ชื่อภาษาอังกฤษ | Escape from Slavery |
เขียน | ฟรานซิส บอค และเอ็ดเวิร์ด ทิฟแนน |
แปล | กฤษ จรัสสุ |
ความยาว | 311 หน้า |
สำนักพิมพ์ | pearl |
plot
วันหนึ่งในปี 1986 พิโอล โบล บัค/ฟรานซิส อายุ 7 ขวบ ไปตลาดนียามเลลกับเด็กๆ ในหมู่บ้านเพื่อขายไข่ต้มกับถั่วลิสง พวกมูราฮาลีน บุกเข้ามาปล้นปศุสัตว์ ฆ่าชายชาวดิงก้า และกวาดต้อนเด็กและผู้หญิงข้ามเขตแดนไปยังซูดานตอนเหนือเพื่อไปเป็นทาส พิโอลถูกใช้ให้เลี้ยงฝูงปศุสัตว์ถึง 200 ตัว โดยได้รับเพียงเศษอาหารเหลือๆ พิโอลมีความคิดที่จะพยายามหลบหนีอยู่ตลอดเวลา แต่เด็กๆ ที่หนีแล้วโดนจับได้จะถูกตัดขาหรือฆ่า เขาจึงต้องวางแผนให้รอบคอบ ตั้งใจทำงาน ให้ความร่วมมือเพื่อเรียกความไว้ใจ และรอโอกาส โดยใช้ความทรงจำแสนสุขกับครอบครัว และความเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าหล่อเลี่ยงไม่ไห้ถอดใจไปเสียก่อน
การหนีครั้งแรกไม่สำเร็จ แต่พิโอลยังมีชีวิตรอด เพราะนายเห็นว่าเขาทำงานดี เปิดโอกาสให้พิโอลหนีเป็นครั้งที่ 2 และคราวนี้เขาทำได้สำเร็จ พิโอลพยายามเดินทางไปยังที่ๆ มีคนดิงกาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อตามหาครอบครัวของเขา ณ ค่ายอพยพ จาบาโรนา แต่การหาข่าวของเขาด้วยการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองนำภัยมาสู่ตัวเขา พิโอลถูกจับขับคุกอยู่หลายเดือนแต่เขาก็มีไหวพริบมากพอที่จะเอาตัวรอดออกมาได้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาคิดที่จะไปจากซูดาน และด้วนความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในจาบาโรนา พิโอลเดินทางไปยังอียิปต์ เรื่องของเขาดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่จากสหประชาชาติได้ไม่ยาก เขาได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการของสหประชาชาติก่อนที่จะเดินทางไปใช้ชีวิตในอเมริกา หลังจากใช้ชีวิตอิสระมาพักหนึ่ง พิโอลก็ถูกชักชวนมาทำงานให้กลุ่มอเมริกันต่อต้านระบบทาส โดยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองเพื่อกระตุ้นให้คนอเมริกันตระหนัก และกระตือรือร้นที่จะช่วยต่อต้านระบบทาสที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเข้าเรียนที่สถาบันการศึกษาภาคค่ำของบอสตัน พิโอลเป็นหนึ่งในกลไกที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐผ่านตรากฎหมายว่าด้วยสันติภาพในซูดานด้วยเสียงท่วมท้น
log
ตอนที่อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกรู้สึกตกใจ ว่านอกจากการใช้แรงงานที่ใครๆก็เรียกว่า การค้ามนุษย์ ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ทาส ตามความหมายที่มันเป็นก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 อยู่ด้วย แต่ในความหมายที่เลวร้ายกว่า เพราะการตกเป็นทาสของคนเหล่านั้นคือการฆ่า เผาทำลาย และปล้นชิง บังคับให้เสรีชนมาเป็นทาสเพียงเพราะว่าพวกเขาเป็นคนต่างศาสนา และที่น่าสลดใจยิ่งกว่า คือการปลูกฝังการทารุณกรรมเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยการให้เด็กๆ ถือไม้มาเฆี่ยนเด็กๆ ที่ถูกกวาดต้อนมาเป็นทาสเหล่านั้น อิสระภาพคือสิ่งที่พวกเขาต้องเสี่ยง และเมื่อพลาดอาจต้องแลกด้วยความพิการหรือชีวิต
หลังจากหนีออกมาได้สำเร็จ พิโอลได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสองสามีภรรยาชาวมุสลิมที่ให้ที่พักอาศัยและอาหารแก่เขาถึง 2 เดือน และซื้อตั๋วรถไป จาบาโรนา แม้กระทั่งตอนที่พิโอลอยากจะหนีออกจากซูดาน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ได้มาจากการเรี่ยไรจากเพื่อนที่ต่างก็ลำบาก เป็นเรื่องที่น่าประทับใจของความเมตตาระหว่างเพื่อนมนุษย์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก
เมตตาธรรมเป็นเครื่องค่ำจุนโลกโดยแท้
quote
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมได้เรียนรู้ว่าไม่มีใครจะมอบเสรีภาพ และความเท่าเทียมให้กับผู้คนที่ถูกกดขี่ได้ง่ายๆ ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ เราต้องสู้เพื่อให้ได้มันมา
“เราจะสามารถคาดเดาปฏิกิริยาของกลุ่มมนุษยชนได้โดยดูจากผู้กระทำการ ไม่ใช่ดูจากผู้ถูกกระทำ การมีผู้กระทำที่ถูกต้องนั้น สร้างความแตกต่างอย่างมากกมาย อย่างไรเสีย ชาวตะวันตกอย่างพวกเราก็เคยมีทาส เราเคยทิ้งระเบิดนาปาล์มใส่เวียดนามมาแล้ว และเราก็กำลังอยู่ในดินแดนที่เคยเป็นของชาวอินเดียนแดงมาก่อน แล้วเราจะไปว่าคนอื่นเขาได้ยังไง นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้เราไม่สามารถยืนหยัดเพื่อมนุษยชาติได้ทุกเรื่อง” กลุ่มอเมริกันต่อต้านระบบทาส จึงอุทิศตนในการทำให้มาตรฐานสากลของสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นสากลอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น