมรมรัก คลับมหาสนุก ouran koukou host club เรื่อง และ ภาพ Bisco  hatori จำนวนเล่มทั้งหมด 18 สำนักพิมพ์ อ่านจบเมื่อ บงกชคอมมิคส์ 30 กรกฎาคม 2557 เรื่องย่อ            ฮารุฮิ เข้าเรียนในโรงเรียนโอรัง ที่แสนจะไฮโซด้วยทุนเรียนดี เธอใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายด้วยการแต่งตัวเป็นนักเรียนชาย     วันหนึ่งระหว่างหามุมสงบ ฮารุฮิเดินหลงเข้าไปในห้องดนตรี 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ host club ชมรมสุดเว่อร์ของโรงเรียน แถมยังซุ่มซ่ามไปทำแจกันราคา 8 ล้านเยนแตก รุ่นพี่ที่ชมรมจึงบังคับให้ฮารุฮิทำงานชดใช้  ฮารุฮิถูกจับแปลงโฉมเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวยกลายเป็นหนึ่งใน Host ของชมรมที่รวบรวมสุดยอดหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของโรงเรียน       ฮารุฮิรู้ตัวว่าชอบทามากิ แต่ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าเพราะทามากิมีปมในจิตใจเรื่องครอบครัว สิ่งใดก็ตามที่อาจทำลายครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น เจ้าตัวจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ครอบครัวของทามากิหมายรวมสมาชิกชมรมโฮสท์คลับด้วย ฮิคารุจึงตัดสินใจบอกรักฮารุฮิ ซึ่งเป็นการทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่ก็อยากช่วยกระตุ้นให้ทามากิทำความเข้าใจความรู้สึกของตัว

ปฐพีไร้พ่าย

    ชื่อเรื่อง ปฐพีไร้พ่าย เขียน Jiulufeixiang แปล Hongsamut จำนวนหน้า 865 สำนักพิมพ์ Hongsamut version Meb E book อ่านจบ 19 มีนาคม 2561 เรื่องย่อ      สิงอวิ๋นซื้อไก่ที่โดนถอนขนจนเหี้ยนผอมแห้งแรงน้อยมาจากตลาด ไก่ตัวนั้นคือ เสิ่นหลี อ๋องปี้ชางแห่งแดนอสูร นางหนีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และพลาดท่าถูกกองทัพที่มาเชิญนางกลับแดนอสูรตามบัญชาของจอมอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บ สิงอวิ๋นให้นางกินหมั่นโถวเป็นอาหาร จับเจ้าไก่ไร้ขนอาบน้ำ แถมยังใช้ให้เฝ้าบ้านเหมือนแกล้งกัน เพราะเขารู้ว่าไก่ตัวนี้ไม่ใช้ไก่ธรรมดา เสิ่นหลีจึงพยายามหนีจากเขาทันทีที่ร่างกายแข็งแรงพอแต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะโดนจับลงหม้อเป็นไก่ตุ๋น สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรัง และเพราะสิ่งอวิ๋นอยากจะซื้อเนื้อให้เจ้าไก่โง่ของเขากิน ถึงได้เผยความสามารถที่ปกปิดมาตลอดจนผู้อื่นเข้าใจว่าเขาเป็นเทพพยากรณ์จนเรื่องราวเลยเถิดกลายเป็นความขัดแย้งกับองค์รัชทายาท เสิ่นหลีปกป้องชายหนุ่มไว้ได้ก็จริง แต่เมื่อบ้านที่สงบสุขถูกเผาจนวอด แค้นนี้ต้องชำระ สิงอวิ๋นจึงเสนอความช่วยเหลืออ๋องยุ๋ย โอรสที่เกิดจากพระสนมให้ชิงตำแหน่งรัชทายาท เสิ่นหลีใจจริงไม

ยามเมื่อลมพัดหวน

  ชื่อเรื่อง ยามเมื่อลมพัดหวน เขียน วาณิช จรุงกิจอนันต์ จำนวนหน้า 188 สำนักพิมพ์ บูรพาสาส์น (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2536)     เรื่องย่อ      การบูรเหมือนนกในกรงทองของพ่อกับแม่ ผิดกับน้องชายที่ได้ไปเรียนถึงประเทศอังกฤษ แต่ละวันการบูรต้องปวดหัวกับการรับมือผู้ชายที่เข้ามาติดพัน ซึ่งแต่ละคนต่างมีพ่อกับแม่ของเธอคอยถือหางทำให้การบูรไม่สามารถตัดรอนได้ เมื่อความเครียดสะสมมากเข้าหญิงสาวจึงขออนุญาตพ่อและแม่ไปหาน้องชายที่อังกฤษ วันที่การบูรไปถึงพาทีประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาหัก ชงจึงอาสาไปรับการบูรให้ แต่พาทีเห็นชงเป็นคนเนื้อหอม เลยโกหกว่าการบูรแต่งงานแล้ว มีลูกสาว 1 คน และเขียนจดหมายฝากชงไปเตี้ยมกับการบูร โดนใส่ไฟว่าชงเป็นเสือผู้หญิง ให้การบูรระวังตัว ชงพาการบูรมาพักที่บ้านพี่อ้วน พี่แสด รุ่นพี่ที่ปารีสซึ่งคุ้นเคยกัน ชงพาการบูรเที่ยวปารีส ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน การบูรเห็นว่าชงออกจะสุภาพไม่เหมือนกับที่น้องชายบอกมาในจดหมาย ยิ่งเขาเจ็บตัวเพราะช่วยตามโจรวิ่งราวการบูรจึงหายกลัวชายหนุ่ม ชงเองก็เริ่มหวั่นไหวกับการบูรแบบที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนไหน จนเล่าเรื่องรักครั้งแรกที่ทำให้เ