ชื่อเรื่องภาษาไทย ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น | ชมรมรัก คลับมหาสนุก ouran koukou host club |
เรื่อง และ ภาพ | Bisco hatori |
จำนวนเล่มทั้งหมด | 18 |
สำนักพิมพ์ อ่านจบเมื่อ | บงกชคอมมิคส์ 30 กรกฎาคม 2557 |
เรื่องย่อ
ฮารุฮิ เข้าเรียนในโรงเรียนโอรัง ที่แสนจะไฮโซด้วยทุนเรียนดี เธอใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายด้วยการแต่งตัวเป็นนักเรียนชาย
วันหนึ่งระหว่างหามุมสงบ ฮารุฮิเดินหลงเข้าไปในห้องดนตรี 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ host club ชมรมสุดเว่อร์ของโรงเรียน แถมยังซุ่มซ่ามไปทำแจกันราคา 8 ล้านเยนแตก รุ่นพี่ที่ชมรมจึงบังคับให้ฮารุฮิทำงานชดใช้ ฮารุฮิถูกจับแปลงโฉมเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวยกลายเป็นหนึ่งใน Host ของชมรมที่รวบรวมสุดยอดหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของโรงเรียน
ฮารุฮิรู้ตัวว่าชอบทามากิ แต่ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าเพราะทามากิมีปมในจิตใจเรื่องครอบครัว สิ่งใดก็ตามที่อาจทำลายครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น เจ้าตัวจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ครอบครัวของทามากิหมายรวมสมาชิกชมรมโฮสท์คลับด้วย ฮิคารุจึงตัดสินใจบอกรักฮารุฮิ ซึ่งเป็นการทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่ก็อยากช่วยกระตุ้นให้ทามากิทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองเสียที
ฮารุฮิไปไหว้พระต้อนรับปีใหม่กับทุกคน แต่กลับถูกคนที่เสียประโยชน์เพราะตระกูลสุโอลักพาตัวไปทำให้ทามากิรู้สึกถึงความสำคัญของฮารุฮิ และทุกคนในชมรมต่างช่วยกันย้ำว่า สายสัมพันธ์ของพวกเขาเหนียวแน่นถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมสายเลือดเดียวกัน ทามากิที่คิดตกกลับมาสดใสร่าเริง แถมดูเหมือนจะทวีความบ้ายิ่งกว่าเดิม
ทามากิย้ายเข้าไปอยู่เรือนใหญ่ ย่าของทามากิใช้เหตุการณ์เมื่อตอนปีใหม่มาใช้เป็นเหตุผลบีบให้ทามากิลาออกจากชมรม มิฉะนั้นฮารุฮิจะต้องออกไปจากโรงเรียนโอรัง ทามากิจำต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งทั้งที่สมาชิกชมรมที่พยายามหาทางช่วยเหลือทามากิทุกวิถีทาง พ่อของทามากิวางแผนปลดคุณย่าออกจากตำแหน่งประธานเพื่อปลดภาระอันหนักอึ้งจากบ่าของลูกชาย และเพื่อให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า
วิธีนี้ทำลายความฝันที่อยากให้คุณย่ายอมรับเขาและแม่ด้วยใจจริงของทามากิ ทามากิจึงยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างคุณย่าจนไม่ยอมไปพบคุณแม่ที่แวะมาญี่ปุ่นทั้งๆที่ไม่ได้เจอกันหลายปี ร้อนถึงสมาชิก host club ต้องลงมือกระตุ้นให้เจ้าตัวปากตรงกับใจ และรีบพาตัวไปพบแม่ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับฝรั่งเศสได้ทันเวลา
เมื่อมองเห็นความสุขที่ทามากิได้รับ ความรู้สึกที่อยากเป็นกำลังให้ก็ถูกจุดขึ้นในใจของฮารุฮิ ฮารุฮิบอกรักทามิกิ ซึ่งทามากิเองก็ตอบรับความรู้สึกของหญิงสาวด้วยความยินดี แต่ทั้งที่เพิ่งได้มีเวลาแบบคู่รัก ฮารุฮิก็ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะรับทุนไปเรียนต่อที่บอสตันเป็นเวลา 1 ปีในฐานะนักเรียนที่มีคะแนนสูงที่สุดของชั้นปีหรือไม่
ความอ่อนโยนที่ทามากิแสดงต่อคนอื่นในเดทแรกที่สวนสนุกทำให้ฮารุฮิอยากพัฒนาตนเองให้คู่ควรที่จะเดินเคียงข้างทามากิจึงตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ หลังสอบปลายภาค โฮสต์คลับจัดงานเต้นรำสวมหน้ากากเลี้ยงส่งฮารุฮิ และบอกความจริงกับทุกคนว่าฮารุฮิเป็นผู้หญิง
ฮารุฮิกับทามากิบินไปบอสตันด้วยกันโดยที่ไม่รู้เลยว่าสมาชิกคนอื่นวางแผนบินตามไปติดๆ
ตัวละครสำคัญ
สุโอ ทามากิ | ประธานชมรม ชั้นปีสอง บุคลิกบ้าบอเป็นที่สุด ทายาทของกลุ่มธุรกิจสุโอ ต้องแยกจากแม่ชาวฝรั่งเศสที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดมาอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่นเพื่อแลกกับการช่วยเหลือในการรักษาอาการป่วยของเธอ |
ฮารุฮิ | นักเรียนทุน มุ่งมั่นที่จะเป็นทนายเหมือนแม่ในอนาคต อาศัยอยู่กับพ่อที่แต่งหญิงทำงานบาร์ |
เคียวยะ | รองประธานชมรม ชั้นปีสอง เป็นจอมเขี้ยวลากดินผู้ดูแลผลประโยชน์ของชมรม |
ฮิคารุ ,คาโอรุ | ชั้นปี หนึ่ง ฝาแฝดที่อยู่โดยขาดอีกฝ่ายไม่ได้ ตัวแสบที่ชอบแกล้งชาวบ้าน แม่ของพวกเขาเป็นดีไซเนอร์ ส่วนคุณยายเป็นนักจัดดอกไม้ |
มิทซึคุนิ (รุ่นพี่ฮันนี่) | ชั้นปี สาม รูปลักษณ์ และ บุคลิกน่ารักเหมือนเด็กเล็กๆ แต่มีฝีมือทางด้านศิลปะการป้องกันตัว |
ทาคาชิ (รุ่นพี่โมริ) | ชั้นปี สาม เงียบขรึม พูดแทบจะนับคำได้ ตัวติดกับรุ่นพี่ฮันนี่ จุดเด่นอยู่ที่กำลังกาย เป็นที่รักของสัตว์ทั้งหลาย |
บันทึก...คนอ่าน
จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่ความฮาในความเว่อร์ของบรรดาลูกท่านหลานเธอในโรงเรียนโอรัง ที่สื่อผ่านการแต่งเป็นอะไรสารพัดสารเพของสมาชิกชมรม โดยมีคนที่คิดบวกแบบสุดยอดอย่างทามากิ พระเอกของเรื่องมาช่วยเพิ่มความสุดกู่(บางครั้งก็ออกแนวเพลีย) แต่ที่เห็นทีไรต้องอมยิ้มทุกครั้งคงเป็น “ภารกิจเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา” ของบรรดาสมาชิกชมรมลูกคุณหนู กิจกรรมนี้เกิดขึ้นคราใด ฮารุฮินางเอกคนธรรมดาเพียงหนึ่งเดียวมีอาการพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเสียทุกที
ส่วนเรื่องความซึ้งก็มีไม่น้อย ถึงดูเหมือนจะไร้สาระไปวันๆ แต่ทุกคนต่างก็มีปมในใจ เมื่อพวกเขามาอยู่รวมกันด้วยฝีมือของทามากิ ทุกครั้งที่เกิดเรื่องสมาชิกทุกคนจะคอยเอาใจใส่ช่วยเหลือกัน (บางครั้งก็แค่มุง) เพื่อผ่านมันไปให้ได้ แต่หากเอามาแข่งกัน คนที่ชีวิตมีปัญหาที่สุดในเรื่อง คือ ทามากิ ที่ดูเป็นคนบ้าบอ เอาเรื่องเล็กๆเรื่องน้อยมาทำให้สนุกได้ ทั้งที่ต้องจากแม่ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสมาอยู่ที่บ้านตระกูลสุโอ แถมยังมีเงื่อนไขว่าห้ามติดต่อกันเด็ดขาดเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในการรักษาอาการป่วยของแม่ ทามากิใช้ชีวิตทุกวันอย่างตั้งใจโดยมีความหวังเพียงหนึ่งเดียว คือ ให้คุณย่าเข้าใจและยอมรับ เวลาที่ทามากิซึมๆ ทุกคนแม้แต่เคียวยะจอมเคี่ยวก็ยังต้องมาดูแลเอาใจใส่ ซึ่งเหมือนเป็นการตอบแทนสิ่งที่ทามากิยามปกติได้ทำมาเสมอ
ความรักในเรื่องเป็นแบบรักซึมลึก ในกลุ่มคนที่มารวมกันภายใต้คำว่ามิตรภาพ พอสิ่งที่อยู่ในใจพัฒนาไปมากกว่าคำว่าเพื่อนจึงไม่ค่อยรู้ตัว ทามากิชอบฮารุฮิ แต่ก็เข้าใจเอาเองว่าเป็นความรู้สึกแบบพ่อที่มีต่อลูกสาว ส่วนทางด้านฮารุฮินางเอกก็รู้สึกดีกับความอ่อนโยนที่ทามากิมีให้ แต่ด้วยความสุดโต่งของพี่แก เลยทำให้สมองเปิดการป้องกันโดยอัตโนมัติ(ถ้าเราเจอแบบนี้ก็คงทำเหมือนกัน) อ่านไปลุ้นไปว่าสองคนนี้จะรู้ตัวเมื่อไหร่
และแล้วด้วยความช่วยเหลือของสมาชิกในชมรม ที่ทั้งผลักทั้งดัน(แอบมีถีบเป็นบางโอกาส) ทามากิกับฮารุฮิก็รู้ตัวว่าต่างฝ่ายต่างมีใจให้กัน อ่านไปก็ฮาปนยิ้มอย่างเอ็นดูกับการแสดงออกของคู่นี้ได้ไม่กี่ตอน ดราม่าหลักของเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อทามากิได้เข้าไปอยู่บ้านใหญ่แถมยังโดนสั่งให้ลาออกจากชมรม ช่วงนี้อ่านไปก็โกรธพ่อของทามากิไป อะไรๆก็บอกให้ทำตามคำสั่งของคุณย่า ก่อนที่จะมาเฉลยทีหลังว่าคุณพ่อกำลังแอบเลื่อยขาเก้าอี้ของคุณย่าอยู่ เมื่อทามากิยังยืนยันที่จะอยู่ข้างคุณย่า ทำให้คุณย่ายอมรับจากใจจริงมากกว่าเพื่อให้ความสุขที่ได้รับมาเป็นของทุกคนอย่างแท้จริง
เมื่อเรื่องที่บ้านของทามากิลงตัว แถมฮารุฮิเป็นฝ่ายสารภาพรักก่อน เล่มสุดท้ายจึงเป็นอะไรที่หวานเรี่ยราดมาก เมื่อทามากิที่กลับมาบ้าบอเหมือนเดิมพยายามที่จะสวีทกับฮารุฮิ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมี moment เท่ๆให้ฮารุฮิตกหลุมรัก บวกกับปรัชญาความรักที่น่าจดจำปล่อยออกมาในช่วงสุดท้าย อย่างตอนที่พาไปไหว้หลุมศพแม่ของฮารุฮิเพื่อให้ฮารุฮิตัดสินใจไปบอสตัน
ถึงเรื่องจะจบแล้วแต่ก็ยังอยากรู้ความเป็นไปของ เคียวยะ บอสใหญ่ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง โฮสต์คลับ เมื่อใคร ๆ ก็รู้สึกว่าเคียวยะเองก็ถูกชะตากับฮารุฮิเหมือนกัน แต่เจ้าตัวกลับบอกว่า “ในฐานะมนุษย์ล่ะก็ใช่ครับ แต่ไม่ใช่รสนิยมฉันหรอก ฉันจะเลือกเฉพาะคนที่เกิดประโยชน์กับตระกูลโอโทริเท่านั้นแหละ และที่สำคัญ ฉันเองก็ได้รับสิ่งที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้มาแล้วด้วย ฉันไม่คิดทำลายสิ่งนั้นมาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ” ว่าแล้วก็อยากเห็นหญิงสาวที่เคียวยะเลือกจัง อยากให้เป็นคนที่เป็นที่พักใจให้เคียวยะได้
Favorite scene
quote
ตอนที่ 76
“บางครั้งอาจจะทำให้ต้องเจ็บปวด แต่ยิ่งอีกฝ่ายสำคัญมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากปกป้อง ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่อยากตัดใจจากการใช้ชีวิตไปด้วยกัน จะขอเชื่อว่าความคิดนั้นจะผลักดันให้คนเราเข้มแข็งขึ้นบ้าง ไม่ได้เลยหรือ”
“จิตวิญญาณมีเสรีแค่ไหน ตัวเองนั่นแหละที่รู้ดีกว่าใคร มีอิสระที่จะเลือกอยู่ที่นี่หรือไปที่ไหนก็ได้ ต่างคนต่างมีสีสันของตัวเอง เมื่อมาผสมกันจึงเกิดเป็นสีที่คาดไม่ถึง ที่จะคงอยู่ในความทรงจำโดยไม่ซีดจางไป”
2nd version 19 เมษายน 2562
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น