อันที่จริงก็ถือว่าเป็นแฟนคลับที่พี่โน๊ตคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะเสียเงินซื้อทั้ง CD VCDเดี่ยว และหนังสือ(บางเล่ม) ขาดอยู่อย่างเดียวก็คือการไปดูการแสดงแบบสดๆสักครั้งหนึ่งในชีวิต และการเปิดการแสดงครั้งนี้ก็ช่างพอดิบพอดี เพราะเป็นช่วงที่มีทั้งเวลาในการไปแสวงหาบัตร สารภาพตามตรงว่าตอนที่เปิดขายบัตรครั้งแรกที่ counter service ตัวเองจะนอนลืมเลยไม่ได้ไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีบุญหนุนส่งให้ระบบล่ม จนต้องกลับมาขายผ่านระบบ Thaiticket Major เหมือนเดิม แต่แล้วพอวันขายบัตรถูกประกาศออกมาก็แทบกรี๊ด เพราะดันติดเดินทางไปสัมมนาที่เชียงใหม่(โดดไม่ได้จริงๆขอบอก) แต่ยังดีที่มีคุณน้องชายเป็นตัวแทนไปต่อแถวให้ ตั้งกะสิบโมงเช้า - หกโมงเย็นที่เมเจอร์รัชโยธิน(บอกให้ไปเอสพลานาดก็ไม่เชื่อ)
วันแสดงจริงตรงออกจากที่ทำงานตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง ขึ้นรถเมล์ต่อ BTS ด้วยความชำนาญ ถึง Paragon ตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง ระหว่างนั้นก็เดินไปเดินมาใน Kinokuniya ต่อด้วยร้านอัมรินทร์เพื่อฆ่าเวลา พอสักหกโมงก็ขึ้นไปรอหน้า Paragon Hall รอคุณน้องชายกับชาวคณะที่เหลือ(ก็นะ ให้เอาบัตรไปเก็บเองก็ไม่ยอม) จะเข้าไปก่อนก็ไม่กล้า กลัวคนที่เหลือหาไม่เจอ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากเพราะกว่าจะมาครบองค์ประชุมก็ปาเข้าไปเกือบทุ่ม เดินเข้าไปเจอคนเยอะมากถึงมากที่สุด ณ ตอนนั้นไม่มีอารมณ์เดินดูอะไรทั้งสิ้น อยากนั่งเต็มแก่ เลยปลีกตัวไปเข้าไปนั่งข้างในก่อนตั้งแต่ประตูเปิด
เพิ่งเคยนั่งสแตนด์ในพารากอนฮอลด์ครั้งแรก เป็น Stand แบบ knock down ที่สั่นทุกครั้งที่มีคนเดินให้เสียงเล่นๆ บนที่นั่งมีผ้าห่มลายหมาหน้าอุดมสีเขียวอ่อนวางอยู่หนึ่งผืน ช่างเหมาะเจาะเสียนี่กระไร เพราะวันนั้นเสื้อที่ใส่ค่อนข้างบาง เลยได้นั่งกอดเจ้าผ้าห่มผืนน้อยไปพลางระหว่างดูสไลด์ภาพถ่ายขำๆ
credit : dailynew.net และ Rakdara.net
และแล้วการแสดงก็เริ่มขึ้น เมื่อเข็มยาวของมาฬิกาชี้เลข 6 การแสดงก็เริ่มขึ้น จากที่เคยดูผ่านจอสี่เหลี่ยม คราวนี้พอมาดูของจริงก็พบว่าการนั่งขำตลอดเวลาสองชั่วโมงครึ่ง(ยกเว้นตอนที่พี่แกเรีนกลิ้วล้อออกมาร้องเพลง) ไม่ใช่เรื่องที่เกินความจริง ขนาดตอนนั่งดูท้องยังร้องจ๊อกๆเพราะไม่ได้กินข้าวเย็น มุกที่ชอบที่สุดยกให้ตอนที่คุยถึงเรื่องวิชาเรียนไม่ว่าจะเป็น เมาคลีของวิชาลูกเสือ กระบี่กระบอง จีบ ย่อ จ้วง (ตอนนั้นคิดเหมือนกันว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆแล้วจะเป็นไง) แต่ที่น่างอนก็คงเป็นตรงที่พี่โน๊ตบอกว่ารอบสุดท้ายจะไม่ได้อะไร แต่ไหงเค้าได้ผ้าห่มสีชมพูอีกผืนอ่ะ
สุดท้ายชอบวิธีจัดการคนที่ชอบยกมือถือขึ้นมาส่องระหว่างการแสดง การยิงเลเซอร์นี่ได้ผลชะงัดเลยค่ะ เพราะสามารถรบกวนการกระทำนั้นๆได้ชะงัดแถมยังช่วยประจานให้ได้อายอีกด้วย ในโรงหนังน่าจะใช้มุกนี้บ้างนะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น