ชื่อเรื่อง | ปฐพีไร้พ่าย |
เขียน | Jiulufeixiang |
แปล | Hongsamut |
จำนวนหน้า | 865 |
สำนักพิมพ์ | Hongsamut |
version | Meb E book |
อ่านจบ | 19 มีนาคม 2561 |
เรื่องย่อ
สิงอวิ๋นซื้อไก่ที่โดนถอนขนจนเหี้ยนผอมแห้งแรงน้อยมาจากตลาด ไก่ตัวนั้นคือ เสิ่นหลี อ๋องปี้ชางแห่งแดนอสูร นางหนีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และพลาดท่าถูกกองทัพที่มาเชิญนางกลับแดนอสูรตามบัญชาของจอมอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บ สิงอวิ๋นให้นางกินหมั่นโถวเป็นอาหาร จับเจ้าไก่ไร้ขนอาบน้ำ แถมยังใช้ให้เฝ้าบ้านเหมือนแกล้งกัน เพราะเขารู้ว่าไก่ตัวนี้ไม่ใช้ไก่ธรรมดา เสิ่นหลีจึงพยายามหนีจากเขาทันทีที่ร่างกายแข็งแรงพอแต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะโดนจับลงหม้อเป็นไก่ตุ๋น สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรัง และเพราะสิ่งอวิ๋นอยากจะซื้อเนื้อให้เจ้าไก่โง่ของเขากิน ถึงได้เผยความสามารถที่ปกปิดมาตลอดจนผู้อื่นเข้าใจว่าเขาเป็นเทพพยากรณ์จนเรื่องราวเลยเถิดกลายเป็นความขัดแย้งกับองค์รัชทายาท เสิ่นหลีปกป้องชายหนุ่มไว้ได้ก็จริง แต่เมื่อบ้านที่สงบสุขถูกเผาจนวอด แค้นนี้ต้องชำระ สิงอวิ๋นจึงเสนอความช่วยเหลืออ๋องยุ๋ย โอรสที่เกิดจากพระสนมให้ชิงตำแหน่งรัชทายาท เสิ่นหลีใจจริงไม่อยากจาก ทั้งยังรู้ตัวว่าชอบชายชาวมนุษย์ผู้นี้แต่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับอสูร นางดิ้นรนจนแน่ใจว่าสิงอวิ๋นมีที่พึ่งคอยปกป้องคุ้มภัยก่อนจะถูกลากตัวกลับแดนอสูร เวลาสามสิบวันแดนอสูรเท่ากับสามสิบปีโลกมนุษย์ เมื่อเสิ่นหลีถูกปล่อยตัวจากมุกน้ำแข็งสิงอวิ๋นก็สิ้นอายุขัยเสียแล้ว
งานแต่งงานถูกเลื่อนออกไปชั่วคราว เสิ่นหลีออกไปปราบปิศาจร้ายที่หลุดออกมาจากถ้ำซวีเทียนซึ่งแข็งแกร่งมั่นคงจนได้รับบาดเจ็บ คนที่ช่วยรักษานางคือมหาเทพสิงจื่อซึ่งจะมาช่วยปิดผนึกถ้ำซวีเทียนอีกครั้ง ใบหน้าของสิงจื่อช่างละม้ายกับสิงอวิ๋นแต่ยืนยันมิใช่คนเดียวกัน แต่เมื่อมหาเทพขอให้เสิ่นหลีช่วยนำทางในแดนอสูรเพื่อปลุกผนึก สุดท้ายเสิ่นหลีก็รู้ว่าสิงอวิ๋นคือสิงจื่อที่ลงมาแก้เบื่อที่โลกมนุษย์ ซึ่งนางก็พูดกับสิงจื่อตรง ๆ ว่าสำหรับนางสิงอวิ๋นคนที่นางชอบตายไปแล้ว เสิ่นหลีจะไม่ทำให้เขาลำบากใจ ยอมรับหน้าที่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์
เกิดเหตุเซียนเจ้าที่ถูกสำนักฝูเซิงเหมินจับตัวไป แต่เพราะคนทำมีไออสูรจึงถูกเหมาว่าเป็นฝีมืออสูร เสิ่นหลีที่ประสบเหตุโดยบังเอิญจึงคิดจะสืบสาวราวเรื่องให้ถึงที่สุด โดยมีสิงจื่อที่ตามนางมาคอยช่วยเหลือ คนที่อยู่เบื้องหลังคือ ฝูเซิง ผู้เคยคุมทหารขององค์รัชทายาทมาเผาเรือนสิงอวิ๋น แต่เมื่อยังจับตัวไม่ได้จึงต้องปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน หนึ่งเทพหนึ่งอสูรต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง จนกระทั่งเลิ่นหลีได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนจอมอสูรไปร่วมงานชมบุปผาบนสวรรค์ แถมยังต้องไปพักที่ตำหนักของเซียนฝูหยงคู่หมาย ชาวสวรรค์ดูถูกชาวอสูรยิ่งเซียนฝูหยงเป็นขวัญใจของสาวสวรรค์ เสิ่นหลีโดนหาเรื่องถึงสามครั้งในวันเดียวจนต้องลงมือสั่งสอนตัวการ เง็กเซียนฮ่องเต้จึงให้เสิ่นหลีไปพักที่ตำหนักซีย่วนซึ่งเป็นที่พำนักของสิงจื่อ แม้จะอยู่ร่วมตำหนักเหมือนไม่ใส่ใจซึ่งกันและกัน แต่แท้จริงแล้วกลับห่วงหาอาทรกันยิ่ง เสิ่นหลีเสี่ยงชีวิตปกป้องห้องเก็บป้ายวิญญาณเทพแห่งบรรพกาลจากลูกไฟยักษ์ที่โจมตีตำหนักซีย่วนขณะมีงานชมบุปผา ทำให้สิงจื่อรู้ตัวว่าไม่อาจปล่อยมือจากนางได้แต่ก็ไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ วังหลวงในแดนอสูรเองก็ถูกโจมตีเลิ่นหลีจึงรีบลากลับแดนอสูร นางออกไปต่อสู้แลกชีวิตกับศัตรู สิงจื่อไม่เชื่อข่าวที่ได้รับ เขาออกไปตามหาเสิ่นหลีด้วยตัวเอง
เสิ่นหลีได้รับความช่วยเหลือจากชาวประมง เขาคอยพยาบาลอยู่ข้างกายนางจนอาการดีขึ้น แต่นางรู้ดีว่าตัวจริงของชาวประมงคือสิงจื่อ พวกเขาพยายามทะนุทะนอมชีวิตเยี่ยงปุถุชนยิ่ง ละทิ้งฐานะที่เด็มไปด้วยภาระหน้าที่ไวเบื้องหลัง จนกระทั่งลูกน้องของฝูเซิงหาพวกเขาพบ สิ่งจื่อจึงพาเสิ่นหลีไปหาภูติงูทองเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเสิ่นหลีให้หายดี แต่ผู้มุ่งร้ายก็ยังตามมาถูกจนทำให้เสิ่นหลีกับสิงจื่อที่รีบเข้ามาช่วยตกลงไปในถ้ำซึ่งภูตงูทองใช้โยนความคิดชั่วร้ายและความปรารถนาปิดผนึกไว้ สถานที่ซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอก เสิ่นหลีและสิงจื่อผูกพันกัน ณ ทีแห่งนี้ สิงจื่อให้คำมั่นว่าจะอยู่กับเสิ่นหลีไม่ว่าฟ้าจะถล่ม ดินทลายก็จะอยู่เคียงข้างนางตลอดไป
สิงจื่อรู้ว่าเป้าหมายของฝูเซิงน่าจะเป็นถ้ำซวีเทียน แต่เขาตั้งใจว่าจะไปจัดการเพียงผู้เดียวโดยให้เสิ่นหลีรออยู่นอกฝั่งฟ้า แต่เมื่อเดินทางมมาถึงทะเลตะวันตกกลับพบว่านอกฝั่งฟ้ากำลังสลาย สิงจื่อรู้ดีว่านี่คือสัญญาณเตือน เขารับปากกับชาวสวรรค์ว่าจะแก้ไขภัยพิบัติที่เกิดขึ้น แต่จะไม่ยอมถอยเรื่องเสิ่นหลีอีกแล้ว เสิ่นหลีแอบหนีกลับแดนอสูรจนได้ ประจวบกับฝูเซิงนำทัพบุกแดนอสูรเพื่อปลดปล่อยปิศาจในถ้ำสวีเทียน โดยจะใช้เสิ่นหลีแทนผนึกไฟ สิงจื่อที่ตามหญิงสาวมาในเวลาไม่นานกำจัดฝูเซิง แต่กว่าจะถึงตัวเสิ่นหลีเขาก็บาดเจ็บหนัก เพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลายเทพองค์สุดท้ายจึงตัดสินใจทำลายถ้ำซวีเทียนไปพร้อมตนเอง เพื่อที่ได้ตายพร้อมเสิ่นหลี
ตัวละครสำคัญ
เสิ่นหลี : อ๋องปี้ชาง แม่ทัพแดนอสูรที่มีวรยุทธสูงส่ง มีชื่อเสียงขจรขจาย ใช้หอกสีเงินห้อยพู่ระย้าสีแดงเป็นอาวุธคู่กาย ร่างที่แท้จริงของนางคือ หงส์ไฟ มีไข่มุกวิเศษปี้ชางติดตัวมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ตายในการสังหารปิศาจเมื่อพันปีก่อน จอมอสูรเป็นผู้เลี้ยงดูนางจนเติบใหญ่ |
สิงอวิ๋น/มหาเทพสิงจื่อ : เจ้าของกระท่อมหลังน้อย บุรุษรูปงามสง่าราวเทพเซียนแต่กลับขาเป๋ เขาอายุสั้นนักอีกไม่นานก็ต้องสิ้นชีพเพราะเขาสามารถล่วงรู้ความลับของสวรรค์ และยังสามารถตั้งค่ายกลสารพัดรูปแบบ อดีตเง็กเซียนฮ่องเต้หลายสมัยผู้เป็นตำนาน มหาเทพมังกรดำ เทพสูงศักดิ์องค์สุดท้ายที่ทรงอำนาจที่สุดในหกภพ อาศัยอยู่โดดเดี่ยวนอกฝั่งฟ้า อยู่เหนือกาลเวลาและสรรพสิ่ง |
บันทึก…คนอ่าน
เรื่องนี้เป็นนิยายของจิ่วลู่เฟยเซียงเล่มแรกที่ได้อ่าน หลังอ่านรีวิวชื่นชมผลงานของนางมาแบบรัว ๆ ต้องยอมรับว่าสมคำร่ำลือค่ะ เพราะนิยาย 1 เรื่องเธอสามารถใส่ทั้งอารมณ์น่ารัก ความฮา และปมดราม่าให้อยู่ด้วยกันอย่างสมดุล เป็นนิยายรักที่ปมขัดแย้งไม่ได้แขวนไว้กับความรู้สึกของตัวละครเพียงอย่างเดียว แต่ปมภายนอกต่างหากที่หนักอึ้ง และเป็นเหตุเป็นผลสมกับที่คนอ่านต้องเอาใจช่วยให้เรื่องจบลงด้วยดี
เปิดเรื่องด้วยการที่เสิ่นหลี อ๋องปี้ชางแม่ทัพแดนอสูรที่หลบหนีงานแต่งงานต้องมาอยู่ในสภาพไก่ไร้ขนในการดูแลของสิงอวิ๋น ชายขาเป๋รูปงามแต่ยากจนช่วงนี้คนอ่านจะอมยิ้มไปกับความเฮี้ยวของท่านอ๋องในร่างไก่ และความขี้แกล้งแต่ก็ดูแลนะของสิงอวิ๋น อันเป็นบ่อเกิดของความรู้สึกรักแบบชายหญิงก่อนที่จะต้องจาก เมื่อสิงอวิ๋นบ๊าย บายลาจากโลกไปตามอายุขัยของมนุษย์ส่งไม้ต่อให้มหาเทพสิงจื่อผู้แสนมารยามงามแต่ออกจะเย็นชาสักหน่อย คนอ่านพอเดาได้แหละว่าถึงปากจะบอกไม่ใช่ แต่สองคนนี้คือคนเดียวกัน สิงอวิ๋นคือร่างอวตารของเทพสูงศักดิ์องนี้แน่นอนก็ต้องมาลุ้นก๊อกสองต่อว่าเสิ่นหลีจะจับให้มั่นคั้นความจริงได้ยังไง นางเอกเราก็เด็ดขาดค่ะ รู้ว่าเป็นคนเดียวกันแต่ยังไงมันก็ไม่เหมือน รับรองว่าจะไม่ไปตอแยให้ลำบากใจ สิงจื่อถึงปากว่าดี เอาตามนั้นแต่ก็ยังอดหยอดโน่นี่เอาใจสาวที่ต้องใจไม่ได้ หยอดไปด้วยเกรียนไปด้วยให้คนอ่านเพลินขณะเดียวกันก็ค่อย ๆ ซึมซับความสูงส่งของสิงจื่อพลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง พลังของเทพยิ่งใหญ่มากจริง ๆ จนไม่สามารถมีอารมร์ความรู้สึก โดยเฉพาะความรักได้ แล้วเราก็จะค่อย ๆ สงสารพระเอกไปโดยปริยาย อย่างกรณีเพื่อนสนิทของนางที่ไปรักมนุษย์โดนลงโทษด้วยการให้ไปเวียนว่ายตายเกิด เนื่องจากจักรวาลนี้คนที่ใหญ่ที่สุดคือสวรรค์ซึ่งก็มีกฎ แถมไม่มีตัวตนให้ไปเหวี่ยงด้วยได้ ฝั่งเสิ่นหลีก็เป็นแม่ทัพอสูรที่เป็นความหวังของคนทั้งกองทัพ เมื่อมีนางยืนอยู่แนวหน้าหมายถึงชัยชนะ ต่างคนต่างไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องนี้คือกำแพงของภาระหน้าที่นั่นเอง สิ่งล้ำค่าของทั้งคู่ จึงเป็นเพียงแค่ชีวิตธรรมดาแม้จะเป็นเพียงสามีภรรยาชาวประมง
เรื่องแนวนี้จบแบบสวย ๆ ได้สองทาง คือ แบบต่างคนต่างเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ในใจแล้วแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ แต่หากคู่นี้หากจะลงเอยแบบ Happy Ending แบบได้ครองคู่อยู่ด้วยกันไม่ใครคนใดคนหนึ่งต้องได้วางภาระบนบ่าลง ด้วยเหตุผลแบบทที่ใครจะก่นด่าไม่ได้ด้วย
สรุป เรื่องนี้สนุกมาก ถึงแม้จะลำไยบางตัวละครอย่างโม่ฟางไปบ้าง แต่ก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่
ว่าแล้วก็จดชื่อ จิ่วลู่เฟยเซียง เข้าทำเนียบนักเขียนคนโปรดอีกหนึ่งคน แถมยังเปย์ สามชาติผูกพัน แม่น้ำลืมเลือนมารอเสียแล้วด้วย
ตอนที่ชอบ
บทที่ 11 ความกลัดกลุ้มของเทพบรรพกาล
“ก่อนหน้านี้…ไม่มีผู้ใดเป็นสิงจื่อให้ข้านี่นา”
ไม่เคยมีใครที่จะปกป้องนาง นางจึงต้องเข้มแข็ง บากบั่นอยู่ผู้เดียวจนชินชา ไปต่อสู้ ไปปกป้อง ไปแบกรับความเจ็บปวด รับภารกิจโหดร้ายในสมรภูมิราวกับตนเองเป็นชายชาตรี ทั้งที่ความจริงแล้วนางยังคงเป็นเพียงดรุณีน้อยผู้หนึ่งเท่านั้นเอง เป็นเพียงสตรีที่เนื้อในบอบบางอ่อนแอถึงเพียงนี้….
ประโยคนี้กระแทกใจสาวโสด ยิ่งต่อท้ายด้วยความสำนึกรู้ของสิงจื่อยิ่งอิน ถึงชีวิตสาวโสดนอกนิยายจะไม่ต้องโชกเลือดเท่าเสิ่นหลี แต่อยู่คนเดียวก็ต้อง strong ละเนอะ ถามว่าชีวิตจริงอยากได้แบบสิงจื่อไหม ตอบเลยว่าอยากแต่ของพรีเมี่ยมใช่ว่าจะหาง่าย และถ้ามันหาไม่ได้ก็ stay strong ต่อไปเท่านี้เอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น