ชื่อเรื่องภาษาไทย ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น เรื่อง และ ภาพ | วุ่นรักนักดนตรี Nodame cantabile Tomako Ninomiya |
อ่านถึง | 19 |
สำนักพิมพ์ | Nation edutainment |
ภาพยนตร์ | 2 ภาค |
เรื่องย่อ
จิอากิ ชินอิจิ นักเรียนดนตรีมากความสามารถ ฝีมืออย่างเขาควรจะได้ไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ดันกลัวเครื่องบิน กลัวทะเลเลยออกจากญี่ปุ่นไม่ได้ โนดะ เมกุมิ ผู้หญิงไม่เต็มบาท แต่ฝีมือเปียโนของเธอสามารถดึงดูดใจของผู้คนได้พักอยู่ข้างห้องของจิอากิ ช่วยให้ชายหนุ่มทะลายกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาเอง
จิอากิตัดสินใจเดินตามเส้นทางความฝันที่จะเป็นวาทยากร สบโอกาสที่ สเตรทเซอร์มัน วาทยากรดังเดินทางมาสอนที่มหาวิทยาลัย จิอากิจึงฝากตัวเป็นศิษย์ทำหน้าที่ควบคุมวง S ซึ่งสเตรทเซอร์มัน รวบรวมนักเรียนดนตรีซึ่งใคร ๆ ต่างเห็นว่าเป็นเด็กบ๊วย การแสดงประสบความสำเร็จ บวกกับชื่อเสียงที่เขาได้รับจากการแสดงเปียโนโซนาต้า กับ สเตรทเซอร์มัน ชินอิจิจึงตั้งวง R S ขึ้นโดยรวบรวมนักเรียนดนตรีที่มีความสามารถ
โนดาเมะช่วยรักษาโรคกลัวเครื่องบินของจิอากิได้สำเร็จ จิอากิจึงวางแผนที่จะไปตามฝันที่เมืองนอก ความสำเร็จของชินอิจิทำให้โนดะเมะที่อยากจะอยู่กับเขาฮึดเข้าแข่งขันเปียโนบ้าง ถึงจะไม่ได้ตำแหน่งชนะเลิศมาได้ แต่ฝีมือของเธอเข้าตาคณะกรรมการท่านหนึ่ง เขาช่วยแนะนำเธอให้ไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส
จิอากิเข้าแข่งขันชิงแชมป์วาทยากร และคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ จิอากิต้องติดตามสเตรทเซอร์มันไปแสดงยังที่ต่าง ๆ ส่วนโนดาเมะก็เริ่มเรียนเปียโนที่ก๊องเซวาตัวร์
จิอากิ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นวาทยากรประจำของวง รูมาเลย์ ที่มีประวัติยาวนาน แต่ตอนนี้วงกำลังตกต่ำเพราะขาดนักดนตรีฝีมือดี การแสดงร่วมกันครั้งแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทางวงจึงตัดสินใจเปิดออดิชั่นเพื่อหานักดนตรีเก่ง ๆ มาเสริมวง ต่อด้วยการซ้อมก่อนแสดงตามสไตล์ของจิอากิจอมเนี้ยบ ซึ่งทำให้ทุกคนในวงหมดแรงข้าวต้มไปตามๆกัน แต่ช่วยให้การแสดงเปิดฤดูกาลประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี...
ตัวละครสำคัญ
จิอากิ ชินอิจิ :
หนุ่มที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี อีกทั้งเป็นทายาทนักเปียโนชื่อดังระดับโลก แต่ก็ไม่ได้แจ้งเกิดสักที เพราะโรคกลัวเครื่องบินขนาดหนักเป็นอุปสรรค จนได้มาเจอกับโนดาเมะ ชีวิตของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
โนดะ เมงุมิ/โนดาเมะ :
สาวที่มีพรสวรรค์ทางด้านเปียโน แต่เธอไม่เคยรู้ตัว และไม่เคยฝันไกลกว่าการเป็นครูอนุบาล วันหนึ่งจิอากิได้ยินเสียงเปียโนของเธอโดยบังเอิญ ถึงมันจะมั่วแต่ก็สามารถโน้มน้าวจิตใจของคนฟังได้ หลังจากได้เล่น Mozart piano sonata for 2 piano ก็ตกหลุมรักจิอากิ เมื่อจิอากิก้าวไปข้างหน้าในทางสายดนตรี ก็เหมือนดึงห้โนดาเมะตามไปด้วย ตอนนี้ความฝันของเธอคือการได้เล่น concert กับ จิอากิ
บันทึก...คนอ่าน
ความประทับใจแรกมาจากละครที่ออกอากาศช่วงภาพยนตร์นานาชาติช่อง 7 ตอนเช้าวันเสาร์ อาทิตย์ แว่บแรกที่ดูยังไม่หลงพระเอกเท่าไหร่ ชอบเสียงเพลงซะมากกว่า แต่พอดูไปถึงตอนที่บุกเข้าไปทำความสะอาดห้องนางเอกแล้วชักเห็นความหล่อ และความน่ารัก คราวนี้ตั้งตนเป็นสาวกคนหนึ่งเลย
ไม่ค่อยอยากอ่านการ์ตูน เพราะนึกเปรียบเทียบหน้าตาของตัวการ์ตูน กับจิอากิที่ ทามากิ ฮิโรชิ รับบท ก่อนอ่านดูถูกไว้เลยว่าฉันไม่หลงแน่ๆ ยังไงทามากิก็หล่อขั้นเทพกว่า แต่พอเอามาอ่านเข้าจริงๆ ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องพาไปหรืออย่างไร เริ่มมองเห็น จิอากิ ในหนังสือการ์ตูนหล่อขึ้นเรื่อยๆ แถมยังยิ่งทวีความเจิดจ้าตามจำนวนเล่มที่เพิ่มมากขึ้น และสุดท้ายก็หลงจ้า แต่ที่เวทมนตร์ที่น่าแปลกใจที่สุดของเรื่องนี้ คงเป็นการทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นจริงเป็นจังว่าจิอากิที่สุดจะเริ่ดกลับเหมาะสมกับยายติ๊งต๊องโนดาเมะ ถึงแม้จะนึกถึงอนาคตที่ทั้งสองจะแต่งงานกันไม่ออกก็เถอะ
ข้อเสียเปรียบของหนังสือการ์ตูนแนวดนตรี คือ ไม่มีเสียง ต้องเอาละครมาเปิดประกอบเป็นระยะๆตรงที่เนื้อเรื่องเหมือนกัน แต่ข้อได้เปรียบคือ หนังสือการ์ตูนจะบอกเล่าถึงเกร็ดที่เป็นความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ดนตรี อย่างเช่น เรื่องราวที่ดนตรีกำลังสื่อถึง หรือเป็นเพลงประกอบโอเปร่าเรื่องอะไร ซึ่งตรงส่วนนี้รูปแบบละครจะข้ามไปเกือบหมด สงสัยว่าจะต้องไปลองเอา animation มาดูว่าจะสามารถเก็บเรื่องราวตรงนี้ได้ครบหรือเปล่า
บันทึก...คนดู
อันดับแรกต้องขอซูฮกความดังของจิอากิ กับโนดาเมะ ที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาตั้งแต่ manga drama animation และล่าสุดก็คือ movie 2 ภาค
สำหรับภาคภาพยนตร์ภาคแรก หยิบเนื้อเรื่องตอนที่จิอากิเป็นวาทยกรประจำเป็นครั้งแรก จนจบภารกิจกอบกู้ คล้ายๆกับภาคพิเศษของละครโทรทัศน์ที่ตอนแรกเป็นของจิอากิ ส่วนตอนที่สองเป็นของโนดาเมะ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องขอบคุณการประชาสัมพันธ์ของบริษัทหนังที่เอาภาคแรกมาฉายทางฟรีทีวีก่อนที่ภาคสองจะเข้า แฟนคลับทั้งหลายเลยได้รับอานิสงค์จากคนใจดีที่อัพลงบิทมาแจกกัน อีกทั้ง sars ยังปั่น fansub มาแบบเร็วทันใจ จนได้ดูกันโดยไม่ต้องรอข้ามปีแต่อย่างใด
เนื่องจากมาตรฐานการถ่ายละครกับภาพยนตร์ของเขาไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก เลยไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในบรรยากาศเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ตอกย้ำความเปลี่ยนแปลงจริงๆ ก็คือ รูปร่างหน้าตาของพระเอก ที่ผ่ายผอมลงจากภาคละครอย่างเห็นได้ชัด แต่ความเท่ห์นี่ยังไม่มีถดถอย ยังทำให้น้ำลายหกได้เหมือนเดิม ยิ่งตอนยิ้มนี่ ถึงตีนกาจะโผล่ แต่สาวๆก็ละลายเป็นแถบ
อีกอย่างที่การดูเรื่องนี้ทำให้เราฉุกคิดได้ คือ อารมณ์ของดนตรีนี่สามารถเปลี่ยนได้ตามคนเล่นจริงๆ ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ Beethoven symphony no.7 ในละครใช้ของ Tokyo philharmonic ฟังแล้วชอบมาก แต่ album best hundred ใช้ของ new York philharmonic กลับไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่ คือมันฟังดูเย็นชายังไงไม่รู้ ชอบของ Tokyo มากกว่าฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น จับใจ ดีเหมือนกันที่รู้ตัว จะได้ไม่ต้องขวนขวายไปฟังวงฝรั่ง ฟังเอเชียด้วยกันนี่แหละ โฮะ โฮะ
ภาค 2 จะเริ่มต้นที่การมาเยือนของสองเพื่อนซี้ของโนดาเมะ เพื่อมาเชียร์คิโยระในการแข่งขันไวโอลินคันโตน่ารอบสุดท้าย สองคนนี้ชวนโนดาเมะออกไปเที่ยวสถานที่มีชื่อเสียงของปารีส ไม่ว่าจะเป็นประตูชัย หอไอเฟล และ มหาวิหารนอร์เธอร์ดาม ตามประสาคนที่เดินทางมาไกล มาถึงแล้วต้องไปดูให้ครบทุกซอกทุกมุม ต้องปีนขึ้นไปให้ถึงที่สุด แต่มักจะหมดแรงตอนเดินขึ้นตลอด แต่ก็ไม่เข็ด ตลกมากๆ
สำหรับรุ่นพี่จิอากิยังหล่อละลายเหมือนเดิม ภาคนี้จิอากิใจดีกับโนดาเมะเป็นพิเศษ น่ารักสุดๆ ฉากที่โมเอะที่สุดยกให้ตอนคุยโทรศัพท์หลังอายน้ำ โอยผู้ชายเปียกน้ำหน่อยๆนี่หล่อมากให้ตายเหอะ
สำหรับฉากที่ชื่นชอบในความอลังการที่สุด ยกให้ฉากวงเวทย์ปิศาจของมิลฮี สวยมากๆ ภาคภาพยนตร์รู้สึกว่ามิลฮีหน้าตาประหลาดยังไงไม่รู้ จมูกแหลมจัง หน้าตาคล้ำๆ ชอบตอนละครมากกว่า
ภาคนี้ชอบเวลาทั้งสองคนตอนอยู่ด้วยกันมากๆ โนดาเมะสวยขึ้น ส่วยจิอากิก็แสดงออกถึงความรักที่มีแบบสุดๆ ไม่ซึนเหมือนตอนก่อน ๆ ในหนังมีฉากการแสดงคอนแชร์โต้ในฝันของโนดาเมะด้วย เป็นการจบมหากาพย์แบบสมบูรณ์จริง ๆ ฉากที่ชอบที่สุดยกให้ภาพตอนที่จิอากิถือถุงช้อปปิ้งกับโนดาเมะที่ถือโน๊ตเพลง ฉากหลังเป็นวิวปารีสแบบกว้างๆ สวยมากๆ ภาพนี้ใช้เป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น