เรื่องย่อ
season 1
โลกอนาคตที่ความปลอดภัยของผู้คนในสังคมถูกดูแลด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Sibyl ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบสุขภาพจิต “Psycho-pass” หากสภาพจิตของใครมีค่าเกินค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมแสดงว่าคนๆนั้นมีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรมในอนาคต จะถูกเรียกว่า อาชญากรแอบแฝง จะถูกควบคุมตัวเพื่อเข้ารับการบำบัดทันที ในหมู่คนเหล่านั้นมีบางคนสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิฆาต ที่รับหน้าที่ล่าอาชญากรด้วยกัน เหมือนดั่งหมาล่าเนื้อเพื่อให้ได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ
อาคาเนะที่เข้ามารับตำแหน่งผู้สังเกตการณ์ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของหน่วยพิฆาตอีกที แค่วันแรกของการทำงานก็เจอเรื่องไม่โสภาหลายอย่าง ทำให้อาคะเนะสับสนว่าตัวเองเหมาะกับงานนี้หรือไม่ แต่คำพูดของชินยะหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการเรียกความมั่นใจของอาคาเนะกลับคืนมา อาคาเนะเริ่มสนใจในตัวชินยะ ยิ่งเมื่อเธอได้รู้ว่าเมื่อก่อนเขาเคยเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่หลังจากเกิดคดีที่ปิดไม่ได้ ซึ่งหน่วยปฏิบัติการซาซายามะซึ่งเคยอยู่ภายใต้การควบคุมของโอกามิถูกฆ่าด้วยวิธีการ Plastination อันโหดเหี้ยม แล้วเอาศพไปซ่อนไว้หลังภาพโฮโลแกรมในย่านการค้า ค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมของชินยะก็เพิ่มขึ้น เพราะเขาต้องการให้ฆาตกรได้รับผลแบบเดียวกันกับผู้เคราะห์ร้าย คดีนั้นถึงแม้ว่าหลักฐานแวดล้อมจะชี้ไปที่ โทวมะ โคซาบุโร่ ครูโรงเรียนมัธยมปลายที่ไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เบาะแสของคนร้ายมีเพียงรูปถ่ายที่ซาซายามะถ่ายไว้ได้กับชื่อ มาคิชิมะเท่านั้น
เกิดคดีที่ใช้ Plastination ขึ้นอีกครั้ง บวกกับหลักฐานในคดีก่อนๆ ชี้ให้เห็นว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง โคกามิตั้งสมมติฐานว่ามีคนๆนั้นคอยจับคู่คนที่มีแรงจูงใจกับวิธีการฆ่าให้มาเจอกัน แล้วสร้างอาชญากรคนใหม่ขึ้นมา
เพื่อนของอาคาเนะหายตัวไป อาคาเนะพาโคกามิออกไปตามหานอกเวลาเข้าเวร ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่สัญญาติดต่อถูกรบกวน โคกามิถูกหลอกให้ขึ้นรถไฟใต้ดินที่ไม่ได้ใช้แล้ว พาตัวไปเป็นเหยื่อในเกมล่าจิ้งจอกพร้อมกับเพื่อนของอาคาเนะที่ถูกมัดไว้ในรถไฟ เกมนี้เปิดโอกาสให้พวกโคกามิมีทางรอดซึ่งเหมือนเป็นการทดสอบจากฝ่ายตรงข้าม โคกามิดิ้นรนจนความช่วยเหลือด้านอาวุธจากภายนอกมาถึง แต่ถึงโคกามิเป็นฝ่ายชนะแต่ก็ถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส เพื่อนของอาคาเนะถูกมาคิชิมะพาตัวไป โคกามิบอกให้อาคาเนะตามไปช่วยแต่โดมิเนเตอร์ไม่สามารถตัดสินฝ่ายตรงข้ามได้เนื่องจากค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรของเขาไม่ถึงเกณฑ์ทั้งๆที่มาคิชิมะกำลังจะใช้มีดปาดคอเพื่อนของอาคาเนะ อาคาเนะต้องทนดูเพื่อนตายต่อหน้าต่อตา กรณีแบบนี้เรียกว่า criminally asymptomatic ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ 1 ใน สองล้าน เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของระบบ ทางผู้บังคับบัญชาจึงไฟเขียวให้ตามล่าตัวมาคิชิมะอย่างเต็มที่โดยอาศัยภาพที่ถอดมาจากความทรงจำของอาคาเนะ
เกิดเหตุที่คนร้ายใส่เครื่องมือบางอย่างที่สามารถหลอกเครื่องสแกนค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมได้และออกก่อคดีอาชญากรรมต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก หลังจากเก็บกวาดไปได้ไม่ทันไร กลับมีกลุ่มคนที่ใส่เครื่องมือที่เหมือนกันออกก่ออาชญากรรมในวงกว้างจนเกิดจลาจลขึ้นกลางเมือง หน่วยปฏิบัติการต้องทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อควบคุมสถานการณ์ ท่ามกลางความชุลมุนของการออกภาคสนาม ชินยะก็นึกขึ้นได้ว่า มาคิชิมะน่าจะมีจุดประสงค์แอบแฝงโดยเป้าหมายที่แท้จริงน่าจะเป็นตึก NONA ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบ Sibyl อาคาเนะ โคกามิ และ คาการิแยกไปที่ตึก NONA ถึงจะจับกุมมาคิชิมะได้สำเร็จแต่คางาริที่แยกตามกลุ่มที่ลงไปชั้นใต้ดินคนเดียวหายสาปสูญ
แท้จริงแล้วระบบ sibyl มีสมองของมนุษย์ควบคุม อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังเป็นสมองของโทวมะ โควซาบุโร่ โดยมีไซบอร์กรูปร่างมนุษย์ทำหน้าที่บริหารงานหน้าฉาก โทวมะชักชวนให้มาคิชิมะมาเป็นหนึ่งในระบบ sibyl เพื่อครองโลกนี้ด้วยกัน แต่มาคิชิมะปฏิเสธและหลบหนีออกไป หน่วย 1 รับหน้าที่ไล่ล่ามาคิชิมะโดยมีคำสั่งกำชับให้กันชินยะออกจากภารกิจนี้ ส่วนหน้าที่ในการตามหาคางิริที่หายไปโอนให้เป็นหน้าที่ของหน่วยที่ 2 กินโนะซะพยายามใช้วิธีตุกติกเพื่อให้ชินยะสามารถสืบคดีนี้ต่อได้แต่ไม่สำเร็จอีกทั้งยังถูกลงโทษถึงขนาดจะกำจัดทิ้ง ชินยะจึงหลบหนีออกไปตามล่ามาคิชิมะตามวิถีทางของตัวเอง เมื่อเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ที่มาคิชิมะจะถูกกำจัด Sibyl จึงเผยตัวจริงกับอาคาเนะเพื่อให้เธอรับรองความปลอดภัยของมาคิชิมะ ซึ่งอาคาเนะก็เสนอให้ยกเลิกคำสั่งกำจัดชินยะเป็นการแลกเปลี่ยน
เป้าหมายต่อไปของมาคิชิมะคือการทำลายระบบเกษตรกรรมเพื่อบีบให้เกิดการนำเข้าซึ่งจะส่งผลให้มีผู้ลักลอบอพยพเข้ามา เมื่อนั้นระบบ Sibyl จะไร้ความหมาย ชินยะที่พอจะอนุมานเรื่องนี้ได้ตามรอยจนไปเจอการฆาตกรรมของมาคิชิมะ เขาทิ้งเบาะแสเกี่ยวกับแผนการของมาคิชิมะไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งอาคาเนะจับทางได้และตามไปยังเป้าหมายได้ทันก่อนที่มาคิชิมะจะลงมือได้สำเร็จอีกทั้งยังได้พบกับชินยะอีกครั้งด้วย ถึงแม้อาคาเนะจะพยายามให้ชินยะใช้ dominator ในการจับกุมมาคิชิมะแต่ในที่สุดชินยะก็เลือกใช้วิธีของตัวเอง คือ การกำจัดมาคิชิมะ หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไป
season 2
เกิดเหตุระเบิดติดต่อกันถึง 3 ครั้ง โดยผู้ก่อเหตุยังคงรักษาระดับสีให้อยู่ระดับปกติได้ ถึงแม้จะจับผู้ก่อเหตุได้แต่ระหว่างเคลียร์สถานที่ เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์สูญหายพร้อมโดมิเนเตอร์ โดยพบศพของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ และตัวอักษรปริศนา WC? อาคาเนะสงสัยว่าน่าจะมีบุคคลล่องหนอยู่เบื้องหลัง และในที่สุดก็ค้นพบคนที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังโฮโลแกรม ซึ่งผู้ก่อการเรียกเขาว่า คามุย
คามุยยังก่อคดีอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งความเครียดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขยายวงกว้างอย่างยากที่จะควบคุม อีกทั้งเมื่อระบบเฝ้าระวัง และตรวจจับระดับสีของ Sibyl ไม่สามารถตรวจจับอาชญากรเหล่านั้นได้ อาคาเนะจึงอยากจับคนร้ายให้ได้ หน่วยของเธอบุกไปยังแหล่งกบดานของคามุย แม้จะได้หลักฐานที่น่าสนใจ แต่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจากการดึงน้ำมือคนหมู่มากมาสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ผ่านทางเกม
ในที่สุดอาคาเนะก็ปะติดปะต่อเเรื่องได้ว่า คามุยน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อ 15 ปีก่อน ชิ้นส่วนของเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตถูกปลูกถ่ายให้กับผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือ คามุย นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Sibyl จำเขาไม่ได้ และจุดมุ่งหมายคือการแก้แค้นคนที่ทำให้เกิด ฤดูกาลนรก แต่ระหว่างนั้นก็มีพวกเดียวกันที่อยากทำให้ไซโคพาสของอาคาเนะขุ่นด้วยการทำร้ายญาติสนิทเพียงคนเดียวของเธอ
ในขณะที่ความเชื่อถือในระบบที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยในสังคมเริ่มสั่นคลอน แผนการขั้นสุดท้ายก็เริ่มขึ้น ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลนรก เพื่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีกครั้ง เป้าหมายคือการหาตำแหน่งระบบ Sibyl อาคาเนะตัดสินปัญหาด้วยการนัดให้คามุยไปเผชิญหน้ากับ Sibyl เพื่อให้ปรับการตัดสินเป็นปัจเจกแบบกลุ่ม แต่ถึงอย่างไรสีของ sibyl ก็ยังเป็นสีของอาชญากรอยู่ดี
ตัวละครสำคัญ
โคกามิ ชินยะ : อาชญากรแอบแฝงที่ลงทะเบียนเป็นหน่วยปฏิบัติการของหน่วยรักษาความปลอดภัย เดิมทีเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ในขณะที่สืบคดีที่คลี่คลายไม่ได้ระดับความสำคัญพิเศษของหน่วยรักษาความปลอดภัยหมายเลข 102 ค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาเลือกที่จะสืบคดีต่อมากกว่ารักษาเลยถูกลดขั้น เขามีส่วนคล้ายอาคาเนะตรงที่เป็นนักเรียนดีเด่น |
ทสึเนะโมริ อาคาเนะ : สังกัดแผนกสืบสวน หน่วยรักษาความปลอดภัย ในตำแหน่งผู้สังเกตการณ์ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลหน่วยพิฆาต จบการศึกษามาด้วยคะแนนสูงสุด เป็นพวกความรู้สึกช้า ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องหนักหนาก็ยังสุขภาพจิตดี season 2 เธอเป็นนักสืบรุ่นพี่ประจำอยู่หน่วย 1 |
โนบุชิกะ กินโนซะ : สังกัดแผนกสืบสวน หน่วยรักษาความปลอดภัย ในตำแหน่งหัวหน้าผู้สังเกตการณ์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับโคกามิ พ่อกับแม่ของกินโนซะเป็นตัวรวจ เมื่อนำระบบ Sibyl มาใช้พวกเขาถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากรแอบแฝง เขาจึงมีความรู้สึกไม่ยกโทษให้กับคนที่ทำตัวเสี่ยงที่จะตกเหวเหมือนที่ชินยะเป็น ใน season 2 เขาปรับเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ โดยมีแขนซ้ายเป็นแขนเทียม |
คาการิ ชูเซย์ : พบว่าเป็นอาชญากรแอบแฝงตั้งแต่วัดค่า Psycho Pass เมื่อตอนอายุ 5 ปี เค้ายอมรับงานฆ่าคนในฐานะหน่วยปฏิบัติการแทนที่จะถูกกักตัวไปตลอดชีวิต |
คุนิซุยะ ยาโยอิ : เดิมเธอถูกตัดสินให้เป็นนักดนตรี จนกระทั่งค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมเกินกว่าระดับปกติ ชินยะใช้วิธีของตัวเองเกลี่ยกล่อมจนเธอยอมมาเป็นหน่วยปฏิบัติการ |
มาซาโอกะ โทโมมิ : เค้าเคยเป็นตำรวจสืบสวนมาก่อนที่จะเกิดระบบ Sibyl จิตใจส่วนลึกที่ไม่ยอมรับคำสั่งของระบบทำให้ค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมของเขาสูงขึ้น เป็นพ่อแท้ๆของกินโนซะ |
มิกะ ชิโมทสึกิ : เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์รุ่นน้อง คู่หูของอาคาเนะ |
โทกาเนะ : เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่มีค่าอาชญากรรมสูงเป็นประวัติการณ์ เขาเคยเป็นนักบำบัดมาก่อน เป็นลูกชายของโทกาเนะ ผู้คินค้นระบบ sibyl |
ฮินาคาว่า : เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เป็นนักออกแบบโฮโลแกรม |
special thank : Ace-z fansub @tirkx.com
episode list
season 1 (finish 29/4/2556)
01 | ค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรม | 12 | Devil’s Cross Road |
02 | ผู้ที่ทำได้ | 13 | Ivitation from the Abyss |
03 | วิธีการเลี้ยงสัตว์ | 14 | sweet poison |
04 | อีกด้านของเธอที่ไม่มีใครรู้จัก | 15 | The town where sulfur falls |
05 | ใบหน้าเธอที่ไม่มีใครรู้จัก | 16 | The gate to judgment |
06 | การกลับมาของเจ้าชายผู้บ้าคลั่ง | 17 | Iron Heart |
07 | ถ้อยคำของดอกกล้วยไม้สีม่วง | 18 | A promise written on water |
08 | 19 | Transparent shadow | |
09 | ผลไม้แห่งสรวงสวรรค์ | 20 | where justice lies |
10 | การละเล่นของเมรูเสลาห์ | 21 | Blood-stained reward |
11 | Saint’s Supper | 22 | Perfect world |
season 2 (finish 20/7/2559)
01 | The scales of justice | 07 | The missing children |
02 | The creeping unknown | 08 | The witch’s seed <AA> |
03 | บทพิสูจน์ของปิศาจ | 09 | Omnipotence Paradox |
04 | The salvation of job | 10 | Gauging the soul |
05 | unforgiven game | 11 | What color? |
06 | those who cast stones |
บันทึก…คนดู
ฉากเปิดเรื่องบรรยากาศคล้ายๆ Guilty Crown (ก็นะผลงานสตูดิโอเดียวกันนี่นา) เพลงเปิดก็มันมากฟังครั้งเดียวชอบเลย แถมเหมาะกับฉากบู้เปิดเรื่องด้วยอีกต่างหาก คาดว่าเรื่องภาพกับเพลงประกอบน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับ Guilty Crown ซึ่งเราชอบในส่วนนี้มากถึงมากที่สุด ยิ่งมาเจอเพลงปิดของ supercell เล่นเอาระทวยไปเลย
ในส่วนของเนื้อเรื่อง คนเขียนบทเรื่องนี้คือลุงเก็น คนเดียวกับที่เขียนนิยาย Fate Zero ซึ่งการันตีความปวดตับได้เลย แค่ตอนแรกก็ไม่ทำให้คนที่เชื่อในชื่อของลุงเก็นผิดหวัง เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวกับอาชญากรรมลุงแกเลยใส่ไม่ยั้งมาตั้งแต่ตอนแรก ไหนจะฉากข่มขืนที่ผู้หญิงคนไหนเห็นต้องผงะไปหน่อยนึงแหละ แถมผู้ร้ายยังเสพยายิ่งเพิ่มขีดความคลั่งหนักขึ้นไปอีก จบด้วยผู้เคราะห์ร้ายที่ความขีดพุ่งจนกลายเป็นเป้าหมายพิฆาต ทำให้เกิดคำถามว่า การเชื่อระบบในการตัดสินชีวิตคน โดยเฉพาะเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเนี่ยมันถูกแล้งเรอะ ใครจะตามเรื่องนี้จนจบต้องเตรียมภูมิต้านทานไว้หนักๆเลย
ตั้งแต่ตอนที่ 3 เป็นต้นไป จะเริ่มเดินเรื่องระหว่างการสืบคดี ซึ่งคดีแรกเป็นการฆาตกรรมซึ่งจะรู้ตัวผู้ต้องสงสัยอยู่แล้วจากค่า Psycho Pass ที่ปริ่มๆจะเกินแต่ยังไม่มีหลักฐาน สาเหตุก็เกิดจากเขาเป็นเป้ารังแกของคนอื่นๆในที่ทำงาน เหมือนเป็นเครื่องระบายความเครียดว่างั้นเถอะ ผู้ควบคุมก็นิ่งดูดาย อันที่จริงถ้าต่อเน็ตไม่ได้ก็หาความบันเทิงแบบ offline มาติดตั้งก็ได้ เนื่องจากเหยื่อของคดีนี้เป็นพวกทำร้ายคนอื่นเพื่อระบายความเครียด ถูกฆ่าก็เหมือนการรับกรรมที่ตัวเองก่อนั่นแหละ เลยไม่ค่อยสงสารเท่าไหร่ อันที่จริงน่าจะจับผู้ดูแลหน้าเลือดเชือดเป็นคนแรกมากกว่า เนื่องจากสถานที่เป็นจุดอับสัญญาณไม่สามารถต่อสัญญาไปที่ระบบ Sibyl ได้ Dominater เลยมีค่าไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็กที่มีไว้ปาหัวหมา เลยต้องมีบทยั่วโมโหอาชญากรกันสักหน่อย เลยได้ดูบทหนีกับไล่ล่าสนุกๆ
จุดพีคของเรื่องจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่ 10 เมื่อชินยะโชว์ความสามารถในการอนุมานแผนการของคนร้าย จนไปเข้าตามันสมองที่คอยคุมเกมปั้นอาชญากร แผนการทดสอบฝ่ายตรงข้ามจึงเริ่มขึ้น ตัวละครที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นได้แก่ ชินยะ ภาพเคลื่อนไหวหล่อกว่าในภาพโปรโมทเยอะเลย บวกกับท่าทีเฉยเมยที่ดูเหมือนจะแฝงความเกรียนอยู่ในที เรื่องเกรียนนี่อนุมานจากตอนที่หมอนี่บอกอาคาเนะว่า ตอนที่ไม่ชอบการทำงานให้ใช้โดมิเนเตอร์ยิงได้เลย แต่พอเข้าตอนที่ 2 ท้ายๆ ตอนที่นางเอกไปขอโทษข้างเตียงพยาบาล คำพูดของหมอนี่ทำเอาอึ้งเลย ช่วยให้สตินางเอกจนหลุดจากความสับสนในตัวเองดูเป็นคนดีมีเหตุผลมากๆ แล้วไหงกลายเป็นอาชญากรแอบแฝงไปได้หว่า ซึ่งเหตุผลที่เฉลยออกมาอย่างชักเจนจากปากคำของคนแวดล้อม กับจากปากของโอกามิในตอนที่ 7 สรุปว่ามาจากความคิดที่อยากให้อาชญากรได้รับผลกรรมแบบเดียวกัน บวกกับความเก่งระดับนักเรียนดีเด่นของเจ้าตัวที่เฝ้าจินตนาการถึงมุมของของคนร้ายเลยทำให้ค่าสัมประสิทธิ์สูงขึ้น เจอแบบนี้เข้าไปแอบอึ้งเล็กๆ ถ้าเป็นแบบนี้ตำรวจเก่งๆสมัยนี้สงสัยจะค่าสัมประสิทธิ์เกินกันหมด โดยเฉพาะพวกนักสืบตัวซวยอย่างคินดะอิจิรุ่นหลาน กับโคนัน แต่ที่เหนือกว่านักสืบตัวซวยทั้งหลายแน่ๆคือ โคกามิหุ่นแมนมาก ยิ่งดูไปนานๆยิ่งกรี๊ด แถมพี่แกมีฉากออกกำลังกาย และเปลือยท่อนบนบ่อย เห็นทีไรก็น้ำลายหกทุกที อารมณ์ประมาณตอนที่อาคาเนะมองโคกามิในตอนที่ 7 เลยทีเดียว
มนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่ระบบ Sibyl ควบคุมนี่มีพฤติกรรมน่ารำคาญมาก ตัวอย่างแรกก็ได้แก่ อาคาเนะ ตอนที่ได้เผชิญหน้ากับมาคิชิมะตรงๆ ตอนที่เพื่อนกำลังจะโดนปาดคอ แทนที่จะเพียรเอาโดมิเนเตอร์จ่อมาคิชิมะ สู้เขวี้ยงโดมิเนเตอร์ใส่หัวมาคิชิมะกะเอาให้สลบยังจะดีซะกว่า
ตอนที่ 14 ตอนนี้เนื้อเรื่องยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก หลังจากที่ได้เปิดตัวมาคิชิมะซึ่งเป็นตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง คราวนี้มีการใช้อุปกรณ์ปลอมค่าสัมประสิทธิ์อาชญากรรมออกก่อคดีทำร้ายร่างกายต่อหหน้าสาธารณะชน โดยที่คนที่เดินผ่านไปผ่านมายืนมองเฉยๆ ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องตรงหน้าอย่างไร เพราะใช้ชีวิตกันอย่างปลอดภัยไร้กังวลมานานเกินไปจนสันชาตญาณระแวงภัยซึ่งเป็นสามัญสำนึกของการเอาตัวรอดด้านชา ดูๆแล้วก็ออกจะหดหู่ชอบกล ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปต้องขอเตือนคนขวัญอ่อนให้ทำใจก่อนดูสักหน่อย เพราะฉากอาชญากรรมแต่ละคดีโหดได้ใจมาก
อยากให้ถึงตอนที่ชินยะเจอกับมาคิชิม่าจังๆซะแล้ว เพราะฝ่ายตรงข้ามก็มีฝีมือพอตัว คนหล่อสองคนฉะกันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเชียร์ใคร
และแล้วตัวจริงของระบบ Sibyl ที่เราสงสัยว่ามันทำงานยังไง เพราะท่าจะมีประโยชน์ในการควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์หัวรุนแรงทั้งหลาย แต่พอรู้ว่าแกนกลางของระบบใช้สมองมนุษย์เป็นตัวประมวลผล แถมสมองที่ว่ายังมีสมองของอาชญากรอย่างโทวมะ โคซาบุโร่เป็นหนึ่งในนั้น แถมเจ้าตัวยังมีสติดีเกินไปจนสามารถใช้ร่างไซบอร์กออกมาชวนมาคิชิมะได้ แบบนี้ระบบมันจะเที่ยงตรงได้ยังไง นึกถึงคาการิที่ถูกระบบระบุว่าเป็นอาชกรแอบแฝงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างคนอื่นๆ เพราะของแบบนี้แล้วนึกอย่างพังระบบขึ้นมาตะหงิดๆ แต่สุดท้ายเมื่อยังไม่สามารถหาอะไรมาแทนได้ ก็คงต้องใช้ระบบเฮ็งซวยนี้ต่อไป
season 2 เปิดเรื่องมามีอะไรเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาคาเนะที่กลายเป็นรุ่นพี่เลยมีบุคลิกที่นิ่งขึ้น กับกินโนซะที่กลายเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ถึงจะถูกลดระดับแต่ภาคนี้พี่แกไม่ใส่แว่น แถมมีแขนเทียมปัดกระสุน ปุ้ง ปัง เท่ห์ไปอีกแบบ ฉากตอนเปิดตัวนี่อย่างเท่ห์ ปรัชญาเป็นเรื่องรองผู้ชายแซ่บต้องมาก่อน
สำหรับหน่วย 1 ซึ่งอาคาเนะดูแลในภาคนี้ไม่น่าอยู่ยิ่งกว่าภาคที่แล้ว เพราะคู่หูของเธอจ้องจะเลื่อยขาเก้าอี้ตลอดเวลา อย่างเปิดเผยเสียด้วย น่าหมั่นไส้มาก แถมคามุยตัวร้ายก่อเรื่องได้น่าขยะแขยงมาก โดยเฉพาะในตอนที่ 4 ไปป่วนที่สถานบำบัดให้คนมีความเครียดถึงขีดสุด แล้วให้หน่วยรักษาความสงบใช้โดมิเนเตอร์มาสอยจนคนตายเป็นเบือ ตอนนั้นสงสารเจ้าหน้าที่รักษาความสงบที่ตกเป็นเหยื่อสุด ๆ และยิ่งหนักข้อขึ้นในตอนที่ 5 – 6 เมื่อเกมที่คิดว่าเล่นสนุก ๆ แต่เป้าที่ยิงกลับเป็นคนจริง ๆ
หลังจากจับหางของคามุยได้ว่า คือ เด็กที่ถูกปลูกถ่ายอวัยวะ จนทำให้ Sibyl จดจำเขาไม่ได้ แถมเป้าหมายคือการแก้แค้นพวกสมคบคิดที่ พยายามรักษาระบบไว้จนเกิดฤดูกาลนรก หลังจากนั้นเรื่องราวจะอยู่ที่การขบคิดปัญหาโลกแตกเกี่ยวกับระบบสมบูรณ์แบบอย่าง sibyl ตรงนี้เวลาดูต้องตั้งสติ เพราะวิธีคิดมันจะเหมือนวนอยู่ในอ่างนิดนึง “สมมติว่าคนที่สมบูรณ์แบบที่สุดเป็นผู้ตัดสินลงโทษ แล้วใครล่ะที่จะตัดสินคนที่สมบูรณ์แบบ” มันก็เหมือนสุภาษิตเก่าที่เคยอ่านเจอจากนิยายของแดน บราวน์ “ใครเล่าจะดูแลผู้ปกป้องรักษา” ซึ่งทางออกที่ง่ายที่สุด คือ การถือว่าความสมบูรณ์แบบไม่มีเสมอไป เมื่อจับตัวอาชญากรแฝงที่ยังตัดสินไม่ได้ ระบบก็ยังถือว่าสมบูรณ์ แต่ถ้ามีอะไรสักอย่างทำให้เราตัดสินผู้ที่แสดงอาการโต้ง ๆ ไม่ได้ Sibyl จะตัดสินลงโทษตัวเองได้ไหม” ระบบที่ใช้สมองของอาชญากรในการวัดแนวโน้มในการก่ออาชญากรของบุคคลอื่น ที่ถึงอย่างตัวระบบเองก็คืออาชญากร สุดท้าย อาคาเนะ ก็ยังต้องยืนหยัดเป็นแกะขาวในฝูงแกะดำต่อไป
ฉากที่ชอบ
Quote
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น