ดวงปีนี้ เค้าว่าให้เดินทางไปไหว้พระทางตะวันออก ในที่ ๆ มีเวลาเร็วกว่าไทย ก็จัดไปค่ะ เร็วกว่า 2 ชั่วโมง จุดหมายปลายทางคือ ฮ่องกง ที่ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนจองตั๋วจะไปแล้ว แต่เกิดเหตุสุดวิสัย ทำให้ต้องเท
รอบนี้ขอเดินทางแบบไม่เหนื่อย และไม่เบียด เลยเลือกเดินทางวันธรรมดา ออกเดินทางในช่วงวันธรรมดา กลับวันเสาร์ซึ่งชาวบ้านเขาเพิ่งมา ออกเดินทางวันแรก คือวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2562 ด้วยสารการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 18.25 น. ถึงฮ่องกง 11.30 น. หลังจากเดินหาเคาท์เตอร์ซื้อบัตร Octopus ซึ่งต้องใช้เงินสด แต่ระหว่างเดินหาทางออกดันมาปะว่าตอนนี้มีตู้ขายบัตร Octopus แบบอัตโนมัติที่สามารถจ่ายด้วยบัตรได้ด้วย ตรงบริเวณตู้ที่เติมบัตร เห็นแล้วแอบเซ็ง เพราะตอนแรกว่าจะเก็บเงินสดไว้ใช้อย่างอื่น
นั่ง Airport Bus ออกมาจากสนามบิน ถูกใจรถของฮ่องกงจัง มีที่วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ๆ เป็นสัดเป็นส่วน ไม่เหมือนรถยูโรบ้านที่เราต้องลากเอามาวางไว้ใกล้ตัวให้เกะกะ ที่พักของเราในทริปนี้เป็นเกสเฮาท์ชื่อว่า A-Inn อยู่ที่ตึก Sincere อยู่ตรงย่าย Mong kok ดูแล้วตึกนี้น่าจะเป็นตึกอยู่อาศัยที่แบ่งมาทำเป็นที่พักราคาถูกด้วย ราคาคืนละประมาณ 650 บาท เป็นห้องสองเตียงแบบมีห้องน้ำในตัว ตู้เย็น เครื่องกดน้ำ และไดร์เป่าผมแบบรวม โดยส่วนตัวถือว่า OK เลย สำหรับที่นี่จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ แต่จะโดนชาร์ต 3% แบงค์ฮ่องกงเลยปลิวออกไปจากกระเป๋าไปตามระเบียบ
จุดหมายปลายทางแรกของทริปนี้ มุ่งหน้ามาที่ The venue of the star ก่อน เพราะออกมาจากที่พักก็บ่ายคล้อยแล้ว แถมฝนยังพรำหน่อย ๆ บรรยากาศน่าจะเหมาะกับการเดินริมน้ำ ส่วนการเดินทางจาก Mong kok มุดดินไปลงสถานี Tsum Sha Tsui โผล่ขึ้นมาแล้วอาจมีมึนงงนิดหน่อย เพราะ the venue of stars จะอยู่อีกฝั่งนึงของตึก คือเห็นริมน้ำอยู่แต่ไม่แน่ใจว่าเดินตัดเข้าไปทางไหนได้ เพราะแต่ละตึกที่คั่นอยู่เป็นโรงแรมหรูทั้งนั้น
The Venue of the star ปี 2562 ไม่เหมือนในหนังสือนำเที่ยวแล้วค่ะ มีการปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนที่รูปปั้น แล้วก็ยกเอากรอบปั๊มมือขึ้นมาวางไว้ที่ราวกั้นแทน มาถึงตอนประมาณ 5 โมง บรรยากาศริมน้ำตอนฝนพรำ ฟ้าหม่น ๆ อากาศเย็นนิดหน่อย แต่บรรยากาศชิลดีค่ะ ใกล้ ๆ นี่ร้านกาแฟตรึม ตรงหน้าพี่บรูซ ลี ก็เป็นสตาร์บัคใหญ่พอดี ส่วนเราถ่ายรูปไป นั้งดูผู้คนไปด้วย
Symphony of Light ตอน 2 ทุ่ม บอกตามตรงว่าแอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะมีตึกที่แสดงไฟอยู่แค่ไม่กี่ตึกเท่านั้นเอง แถมไม่ค่อยต่อกัน มันเลยดูขาด ๆ ไปหน่อย หรือเราเห็นชื่อแล้วหวังสูงไปเสียก็ไม่รู้555
กลับมาถึงที่พัก หนีบของทอดขึ้นไปกินรองท้อง
รอบนี้ขอเดินทางแบบไม่เหนื่อย และไม่เบียด เลยเลือกเดินทางวันธรรมดา ออกเดินทางในช่วงวันธรรมดา กลับวันเสาร์ซึ่งชาวบ้านเขาเพิ่งมา ออกเดินทางวันแรก คือวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2562 ด้วยสารการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 18.25 น. ถึงฮ่องกง 11.30 น. หลังจากเดินหาเคาท์เตอร์ซื้อบัตร Octopus ซึ่งต้องใช้เงินสด แต่ระหว่างเดินหาทางออกดันมาปะว่าตอนนี้มีตู้ขายบัตร Octopus แบบอัตโนมัติที่สามารถจ่ายด้วยบัตรได้ด้วย ตรงบริเวณตู้ที่เติมบัตร เห็นแล้วแอบเซ็ง เพราะตอนแรกว่าจะเก็บเงินสดไว้ใช้อย่างอื่น
นั่ง Airport Bus ออกมาจากสนามบิน ถูกใจรถของฮ่องกงจัง มีที่วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ๆ เป็นสัดเป็นส่วน ไม่เหมือนรถยูโรบ้านที่เราต้องลากเอามาวางไว้ใกล้ตัวให้เกะกะ ที่พักของเราในทริปนี้เป็นเกสเฮาท์ชื่อว่า A-Inn อยู่ที่ตึก Sincere อยู่ตรงย่าย Mong kok ดูแล้วตึกนี้น่าจะเป็นตึกอยู่อาศัยที่แบ่งมาทำเป็นที่พักราคาถูกด้วย ราคาคืนละประมาณ 650 บาท เป็นห้องสองเตียงแบบมีห้องน้ำในตัว ตู้เย็น เครื่องกดน้ำ และไดร์เป่าผมแบบรวม โดยส่วนตัวถือว่า OK เลย สำหรับที่นี่จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ แต่จะโดนชาร์ต 3% แบงค์ฮ่องกงเลยปลิวออกไปจากกระเป๋าไปตามระเบียบ
จุดหมายปลายทางแรกของทริปนี้ มุ่งหน้ามาที่ The venue of the star ก่อน เพราะออกมาจากที่พักก็บ่ายคล้อยแล้ว แถมฝนยังพรำหน่อย ๆ บรรยากาศน่าจะเหมาะกับการเดินริมน้ำ ส่วนการเดินทางจาก Mong kok มุดดินไปลงสถานี Tsum Sha Tsui โผล่ขึ้นมาแล้วอาจมีมึนงงนิดหน่อย เพราะ the venue of stars จะอยู่อีกฝั่งนึงของตึก คือเห็นริมน้ำอยู่แต่ไม่แน่ใจว่าเดินตัดเข้าไปทางไหนได้ เพราะแต่ละตึกที่คั่นอยู่เป็นโรงแรมหรูทั้งนั้น
The Venue of the star ปี 2562 ไม่เหมือนในหนังสือนำเที่ยวแล้วค่ะ มีการปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนที่รูปปั้น แล้วก็ยกเอากรอบปั๊มมือขึ้นมาวางไว้ที่ราวกั้นแทน มาถึงตอนประมาณ 5 โมง บรรยากาศริมน้ำตอนฝนพรำ ฟ้าหม่น ๆ อากาศเย็นนิดหน่อย แต่บรรยากาศชิลดีค่ะ ใกล้ ๆ นี่ร้านกาแฟตรึม ตรงหน้าพี่บรูซ ลี ก็เป็นสตาร์บัคใหญ่พอดี ส่วนเราถ่ายรูปไป นั้งดูผู้คนไปด้วย
Symphony of Light ตอน 2 ทุ่ม บอกตามตรงว่าแอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะมีตึกที่แสดงไฟอยู่แค่ไม่กี่ตึกเท่านั้นเอง แถมไม่ค่อยต่อกัน มันเลยดูขาด ๆ ไปหน่อย หรือเราเห็นชื่อแล้วหวังสูงไปเสียก็ไม่รู้555
กลับมาถึงที่พัก หนีบของทอดขึ้นไปกินรองท้อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น