ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Titanic the Artifact Exhibition 100th Anniversary

001

DSCF8178       จำได้ว่าตอนสมัยเรื่องนี้ออกใหม่ๆเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นเรายังเรียนชั้นมัธยมอยู่เลย ลองเปิดหาข้อมูลดูตรงกับปี 1997 เป็นภาพยนตร์ที่เราดูซ้ำไปซ้ำมา 3 รอบ คือไม่ว่าใครจะไปดูเรื่องนี้แม่ตามไปหมดค่ะ แล้วก็หลงใหล ลีโอนาโด ที่เล่นเป็นแจ็คในเรื่องนี้มากๆ ถึงขนาดเจียดเงินค่าขนมซื้อโปสการ์ด สมุดภาพ วีดีโอพรีเมี่ยมราคา 800 บาทที่ต้องสั่งจอง ถึงตอนนี้ก็ยังอยู่นะคะ แต่เครื่องเล่นนั่นเสียชีวิตไปนานมากแล้ว ชะตากรรมเดียวกับเทปที่กองอยู่ในบ้านนั่นแหละค่ะ 

      พอรู้ว่ามีการนำเข้านิทรรศการนี้จากต่างประเทศมาจัดที่ประเทศไทย ก็เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ ดดยเฉพาะภาพถ่ายโถงบันไดในเรือที่เหมือนในหนังจริงๆ นัดน้องมาดูแต่ก็ไม่ได้ไปสักที เลยต้องฉายเดี่ยวตามระเบียบค่ะ ขืนรอคนอื่นก็ไม่ได้ไปดูสักที ฤกษ์งามยามดีมาลงวันที่ 12 สิงหาคมค่ะ เข้ากรุงเทพมาส่องณเดชน์กับญาญ่าแล้วค่อยไป อีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกมาวันนี้เพราะคนน่าจะเยอะมาช่วยแชร์แอร์ ซึ่งช่วยให้คนขี้หนาวอย่างเราดูงานได้นานขึ้นสักนิด สำหรับงานนี้มีส่วนลดนะคะ มากน้อยตามสปอนเซอร์ เห็นชื่อเมืองไทยสมายคลับแล้วอยากกลับไปทำประกันกับบริษัทนี้จริงๆ ดูหนังฟังเพลงมีลดตลอดๆ แถมละตั้ง 20 % คราวนี้เลือกใช้ส่วนลดจากฝาเครื่องดื่มสิงห์ค่ะ กิน 2 ขวด 10 บาท จาก 500 ลดได้ 50 บาท กำไร 40 บาท สำหรับใครที่อยากได้เสียพากษ์เพราะๆ ต้องเสียค่าเช่า Ipod อีก 50 บาทค่ะ ไหนๆมาแล้วเราก็ต้อง Full option เพราะงั้นจัดมา บวก service charge อีก 10 บาท สรุปแล้วต้องควักกระเป๋าทั้งหมด 510 บาทค่ะ  

DSCF8182 DSCF8181 

     ถ่ายรูปด้านหน้าตรงทางเข้ามาเป็นที่ระลึกนิดหน่อย เนื่องจากงานนี้ห้ามถ่ายรูปด้านในนะคะ ซึ่งก็ดีเหมือนกันเพราะจะได้ไม่รบกวนคนที่เดินดู ทั้งที่ตอนแรกๆให้ถ่ายได้แต่ห้ามใช้แฟลชค่ะ คิดว่าน่าจะเกิดจากนิสัยคนไทยที่ควบคุมยาก บวกกับจำนวนคนที่จะไปออตรงที่มุมสวยๆ เลยตัดปัญหาห้ามถ่ายทั้งหมดไปเลย ดังนั้นรูปที่ประกอบในบันทึกนี้จะมาจากกระทู้   รีวิวเล็กๆน้อยๆจากนิทรรศการ 100 ปี ไททานิค ของคุณ Prince_Airbus จากห้อง Blue Planet Pantip ค่ะ

002 003 004

    หลังจากผ่านการตรวจสอบว่าเราไม่มีข้าวของอันต้องห้ามตามที่ประกาศไว้ ก็สามารถผ่านเข้าประตูเพื่อกลับสู่ประวัติศาสตร์เมื่อ 100 ปีก่อนค่ะ สิ่งแรกที่เราจะได้รับคือ Boarding Pass ของผู้โดยสารที่มีตัวตนจริง ตอนนี้เรากลายเป็นผู้โดยสารชั้น 2 Mrs. Allen O. Becker อายุ 38 มาจากอินเดียเพราะคุณสามีเป็นหมอสอนศาสนาอยู่ที่นั่น  กระแตงลูกมาอีก 3 คน อายุ 12 , 4 และ 1 ขวบตามลำดับ โอ้ว เข้าบรรยากาศวันแม่สุดๆ

E12214478-5 E12214478-23

ส่วนที่ 1 จะกล่าวถึงที่มาของบริษัท White star line ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ การออกแบบ การต่อเรือค่ะ อ่านตรงนี้จบจะมีสะพานแบบที่พาดจากฝั่งขึ้นไปบนเรือให้เราเดินเข้าสู่ส่วนที่ 2 เอาล่ะจะได้ขึ้นเรือกันแล้ว

ส่วนที่ 2 ถัดไปเป็นระเบียงทางเดินของผู้โดยสารชั้น 1 ค่ะ เดินอย่างเดียวนะคะ สองประตูรายทางเปิดไม่ได้ ลองมาแล้ว ฮิฮิ

 389172_10150903643075894_997882831_n E12273717-22 

ส่วนที่ 3 โถงบันไดหลักค่ะ เป็นจุดที่ทุกคนอยากถ่ายรูป เพราะเป็นฉากเด็ดในภาพยนตร์ นึกถึงตอนที่โรสตายแล้ว ได้มาพบแจ็คที่หันหลังยืนบนบันไดตรงหน้านาฬิกาเลยค่ะ ค่าถ่ายภาพใบละ 300 บาทแพงเอาเรื่อง ขอบายดีกว่า

ส่วนที่ 4 เลี้ยวจากโถงบันไดเราจะมาโผล่ที่ห้องจัดแสดงวิถีชีวิตของผู้โดยสารชั้น 1 ค่ะ ห้องนอนสวยดี แต่เตียงฝรั่งนี่ดูสั้นๆนะคะ บนเรือนี้เค้ามีน้ำประปาใช้ด้วยนะเออ

E12214478-62 E12214478-65

ส่วนที่ 5 ห้องนอนของผู้โดยสารชั้น 3 ค่ะ เล็กๆน่ารัก เตียง 2 ชั้น นอนห้องละ 4 คน อารมณ์เหมือนสมัยตอนเราอยู่หอที่ศาลายาเลย

ส่วนที่ 6 ถัดจากห้องผู้โดยสารชั้น 3 เป็นห้องเครื่องค่ะ ประตูกั้นน้ำที่เห็นอยู่นี่มีเป็นนวัตกรรมแห่งความปลอดภัยที่ทำให้ทุกคนมั่นใจว่ายังไงเรือก็ไม่จม แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่นะคะ

E12214478-66 E12214478-69

ส่วนที่ 7 ระเบียงเรือค่ะ ตรงนี้สวยมากๆ จำลองท้องฟ้ากระจ่างดาวกลางทะเล เห็นตรงนี้แล้วอยากถ่ายรูปมากๆเลยค่ะ เราไปเกาะขอบระเบียงหันไปหันมาด้วยแหละ อารมณ์เด็กน้อยขึ้นเรือ คริ คริ

ส่วนที่ 8 เอาล่ะค่ะ สัญญาเตือนภูเขาน้ำแข็งถูกส่งออกมาจากเรือที่เดินทางล่วงหน้าไปก่อนหลายลำ ในงานมีภูเขาน้ำแข็งมาตั้งให้ลองลูบดูจริงๆด้วยนะคะ วันนี้เด็กเยอะค่ะ เราก็เลยเนียนๆไปลูบกับเขาด้วย แล้ววินาทีชีวิตก็มาถึง ไททานิคอับปางซะแล้ว

E12214478-75 E12214478-86

ส่วนที่ 9  จำลองสภาพใต้ท้องทะเลคณะสำรวจพบค่ะ ห้องนี้เป็นพื้นทราย ทางเดินเป็นไฟเบอร์กลาส ผู้ชมบางคนที่กลัวๆจะเดินไต่ไปตามโครงเหล็ก แต่สำหรับเราเตี้ยๆแค่นี้บ่ยั่น เดินมันกลางไฟเบอร์กลาสนี้แหละ

ส่วนที่ 10 ห้องไว้อาลัยค่ะ แสดงรายชื่อผู้โดยสารที่ขึ้นเรือทั้งหมด ด้านบนคือผู้ที่รอดชีวิต ส่วนด้านล่างคือผู้สูญหาย Mrs. Allen O. Becker เป็นผู้รอดชีวิตค่ะ (ก็นะกระแตงลูกเล็กๆ 3 คน ไปด้วยไม่ได้ขึ้นเรือช่วยชีวิตก็ใจหินเกินไปแล้ว) สังเกตว่ารายชื่อผู้สูญหายในส่วนผู้โดยสารชั้น 3 กับ ลูกเรือเยอะมาก

DSCF8183 DSCF8177

     จบนิทรรศการแล้วค่ะ ตอนนี้มีน้ำตาคลอนิดหน่อยกับการเสียสละของผู้คนในนาทีวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีที่บรรเลงดนตรีจนวินาทีสุดท้าย คุณพ่อที่ส่งภรรยากับลูกขึ้นเรือช่วยชีวิต แล้วเดินเลี่ยงออกมาสูบบุหรี่ส่งภรรยากับลูก เสียงพากษ์จาก Ipod ช่วยเพิ่งอารมณ์ซึ้งให้ได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย

     เข้างานตอนบ่ายโมงครึ่ง ดูเสร็จก็ประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เราอ่านทุกตัวอักษรในความเร็วของคนที่มาคนเดียว ตอนเดินออกมาแอบโล่งใจเพราะเห็นมีมีคิวอยู่ตรงด้านล่างของบันไดเลื่อนด้วยค่ะ สงสัยเป็นเพราะช่วงนี้คุณแม่เข้าฟรีด้วยละมั้ง สาวโสดอย่างเรารีบกลับดีกว่าคนอื่นจะได้ดูบ้าง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชมรมรัก คลับมหาสนุก

ชื่อเรื่องภาษาไทย ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น ชมรมรัก คลับมหาสนุก ouran koukou host club เรื่อง และ ภาพ Bisco  hatori จำนวนเล่มทั้งหมด 18 สำนักพิมพ์ อ่านจบเมื่อ บงกชคอมมิคส์ 30 กรกฎาคม 2557 เรื่องย่อ            ฮารุฮิ เข้าเรียนในโรงเรียนโอรัง ที่แสนจะไฮโซด้วยทุนเรียนดี เธอใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายด้วยการแต่งตัวเป็นนักเรียนชาย     วันหนึ่งระหว่างหามุมสงบ ฮารุฮิเดินหลงเข้าไปในห้องดนตรี 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ host club ชมรมสุดเว่อร์ของโรงเรียน แถมยังซุ่มซ่ามไปทำแจกันราคา 8 ล้านเยนแตก รุ่นพี่ที่ชมรมจึงบังคับให้ฮารุฮิทำงานชดใช้  ฮารุฮิถูกจับแปลงโฉมเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวยกลายเป็นหนึ่งใน Host ของชมรมที่รวบรวมสุดยอดหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของโรงเรียน       ฮารุฮิรู้ตัวว่าชอบทามากิ แต่ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าเพราะทามากิมีปมในจิตใจเรื่องครอบครัว สิ่งใดก็ตามที่อาจทำลายครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น เจ้าตัวจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ ครอบครัวของทามากิหมายรวมสมาชิกชมรมโฮสท์คลับด้วย ฮิคารุจึงตัดสินใจบอกรักฮารุฮิ ซึ่งเป็นการทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่ก็อยากช่วยกระตุ้นให้ทามากิทำความเข้าใจความรู้สึกของตัว

ปฐพีไร้พ่าย

    ชื่อเรื่อง ปฐพีไร้พ่าย เขียน Jiulufeixiang แปล Hongsamut จำนวนหน้า 865 สำนักพิมพ์ Hongsamut version Meb E book อ่านจบ 19 มีนาคม 2561 เรื่องย่อ      สิงอวิ๋นซื้อไก่ที่โดนถอนขนจนเหี้ยนผอมแห้งแรงน้อยมาจากตลาด ไก่ตัวนั้นคือ เสิ่นหลี อ๋องปี้ชางแห่งแดนอสูร นางหนีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และพลาดท่าถูกกองทัพที่มาเชิญนางกลับแดนอสูรตามบัญชาของจอมอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บ สิงอวิ๋นให้นางกินหมั่นโถวเป็นอาหาร จับเจ้าไก่ไร้ขนอาบน้ำ แถมยังใช้ให้เฝ้าบ้านเหมือนแกล้งกัน เพราะเขารู้ว่าไก่ตัวนี้ไม่ใช้ไก่ธรรมดา เสิ่นหลีจึงพยายามหนีจากเขาทันทีที่ร่างกายแข็งแรงพอแต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะโดนจับลงหม้อเป็นไก่ตุ๋น สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรัง และเพราะสิ่งอวิ๋นอยากจะซื้อเนื้อให้เจ้าไก่โง่ของเขากิน ถึงได้เผยความสามารถที่ปกปิดมาตลอดจนผู้อื่นเข้าใจว่าเขาเป็นเทพพยากรณ์จนเรื่องราวเลยเถิดกลายเป็นความขัดแย้งกับองค์รัชทายาท เสิ่นหลีปกป้องชายหนุ่มไว้ได้ก็จริง แต่เมื่อบ้านที่สงบสุขถูกเผาจนวอด แค้นนี้ต้องชำระ สิงอวิ๋นจึงเสนอความช่วยเหลืออ๋องยุ๋ย โอรสที่เกิดจากพระสนมให้ชิงตำแหน่งรัชทายาท เสิ่นหลีใจจริงไม

ยามเมื่อลมพัดหวน

  ชื่อเรื่อง ยามเมื่อลมพัดหวน เขียน วาณิช จรุงกิจอนันต์ จำนวนหน้า 188 สำนักพิมพ์ บูรพาสาส์น (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2536)     เรื่องย่อ      การบูรเหมือนนกในกรงทองของพ่อกับแม่ ผิดกับน้องชายที่ได้ไปเรียนถึงประเทศอังกฤษ แต่ละวันการบูรต้องปวดหัวกับการรับมือผู้ชายที่เข้ามาติดพัน ซึ่งแต่ละคนต่างมีพ่อกับแม่ของเธอคอยถือหางทำให้การบูรไม่สามารถตัดรอนได้ เมื่อความเครียดสะสมมากเข้าหญิงสาวจึงขออนุญาตพ่อและแม่ไปหาน้องชายที่อังกฤษ วันที่การบูรไปถึงพาทีประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาหัก ชงจึงอาสาไปรับการบูรให้ แต่พาทีเห็นชงเป็นคนเนื้อหอม เลยโกหกว่าการบูรแต่งงานแล้ว มีลูกสาว 1 คน และเขียนจดหมายฝากชงไปเตี้ยมกับการบูร โดนใส่ไฟว่าชงเป็นเสือผู้หญิง ให้การบูรระวังตัว ชงพาการบูรมาพักที่บ้านพี่อ้วน พี่แสด รุ่นพี่ที่ปารีสซึ่งคุ้นเคยกัน ชงพาการบูรเที่ยวปารีส ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน การบูรเห็นว่าชงออกจะสุภาพไม่เหมือนกับที่น้องชายบอกมาในจดหมาย ยิ่งเขาเจ็บตัวเพราะช่วยตามโจรวิ่งราวการบูรจึงหายกลัวชายหนุ่ม ชงเองก็เริ่มหวั่นไหวกับการบูรแบบที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนไหน จนเล่าเรื่องรักครั้งแรกที่ทำให้เ