เขียน | ปราปต์ |
จำนวนหน้า | 359 |
สำนักพิมพ์ | แพรวสำนักพิมพ์ |
plot
จุลเกตุจำต้องขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.อ.เชลียง นายตำรวจที่ดันมาผลักเธอตกน้ำตอนกำลังคิดไม่ตกอยู่ริมทะเล จนเป็นเหตุให้สมบัติพัสถานที่ติดตัวสูญหายไม่มีเหลือ ระหว่างขับรถกลับไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน เชลียงต้องแวะไปตรวจสอบเหตุชาวต่างชาติเสียชีวิตในรถ ซึ่งสืบทราบภายหลังว่าเป็นผู้ร้ายลักลอบค้าอาวุธข้ามชาติแถมยังเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่เป็นปริศนา แถมพอพาหญิงสาวเจ้าปัญหาไปส่งบ้าน กลับพบว่าคนข้างบ้านของเธอที่เป็นวิศวกรดูแลท่อส่งน้ำมันของไทยโชติกรีดข้อมือ แถมยังเหมือนมีการสร้างสถานการณ์ให้การรักษาล้มเหลว ในขณะเดียวกัน กังหัน เด็กหนุ่มวัยเพียง19 ปี ทายาทรุ่นที่สามของไทยโชติเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาในงานศพของน้าชายที่เเพราะกินยานอนหลับเกินขนาดเสียชิวิต นักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคดีตรวจพบว่าสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตปริศนาคือ อินฟราซาวนด์
หลังผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาด้วยกัน จุลเกตุเริ่มจำได้ว่าเธอเคยพบเชลียงมาก่อน ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว หญิงสาวพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของเขา ซึ่งมีบางอย่างที่แปลกไปจากที่ควรจะเป็น เมื่อเป็นไปตามคาดจุลเกตุบอกในสิ่งที่เธอเป็นเพื่อให้เขายอมให้เธอช่วย ในขณะเดียวกันคนที่สามารถไขปริศนาของเรื่องราวทั้งหมดกลับเป็น กำมะหยี่ หลานสาวของจุลเกตุ เด็กหญิงที่หูหนวกมาตั้งแต่กำเนิด เธอล่วงรู้ถึงการค้นหาบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในวัดที่มีการบูรณะหรือสร้างใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่สิ่งเดียวที่เธอยังไม่รู้คือ ใครเป็นคนสังหาร กังหัน พี่ชายของเธอ
เชลียงคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เรียกตนเองว่า เมิน หรือ เงือก ที่คนทั่วไปรู้จัก เนื่องจากคำทำนายว่า ท้องทะเลที่อยู่อาศัยจะถูกย้อมเป็นสีดำ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากคราบน้ำมัน ซึ่งหมายถึงเครือไทยโชติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แต่ภารกิจเพื่อความอยู่รอดที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว แต่แบ่งแยกออกเป็นหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการอพยพ รวมถึงการค้นหาศิลาสมุทร สิ่งพิเศษที่ไม่เคยมีใครเคนเห็นนอกจากคำเล่าลือและการกล่าวถึงในวรรณคดีที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ แค่คนในทีมค้นหากลับล้ำเส้นจนกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย ต้องสังเวยของผู้บริสุทธิ์หลายคน และสุดท้ายก็ไม่สามารถหยุดยั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามคำทำนายได้
charecter
ร.ต.อ.เชลียง เดชาพิสัย : รองสารวัตรปกครองป้องกัน สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เติบโตมาในตระกูลของกวีและนักพยากรณ์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นชนชั้นสูง แต่กลับไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกวีและการพยากรณ์ |
จุลเกตู : ลูกสาวในสมรสเพียงคนเดียวของครอบครัวเหลืองเจริญ นักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ แต่งงานกับก้องปพัฒน์ เธียรโชติ ตระกูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเครือข่ายธุรกิจพลังงานด้วยเหตุผลทางธุรกิจ หลังจากนั้น 5 ปีก็มีข่าวเตียงหัก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจ หญิงสาวเลือกที่จะเป็นผู้ช่วยวิจัยและศึกษาต่อด้านชีววิทยา |
กำมะหยี่ : ลูกสาวของกฤตพงศ์ทายาทคนกลางของเครือไทยโชติ สูญเสียการได้ยินมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้ไม่ได้ได้รับความสนใจจากพ่อแม่จนกลายเป็นเด็กมีปัญหา คนเดียวที่รับมือได้คือ กังหันพี่ชายที่อายุแก่กว่า 7 ปีเป็นคนสอนให้เด็กหญิงรู้จักการใช้ภาษามือและอ่านริมฝีปาก พี่ชายทำให้เธอพอจะพูดได้และเป็นเด็กรักการอ่าน |
log
เรื่องนี้เปิดเรื่องได้ดูตื่นเต้นดี กับการตัดสลับกันไปมาระหว่างฉากสั้นๆ ที่ทำให้คนอ่านตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเหยียบเบรกอารมณ์เป็นระยะเมื่อคนเขียนเรื่องนี้ก็พยายามอัดข้อมูลโน่นนี่ที่บางอย่างไม่ได้เป็นแก่นสำคัญของเรื่อง อย่างเช่นเกร็ดความรู้เรื่องการให้เลือด ให้คนอ่านทราบทุกครั้งที่มีโอกาส จนบางครั้้งเราคิดว่าน่าจะเอาไปเก็บไว้ที่บรรณานุกรมท้ายเล่มจะดีกว่า
แต่ที่ต้องขอชมยกให้การนำเรื่อง ที่เกี่ยวกับสุนทรภู่ เขามอ มาผูกเป็นปริศนา โดยนำเอาเกร็ดประวัติศาสตร์มาผูกเป็นปริศนาที่ซ่อนของมีค่าอย่างหนึ่ง ได้น่าสนใจ แต่ก็แค่ช่วงแรกๆ เพราะสุดท้ายการหาของสิ่งนั้นไม่ใช่แก่นหลักที่เป็นทิศทางการคลายปมของเรื่อง จนเราเสียดาว่าใช้ปริศนาที่อุตส่าห์คิดขึ้นมาไม่คุ้มยังไงไม่รู้
จุดที่เด่นจริงๆ ของเรื่องนี้ คือ ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยมี ธุรกิจน้ำมัน ไทยโชติ เป็นสื่อ ส่วนนี้อ่านแล้วเห็นด้วยมาก สิ่งมีชีวิตทุกชนิดเห็นแก่ตัว มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเยอะที่สุด และเป็นชนิดเดียวที่มีสิทธิ์เลือก เพราะฉะนั้นเชิดหน้ายอมรับ และแก้ไขอย่างด่วน ประเด็นนี้แอบนึกถึงคีตราชนิพนธ์ เรื่อง ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง
ส่วนที่มันดูหายๆ ของเรื่องนี้ ได้แก่ ความสัมพันธ์ของตัวละครเช่น
- เชลียง กับ จุลเกตุ เนื่องจากคนอ่านไม่ค่อยรู้ภูมิหลังและความคิดของเชลียงเท่าไหร่ น้ำหนักที่ทำให้ เชลียง ตามดูแล จุลเกตุ ก็เลยดูไม่หนักแน่น ทำให้เวลาผู้กองยิงประโยคเด็ดก่อนลามาเลยไม่ค่อยอิน รวมถึงพื้นฐานที่ส่งผลให้จุลเกตุคิดว่าเชลียงรับผิดชอบด้วยวิธีแบบของเขาด้วย
- ความสัมพันธ์ซับซ้อนของตัวละครที่ผูกมาเหมือนจะให้ดราม่าอย่างเรื่องของจันทร์งามแม่ของจุลเกตุดันจบง่ายจัง
แต่ในขณะเดียวกับ การบรรยายถึงกำมะหยี่ กลับชัดเจนจนคนอ่านอินในความซับซ้อนของความคิดและความรู้สึก ความเรียลของน้องกำมะหยี่ ขโมยซีนคู่พระนางเรียบ เป็นสีสันของเรื่องเลยก็ว่าได้
สรุป นักเขียนเรื่องนี้เป็นคนละเอียดค่ะ หยิบโน่นนิดนี่หน่อยใส่มาในเรื่องดูน่าตื่นเต้นไปหมด แต่พออ่านๆ ไปชักเยอะ อันไหนไม่ใช้ก็จะปิดไปแบบง่ายๆ จนเรารู้สึกว่าไม่มีก็ได้นี่ ส่วนอันที่จะใช้ก็ค่อยให้รายละเอียดทีหลังมันเลยขาดอารมณ์ร่วมอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเล่มที่อ่านได้สนุก ให คะแน 8/10
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น