อาทิตย์ส่งเล่มวิทยานิพนธ์เป็นที่เรียบร้อย เลยมีอารมณ์ออกไปเที่ยววคลายเครียดกันค่ะ วันนี้เลยเกี่ยวก้อย roommate ไปเดินเที่ยวงาน BOI fair สักหน่อย ก็นะบรรยารายการโทรทัศน์ต่างๆเค้าเชิญชวนกันเหลือเกิน กว่าจะได้ออกเดินทางก็่บ่ายคล้อยค่ะ ไปเรือด่วนเจ้าพระยา แล้วต่อรถเมล์ฟรีจากท่าน้ำนนท์ แต่แม่เจ้ารถติดอะไรอย่างนี้ กว่าจะถึงงานปาเข้าไป 4 โมงเย็น ว่าแล้วมาเริ่มทัวร์กันเลยดีกว่าค่ะ
งานนี้ผู้ร่วมงานแต่ละบริษัท เค้ามีอาคารเป็นของตัวเองเรียกว่า pavillian เวลาเข้าชมแต่ละจุดกำหนดไว้ที่ประมาณ 20 นาทีค่ะ โดยสิ่งที่แต่ละ pavillion ต้องมีเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากันก็คือ ภาพยนตร์ จะเป็น 3มิติ 4 มิติ ก็ว่ากันไป เรามาเริ่มที่ paviilion แรก SCG ค่ะ ที่นี่มีจุดเด่นตรงบ้านทดสอบแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ อยากเล่นกันนั้นมาก เลยพากันเดินมาที่ pavillion นี้เป็นที่แรกค่ะ ที่นี่ก่อนเข้ามีแจกหมวกแจกสายรัดข้อมือเอาไว้ให้กด like กันด้วยค่ะ สองส่วนแรกของอาคารนี้เป็นห้องฉายภาพยนตร์ค่ะ ห้องแรกเป็นปู่หลานคุยกัน โดยจอใบไม้สองอันข้างล้างตรงที่ชิดกับจอใหญ่จะพลิกกลับด้านได้ อีกด้านเป็นรูปหน้าคนนูนออกมาค่ะ เวลาฉายภาพหน้าคนลงไปแล้วจะได้ดูมีมิติ แต่สำหรับเรา คิดว่ามันดูหลอนๆมากกว่าค่ะ สองคนนี้เค้าก็คุยกันเรื่องเมืองในอนาคต ส่วนห้องที่สองเป็นจอรอบทิศทางแบบ 4 มิติ เน้นเรื่องภัยพิบัติ เพลงประกอบของห้องนี้เร้าใจมาก หัวใจเต้นเต้นโครมครามตามเสียงเบสเลยค่ะ ไม่แนะนำสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องโรงหัวใจนะคะ ห้องสุดท้ายจะเป็นห้องแนะนำนวัฒกรรมต่างๆเพื่อให้มนุษย์เราใช้ชีวิตกันได้สบายขึ้นในสถานการณ์ภัยธรรมชาติแบบต่างๆ สำหรับห้องนี้เดินผ่านๆค่ะ ตรงไปรอขึ้นบ้านสั่นอย่างเดียว เค้าเลือกอาสาสมัครแค่ 10 คน แล้วก็สมหวังด้วยสิคะ
pavillion ที่สองชื่อว่า ศาลาศรัทธาศรมค่ะ เป็น pavillion ที่แสดงถึงพระอัจฉริยะภาะของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราชญ์แห่งน้ำ ที่ทรงเป็นความภูมิใจของพสกนิกรชาวไทย ห้องแรกเป็นการฉายภาพยนตร์รอบทิศทางเล่าเรื่องกำเนิดโลก น้ำ และสิ่งมีชีวิต เป็น animation ที่น่ารักมากเชียวค่ะ ห้องต่อไปก็เป็นการฉายยภาพรอบทิศทางเช่นกัน โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่บอลกลมกลางห้อง ห้องนี่จะเริ่มเกริ่นเรื่องปัญหาภัยธรรมชาติต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อนำเข้าสู่โครงการพระราชดำริต่างๆ ห้องที่ 3 เป็นห้องที่รวบรวมโครงการพระราชชดำนริต่างๆค่ะ เริ่มจากป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
ประโยชน์ของหญ้าแพรก เอ๊ย หญ้าแฝกค่ะ (ล้อนายกมากนจจะเรียกผิดเองซะแล้น) ฝนหลวง (กรี๊ด นายทิวเมฆจากนิยายทันที ไปกับลูกแก้วเข้าคู่กันพอดี) เกษตรทฤษฎีใหม่ ตอนแรกว่าจะเล่นอะไรเพลินๆ แต่พนักงานเค้าเร่งให้เราไปห้องฉายภาพยนตร์ห้องสุดท้ายเลยไม่ได้เล่นอะไรเท่าไหร่ แค่ถ่ายรูปก็จะหมดเวลาแล้วค่ะ
ปิดท้าย pavillion นี้ด้วยการวาดภาพด้วยทรายจากศิลปินระดับโลกชาวยูเครน ซีเนีย แชมป์ got talent ที่ใครเห็นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เทพ” ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นการวาดภาพด้วยทรายค่ะ สีหน้าต่างๆสื่ออารมณ์ได้ดีมาก เธอจะเขียนภาพแล้วลบบางส่วนเขียนภาพใหม่เพื่อให้เกิดเป็นเรื่องราว สำหรับตรงนี้รัวชัตเตอร์กันแทบไม่ทันค่ะ ค้างภาพเสร็จสัก 1 – 2 วินาทีก็ลบ
บริเวณด้านนอกจัดเป็นนิทรรศการเล็กๆเล่าเรื่องข้าวค่ะ มีปฏิมากรรมรูปเมล็ดข้าว(อันนี้เราชอบมาก) เอาอุปกรณ์ชาวนาต่างๆมาจัดแสดง ฮาสุดคงเป็นตาชั่งสำหรับเทียบเป็นมาตชั่งน้ำหนักแบบต่างๆ ซึ่งตัวเลขที่แสดงออกมาใหญ่มาก คุณสาวๆที่น้ำหนักไม่เป๊ะต้องทำใจก่อนขึ้นหน่อยนะคะ สำหรับศาลาศรัทธาศรมจะมีอีกอาคารหนึ่งติดกันที่ขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของโครงการในพระองค์ สำหรับวันนี้ขอหลีกเลี่ยงค่ะ ก็นะเห็นของกินโครงการหลวงทีไรตบะแตกทุกที ยิ่งวันนี้มีตังค์ติดมาคนละร้อยกว่าบาทเอง ไม่เหยียบเข้าไปเลยนี่แหละ ปลอดภัยที่สุด
และแล้วก็มาถึง pavillion สุดท้ายของวันนี้ thailana pavillian ค่ะ ห้องแรกมีกิจกรรมให้ทำค่ะ เหมือนเป็นการถ่ายรูปแล้วส่งเข้า mail ตัวเอง ตรงนี้เครื่องมันไม่ค่อยฟังคำสั่งเราค่ะ กว่าจะพิมพ์ กว่าจะลบได้แต่ละตัวเล่นเอาเหงื่อตก ท่าทางจจะเป็นคนที่ไม่ถูกโรคกับ touch screen เอาเสียเลย ห้องที่ 2 เราก็มาเจอกับคุณทองทศ หุ่นยนต์ที่สามารถจำหน้าคนได้ 10 หน้า อันนี้ไม่มีอะไรประทับใจ มาโอโหเอาห้องที่สามค่ะ สินค้าไทย แต่ละอย่างหรูเริ่ดอลังการ น่าเป็นเจ้าของมาก
ออกมาจาก paviilion สุดท้าย 5 โมงกว่า เดินมาถ่ายรูปไฟล์บังคับที่ป้ายหน้างาน เป็นอันเสร็จพิธี ต้องรีบควบรถเมล์กลับไปขึ้นเรือด่วนเที่ยวสุดท้ายให้ทัน ปิดท้ายด้วยโคมไฟสี รับเทศกาลรื่นเริงตรงท่าน้ำนนท์ก็แล้วกันนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น