ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฮ่องกง วันที่ 3

  

     จุดหมายปลายทางวันที่ 3 คือ เกาะลันเตา ไปไหว้พระใหญ่เทียนถาน เราเลือกเดินทางโดยกระเช้า NgongPing360 เดินทางด้วย MRT ไปลง Tung Chung Station ทางออก B ไปถึงสถานีกระเช้าประมาณ 7 โมง ขนาดวันธรรมดาคนยังเยอะเลยจ้า กระเช้ามีอยู่ 2 แบบ แบบธรรมดา 160 เหรียญ แบบพื้นใส 215 เหรียญ ส่วนตัวอยากลองแบบพื้นใสเหมือนกันแต่ยังไม่มั่นขอแบบธรรมดาก่อน งานนี้ฉายเดี่ยวเลยด้วย เพราะเพื่อนสาวขอแยกไปนั่งรถเมล์ ด้วยความยาว 5.7 กิโลเมตร ข้ามอ่าวใช้เวลา 25 นาที คือถ้าเกิดกลัวความสูงขึ้นมามันลงไม่ได้ไง ส่วนเราแค่กลัวตก พอลองขึ้นแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมถึงเป็นจุดแนะนำ วิวที่เห็นจากกระเช้าสวยมาก ๆ แถมกระเช้าก็แน่นหนาวิ่งนิ่งมาก ๆ ไม่น่ากลัวเลย ถ้าได้นั่งกับคนรู้จักรับรองว่าถ่ายรูปกันเพลิน สถานีข้างบนทำเป็นเมืองย่อม ๆ ชื่อ NgongPing village เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร แล้วก็พวกโรงหนังเล็ก ๆ 
  

     พระพุทธรูปเทียนถานเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขาอีกที กับบันไดจำนวน 268 ขั้น มาคราวนี้สองสาวไม่ได้ขึ้นไป ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จำนวนบันไดตอนขึ้น แต่เป็นตอนลง บันไดแบบยาว ๆ แบบนี้เวลาลงจะรู้สึกเหมือนจะวูบ ต้องให้คนไม่กลัวเดินข้างหน้า หรือราวจับต้องเป็นแบบกำรอบได้ถึงจะพอรอด บวกกับแดดที่แรงพอตัวไม่เสี่ยง อยู่แค่ลานขอพรทรงกลมที่อยู่ด้านล่าง ตำแหน่งที่องค์พระท่านมองลงมาสบตาพอดี   เลี้ยวไปสักการะพระพุทธรูปในอาราม วัดโป่หลิน ดีกว่า ได้เห็นดอกไฮเดนเยียตรงบันไดทางขึ้นอารามใหญ่ด้วย

  

    อีกที่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกับวัดพระใหญ่ เรียกว่า wisdom path หรือทางเดินแห่งปรัชญา ต้องเดินบุกป่าฝ่าดงไป ตามป้ายบอกประมาณ 15 นาที แต่รู้สึกว่าเดินมาเป็นชั่วโมง ผ่านทั้งซาก youth hotel ทางเดินปูนกลางป่า เหมือนจะร่มแต่ใครเดินมาตอนใกล้เที่ยงเหมือนเราแนะนำว่าให้พกน้ำด้วย เราเดินไปกินไปจนหมดขวด เกือบไม่รอด wisdom path ประกอบด้วยเสา 38 ต้น เห็นแล้วทึ่งกับความขยันของคนขนเสามาปัก เสาเหล่านี้สลักบทกวีจากพระสูตร เรียงกันเป็นสัญลักษณ์อนันต์ แถวนี้อากาศดีมาก มีแต่เขากับต้นไม้เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้น Lanta trial จากจุดนี้มีชานเล็ก ๆ มองลงไปเห็นทะเลสีครามเข้มสวยมาก ขากลับจาก wisdom path ลองจับเวลาดูเพราะตอนขามาเหนื่อยมาก ขากลับเหมือนใกล้กว่าขามา ดูนาฬิกาเดิน 15 นาทีจริง ๆ ด้วย ออกมาหาของกินตรง NgongPing village แล้วนั่งรถเมล์มุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไปจ้า

    มาฮ่องกงคราวนี้ยอมรับเลยว่าผิดจากที่จินตนาการไว้ กะว่าจะมีแต่ตึกรามบ้านช่อง ไม่คิดว่าฮ่องกงจะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ขนาดนี้ คือเมืองก็ส่วนเมือง แต่ส่วนไหนที่เป็นธรรมชาติก็ไปสุดจริง ๆ เหมือนคนที่นี่จะนิยมออกมาปีนเขาในวันหยุดด้วย

  
    นั่งรถเมล์มาถึงหมู่บ้านชาวประมง Tai O เกือบบ่าย 3 โมง วันที่เรามาตรงกับงานเทศกาลประจำปีของหมู่บ้านพอดี เราเลยได้เห็นหมู่บ้านในสีสันแปลกตาด้วยธงประดับ แต่เนื่องจากเรามาตอนงานเพิ่งเลิกเมื่อตอนบ่าย ร้านรวงต่าง ๆ ปิดฉลองไปหลายร้าน ร้านที่เปิดก็มีของเหลืออยู่แบบเบาบาง ด้วยความที่ขนาดของหมู่บ้านไม่ใหญ่นัก มีบริเวณท่องเที่ยวอยู่จำกัด ส่วนใหญ่เป็นร้านขายอาหารทะเล สำหรับคนที่ไม่ได้มุ่งเป้าว่าจะมาซื้ออาหารทะเล เดินวนไปวนมาเดี๋ยวเดียวก็รอบ กินลูกชิ้นปลาต้มในน้ำแกงเสร็จก็ถอยทัพกลับ

 
    กลับมากินอาหารเย็นที่ Mong kok เดินเลือกร้านอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน สุดท้ายมาลงเอยที่ร้านราเมงญี่ปุ่นอีกแล้ว 555 ถึงชื่อจะเป็นราเมง แต่ก็มีความต่างกับแบบต้นฉบับตรงความจัดเต็มของผัก ดูความจัดเต็มของปริมาณแล้ว แอบโล่งใจที่ไม่หน้ามืดสั่งมาหลายอย่าง ยัดเข้าไปหมดชามบวกกับความเพลียแดด เป็นอีกคืนที่หลับสบายมาก ๆ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชมรมรัก คลับมหาสนุก

ชื่อเรื่องภาษาไทย ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น ชมรมรัก คลับมหาสนุก ouran koukou host club เรื่อง และ ภาพ Bisco  hatori จำนวนเล่มทั้งหมด 18 สำนักพิมพ์ อ่านจบเมื่อ บงกชคอมมิคส์ 30 กรกฎาคม 2557 เรื่องย่อ            ฮารุฮิ เข้าเรียนในโรงเรียนโอรัง ที่แสนจะไฮโซด้วยทุนเรียนดี เธอใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายด้วยการแต่งตัวเป็นนักเรียนชาย     วันหนึ่งระหว่างหามุมสงบ ฮารุฮิเดินหลงเข้าไปในห้องดนตรี 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ host club ชมรมสุดเว่อร์ของโรงเรียน แถมยังซุ่มซ่ามไปทำแจกันราคา 8 ล้านเยนแตก รุ่นพี่ที่ชมรมจึงบังคับให้ฮารุฮิทำงานชดใช้  ฮารุฮิถูกจับแปลงโฉมเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวยกลายเป็นหนึ่งใน Host ของชมรมที่รวบรวมสุดยอดหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของโรงเรียน       ฮารุฮิรู้ตัวว่าชอบทามากิ แต่ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าเพราะทามากิมีปมในจิตใจเรื่องครอบครัว สิ่งใดก็ตามที่อาจทำลายครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น เจ้าตัวจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ครอบครัวของทามากิหมายรวมสมาชิกชมรมโฮสท์คลับด้วย ฮิคารุจึงตัดสินใจบอกรักฮารุฮิ ซึ่งเป็นการทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่ก็อยากช่วยกระตุ้นให้ทามากิทำความเข้าใจความรู้สึกของตัว

ปฐพีไร้พ่าย

    ชื่อเรื่อง ปฐพีไร้พ่าย เขียน Jiulufeixiang แปล Hongsamut จำนวนหน้า 865 สำนักพิมพ์ Hongsamut version Meb E book อ่านจบ 19 มีนาคม 2561 เรื่องย่อ      สิงอวิ๋นซื้อไก่ที่โดนถอนขนจนเหี้ยนผอมแห้งแรงน้อยมาจากตลาด ไก่ตัวนั้นคือ เสิ่นหลี อ๋องปี้ชางแห่งแดนอสูร นางหนีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และพลาดท่าถูกกองทัพที่มาเชิญนางกลับแดนอสูรตามบัญชาของจอมอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บ สิงอวิ๋นให้นางกินหมั่นโถวเป็นอาหาร จับเจ้าไก่ไร้ขนอาบน้ำ แถมยังใช้ให้เฝ้าบ้านเหมือนแกล้งกัน เพราะเขารู้ว่าไก่ตัวนี้ไม่ใช้ไก่ธรรมดา เสิ่นหลีจึงพยายามหนีจากเขาทันทีที่ร่างกายแข็งแรงพอแต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะโดนจับลงหม้อเป็นไก่ตุ๋น สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรัง และเพราะสิ่งอวิ๋นอยากจะซื้อเนื้อให้เจ้าไก่โง่ของเขากิน ถึงได้เผยความสามารถที่ปกปิดมาตลอดจนผู้อื่นเข้าใจว่าเขาเป็นเทพพยากรณ์จนเรื่องราวเลยเถิดกลายเป็นความขัดแย้งกับองค์รัชทายาท เสิ่นหลีปกป้องชายหนุ่มไว้ได้ก็จริง แต่เมื่อบ้านที่สงบสุขถูกเผาจนวอด แค้นนี้ต้องชำระ สิงอวิ๋นจึงเสนอความช่วยเหลืออ๋องยุ๋ย โอรสที่เกิดจากพระสนมให้ชิงตำแหน่งรัชทายาท เสิ่นหลีใจจริงไม

ยามเมื่อลมพัดหวน

  ชื่อเรื่อง ยามเมื่อลมพัดหวน เขียน วาณิช จรุงกิจอนันต์ จำนวนหน้า 188 สำนักพิมพ์ บูรพาสาส์น (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2536)     เรื่องย่อ      การบูรเหมือนนกในกรงทองของพ่อกับแม่ ผิดกับน้องชายที่ได้ไปเรียนถึงประเทศอังกฤษ แต่ละวันการบูรต้องปวดหัวกับการรับมือผู้ชายที่เข้ามาติดพัน ซึ่งแต่ละคนต่างมีพ่อกับแม่ของเธอคอยถือหางทำให้การบูรไม่สามารถตัดรอนได้ เมื่อความเครียดสะสมมากเข้าหญิงสาวจึงขออนุญาตพ่อและแม่ไปหาน้องชายที่อังกฤษ วันที่การบูรไปถึงพาทีประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาหัก ชงจึงอาสาไปรับการบูรให้ แต่พาทีเห็นชงเป็นคนเนื้อหอม เลยโกหกว่าการบูรแต่งงานแล้ว มีลูกสาว 1 คน และเขียนจดหมายฝากชงไปเตี้ยมกับการบูร โดนใส่ไฟว่าชงเป็นเสือผู้หญิง ให้การบูรระวังตัว ชงพาการบูรมาพักที่บ้านพี่อ้วน พี่แสด รุ่นพี่ที่ปารีสซึ่งคุ้นเคยกัน ชงพาการบูรเที่ยวปารีส ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน การบูรเห็นว่าชงออกจะสุภาพไม่เหมือนกับที่น้องชายบอกมาในจดหมาย ยิ่งเขาเจ็บตัวเพราะช่วยตามโจรวิ่งราวการบูรจึงหายกลัวชายหนุ่ม ชงเองก็เริ่มหวั่นไหวกับการบูรแบบที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนไหน จนเล่าเรื่องรักครั้งแรกที่ทำให้เ