plot
เมื่อ 200 ปีก่อน ตระกูบที่มีชื่อเสียง 3 ตระกูล ไอซ์เบิร์น มากิริ โทซากะ ทำการอัญเชิญจอกศักดิ์สิทธิ์ซึ่งว่ากันว่าพลังของจอกจะทำให้ความปรารถนาเป็นจริง เพียงแต่จอกจะตอบรับคำวิงวอนเพียงข้อเดียว สงครามจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุก 60 ปี จอกศักดิ์สิทธิ์จะเกิดปรากฎขึ้นที่เมืองฟุยุกิ 7 นักเวทที่จอกเลือก จะอัญเชิญวิญญาณวีรชนในอดีตมาเป็นข้ารับใช้ เข้าต่อสู้กันด้วยอาวุธวิเศษ เพื่อหาผู้ชนะเพียง 1 เดียว
สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 เปิดฉากขึ้นเมื่อวิญญาณวีรชนดวงที่ 7 ปรากฎ คิเรย์ส่ง assasin ไปโจมตี โทคิโอมิ แต่assasin กลับถูกทำลาย คิเรย์จึงไปขอความคุ้มครองจากตุลาการตามแผนที่วางไว้ แต่แท้จริงแล้วคิเรย์ยังควบคุมกองกำลัง assasin ซึ่งเป็นกลุ่มวิญญาณมืดคอยสืบความเป็นไปต่างๆ เพื่อรอดำเนินการตามแผนที่ได้ตกลงไว้กับโทคิโอมิ
การประมือซึ่งหน้านัดแรกเริ่มขึ้นเมื่อ saber รับคำท้าของ lancer ในศึกนี้ไอริแสดงตัวว่าเป็น master ของ saber เพื่อให้คิริสุงุเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังตามวิธีของเขาได้สะดวก เหล่าวิญญาณวีรชนมารวมตัวกันในสถานที่แห่งนั้นก่อนที่จะวงแตกเมื่อ berserker ปรากฏตัว
caster เข้าใจว่า saber เป็นหญิงสาวของพระเจ้าของเขา แต่เมื่อ saber ปฏิเสธ caster ซึ่งผิดหวังอย่างที่สุดกลับไปพยายามทำความชั่วเพื่อพิสูจน์ว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีการสงทัณฑ์จากพระเจ้าให้มากขึ้น โดยการลักพาตัวเด็กมาฆ่าจำนวนมาก การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎและยังเสี่ยงที่จะทำให้การคงอยู่ของเวทมนต์ถูกเปิดเผย ผู้คุมกฎจึงมีคำสั่งให้ยุติการต่อสู้ไว้ก่อน และพุ่งเป้าไปที่การกำจัด caster คนที่สามารถทำได้สำเร็จจะได้รับมนตราประกาศิตที่ใช้ควบคุมวิญญาณวีรชนเพิ่มเติมเป็นรางวัล
caster บุกมาที่ปราสาทไอซเบิร์น saber ออกไปจัดการโดยมี lancer มาร่วมวงด้วย ระหว่างนั้นเคย์เนธก็บุกเข้าไปที่ปราสาทเพื่อตัดสินกับคิริสุงุ caster หนีไปได้ ส่วนเคย์เนธถูกอาวุธไม้ตายของคิริสุงุเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส ภรรยาของเคย์เนธถือโอกาสที่สามีเจ็บจนขยับไม่ได้บังคับให้สามีโอนมนตราประกาศิตมาให้เธอ คิเรย์ทุ่มกองกำลัง assasin ทั้งหมดเพื่อหาข้อมูลอาวุธวิเศษของ rider แต่ถึงอย่างนั้นคิเรย์กลับถูกจอกเลือกอีกครั้ง caster อัญเชิญอสูรขนาดใหญ่กลางแม่น้ำมิอง servant ทุกคนจึงร่วมมือกันจัดการเพื่อไม่ให้สงครามจอกครั้งนี้ต้องยุติลง โดย rider เป็นแนวหน้าคอยโจมตี saber คอยสะกัดจากบนผิวน้ำไม่ให้เข้าฝั่ง lancer รอจังหวะใช้หอกทะลวงเพื่อทำลายอาวุธวิเศษ แต่เพราะสัตว์อสูรของ caster สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วจึงต้องมีการปรับแผนใหม่โดย rider จะลากมันเข้าไปในเขตอาคมเสมือน ionion hetairoi คิริสุงุจะให้สัญญาณปล่อยสัตว์อสูรลงไปในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ saber ใช้อาวุธสุดยอดทำลายให้เป็นผุยผงในครั้งเดียว
คู่หมั้นของเคย์เนธถูกคิริสุงุจับตัวไปเพื่อใช้เป็นข้อต่อรองบังคับให้เคย์เนธลงชื่อในหนังสือสัญญาสาปตนของคิริสุงุ ชีวิตของทั้งสองแลกกับการที่เคย์เนธใช้มนตราประกาศิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดสั่งให้ lancer ฆ่าตัวตาย ส่วยคิเรย์ที่ถูกกิกาเมซเสี้ยมจนตาสว่างฆ่าโทคิโอมิเพื่อชิงกิกาเมซมาเป็น servent ของตัวเอง คิเรย์ร่วมมือกับคาริยะสั่งให้ berserker ปลอมตัวเป็น rider ไปลักพาตัวไอริสฟิล saber ไล่กวดตามไปจ๊ะเอ๋กับ rider ตัวจริงทั้งสองต่อสู้กันจนเป็นเหตุให้ rider เสียรถม้าไป
คิเรย์ส่งสัญญาณท้าทายเพื่อล่อให้ทุกคนมารวมตัวกันในศึกตัดสินครั้งสุดท้าย กิลกาเมซเอาชนะไรเดอร์ได้อย่างราบคาบ ก่อนที่จะถอยไปรอรับมือเซเบอร์ที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับ berserker คิริสุงุเอาชนะคิเรย์ในการต่อสู้ตัวต่อตัว เขาเป็นผู้ชนะในสงครามศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับจอก คิริสุงุต้องพบกับความจริงอันแสนเจ็บปวดว่า จอกศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถบันดาลในสิ่งที่ผู้ขอไม่รู้วิธีทำให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องแลกมากับโลกที่ไม่มีสงครามของคิริสุงุคือชีวิตของคน 6 พันล้านคนบนโลก คิรุสุงุปฏิเสธจอก เขาใช้มนตราประกาศิตสองอันสุดท้ายสั่งให้เซเบอร์ใช้อาวุธวิเศษทำลายจอกศักดิ์สิทธิ์เสีย ผลจากการทำลายจอก พลังที่คลุ้มคลั่งเลือกที่จะทำตามความต้องการในส่วนลึกของคิเรย์ เป็นเหตุให้เกิดการระเบิดใหญ่ในเมืองฟุยุกิ คิริสุงุที่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างเต็มความสามารถ เขาพบผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือชิโร่
charecter
เอมิยะ คิริสุงุ : อดีตนักฆ่าจอมเวทซึ่งใช้ทุกวิธีไม่เลือกเพื่อทำให้สำเร็จ เข้าตระกูลไอซเบิร์นซึ่งเป็นตระกูลที่อุทิศให้การเล่นแร่แปรธาตุ ภรรยาชื่อ ไอริ มีลูกสาว 1 คนชื่อ อิริยา จุดมุ่งหมายของเขา คือ อยากช่วยโลก อาวุธของเขาคือกระสุนที่ผสมกระดูกซี่โครงซึ่งสามารถทำลายวงจรเวทของจอมเวย์ได้
อาเธอร์เรีย แพนดรากอน : class saber ราชาอัศวินแห่งพื้นพิภพ ผู้สืบสายเลือด อาเธอร์ แพนดรากอน จักรพรรดิแห่งบริเทน ผู้ปกป้องบริเทน อาวุธวิเศษของเธอ คือ ดาบเอ็กคาลิเบอร์ และมีความสามารถในการต่อต้ายเวทมนตร์ เข้าร่วมสงครามเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของบริเทนที่ต้องล่มสลาย
โคโตมิเนะ คิเรย์ : ลูกชายของตุลาการในศึกครั้งนี้ สมาชิกสัตยธิฐานที่แปด เขาได้รับคำสั่งลับจากทางโบสถ์ให้ร่วมมือกับโทคิโอมิ โดยเบื้องหน้าต้องทำเหมือนเป็นศัตรูกัน เขาจึงย้ายจากศาสนจักรมาเป็นลูกศิษย์ของโทคิโอมิ เขาเป็นนักฆ่าจอมเวทที่มีฝีมือสูง
โทซากะ โทคิโอมิ : ผู้นำตระกูลโทซากะ จอมเวทธาตุไฟ ถนันการใช้อัญมณี มีลูกสาวสองคน คือ ริน และ ซากุระ จุดมุ่งหมายของเขาคือการไปถึงรากเหง้าของสรรพสิ่ง ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของจอมเวทย์
กิลกาเมซ : class archer ราชาผู้ถือคติว่า ทุกสรรพสิ่งที่มีค่าในโลกต้องเป็นของเขา เข้าร่วมสงครามเพราะหวงสมบัติ
มาโตอุ คาริยะ : ลูกชายคนรองของเจ้าบ้านมาโตอุ ตัดขาดจากโลกของจอมเวทไปแล้ว แต่ยังสนิมสนมกับภรรยาและลูกของโทคิโอมิ เพราะหลงรักภรรยาของโทคิโอมิ เพื่อช่วยซากุระ เขายอมเสียสละตัวเองกลับไปขอร้องให้พ่อปลูกถ่ายตัวอ่อนแมลงเพื่อให้มีพลังเพียงพอ เขามีเวลาเพียง 1 เดือนในการเอาชนะทุกคน
เคย์เนธ เอลเมลอย อาร์ชิโบลด์ : ลูกชายคนโตของตระกูลอาร์ชิโบลด์ ผู้นำตระกูลจอมเวทรุ่นที่ 9 ตำแหน่งสูงสุดของสมาคมจอมเวทลอนดอน เชี่ยวชาญเวทลมและน้ำ อาวุธประจำการของเขามีชื่อว่า volumen hydragram
เดร์มุด โอ เดนา : อัศวินอันดับ 1 ของเฟียนน่า ผู้มีมนตราเสน่หาติดตัวมาตั้งแต่เกิด อาวุธวิเศษชองเขาคือ หอกคู่ หอกยาวสีแดงเกเดียร์ สามารถต้านเวทมนตร์ได้ หอกสั้นสีทอง เก โบลด์ มีคำสาปที่ทำให้แผลไม่สามารถรักษาให้หายได้ เขาพยายามเดินไปบนเส้นทางแห่งความภักดีที่เคยปฏิเสธไปในอดีต
เว เวอร์ เวลเว็ต : นักเรียนของเคย์เนธ เพราะถูกดูถูกที่ตระกูลสืบสาบเลือดจอมเวทมาแค่ 3 รุ่น เข้าร่วมเพราะอยากให้คนอื่นยอมรับ
อิสคานดาร์ : class rider ราชาผู้พิชิตซึ่งสละชีวิตปกป้องมาเซโดเนียและเปอร์เซีย อาวุธวิเศษของเขาคือ รถม้าซึ่งราชากอร์เดียสสร้างเพื่อมอบให้ซีอุส และเขตอาคมเสมือนที่มีชื่อว่า ionion hetairoi คติประจำใจคือ อาหาร เซ็กซ์ นอน และสงคราม ไม่ว่าจะอย่างไหนก็ต้องทำให้เต็มที่ เข้าร่วมสงครามเพราะอยากเกิดใหม่
อุริว ริวโนสุเกะ : เด็กหนุ่มผู้หลงใหลการฆ่า โดยเฉพาะกับเด็กๆ
จิล เดอ เรส์ : class caster เข้าใจผิดคิดว่า saber เป็น ฌอง ดาร์ค หญิงสาวของพระเจ้า
episode list
01 การอัญเชิญวีรชน |
02 จุดเริ่มต้นอันโป้ปด |
03 เมืองฟุยุกิ |
04 คมหอกของปิศาจ |
05 เสียงคำรามของอสูรคลั่ง |
06 ค่ำคืนแห่งกลอุบาย |
07 ผืนป่าปิศาจ |
08 นักฆ่าจอมเวทย์ |
09 นายเหนือหัวกับบ่าวรับใช้ |
10 การผจญภัยของริน |
11 ปุจฉาวิสัชนาประสาจอก |
12 การเชื้อเชิญของจอก |
13 งานฉลองต้องห้าม |
14 ศึกนองเลือดที่แม้น้ำมิอง |
15 ประกายแสงสีทอง |
16 ปลายทางแห่งเกียรติยศ |
17 พันธสัญญาที่ 8 |
18 ความทรงจำที่แสนห่างไกล |
19 ที่แห่งคุณธรรม |
20 การกลับมาของมือสังหาร |
21 ราชาล้อเกวียน |
22 ความชั่วร้ายทั้งปวงบนโลกใบนี้ |
23 ทะเลที่สุดขอบโลก |
24 มนตราประกาศิตเส้นสุดท้าย |
25 Fate/Zero |
ขอบคุณ Chocosundae&NMT @tirkx.com สำหรับ sub ดีๆค่ะ
log
แซวตัวละคร
ริวโนะสุเกะ
ไอ้โรคจิต แกนี่บ้าบริสุทธิ์จริงๆ จะตายอยู่แล้วยังมีอารมณ์ทำตาวิบวับชื่นชมสีเลือด สีเครื่องในตัวเองอยู่ได้ โรคจิตขนาดนี้ไม่ต้องจับเด็กไปฆาตกรรมหรอก แกไปเป็นพนักงานผ่าศพก็ได้ ได้อรรถรสไม่ต่างกัน
lancer
ภาคนี้ชื่อเดอมุดค่ะ เป็นแนวหน้าเปิดศึกเหมือนภาค stay night เลย แต่รู้สึกคนนี้จะอัฟเกรดเรื่องความเท่ห์เพิ่งขึ้นมา ตอนช่วย saber จาก berserker นี่สุดๆอ่ะ แต่ lancer มักได้ฉายาว่า luk E ต้องดูว่าจุดจบของเขาภาคนี้จะเป็นยังไง
และแล้วเรื่องซวยของ lancer ก็เริ่มโผล่ในตอนที่ 6 เมื่อโซรา เมียเจ้านายทำท่าหลงเสน่ห์เข้าให้ ออกโรงปกป้องออกนอกหน้ามาก ซึ่งอาจเป็นผลมาจากมนต์ไฝเสน่ห์ที่ติดตัวแกมาตั้งแต่เกิด ณ วินาทีนั้นเราเสนอให้พี่แกตัดไฝให้รู้แล้วรู้รอด ยิ่งมาถึงตอน 9 ที่แสดงให้เห็นว่าคำสาปของพี่แกแรงขนาดทำให้เมียหักนิ้วสามีทีละนิ้วเพื่อแย่งมนตราประกาศิตมาเป็นของตัว และสุดท้ายกับการจบชีวิตด้วยการโดนบังคับให้ฆ่าตัวตาย น่าสงสารเสียนี่กระไร เชื่อแล้วว่าพี่แกเหมาะกับฉายา luck E จริงๆ
ตอนที่ 7 ที่หมอนี่มาช่วย saber สู้กับ caster แล้วเหมาะดีเหมือนกัน ชักอยากอวยคู่นี้ขึ้นมาตะหงิดๆ ยิ่งตอนแกหักหอกสีทองเพื่อปลดพันธนาการให้ saber นี่โครตเท่อ่ะ ณ จุดนี้อยากติดต่อให้นายไปเล่นเป็นพระรองละครเกาหลีมาก ตรงตาม conceptเป๊ะ หล่อ แสนดี แต่นางเอกไม่รัก…
โทคิโอมิ – เอิ่ม หนูเข้าใจนะคะว่าป๋าน่าจะเทพ แต่วันๆหนูเห็นป๋าไม่ทำอะไรนอกจากนั้งจุ๋งจิ๋งกับคิเรย์ผ่านทางเครื่องเล่นแผ่นเสียง กัยโอ๋เกรียนตู้ทอง และสุดท้ายก็เดี้ยงง่ายๆด้วยฝีมือลูกศิษย์ทรยศ เฮ้อ เสียของจริงๆ แต่อย่างน้อยสีหน้าตอนป๋าตายนี่ เหนือคำบรรยายจริงๆ
คาริยะ - บ้านนายนี่โหดได้อีกนะ โดยเฉพาะเจ้าคุณพ่อ เอาเด็กผู้หญิงอายุไม่กี่ขวบโยนลงบ่อแมลงได้นี่ไม่รู้หัวใจทำด้วยอะไร แต่การที่นายสามารถเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อลูกสาวของผู้หญิงที่ตัวเองรัก(แถมเขาไปแต่งกับคนอื่น)ได้นี่ ต้องถือว่าโครตเป็นคนดีเลยน่าเอาไปรับจ๊อบเป็นพระรองละครเกาหลี แต่พอดูตอนที่ 21 ก็เปลี่ยนทัศนคติจากชื่นชมเป็น สมเพชแทน การฆ่าสามี/พ่อของลูก ไม่ว่าในกรณีไหน คงไม่มีภรรยาคนไหนปรบมือสรรเสริญหรอก สุดท้ายแล้วอาโออิก็ต้องเกลียดคาริยะอยู่ดี เพราะฉะนั้นปฏิกริยาของอาโออินี่เป็นเรื่องปกติมาก การที่คาริยะใช้วิธีทำร้ายร่างกาย แทนที่จะเดินหนีไปนี่แสดงให้เห็นชัดๆเลยว่าที่แกทำไปทั้งหมด เป็นความดีแบบหวังผล แถมแกยังเชื่อจริงจังว่าอาโออิจะเห็นดีเห็นงามด้วย ประมาณว่าถึงฉันจะต้องตายหลังสงครามจบ แต่เธอห็ต้องรักต้องอาลัยฉัน เฮ้อ ไม่รู้เอาอะไรคิด นี่แหละ ไอ้บ้าโรคจิตอย่างคิเรย์ถึงได้สนใจ การที่วิมานในอากาศของคนที่เหมือนเป็นคนดี เป็นผู้เสียสละทลายลงมา คงไปสนองต่อมความบันเทิงแบบจิตๆของพี่แกได้
อิสคานดาร์ - เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะรู้สึกอยากชาบูตัวละครที่เป็นนักกล้ามบ้าพลังอย่างลุงกับเค้าได้ แต่ลุงทำให้หนูแหกกฎตัวเองค่ะ นอกจากความเป็นคนที่โครตใจกว้างแล้ว อาจเป็นเพราะนิสัยรักการอ่าน(ซึ่งไม่เข้ากับหุ่น) กับภารกิจในการสั่งสอนมาสเตอร์ของตัวเองให้เป็นลูกผู้ชายที่สุดแสนจะฮาเฮ ทำให้เกิดความรู้สึกอยากได้พี่ชายนิสัยเหมือนอีตาลุงคนนี้สักคน ตอนที่ 7 พี่แกมีการสั่งของทางไปรษณีย์มาส่งที่บ้านด้วย แถมมีติดสินบนว่าถ้ากำจัด caster ได้จะซื้อกางเกงให้ ป๋าแกจะได้ออกไปเดินร่อนได้ เฮ้อ ไม่รู้คู่นี้จะฮาไปไหน
เวเวอร์ - หลังจากต้องสวมบทเป็นตัวโจ๊กมาตั้งแต่ต้นเรื่องเพื่อไม่ให้แฟนๆปวดตับกันจนเกินไป แต่เมื่อถึงเวลาเวเวอร์ก็เท่ห์ได้เหมือนกัน ตอน 22 หลังจากที่เวเวอร์ใช้มนตราประกาศิตไปจนหมดแต่อิสคานดาร์ก็ยังบอกว่าเค้าเป็นสหายจนน้ำตาไหลพราก แค่ฉากนี้ฉากเดียวแม่ยกสาย Y ของคู่นี้คงเอาไปจิ้นต่อได้ 3 วัน 3 คืน แต่สุดท้ายก็ไม่ทิ้งลายตัวตบมุก ฉากที่คว้่ผ้าคลุมของอิสคานดาร์มาสั่งขี้มูกจนหน้าแดงนี่อย่างฮา ตอนท้ายๆของตอนที่ 23 ที่ rider ถามว่าจะยอมเป็นผู้รับใช้ไหมเป็นอีกหนึ่งฉากประทับใจขนาดป๋าเกรียนอย่างกิลยังเอ่ยปากชม เป็นหลักฐานว่าหนูน้อยขี้แยอย่างเวเวอร์โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ
คิริซึงุ - ภาพเวลาอยู่กับลูกสาวกับสรรพคุณของนายที่บรรดาคู่แข่งบรรยายช่างต่างกันราวฟ้ากับขุมนรก แต่สีหน้าอ่อนโยนตอนอยู่กับครอบครัว บวกกับบุคลิกหล่อ เซอร์ก็ชวนให้แฟนคลับสาวๆ(รวมเราด้วย)ยกธง ทำป้ายไฟเชียร์พี่แกได้ไม่ยาก ตอนที่ 7 ที่แกชวนเมียหนีนี่โครตน่ารักเลยอ่ะ ส่วนตอนที่ 24 รู้ความจริงว่าจอกไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ในสิ่งที่เขาต้องการได้นี่น่าสงสารจริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ตบหน้าตรรกกะแบบมนุษย์โลกสวยของคิริสุงุได้สุดยอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตรรกะตาชั่งเลือกคนส่วนมาก กับการประทานพรของจาก ที่ว่า “ถ้าคนขอไม่รู้วิธีก็ทำไม่ได้ จะทำให้เป็นจริงด้วยวิธีที่รู้จักเท่านั้น” ซึ่งผลก็คือตายกันหมดโลก แต่ตอนป๋าใช้มนตราประกาศิตให้เซเบอร์ทำลายจอกนี่เท่ห์ที่สุดตั้งแต่ดูมาเลยทีเดียว
กิลกาเมซ - ฉายานายคือ ราชันราชาไม่ใช่เรอะ ไงพอตัวจริงออกมากลายเป็นไอ้หนุ่มเกรียน(โครต)คลั่งสมบัติไปได้ฟะ(เรียบร้อยอย่าง saber ยังด่าว่าวิปริต) ยกฉายา เกรียนตู้ทองให้นายไปเลย ตอน 6 ป๋ากิลก็เผยให้เห็นด้านอื่นๆนอกจากความเกรียน คือพอแกเห็นคิเรย์ทำหน้าไร้อารมณ์ไปวันๆก็นึกสนุก สละเวลามาสอนคิเรย์หาความสำราญใส่ตัวเสียบ้าง อารมณ์ประมาณพี่ชายที่ไปเห็นโลกกว้างมาแล้วสั่งสอนน้องชายที่วันๆเอาแต่จมอยู่กับตำรา ผลของคำสอนแกก็ออกมาเลิศซะด้วย ตรงที่ทำให้คิเรย์ค้นพบความโรคจิตที่ซ่อนอยู่ในตัวเองจนเป็นผลทำให้ตัวละครในเรื่องปวดตับกันทั่วหน้า ตอนที่ 11 หลังจากได้ก๊งเหล้ากันครั้งนึง เกรียนตู้ทองก็เกิดปิ๊ง saber ขึ้นมา มีที่ท่า อยากที่จะเอานางไปเก็บไว้ในฮาเร็ม ณ จุดนี้คนดูเกิดจินตนาการแปลกประหลาด อยากเห็น archer ชนะสงครามจอก อยากรู้ว่าจะเอาจริงเรื่อง saber ไหม ตอนที่ 15 ระหว่างชุลมุนที่ข้างแม่น้ำริอง ยังยอมสละสมบัติตั้งหลายชิ้นช่วย saber ท่าทางนายจะเอาจริงสินะ ตอนที่ 24 และแล้วพี่แกก็เอาจริงเรื่องเซเบอร์เว้ยเฮ้ย แกขอเซเบอร์แต่งงานว่ะ แถมพอสาวเจ้าไม่ยอมยังมีหน้าเอามีดจิ้มเขาอีกต่างหาก เป็นตรูก็ไม่แต่ง ตราบใดที่ป๋าแกยังเกรียนได้โล่ขนาดนี้ แต่จะว่าไปคู่นี้เหมาะะที่จะเอามาเขียน fic สาวซื่อปราบหนุ่มเกรียนมากๆ คันไม้คันมือจริงๆ
saber - ภาคนี้เซเบอร์มี service ใส่สูทอย่างเท่ห์รับบทเป็นบอดีการ์ดให้ภรรยาคิริซึงุซะด้วย กลิ่นยูรินี่ลอยอบอวลไปหมด ในตอนที่ 11 เห็นด้วยกับปรัชญาการเป็นกษัตริย์ของเธอนะ แต่ติดอยู่นิดเดียวที่ขอเถียง คือ กษัตริย์แบบที่เธอเป็นไม่จำเป็นต้องเดียวดาย เมื่อก่อนตอนดูภาค stay/night ไม่ให้รู้สึกเลยว่าเซเบอร์เคยชนะสงครามจอกมาก่อน แต่พอตอนที่ 21 ที่เธอไล่กวดรถม้าของ rider เท่ห์มาก ค่อยสมเป็นผู้ชนะหน่อย
คิเรย์ - และแล้วแกก็เผยความโรคจิตที่มีอยู่ในตัวออกมา พอเจ้าพระคุณอัดไมยะแบบไม่เลี้ยง แถมแทงไอริสามรูรวด เพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงพวกนี้จะปกป้องคิริสุงุด้วยความคิดของตัวเอง ขี้ตู่ว่าเขาเป็นเหมือนตัวเอง ไอ้เด็กขี้อิจฉาเอ๊ย ฉากที่โดนเมินจนนาทีสุดท้ายในตอนที่ 25 นี่สะใจเจ๊จริงๆให้ดิ้นตาย
คำพูดของตัวละครที่ชอบ
saber
- กษัตริย์ย่อมอุทิศชีวิตเพื่อบ้านเมือง การดูแลอย่างถูกต้อง และการปกครองอย่างเที่ยงธรรมนั่นคือความต้องการของกษัตริย์ กษัตริย์คือผู้ที่สละชีพเพื่ออุดมคติ หมดสิทธิ์ใช้ชีวิตแบบสามัญชน
- หากเจ้าทำความชั่วเพราะเกลียดชังความชั่ว ความโกรธ ความเกลียดก็จะยิ่งกำเนิดการต่อสู้ครั้งใหม่อีก ข้าไม่รู้ว่าอะไรเคยทรยศเจ้า หรือเจ้าเคยสิ้นหวังเรื่องใด แต่ความเกลียดชังความเศร้าโศกนั้นเป็นสิ่งที่พบได้ในผู้แสวงหาความเที่ยงธรรมเท่านั้น
rider
- การมีชัยโดยไม่ต้องทำลายเพื่อชนะ ไม่ใช่เพื่อขายหน้า นั่นคือชัยชนะที่แท้จริง
- กษัตริย์ไม่ต้องอุทิศสิ่งใด หากแต่เป็นแผ่นดินและมวลชนต่างหากที่จะสละเพื่อกษัตริย์ กษัตริย์จะต้องมีความปรารถนามากกว่าใคร หัวเราะดังกว่าใคร และโกรธแค้นยิ่งกว่าใคร เป็นสิ่งที่รวมไว้ซึ่งความดีสุดขั้ว และความชั่วสุดขีด นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผู้ติดตามอิจฉาและหลงใหล กษัตริย์เป็นผู้ที่อยู่อย่างเจิดจ้ากว่าใครทั้งปวง และเป็นตัวตนที่น่านับถือของเหล่าประชาชน เป็นผู้ที่เหล่าวีรชนต้องอิจฉาและชี้ทางให้กับพวกเขาเยี่ยงกษัตริย์ กษัตริย์คือผู้ไม่เดียวดาย สิ่งใดที่ปรารถนาก็คือสิ่งเดียวกับที่ทุกคนปรารถนา
- ไม่ต้องรีบร้อนไป ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์เป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตเจ้าสักหน่อย สักวันถ้าเจ้าได้พบหนทางที่ทำให้เจ้าภูมิใจในชีวิตได้ ในตอนนั้นเจ้าจะเข้าสู่การต่อสู้เอง ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม เจ้าน่าจะสามารถหาสมรภูมิของตัวเองได้นะ
archer
- เดินไปตามเส้นทางที่เจ้าเชื่อมั่น ความทรมานและความขัดแย้งของผู้คนที่เจ้าแบกรับไว้ หรือภาระแห่งราชาไม่ว่าอันไหนมันก็หนักทั้งนั้น (บระเจ้า เกรียนตัวพ่ออย่างนายพูดแบบนี้เป็นด้วย)
ริวโนะสุเกะ
- โลกที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจเช่นนี้ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องบังเอิญหรอก หากได้ลองสนุกจริงๆจังๆสักรอบมันก็ไม่มีอะไรที่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ไปกว่าโลกใบนี้อีกแล้ว มันต้องมีเอ็นเตอร์เทนเนอร์ที่แต่งฟิกของคนห้าพันล้านคนอยู่แน่ ถ้าพูดถึงคนที่ทำอย่างนี้ได้ละก็ มันก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละ!
คิริสุงุ
- อัศวินน่ะช่วยโลกไม่ได้หรอก พวกนั้นถูกฝังหัวมาว่าอะไรดีอะไรชั่วในการต่อสู้ และในสมรภูมิก็ทำตัวสูงส่งมากมาย วีรชนเหล่านั้นถูกมอมเมาด้วยภาพลวงอย่างนั้น ทำให้ลูกหลานนับไม่ถ้วนต้องหลั่งเลือดล้มตายเพียงเพราะเกียรติยศ ชื่อเสียงอะไรนั่น
- วิญญาณวีรชนของเราคนนี้คิดว่าสมรภูมิย่อมดีกว่านรก ล้อเล่นรึไง นั่นแหละนรกของจริง ในสงครามย่อมไร้ซึ่งความหวัง มีแต่เพียงความสิ้นหวังเกินบรรยาย อาชญากรรมที่เรียกว่าชัยชนะ แลกมาด้วยความเจ็บปวดของผู้แพ้ แต่แล้วมนุษย์ก็ไม่เคยตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ไม่ว่ายุคไหนๆเหล่าวีรชนก็จะเปล่งประกายปิดหูปิดตาผู้คนให้หลงใหลด้วยตำนานทั้งหลาย และไม่ให้เห็นตนในคราบปิศาจกระหายเลือด ธาตุแท้ของมนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนไปจากก่อนยุคหินเลยสักนิด
ฉากประทับใจ
แสงสีทองที่มารวมกันที่ดายเอ็กคาลิเบอร์ในตอนที่ 15 สวยจริงๆ
“ความฝันของเหล่านักรบในสมรภูมิทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อให้รำลึกถึงความโศกเศร้าและความฝันอันยิ่งใหญ่ แบกความประสงค์ของผู้วายชนม์มาสู่ความภาคภูมิ และบรรลุถึงความซื่อสัตย์นั้นอย่างถูกต้อง บัดนี้ราชาไร้พ่ายกำลังขนานนามแห่งปาฏิหาริย์ในมือให้ดังก้อง”
ฉากที่คุณตาเรียกเวเวอร์ขึ้นมานั่งที่ชานบนหลังคาด้วยกัน ทั้งๆที่คุณตารู้ตัวแล้วว่า เวเวอร์ไม่ใช่หลานชายจริงๆของพวกเขา แต่คุณตาก็ไม่ได้โกรธเกรี้ยวโกธา
“ก็นะ จริงๆก็ควรจะโกรธละมั้ง แต่ว่าพักนี้มาร์ธามักจะยิ้มดีใจอยู่ตลอดเลย ทั้งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้แท้ๆ ก็เลยต้องขอบคุณแกจริงๆน่ะนะ ทั้งที่ดูเหมือนว่าแกเข้ามาอยู่บ้านนี้ เพราะคิดจะทำอะไรไม่ดีๆกับพวกเราแท้ๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อยู่กับพวกเราแบบนี้ต่อไปอีกหน่อย”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่แกทำ มันสำคัญมากขนาดไหน หลังจากฉันใช้ชีวิตมายาวนานพอหันหลังกลับไป ก็รู้ว่าไม่มีอะไรเลยสักอย่างที่มีค่าจนต้องเอาชีวิตเข้าแลก”
ฉากการต่อสู้ระหว่างกิลกาเมซกับไรเดอร์ ให้ความรู้สึกถึงมิตรภาพและความยิ่งใหญ่ของคนเป็นราชา ฉากนี้ไม่รู้ป๋ากิลแกกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่า จู่ๆก็หายเกรียนเป็นปลิดทิ้ง เวลาพี่แกไม่เกรียนนี้โมเอะมาก
“พวกนายยี่เข้ากันได้จริงๆเหรอเนี่ย ข้าจะไม่เป็นมิตรกับเขาไม่ได้หรอก เขาอาจเป็นศัตรูคนสุดท้ายที่ข้าเผชิญก็ได้”
“เอาความฝันผูกไว้กับร่มธงของการพิชิต ขอสรรเสริญในความพยายามของเจ้า แต่เหล่าทหารเอ๋ย ไม่เข้าใจเลยหรือ ความฝันทั้งปวงนั้นเมื่อลืมตาตื่นก็จะเลือนลับไปสิ้น ถ้าเป็นเช่นนั้น การที่ข้ามายืนขวางเส้นทางของเจ้านั้นมันจึงเลี่ยงไม่ได้ ราชาผู้พิชิต จงดูบทสรุปความฝันอันไร้ที่สิ้นสุดของเจ้าให้ดี ข้อผู้นี้จะแสดงความจริงให้เจ้าได้เห็น”
“ด้วยเกียรติก้องไกลสู่ปลายฟ้า เพราะรู้ว่าไปไม่ถึงจึงท้าทาย เพื่อให้เห็นถึงการพิชิต และเพื่อการพิชิต เพื่อผู้ที่เฝ้ามองเบื้องหลังของข้า”
“ตื่นจากฝันแล้วรึยัง? ราชันผู้พิชิต มาประลองกับข้าอีกกี่ครั้งก็ตามแต่เจ้าปรารถนา ราชัยผู้พิชิต จนถึงจุดจบแห่งกาลเวลาโลกใบนี้คือสวนของข้า เพราะฉะนั้นข้าให้คำมั่น ว่าที่แห่งนี้เจ้าจะไม่เบื่อหน่ายมันเลย
ฉากต่อสู้ตัดสินระหว่างคิเรย์กับคิริสุงุ มันส์มากค่ะ พลิกมุมมองไปมาได้อย่างสนุกสนาน ลุ้นจริงๆว่าป๋าคิริสุงุจะเอาชนะไอ้โรคจิตจอมซาดิสม์ได้ยังไง ช๊อตที่ชอบที่สุดยกให้ตอนที่คิริสุงุเอาด้ามปืนตีแขนคิเรย์จนหัก โฮ้ย สะใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น