Devil survivor 2

plot

     วันอาทิตย์ ฮิบิกิกับไดอิจิมาทดลองสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไดอิจิแนะนำให้ฮิบิกิลงทะเบียน app Nicaea ซึ่งเป็น app ที่นิยมกันมากในตอนนี้ โดย Nicaea จะส่งใบหน้าตอนตายของเพื่อนไปให้ ระหว่างรอรถไฟใต้ดินทั้งคู่ได้รับเมลใบหน้าผู้ตายของกันและกัน และอุบัติเหตุนั่นก็เกิดขึ้นจริง ๆ Nicaea เสนอโอกาสในการมีชิวิตอยู่ครั้งที่สองให้ ฮิบิกิ ไดอิจิ และนิตตะ เพื่อนร่วมโรงเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทั้ง 3 คน สามารถอัญเชิญปิศาจโดยใช้ app บนมือถือ ป้องกันตัวเองจากปิศาจอื่นที่โจมตีเข้ามา ทั้ง 3 คนออกจากสถานีรถไฟ ก็พบว่าเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ เพราะการจราจรเป็นอัมพาต สองหนุ่มเลยอาสาพานิตตะไปตามหาครอบครัวแถวๆที่ๆเธออาศัยอยู่

    ทั้ง 3 คนถูก JP’s องค์กรอุตินิยมวิทยา ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลปกป้องเขตแดนรอบญี่ปุ่น และรับผิดชอบโดยตรงในการดูแลภัยพิบัติจากเซ็ปเทนทริโอน ซึ่งสิ่งที่สามารถับมือได้มีเพียงอสูรที่อัญเชิญผ่าน app เท่านั้น พวกเขาต้องกำจัดอสูร 7 ตัวภายใน 7 วัน เพื่อไม่ให้โลกนี้หายไป ทั้ง 3 คนตัดสินใจให้ความร่วมมือกับ JP’s โดยภารกิจแรก คือ ตามหา ดร. คันโนะ ฟูมิ นักวิทยาศาสตร์ที่ควบคุมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ JP’s พวกเขาเดินทางไปโอซาก้า แต่เมื่อไปถึงได้ไม่นานก็ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตเมื่อ ระบบป้องกันของ JP’s ถูก hacker โจมตี ฮิบิกิจึงต้องออกไปแก้สถานการณ์ ซึ่งก็สามารถยุติการบุกรุกได้ทันเวลา อีกทั้งยังได้ตัว ดร. คันโนะ ที่ถูกพลังบางอย่างควบคุมให้ลงมือก่อการแต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อปิศาจลึกลับปรากฎตัวออกมากดปุ่มสุดท้ายที่ถูกหยุดไว้ เป็นผลให้เขตแดนของโอซาก้าหายไป และ summoner ที่ร่วมกันต่อสู้ต้องสละชีวิตต่อหน้าต่อตาฮิบิกิ เมื่อเขตแดนหายไป การกำจัดเซ็ปเทนทริโอนก็ยิ่งลำบากมากขึ้น เมื่อผู้เสียสละมีมากขึ้นทุกที ฮิบิกิที่ถูกเก็บให้อยู่แนวต้านสุดท้ายก็ยิ่งเจ็บปวดกับความไร้พลังของตัวเองมากเท่านั้น

    ฮิบิกิฝ่ายเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น JP’s สาขานาโกน่าถูกฝ่ายกบฏยึด ฮิบิกิที่กำลังสับสนกับทางเดินทางตนเองถูกเชิญตัวไปที่นั่นเพื่อเป็นขุมพลังในการรับมือกับเซ็ปเทนทริโอน ผบ.กำจัดเซ็ปเทนทริโอนตัวที่สามเพื่อช่วยชีวิตฮิบิกิจากความตายที่เตือนไว้ในเมล์ ในที่สุดฮิบิกิก็ตัดสินใจที่จะเคลื่อนไหวตามความต้องการของตัวเอง

     อัลคอร์ เซ็ปเทนทริโอนซึ่งเป็นเหมือนเครื่องมิอที่คอยทำตามคำสั่งของโพลาริสเท่านั้นกลับมีความรู้สึกโศกเศร้ากับมนุษย์ เข้าใกล้ฮิบิกิ เพราะชอบในตัวตนของเขา เล่าความจริงให้ฟังว่า โพลาริสผู้กุมอำนาจสูงสุดในการจัดระเบียบ คิดที่จะกวาดล้างมนุษย์ที่ไร้ซึ่งความสง่างามออกไป  เขาจึงสร้าง app อัญเชิญอสูรเพื่อเป็นตัวเลือกแก่มนุษย์ สิ่งนี้เป็นเครื่องมือสำหรับแสดงความมุ่งมั่นให้โพลาริสได้ประจักษ์ หาไม่แล้วโลกทั้งใบคงกลับสู่ความว่างเปล่า

     ในที่สุดเซ็ปเทนทริโอนตนสุดท้ายก็ถูกกำจัดได้สำเร็จ มนุษย์ที่เหลือรอดจะสามารถเข้าพบโพลาริสได้ ยามาโตะที่ต้องการสร้างโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบเข้าไปพบโพลาริส เพื่อนๆที่ช่วยเหลืออยู่ช่วยให้ฮิบิกิตามเข้าไป ฮิบิกิต่อสู้ตัดสินกับยามาโตะ เขาหยุดยามาโตะได้สำเร็จ ในที่สุดโลกแบบที่ทุกคนรักก็กลับมา

character

	คุเสะ ฮิบิกิ : นักเรียนมัธยมปลายปี 3 สามารถอัญเชิญสัตว์เทวะที่ปกป้องทิศทั้ง 4 ได้ เป็นเด็กเรียนดีเนื่องจากทางบ้านค่อนข้างเข้มงวด
	ชิจิมะ ไดอิจิ : นักเรียนมัธยมปลายปี 3 เพื่อนร่วมชั้นของฮิบิกิ ถึงในช่วงแรกจะมีแต่อสูรกากๆ แต่ในท้ายที่สุดก็สามารถอัญเชิญ Black frost ซึ่งมีพลังอันดับต้นๆได้
	นิตตะ อิโอะ : นักเรียนมัธยมปลายปี 3 ห้อง C โรงเรียนเดียวกับฮิบิกิ และ ไดอิจิ สามารถอัญเชิญปิศาจที่แข็งแกร่งเช่น คิคุริฮิเมะและลูร์ได้ เธอมักจะคิดถึงครอบครัวที่ไม่ทราบชะตากรรมตั้งแต่เกิดเหตุอยู่เสมอ
	โอสึอิน ยามาโตะ : ผู้บัญชาการของ JP’s มีพลังอันเหลือเชื่อ อสูรประจำตัวคือ บาลและเคเบรอส

episode list

1st Day	วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า	5 th Day	วันพฤหัสที่น่าตกใจ
2 nd Day	วันจันทร์ที่ยุ่งเหยิง ภาค I	6 th Day	วันศุกร์แห่งการลาจาก
2 nd Day	วันจันทร์ที่ยุ่งเหยิง ภาค II	7 th Day	วันเสาร์แห่งการมุ่งหน้า
2 nd Day	วันจันทร์ที่แสนยุ่งเหยิง ภาค III	8 th Day	วันอาทิตย์แห่งการรู้แจ้ง I
3 rd Day	วันอังคารที่แสนวุ่นวาย I	8 th Day	วันอาทิตย์แห่งการออกผล II
3 rd Day	วันอังคารที่แสนวุ่นวาย II
4 th Day	วันพุธแห่งการเปลี่ยนแปลง I
4 th Day	วันพุธแห่งการเปลี่ยนแปลง II

log

     ความรู้สึกแรกที่ได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้คือ ความคิดถึง เพราะเกม devil survivor บนเครื่อง DS เป็นหนึ่งในเกมโปรดของเรา หน้าตา app ที่เด็กๆใช้กันก็เป็นอะไรที่คุ้นตา ทั้งการ action ซื้อตัวอสูร ผสมกันไปมาจนได้ตัวใหม่ออกมา ซึ่งอันท้ายสุดไม่ได้กล่าวถึงใน animation อสูรต่างๆนานาที่ใช้กันเราก็เคยใช้ในเกมเหมือนกัน

    ปมใหญ่ของเรื่องแบ่งออกเป็น 3 แบบ

1. การอยากปกป้องทุกๆคนชนิดไม่ให้มีการสูญเสียเลยของฮิบิกิ ที่ออกจะเกินๆจนน่ารำคาญในบางอารมณ์ ซึ่งสื่อผ่าน ฮิบิกิ

2. การเป็นคนธรรมดาที่ไม่อยากเป็นคนไร้ประโยชน์จึงต้องบังคับให้ตัวเองทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ซึ่งสื่อผ่าน นิตตะ

3. คิดว่าทำมาพอแล้ว หากทำมากกว่านี้จะต้องเดือนร้อน ซึ่งสื่อผ่าน ไดอิจิ

มุมมอง 3 แบบ เปรียบเทียบกับตัวเองแล้ว ตัวเองคงใกล้เคียงกับแบบที่ 2 ที่สุด การตกอยู่ในสถานการณ์คับขันโดยที่ตัวเองก่อประโยชน์อะไรไม่ได้เลยเป็นอะไรเครียดมาก ในส่วนของข้อที่ 1 คนอายุเลข 3 อย่างเราหลุดจากอุดมคติแบบนั้นมาเสียแล้ว การมีคนเสียชีวิตเพื่อการใหญ่เป็นเรื่องธรรมดา แต่การเสียชีวิตนั้นจะต้องคุ้มค่า แต่หากในโลกของจินตนาการทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ เหมือนกับฮิบิกิที่สร้างปาฏิหาริย์ได้บ่อย(ไปหน่อย) จนไม่มีอะไรน่าลุ้น สรุปคือ ฮิบิกิ พระเอกเรื่องนี้ออกโทนขาวไปหน่อย โดยส่วนตัวชอบแบบยามาโตะมากกว่า

     กว่ามุกเด็ด ซึ่งก็คือการรวมร่วงอสูรจะถูกงัดออกมาใช้ก็ปาเข้าไปตอนจบ มีโลกิอสูรตัวโปรดที่ใช้เคลียร์เกมออกมาด้วย ตัวที่เป็นไปตายของฮิบิกิซึ่งก็คือ ลูซิเฟอร์นี่ จำได้ว่าเป็นตัวสุดแกร่งคล้ายๆ omega weapon ในเกม final fantasy ที่ถึงเอาชนะไม่ได้ก็ไม่ถึงกับไม่จบเกม แต่ถ้ากำจัดได้มันเป็นความภูมิใจในชีวิต

favorite scene

	ตอนที่ 4 นิตตะต้องออกมาต่อสู้แทนฮิบิกิบนดาดฟ้า      “ตั้งแต่เหตุการณ์ที่รถไฟใต้ดิน ชั้น…ถ้าไม่ใช่เพราะนายบอกล่ะก็…คงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง คงได้แต่…ร้องไห้เท่านั้น จะให้ทำแบบนั้นคงไม่ได้สินะ ชั้นเอง ก็อยากพยายาม…เหมือนคุเสะคุง”
	ตอนที่ 9      ชอบมุกอัญเชิญพระศิวะกับพระกามเทพ เพื่อกำจัดเซ็ปเทนทริโอนที่ลอยอยู่บนชั้นบรรยากาศ เป็นไอเดียที่อิงมาจากตำนานเทพ ช่างคิดดี

quote

	“ตราบเท่าที่ยังคิดหาทางต่อไป ตัวเลือกก็ยังคงมีเสมอ และมันคงจะมีตัวเลือกดีๆในนั้นแน่
	“ก็ถ้าฉันไม่ทำในสิ่งที่ทำได้ล่ะก็…ก็เพราะชั้นจำเป็นต้องทำยังไงล่ะ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ก็ชั้นนะ…ไม่ได้เข้มแข็งเหมือนอย่างทุกคน ไม่ไหวแล้ว…ที่จะทำเหมือนไม่เป็นไรต่อไปน่ะ มันทรมานนะ โลกที่ไม่มีคุณพ่อกับคุณแม่น่ะ… จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ  พยายามอะไรนั่นน่ะ ไม่ไหวหรอก ชั้นน่ะ…อยู่อย่างเข้มแข็งเหมือนทุกคนไม่ได้หรอก”      “จะอ่อนแอก็ช่าง เพราะทุกคนน่ะอ่อนแอ ถึงต้องพึ่งพากัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะเราต้องการคนอื่นไงล่ะ ชั้นเอง เพราะว่ามีนิตตะซังกับทุกคน…ถึงได้มีชีวิตอยู่”
	“ผู้ที่มีพลัง จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน นั่นคือบททดสอบของผู้ที่มีความสามารถ”
	“การจะเปลี่ยนโลกอะไรนั่นน่ะ มันไม่ใช่เรื่องของคนๆเดียวซักหน่อย ชั้นอยากให้ทุกคน คิดถึงอนาคตเหมือนอย่างนายบ้างจัง ยามาโตะ พอได้แล้วล่ะ นายไม่จำเป็นต้องแบกรับด้วยตัวคนเดียวอีกแล้วล่ะ”