เรื่องย่อ
เจ้าดอรี่ ซึ่งมีโรคความจำสั้นเป็นโรคประจำตัว ดอรี่พลัดหลงกับพ่อแม่ หลายปีผ่านไปดอรี่ก็ยังคงตามหาสิ่งที่สูญหายจนได้มาเจอกับมาลิน และได้ช่วยตามหานีโม่
ดอรี่มาอาศัยอยู่ในหมู่ปะการังเดียวกับมาลิน และนีโม่ ดอรี่นึกเรื่องครอบครัวออกจึงพยายามออกไปตามหา มาลินกับนีโม่พาเธอว่ายข้ามมหาสมุทรอีกครั้งไปที่อ่าวแคลิฟอร์เนีย ดอรี่ที่มีเศษพลาสติกติดตัวถูกช้อนขึ้นจากมหาสมุทร โดยนักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยชีวิตทางทะเล ดอรี่ได้เจอกับแฮงค์ ปลาหมึกยักษ์ที่จะช่วยเหลือเธอแลกกับป้ายขนย้ายที่จะพาเขาออกไปยังตู้กระจกที่คลิปแลนด์เพราะไม่อยากกลับไปมหาสมุทร
พ่อแม่ของดอรี่อยู่ที่ตู้มหาสมุทรจำลองในสถาบันวิจัยแห่งนั้น แต่เมื่อดอรี่ดั้นด้นไปถึงพวกเขาไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว มาลินกับนีโม่ตามมาทัน พวกเขาไปที่ด่านตรวจโรคที่ครอบครัวของดอรี่กำลังรอถูกส่งไปคลิฟแลนด์ แต่พวกเขาได้ไม่อยู่กับฝูงแล้ว พวกเขาออกตามหาเธอที่ด่านตรวจโรคเมื่อหลายปีมาแล้ว ได้พบพ่อกับแม่อีกครั้งในทะเลเปิด
มาลินกับนีโม่ติดไปกับรถที่จะเดินทางไปคลิฟแลนด์ ดอรี่พาเพื่อน ๆ ฉลามวาฬ ตามไปช่วย ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะมาอยู่ที่หมู่ปะการังด้วยกัน
บันทึก…คนดู
เปิดมาด้วยบรรยายากาศน่ารัก ๆ ของครอบครัวเจ้าดอรี่ ตัวน้อย กับพ่อแม่ที่พยายามสอนลูกที่ความจำสั้นให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในมหาสมุทรได้ ดูไปก็นึกถึงพ่อแม่ของเด็ก ๆ ออทิสติกที่ต้อสอนให้พวกเขาอยู่ในสังคมให้ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ตราบเท่าที่เวลาของลมหายใจยังเอื้ออำนวย
ภารกิจของเรื่องคือการตามหาครอบครัวของมาลิน ที่จากกันมานาน ๆ คราวนี้เลยดูเศร้ากว่าภารกิจคราวที่แล้ว
ปกติจะดูแบบ subtitle แต่คราวนี้ไม่ได้ดูคนเดียว ก็เลยดูแบบพากษ์ไทย ไม่ได้ดูหนังแบบพากษ์ไทยมานาน เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาไปเยอะ ขนาดตัวอักษรตรงจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อสถานที่ก็มีการใส่ภาษาไทยเข้าไปด้วย ดีจัง แม้แต่ชื่อนักวิชาการก็ใช้ชื่อไทย อย่าง ดร.ธร ดำรงนาวาสวัสดิ์ ที่เป็นนักวิชาการทางทะเลชื่อดังก็เหมือนจะมาให้เสียงเป็นตัวเอง ประกอบฉากศูนย์วิจัยชีวิตทางทะเล
สีสันของเรื่องนี้อันดับ 1 คือ ปลาหมึกที่ชื่อแฮงค์ พี่แกโครตเก่ง เปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อม แถมยังเคลื่อนไหวนอกตู้ปลาได้ด้วย เหมือนสายลับเลยจ้า ลุ้นพี่แกตลอดเรื่อง เก่งมากเลยอ่ะ
ฉากที่ชอบ
กำไรของเรื่องนี้คือบรรยากาศสวย ๆ ใต้ทะเล โดยเฉพาะชั้นเรียนของคุณครูเรย์ ปลากระเบนน่ารักมาก | |
ทางเปลือกหอยรายรอบบ้าน ที่พ่อแม่พยายามทำเพื่อนำทางลูกสาวกลับบ้าน เห็นแล้วซึ้ง น้ำตาไหลเลยตรงนี้ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น