เรื่อง | ดวงตะวัน |
ความยาว | 1 เล่ม |
สำนักพิมพ์ | ดวงตะวัน |
plot
โมฬีเลือกมาทำงานเป็นพัฒนากรประจำอำเภอบางส้มเปรี้ยว ที่อยู่ต่างจังหวัดทั้งที่เกิดและเติบโตในกรุงเทพ ในวันแรกของการทำงาน โมฬีก็เรื่องให้ต้องหงุดหงิดใจตั้งแต่วันแรกเมื่อไม่ว่าเธอคิดจะทำโครงการอะไรก็มักจะได้คำตอบว่าให้ไปปรึกษา กำนันไก่โต้ง เพราะเรื่องพวกนี้ล้วนแล้วแต่มีการริเริ่มไปแล้วทั้งสิ้น โมฬีตัดสินใจไปพบกำนันไก่โต้งที่บ้านเพื่อพูดคุยปรึกษาเรื่องโครงการรองรับแรงงานคืนถิ่น พอได้พบปะพูดคุยกันจริงๆโมฬีก็อดที่จะนับถือความคิดของกำนันหนุ่มไม่ได้แต่ก็อดหมั่นไส้ความกวนประสาทของเขาไม่ได้ หลังจากการลงพื้นที่ด้วยกัน โมฬีก็มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการติดต่อขอปุ๋ยจากเกษตรจังหวัดได้สำเร็จด้วยวิธีที่กำนันไก่โต้วค่อนแคะว่า “คิดแบบผู้หญิง” แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ทำงานคู่กันในโครงการต่างๆเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคนบางส้มเปรี้ยว ไม่ว่าจะเป็นงานบุญเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนที่ทำกินในพื้นที่กับคนที่กลับมาจากกรุงเทพ การส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกผักเพื่อรับประทานกันในครัวเรือนเพื่อเป็นการลดรายจ่าย ซึ่งส่วนที่เหลือจะนำมาขายในตลาดนัดขายผักปลอดสารพิษทุกวันเสาร์ ก่อนที่จะขยายไปสู่การแปรรูป เมื่อโครงการไปได้สวยก็มีคำสั่งส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกผักจากทางราชการ แต่พืชผักที่งอกจากเมล็ดที่ทางราชการนำมาแจกในกล่องสวยหรูกลับไม่งอกงาม ต้องใส่ปุ๋ยสูตรพิเศษที่ต้องซื้อหากันเองเท่านั้น ถึงแม้จะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล แต่เมื่อยังไม่มีหลักฐานก็ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ชาวบางส้มเปรี้ยวจึงยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านทาง internet โดยมีกำนันไก่โต้งและโมฬีเป็นผู้อำนวยความสะดวก บวกกับการให้ข้อมูลกับนักข่าวที่เป็นเพื่อนสนิทของโมฬีทำให้บางส้มเปรี้ยวได้รับความช่วยเหลือ รวมถึงไฟเขียวให้ ดร.อนล วโรดมลงมาสืบข้อเท็จจริง ด้วยหลักฐานสำคัญที่โมฬีเสี่ยงเข้าไปนำออกมาจากสำนักงานเกษตรจังหวัดทำให้สาวไปถึงตัวการใหญ่ได้สำเร็จ
charecter
โมฬี/แตงโม : พัฒนากรประจำอำเภอบางส้มเปรี้ยว เพื่องเรียนจบจากมหาวิทยาลัย คุณยิ่งยศ บิดาของเธอเพิ่งเกษียรอายุราชการจากตำแหน่งอธิบดีกรมเมื่อไม่นานมานี้ |
ศรา ภัยหลีก/ไก่โต้ง : กำนันประจำตำบลบางส้มเปรี้ยว ที่บ้านของเขาเป็นกำนันกันมาถึง 4 ชั่วคน และทำนาทำสวนควบคู่ไปด้วย จบปริญญาโทมาจากเมืองนอก เป็นเพื่อนรักกับฉายฉานปลัดอำเภอบางส้มเปรี้ยวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแตงโม และอนล วโรดม เลขาของนายกรัฐมนตรี |
ฉายฉาน วัฒนา ปลัดอำเภอบางส้มเปรี้ยว มีศักดิ์เป็นพี่ของโมฬี มารดาของเขาเป็นน้องสาวของคุณปานวาดแม่ของโมฬี |
log
นิยายเรื่องนี้เขียนถึงข้าราชการไทยลักษณะต่างๆ ทั้งคนที่มีจิตใจกระตือรือร้นอยากจะช่วยเหลือประชาชน คนที่ถูกระบบกลืนกินทนทำงานไปวันๆ และคนที่ใช้อำนาจหน้าที่ในการหาผลประโยชน์ใส่ตัว การทำงานราชการเพื่อประชาชนให้สำเร็จลุล่วงต้องใช้ศิลปะในการทำงานโดยไม่ไปขวางทางผู้มีอิทธิพล ข้าราชการใหม่อย่างเราอ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ อยากทำงานให้เต็มที่เพื่อประชาชนอย่างที่ตัวเองทั้งสองทำบ้าง
เนื่องจากเรื่องราวส่วนใหญ่ดำเนินอยู่ในชนบท ซึ่งหลักการที่ว่า วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนยังคงทำงานได้ดี ซึ่งอาจเป็นเพราะมีพระสงฆ์ที่น่าเคารพนับถือเป็นศูนย์รวมจิตใจ ช่วยให้สติกับชาวบ้านในตอนที่ต่างคนต่างถูกความโลภเข้ามาก่อกวนจิตใจ ทำให้การทำงานของโมฬีกับกำนันราบรื่น เป็นตัวอย่างการทำงานแบบบูรณาการทำงานที่ดี แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ในชีวิตจริงจะยังคงใช้ได้ไหม
ความรักของโมฬีกับกำนันก็เป็นอีกสีสันของเรื่อง เป็นความรักแบบที่อ่านแล้วต้องอมยิ้ม ไม่หวานมาก แต่ก็อดที่จะเอาใจช่วยไม่ได้ พ่อกำนันไก่โต้งเองเวลาทำงานดูจริงจังแต่พอเผลอเป็นต้องหยอดใส่นางเอกแบบไม่ประเจิดประเจ้อทุกครั้งไป แถมยังมีลูกบ้านคอยหนุนหลัง โมฬีไม่ใจอ่อนบ้างก็ให้รู้ไป
Quote
บทที่ 2 กำนันเตช
“บ้านเมืองของเราไม่ได้ต้องการคนเก่ง คนวิเศษเลิศเลอจากสวรรค์ชั้นฟ้าไหนเลย คนธรรมดาๆนี่แหละ ขอแค่ตั้งใจทำงานจริงๆจังๆ ไม่เช้าชามเย็นชาม ฉันเชื่อว่าเราจะไปได้ไกลกว่านี้อีกมากทีเดียว”
บทที่ 4 โมฬี
“ฉันเชื่อว่า บนพื้นฐานของความหวังดี ความปรารถนาดี ความตั้งใจจริง และสติปัญญาที่มีอยู่ เรา…ฉันหมายถึงคนทำงานทุกคนจะทำให้เกิดสิ่งร้ายๆน้อยที่สุด และสิ่งนั้นจะได้มาก็ด้วยความร่วมมือจากผู้ร่วมงาน เราทำงานคนเดียวไม่ได้ ฉันอยากเห็นสิ่งนี้ค่ะ ทำไมเราไม่ร่วมมือกันทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ชาวบ้านล่ะคะ และถ้าหากมันจะเกิดอะไรร้ายแรง รุนแรงขึ้นก็ต้องช่วยกันแก้ไขไม่ใช่มัวมาโยนความผิดให้กัน ไม่ใช่มาคอยกีดกันไม่ให้ใครทำอะไรเลย เพราะกลัวเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด”
บทที่ 4 ยิ่งยศ
“เพราะอะไรพ่อถึงบอกให้โมเร่งส่งเสริม และสนับสนุนให้ชาวบ้านเข้ามามีบทบาทในการคิด ในการแก้ปัญหา? เพราะระบบการปกครองทุกวันนี้มันทำให้คนเลิกพึ่งตนเองแต่หันมาพึ่งรัฐ และนี่ละ…ที่จะเป็นช่องทางสำคัญให้คนที่เข้ามาเกาะกุมอำนาจรัฐ ฉกฉวยอำนาจตรงนี้แล้วจัดสรรทุกอย่างเสียใหม่ตามอำเภอใจของตน เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งผลเสียทั้งหลายเหล่ก็จะตกอยู่แก่ชาวบ้าน ประชาชนอย่างเราๆนี่เอง
อุดหนุน E book
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น