ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ซ้อมใหญ่เสมือนจริงกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งที่ 2

     การซ้อมใหญ่กระบวนพยุหยาตรทางชลมารคเนื่องในงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ซึ่งตัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนม์พรรษาครบ 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งเลื่อนมาจากปีที่แล้ว เพราะอุทกภัย โดยพิธีจริงจะจัดขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555  กระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 17 ในรัชกาลปัจจุบัน กระบวนบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ใช้เรือพราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ ฝีพาย 2,200 นาย จัดรูปกระบวรเรือเป็น 5 ริ้ว ประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ทางกรมเจ้าท่าจะเปิดการสัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น.

Barge-Major-Procession

การเดินทาง : โดยสารรถไฟขบวน 212 ตะพานหิน – กรุงเทพ จากสถานที่ท่าเรือถึงสถานีหัวลำโพง 12.30 น. โดยประมาณ ต่อรถเมล์สาย 25 ลงที่สวนนาคราภิรมย์ ถึงประมาณบ่ายโมงครึ่ง เพราะมีประชาชนเดินทางไปรอชมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยามากมาย

DSCF8192 DSCF8193 DSCF8201

      ไปถึงสายขนาดนี้ตอนแรกคิดว่าคนจะจองบริเวณรั้วริมแม่น้ำจนเต็มแล้ว แต่ที่ไหนได้ยังมีที่เหลือเยอะมากค่ะ จะมีไม่ว่างก็ตรงมุมที่ถ่ายรูปแล้วแบ็คกราวเป็นวัดอรุณฯ ที่มีกลุ่มช่างกล้องมือโปรจองที่ไว้หมดแล้ว คนส่วนใหญ่ทั้งชาวไทยชาวต่างชาติเลือกนั่งที่บันไดมากกว่า ประกอบกับวันนี้มีเมฆมาก แทบไม่มีแดดเลย บรรยากาศสบายๆ ถือว่าโชคดีมากๆ นั่งเล่นจัดข้าวจัดของจนเกือบบ่าย 2 ก็ย้ายตัวเองไปจองที่หามุมถ่ายรูปสวยๆ เลือกตรงที่แบ็คกราวเป็นหอประชุมกองทัพเรือแล้วกัน พอดีมีเรือตรวจการผ่านมา ก็ลองตั้งกล้อง ปรับมุมไปเพลินๆ

DSCF8203 DSCF8205 DSCF8208

    จากบริเวณท่าวาสุกรี กระบวนเรือมาถึงบริเวณสวนนาคราภิรมณ์เวลาประมาณ 15:30 นาที ประจวบเหมาะกับพระอาทิตย์ส่องแสงผ่านม่านเมฆลงมาพอดี สวยมากๆ เนื่องจากเราอยู่ทางฝั่งพระนคร เพราะฉะนั้นริ้วขบวนเรือทางฝั่งเราจะประกอบด้วยเลขคู่ แต่พอดีกับที่ตรงนี้เป็นคุ้งน้ำเลยได้ประโยชน์ตรงที่เรืออีกด้านจะโผล่พ้นคุ้งน้ำมาก่อน สามารถเลือกถ่ายได้ทั้ง 2 ด้าน โดยลำแรกที่เข้ามาในลานสายตา คือ เรือประตูหน้าทางฝั่งซ้าย เรือทองขวานฟ้าค่ะ

DSCF8212 DSCF8213 DSCF8219

   คู่ถัดมาเป็นเรือพิฆาต เสือคำรณสินธุ์ คู่มากับเรือเสือทะยานชล หัวเรือเขียนเป็นรูปเสือเหมือนชื่อเรือ มีปืนจ่ารงตั้งที่หัวเรือ ถัดมาเป็นเรือดั้งค่ะ ด้านพระนครเรือดั้งจะเป็นเรือเลขคู่

DSCF8222 DSCF8228DSCF8234

    ตอนนี้กระบวนเรือจะซ้อนกันเป็น 5 ริ้ว เรือกลุ่มเรือรูปสัตว์จะล้อมเรือพระที่นั่ง ในภาพเป็นเรือ อสรุปักษี โขนเรือเป็นยักษ์ซึ่งมีกายท่อนล่างเป็นนกสีเขียว  เรือพระที่นั่ง ลำแรกที่นำมาคือ เรืออนันตนาคราชย์ ซึ่งในครั้งนี้เป็นเรือทรงผ้าไตร เห็นแล้วนึกถึงนิทานชาดก ที่เล่าว่าในสมัยพุทธกาลมีนาคแปลงร่างเป็นมนุษย์มาขอบวช แต่บวชไม่ได้ ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีบวชนาค อาจจะเพราะเหตุนี้เลยใช้เรืออนันตนาคราชทำหน้าที่เชิญผ้าไตร ในงานถวายผ้าประกฐิน ถัดมาเป็นเรือครุฑเตร็จไตรจักร

DSCF8239 DSCF8242 DSCF8249

    ลำถัดไปที่เข้ามาในลานสายตา คือ เรือดั้งหมายเลข 22 ซึ่งเป็นเรือดั้งทองค่ะ ต่อด้วยเรือสุพรรณหงส์ ซึ่งเป็นเรือพระที่นั่งในครั้งนี้ค่ะ

DSCF8251 DSCF8254 DSCF8257  

    ตามด้วยเรือเอกชัย สองลำ ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก มี 2 ลำ คือเรือเอกชัยเหินหาวกัล เรือเอกชัยหลาวทอง ซึ่งจำทำหน้าที่ชักลากเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ในกรณีที่ฝีพายไม่เพียงพอ ถัดมาเป็นเรือลำโปรดของเรา เรือพระที่นั่ง นารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ลำดั่งเดิมสร้างในสมัยราชกาลที่ 3 ตอนแรกมีแต่ตัวครุฑค่ะ ต่อมารัชกาลที่ 4 โปรดให้ต่อเติมองค์พระนารายณ์เพิ่มลงไปเพื่อให้ตรงกับคติพรามณ์ เรือลำเก่าผุพังไปตามกาลเวลา ส่วนเรือลำนี้เป็นลำที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก

DSCF8261 DSCF8269 DSCF8309

    เรือพระที่นั่งลำสุดท้ายคือ เรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ ก่อนจะต่อด้วยเรือแซงซึ่งเป็นเรือปิดท้ายกระบวนค่ะ โดยเรือพระที่นั่งหลังจากเทียบท่าส่งเสด็จที่ฉนวนน้ำที่วัดอรุณฯ แล้วก็จะกลับหัวเรือเตรียมพร้อมสำหรับการส่งเสด็จกลับด้วยค่ะ มายืนตรงนี้โชคดีมากๆได้เห็นการกลับเรือด้วย นึกว่าจะใช้เวลานานเพราะเรือพระที่นั่งทั้งใหญ่และยาว ที่ไหนได้เดี๋ยวเดียว พี่ทหารฝีพายซ้อมมาดีจริงๆ

DSCF8277 DSCF8283 DSCF8284

    รูปกระบวนเรือในบรรยากาศโพล้เพล้ สวยงามไปอีกแบบนึงค่ะ

DSCF8301 DSCF8308 DSCF8318

   เสร็จพิธีก็ได้เวลาแยกย้ายกันกลับ ตอนกลับไม่ได้พายกลับเองนะคะ ใช้เรือทหารมาลากเอาค่ะ คนไหนรีบกลับบ้านก็สละเรือ ลงเรือยางกลับไปก่อน คนที่สละเรือไม่ได้ก็นั่งรออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย น่ารักจริงๆ เสร็จสิ้นภารกิจ 6 โมงเย็นพอดีเลยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชมรมรัก คลับมหาสนุก

ชื่อเรื่องภาษาไทย ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น ชมรมรัก คลับมหาสนุก ouran koukou host club เรื่อง และ ภาพ Bisco  hatori จำนวนเล่มทั้งหมด 18 สำนักพิมพ์ อ่านจบเมื่อ บงกชคอมมิคส์ 30 กรกฎาคม 2557 เรื่องย่อ            ฮารุฮิ เข้าเรียนในโรงเรียนโอรัง ที่แสนจะไฮโซด้วยทุนเรียนดี เธอใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายด้วยการแต่งตัวเป็นนักเรียนชาย     วันหนึ่งระหว่างหามุมสงบ ฮารุฮิเดินหลงเข้าไปในห้องดนตรี 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ host club ชมรมสุดเว่อร์ของโรงเรียน แถมยังซุ่มซ่ามไปทำแจกันราคา 8 ล้านเยนแตก รุ่นพี่ที่ชมรมจึงบังคับให้ฮารุฮิทำงานชดใช้  ฮารุฮิถูกจับแปลงโฉมเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวยกลายเป็นหนึ่งใน Host ของชมรมที่รวบรวมสุดยอดหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของโรงเรียน       ฮารุฮิรู้ตัวว่าชอบทามากิ แต่ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าเพราะทามากิมีปมในจิตใจเรื่องครอบครัว สิ่งใดก็ตามที่อาจทำลายครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น เจ้าตัวจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ครอบครัวของทามากิหมายรวมสมาชิกชมรมโฮสท์คลับด้วย ฮิคารุจึงตัดสินใจบอกรักฮารุฮิ ซึ่งเป็นการทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่ก็อยากช่วยกระตุ้นให้ทามากิทำความเข้าใจความรู้สึกของตัว

ปฐพีไร้พ่าย

    ชื่อเรื่อง ปฐพีไร้พ่าย เขียน Jiulufeixiang แปล Hongsamut จำนวนหน้า 865 สำนักพิมพ์ Hongsamut version Meb E book อ่านจบ 19 มีนาคม 2561 เรื่องย่อ      สิงอวิ๋นซื้อไก่ที่โดนถอนขนจนเหี้ยนผอมแห้งแรงน้อยมาจากตลาด ไก่ตัวนั้นคือ เสิ่นหลี อ๋องปี้ชางแห่งแดนอสูร นางหนีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และพลาดท่าถูกกองทัพที่มาเชิญนางกลับแดนอสูรตามบัญชาของจอมอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บ สิงอวิ๋นให้นางกินหมั่นโถวเป็นอาหาร จับเจ้าไก่ไร้ขนอาบน้ำ แถมยังใช้ให้เฝ้าบ้านเหมือนแกล้งกัน เพราะเขารู้ว่าไก่ตัวนี้ไม่ใช้ไก่ธรรมดา เสิ่นหลีจึงพยายามหนีจากเขาทันทีที่ร่างกายแข็งแรงพอแต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะโดนจับลงหม้อเป็นไก่ตุ๋น สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรัง และเพราะสิ่งอวิ๋นอยากจะซื้อเนื้อให้เจ้าไก่โง่ของเขากิน ถึงได้เผยความสามารถที่ปกปิดมาตลอดจนผู้อื่นเข้าใจว่าเขาเป็นเทพพยากรณ์จนเรื่องราวเลยเถิดกลายเป็นความขัดแย้งกับองค์รัชทายาท เสิ่นหลีปกป้องชายหนุ่มไว้ได้ก็จริง แต่เมื่อบ้านที่สงบสุขถูกเผาจนวอด แค้นนี้ต้องชำระ สิงอวิ๋นจึงเสนอความช่วยเหลืออ๋องยุ๋ย โอรสที่เกิดจากพระสนมให้ชิงตำแหน่งรัชทายาท เสิ่นหลีใจจริงไม

ยามเมื่อลมพัดหวน

  ชื่อเรื่อง ยามเมื่อลมพัดหวน เขียน วาณิช จรุงกิจอนันต์ จำนวนหน้า 188 สำนักพิมพ์ บูรพาสาส์น (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2536)     เรื่องย่อ      การบูรเหมือนนกในกรงทองของพ่อกับแม่ ผิดกับน้องชายที่ได้ไปเรียนถึงประเทศอังกฤษ แต่ละวันการบูรต้องปวดหัวกับการรับมือผู้ชายที่เข้ามาติดพัน ซึ่งแต่ละคนต่างมีพ่อกับแม่ของเธอคอยถือหางทำให้การบูรไม่สามารถตัดรอนได้ เมื่อความเครียดสะสมมากเข้าหญิงสาวจึงขออนุญาตพ่อและแม่ไปหาน้องชายที่อังกฤษ วันที่การบูรไปถึงพาทีประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาหัก ชงจึงอาสาไปรับการบูรให้ แต่พาทีเห็นชงเป็นคนเนื้อหอม เลยโกหกว่าการบูรแต่งงานแล้ว มีลูกสาว 1 คน และเขียนจดหมายฝากชงไปเตี้ยมกับการบูร โดนใส่ไฟว่าชงเป็นเสือผู้หญิง ให้การบูรระวังตัว ชงพาการบูรมาพักที่บ้านพี่อ้วน พี่แสด รุ่นพี่ที่ปารีสซึ่งคุ้นเคยกัน ชงพาการบูรเที่ยวปารีส ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน การบูรเห็นว่าชงออกจะสุภาพไม่เหมือนกับที่น้องชายบอกมาในจดหมาย ยิ่งเขาเจ็บตัวเพราะช่วยตามโจรวิ่งราวการบูรจึงหายกลัวชายหนุ่ม ชงเองก็เริ่มหวั่นไหวกับการบูรแบบที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนไหน จนเล่าเรื่องรักครั้งแรกที่ทำให้เ