ชื่อเรื่อง - The Twilight Saga
เขียน - Stephenie Mayer
จำนวนเล่ม - 5
สำนักพิมพ์ - ปราชญ์เปรียว
เรื่องย่อ
Twilight/แรกรัตติกาล
เมื่อแม่จะแต่งงานใหม่ อิซาเบลลา สวอน จึงตัดสินใจย้ายจากฟินิกซ์เมืองที่ร่ำรวยแสงอาทิตย์มาอยู่กับพ่อ ซึ่งเป็นตำรวจอยู่ที่ฟอร์กส เมืองที่อากาศขมุกขมัวตลอดทั้งปี
มาโรงเรียนใหม่วันแรก อิซาเบลลาเหมือนถูกดึงดูดเข้าหา เอ็ดเวิร์ด คัลแลน หนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน เอ็ดเวิร์ดปกป้องเบลล่าจากอุบัติเหตุรถไถลมาชนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และการที่เขามาช่วยเธอจากอันธพาลที่ พอร์ต แองเจอลิตได้ทันเวลาทำให้เบลล่าสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย จนกระทั่ง เจคอบ เพื่อนอินเดียแดงเผ่าควิลยูต จากเขตสงวนเล่าตำนานปรัมปราประจำเผ่าเกี่ยวกับบรรพบุรุษที่สามารถแปลร่างเป็นหมาป่าได้ กับศัตรู ที่เรียกว่า พวกตัวเย็น ทำให้เบลล่ารู้ว่า เอ็ดเวิร์ดและครอบครัวของเขา คือ แวมไพร์ แต่ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเอ็ดเวิร์ดยังเหมือนเดิม เอ็ดเวิร์ดเองก็ยอมแพ้ต่อแรงดึงดูดของเบลล่า อีกทั้งความสามารถพิเศษของเขาไม่มีผลกับเบลล่าเพียงคนเดียวยิ่งทำให้เธอกลายเป็นสิ่งลึกลับสำหรับเขา เอ็ดเวิร์ดเล่าเรื่องครอบครัวให้เบลล่าฟังและตกลงคบกับเธอ
เอ็ดเวิร์ดพาเบลล่าไปแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก โชคร้ายที่แวมไพร์อีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาในเขต หนึ่งในนั้นระหายการฆ่าเป็นพิเศษ ออกล่าเบลล่าเพื่อความสะใจ ครอบครัวคัลแลนปกป้องเบลล่าอย่างเต็มกำลังเพราะถือว่าเธอเป็นสมาชิกในครอบครัว
เบลล่าถูกหลอกว่าแม่ถูกจับเป็นตัวประกัน ให้ออกมาคนเดียวเพื่อรักษาชีวิตแม่ของเธอ เจมส์กัดเบลล่า เอ็ดเวิร์ดจำต้องดูดเลือดเบลล่าเพื่อเอาพิษของแวมไพร์ออกจากตัวเธอก่อนที่เบลล่าจะถูกเปลี่ยน หลังจากรักษาตัวจนหาย เบลล่ากับเอ็ดเวิร์ดกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เบลล่ายืนยันว่า ต้องการให้เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนเธอให้เป็นแวมไพร์ เพื่อที่เธอจะได้อยู่กับเขาตลอดไป
New Moon/นวจันทรา
อุบัติเหตุเล็ก ๆ ในงานวันเกิดของเบลล่า ทำให้เจสเปอร์ควบคุมตัวเองไม่ได้จนจู่โจมเธอ โชคดีที่รั้งตัวไว้ได้ทัน เหตุการณ์นี้สร้างความเจ็บปวดให้เอ็ดเวิร์ดจนตัดสินใจออกจากชีวิตเบลล่าเพื่อความปลอดภัยของเธอ
เบลล่าผ่านช่วงเวลานั้นไปวันๆ อย่างไร้วิญญาณ คืนหนึ่งเบลล่าเจอกับกลุ่มอันธพาล สิ่งที่เหมือนเงาของเอ็ดเวิร์ดปรากฎขึ้นเตือนให้ออกห่างจากอันตราย เบลล่าจึงพยายามทำเรื่องอันตรายเพื่อให้เงาของเอ็ดเวิร์ดปรากฏขึ้นอีกครั้ง โดยคนที่โดนเธอดึงมาร่วมแผนนี้คือ เจคอบ เบลล่าใช้เวลาร่วมกับเจคอบมากขึ้นเรื่อยๆ เจคอบเองรู้สึกพิเศษกับเบลล่า เบลล่ารู้ดีแต่ตอบสนองความรู้สึกของเขาไม่ได้ เพราะไม่มีใครแทนที่เอ็ดเวิร์ดได้
จู่ๆ เจคอบก็ตีตัวออกห่าง เบลล่าถามหาสาเหตุอย่างร้อนรน แต่เจคอบทำได้เพียงบอกใบ้ให้เธอนึกออกเอง ในที่สุดเบลล่าก็จำได้ว่า อินเดียแดงเผ่า ควิลยูต สามารถเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าได้
เบลล่านึกอยากโดดหน้าผาลงทะเล เลียนแบบพวกวัยรุ่นเผ่าควิลยูต อลิซมองเห็นและเข้าใจผิดคิดว่าเบลล่าฆ่าตัวตาย เอ็ดเวิร์ดรู้เข้าตัดสินใจเดินทางไปหาพวก โวลตูรี เพื่อร้องขอความตายเพราะที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ถ้าในโลกนี้ไม่มีเบลล่า แต่พวกเขาปฏิเสธเพราะสนใจความสามารถพิเศษของเอ็ดเวิร์ด อลิซรีบพาเบลล่าตามไปห้ามเอ็ดเวิร์ดได้ทันก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะเปิดเผยการมีอยู่ของแวมไพร์ซึ่งมีโทษตายสถานเดียว
เบลล่ารู้ความลับมากเกินไป สมควรที่จะต้องถูกกำจัดยกเว้นว่าครอบครัวคัลแลนมีแผนที่จะเปลี่ยนเธอในเร็ววัน อลิซใช้ความสามารถในการมองเห็นอนาคตรับรองเรื่องนี้ ทั้งสามคนจึงได้รับการปล่อยตัว เหตุการณ์เฉียดตายที่เกิดขึ้นทำให้เอ็ดเวิร์ดล้มเลิกความคิดที่จะไปจากเบลล่า
Eclipse/คราสสยุมพร
ข่าวการเสียชีวิต และหายตัวอย่างลึกลับเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแมนฮัตตัน ครอบครัวคัลแลนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล อลิซยังคงมองเห็นว่ากองทัพแวมไพร์เกิดใหม่กำลังจะบุกเข้าโจมตีโดยมีเป้า หมายคือเบลล่า แต่มองไม่เห็นว่าใครเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
แวมไพร์เกิดใหม่มีพละกำลังมหาศาลยากแก่การรับมือเพราะในร่างกายยังหลงเหลือเลือดมนุษย์ ครอบครัวคัลแลนและฝูงหมาป่าแห่งเผ่าควิลยูตจึงตกลงเป็นพันธมิตรร่วมศึกกัน เพื่อรักษาความสงบ ระหว่างการเตรียมรับมือศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
วันเปิดศึกก็มาถึง เอ็ดเวิร์ดแยกเบลล่าไปซ่อนตัวในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลือจะคอยตั้งรับที่ลานกว้างโดนทิ้งกลิ่นของเบลล่าไว้เป็นตัวล่อ เมื่อถึงเวลาปะทะ ครอบครัวคัลแลน และ เหล่ามนุษย์หมาป่าต้องรับมือกับแวมไพร์เกิดใหม่เกือบยี่สิบตน ด้านเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่าก็ต้องรับมือกับ วิคตอเรีย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู่ครั้งนี้เพื่อล้างแค้นเอ็ดเวิร์ดที่ฆ่า เจมส์ คู่ของเธอ หลังการต่อสู้เบลล่ายินดีรับคำขอแต่งงานของเอ็ดเวิร์ด ส่วนเจคอบก็ยอมตัดใจ เขาสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอต่อไป
Breaking Dawn/รุ่งอรุโณทัย
เอ็ดเวิร์ดแต่งงานกับเบลล่าและเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เกาะส่วนตัวของเอสเม
เบลล่าตั้งครรภ์เด็กที่เป็นลูกครึ่งแวมไพร์กับมนุษย์ เอ็ดเวิร์ดกลัวว่าเบลล่าจะเป็นอันตรายจึงเร่งเดินทางกลับฟอร์ค เพื่อให้คาร์ไลล์ช่วย แต่เบลล่าต้องการลูกจึงขอความช่วยเหลือจากโรซาลีให้คุ้มครองเธอ กับลูก
เจคอบแวะมาเยี่ยม ทำให้ฝูงหมาป่ารับรู้เรื่องเด็กเลือดผสมผ่านทางจิตของเจคอบ เสียงส่วนใหญ่ลงมติให้กำจัดก่อนที่จะเป็นอันตราย แต่เจคอบไม่เห็นด้วย เขาจึงแยกตัวออกจากฝูงโดยมีเซ็ธที่สนิทกับเอ็ดเวิร์ดและพี่สาวของเขาตามมาด้วยเพื่อคุ้มครองเบลล่า เบลล่าก็ให้กำเนิดลูกสาว ที่เธอตั้งชื่อว่า เรเนสเม ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะเปลี่ยนเธอให้เป็นแวมไพร์ด้วยพิษของเขา
เบลล่าฟื้นขึ้นมาหลังจากถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ เธอสามารถก้าวข้ามอาการกระหายเลือดของแวมไพร์เกิดใหม่ไปได้เกือบสมบูรณ์ ยกเว้นตอนที่เธอพบว่า เรเนสเม กลายเป็นคู่ผูกวิญญาณของเจคอบ เธอระงับความโมโหไม่ไหวจนเข้าไปทำร้ายเขาโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ใส่ใจที่จะเปลี่ยนร่างเพื่อป้องกันตัวเอง แต่เซธก็เข้ามาขวางไว้
ปัญหาความขัดแย้งกับมนุษย์หมาป่าเผ่าควิลยูตหมดไป เพราะเมื่อเจคอบผูกวิญญาณกับเรเนสเมแล้ว ตามกฎจะไม่มีการทำร้ายคู่ผูกวิญญาณ แต่แวมไพร์พวกอื่นเห็นเรเนสเมและเข้าใจว่า ครอบครัวคัลแลนละเมิดกฎสร้างเด็กอมตะขึ้นมา นำเรื่องนี้ไปแจ้งโวลตูรี ครอบครัวคัลแลนจึงต้องรวบรวมพันธมิตรที่มีทั้งหมดให้ช่วยเป็นพยาน และถ่วงเวลาให้พวกโวลตูรียอมรับฟังความจริง
ตัวละครสำคัญ
เอ็ดเวิร์ด คัลแลน :
ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ตั้งแต่ปี 1918 โดยคาร์ไลล์ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สเปน ความสามารถพิเศษของเขา คือ การอ่านความคิดของคนอื่นในขณะนั้นได้แม้อยู่ในระยะไกล คนเพียงคนเดียวที่เขาไม่สามารถอ่านความคิด คือ เบลล่า
อิซาเบลล่า สวอน :
แม่เหล็กดึงดูดอันตรายตัวจริงเสียงจริง และยังเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่เอ็ดเวิร์ดไม่สามารถอ่านความคิดได้ รวมถึงอำนาจอื่นที่มีผลต่อจิตด้วย หลังจากที่เบลล่าเปลี่ยนเป็นแวมไพร์แล้ว พวกเขาเรียกความสามารถพิเศษของเธอว่า เกราะกำบัง ซึ่งสามารถแผ่เข้าคุ้มครองคนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณเดียวกันได้ด้วย
เจคอบ แบล็ก :
ลูกชายของหัวหน้าเผ่า ควิลยูต ที่มีเรื่องเล่าสืบทอดมาว่า คนในเผ่าสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้ เมื่อพวกแวมไพร์เข้ามาใกล้ หลงรักเบลล่า และพยายามที่จะกันเอ็ดเวิร์ดออกไปเพราะไม่อยากให้เบลล่าถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพ ร์
คาร์ไลล์ คัลเลน :
หัวหน้าครอบครัวคัลแลน ตอนเป็นมนุษย์เขาเป็นลูกชายของบาทหลวงที่เคร่งครัด ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ระหว่างการไล่ล่าแวมไพร์ เพราะไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นปิศาจจึงดำรงชีพด้วยการดูดเลือดสัตว์แทน มนุษย์ เขาฝึกตัวเองจนสามารถเอาชนะความกระหายเลือดมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ หน้าฉากของเขาคือ หมอประจำโรงพยาบาล
เอสเม คัลเลน :
ภรรยาของคาร์ไลล์ คาร์ไลน์เปลี่ยนเธอให้เป็นแวมไพร์หลังจากที่เธอพยายามกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
แจสเปอร์ เฮล :
คนรักของอลิซ ก่อนที่จะได้เจอกับอลิซ เคยเป็นหัวหน้าควบคุมกองทัพแวมไพร์เกิดใหม่ในศึกชิงอำนาจในเขตอเมริกาใต้ ก่อนที่จะถูกพวกโวลตูรีกวาดล้าง ความสามารถพิเศษของเขา คือ การอ่านอารมณ์ของคนในบริเวณนั้นๆ อีกทั้งจะสามารถควบคุมให้เป็นไปตามที่ต้องการได้
อลิซ คัลเลน :
น้องคนสุดท้องจอมป่วนของครอบครัวคัลแลน คนรักของแจสเปอร์ ความสามารถพิเศษของเธอคือการมองเห็นอนาคต แต่อนาคตที่เธอมองเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากเจ้าของอนาคตที่เธอเห็นเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ
โรซาลี เฮล :
คาร์ไลน์พบเธอหลังจากถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจโดยว่าที่สามีของเธอเอง ความตั้งใจแรกของเขาคือ ให้โรซาลีมาอยู่เคียงข้างเอ็ดเวิร์ด แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นไปได้เพียงพี่น้อง จนโรซาลีได้พบกับเอ็มเม็ตต์ ที่จริงโรซาลีไม่ได้อยากมีชีวิตอมตะ ความใฝ่ฝันของเธอคือ การใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดาๆ
เอ็มเม็ตต์ คัลเลน :
โรซาลีไปพบเขาหลังจากที่ถูกหมีทำร้ายปางตาย เธอพาตัวเขามาหาคาร์ไลน์เพื่อเปลี่ยนเขาให้ลายเป็นแวมไพร์
เรเนสเม คัลเลน :
ลูกสาวของเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า เป็นลูกครึ่งมนุษย์กับแวมไพร์ ความสามารถพิเศษของเธอ คือ การสือสารด้วยการแสดงภาพเมื่อถูกสัมผัสโดยที่ไม่มีใครสามารถปิดกั้นได้ เธอเป็นคู่ผูกวิญญาณของเจคอบ
บันทึก...คนดู
ความเห็นจากการดูครั้งแรกภาคแรกจาก file ในคอมพิวเตอร์ที่คุณน้องชายเอามาให้ คือ เฉยๆ เพราะไม่ได้หลงความหล่อของพระเอกที่ใคร ๆ พากันเพ้อหนักหนา ยอมรับว่าหล่อ โดยเฉพาะตอนใส่เสื้อเชิร์ตสีฟ้าตอนพาเบลล่าไปเที่ยวบ้านนี่ดูดีสุดๆ ส่วนเนื้อเรื่องก็ น่ารักดี ความรักต่างเผ่าพันธุ์แต่ไม่ถึงขนาดดูแล้วเอามาเพ้อ ดูจบแล้วก็แล้วไป สิ่งที่ถูกใจเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้จริงๆ คือ เพลงประกอบที่เท่ห์ได้ใจ โดยเฉพาะเพลง Supermassive black hole ของ Muse ที่ประกอบฉากที่น่ารักๆตอนที่ครอบครัวคัลแลนเล่นเบสบอลกัน
มีโอกาสได้ดูในโรงหนัง คือ ภาคสาม ยกขบวนสาว ๆ นิติวิทยาศาสตร์ไปกันพร้อมหน้ารวม 8 ชีวิต ช่วงแรก ๆ เชียร์เอ็ดเวิร์ดเต็มที่ เพราะเคยเห็นกันมาในภาค 1 แต่ภาคนี้รู้สึกความหล่อจะลดลง เพราะหัวพี่แกยุ่งๆ นี่แหละข้อเสียของผู้กำกับผู้ชายจะไม่พิถีพิถันกับภาพลักษณ์ของพระเอกเท่าไหร่ ดำเนินเรื่องไปได้สัก 30 นาที ความรำคาญในความลังเลไม่รู้จะเลือกใครของนางเอกก็พุ่งสูงขึ้น มันจะน่าอิจฉาไปแล้ว นางจะทำตัวสวยเลือกได้ไปถึงไหน เลือกเอ็ดเวิร์ดแล้วก็อย่าแอบไปหาเจคอบดิ ดีที่มีฉากวางแผนทำสงครามให้ดูเพลินๆ ไม่งั้นมีหลับหนีความรำคาญ
และแล้วก็มาถึงฉากที่เอ็ดเวิร์ด เจคอบ และ เบลล่า ต้องมาตั้งแคมป์กลางภูเขาหิมะระหว่างรอการต่อสู้เริ่มขึ้น เป็นฉากที่เจคอบต้องมาทำหน้าที่เป็นเครื่องทำความร้อนจำเป็นให้เบลล่า ซึ่งพอเบลล่าหลับไปเพราะความหนาว สองหนุ่มเจคอบกับเอ็ดเวิร์ดก็เลยได้โอกาสคุยกันแบบเปิดอก ฉากนี้สาวๆทุกคนในคณะวันนั้นพร้อมใจกันลงคะแนนให้กวาดนางเอกทิ้งออกจากฉากไป เลย เหลือแต่เอ็ดเวิร์ดกับเจคอบในเต้นท์ แล้วเปลี่ยนเป็นสายวายดีกว่า หลังจากนั้นก็ดูฉากต่อสู้เพลินๆ แต่ไม่วายตอนจบนางเอกมาทิ้งเหตุผลงง ๆ จนต้องเดินขมวดคิ้วออกจากโรงหนังจน ได้
ในที่สุดก็หาตัวละครโปรดของหนังเรื่องนี้ได้แล้ว ชอบอลิซ กับแจสเปอร์ คู่รักหวานแหวว อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ โดยเฉพาะตอนซ้อมรับมือกับแวมไพร์เกิดใหม่ แจสเปอร์เท่ห์มากๆเลย เดินออกมาจากโรงเลยตัดสินใจว่าจะไปหาหนังสือนิยายมาอ่าน เพราะตกหลุมรักอลิซกับแจสเปอร์เข้าเต็มเปา อยากรู้จริง ๆ ว่าในหนังสือทั้งสองคนจะมีบทมากกว่านี้ไหม
บันทึก...คนอ่าน
ความอยากนี้ไม่ต้องรอนานก็ได้รับการตอบสนอง เพราะไปเจอฉบับนิยายที่ร้อยวันพันปีไม่เคยอยู่เลยที่ร้านเช่าหนังสือเจ้าประจำ หลังจากไปดูหนังวันสองวัน เป็นอะไรที่ประจวบเหมาะดีจริงๆ แอบคิดว่า โชคดีจังที่เพิ่งจะมาอยากอ่านเอาตอนที่ดูหนังภาค 3 สาว ๆ คนอื่นเขาคลั่งไคล้กันจนสร่างไปบ้างแล้ว ไม่ต้องรอคิวนิยายนาน ข้อดีข้อที่สองคือฉบับนิยายออกมาครบหมดทั้งชุดแล้ว หมดปัญหาเรื่องอารมณ์ค้าง ฮิฮิ
ภารกิจอ่านนิยายเพื่อหารายละเอียดที่แตกต่างจากฉบับภาพยนตร์ก็เริ่มขึ้น แต่ปรากฏว่าผิดคาดมากๆ เพราะเนื้อหาเล่มแรกนี่แทบจะเหมือนกับที่เอามาทำเป็นภาพยนตร์ ทุกกระเบียดนิ้ว โอย ประสบการณ์จากเรื่อง Harry Potter เอามาใช้กับเรื่องนี้ไม่ได้สักนิด ลองคิดๆดู คงเป็นเพราะ ในนิยายเล่มแรกบทบรรยายความรู้สึกนึกคิดของนางเอกมีเยอะ ตัดๆไปบ้างไม่ส่งผลกับลำดับของเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ ส่วน
เล่มสองก็คล้ายๆกันกับเล่มแรก เนื้อเรื่องกล่าวถึงครอบครัวคัลแลนคนอื่นๆ มีน้อย ออกมาฉากแรกแล้วหายยาว
เล่มที่สาม ที่ดลจิตดลใจให้ต้องกระเสือกกระสนหาฉบับนิยายมาอ่าน โอ้ว…ความรู้สึกมันแตกต่างจากสองเล่มแรกจริงๆ ความสนุกที่หนังสือทำได้เหนือกว่าภาพยนตร์ของนิยายชุดนี้เพิ่ง เริ่มบังเกิดก็เล่มนี้เอง
- ชาร์ลีพ่อของนางเอกน่ารักมาก โดยเฉพาะบทพ่อหวงลูกสาว ออกมาแยกเขี้ยวขู่เอ็ดเวิร์ด
- สมาชิกครอบครัวคัลแลนคนอื่น ๆ เริ่มมีบทเพิ่มมากขึ้นเพราะเบลล่าจะมาขลุกอยู่ ที่บ้านเอ็ดเวิร์ดคนที่เด่นที่สุดได้แก่ อลิซ ความเป็นตัวป่วนของเธอน่ารักน่าเอ็นดูมากๆ ไม่มีใครสามารถรับมือกับเธอได้เลย
- ความร่วมมือระหว่างสองเผ่าพันธุ์ที่เป็นอริกัน เพราะต้องการปกป้องอะไรบางอย่างร่วมกันนี่ ให้ความรู้สึกที่ดีเสมอ ยิ่งวิกฤตยิ่งสนุก
- เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าผู้ชายทะเลาะกันแย่งผู้หญิงนี่ตลกดี สรรพนาม ปลิงดูดเลือด กับ หมาโง่ นี่ลอยให้ว่อน แต่ที่เด็ดสุดก็ฉากในกระโจมฉากเดิม ตอนเจคอบต้องทำหน้าที่หมาเซนต์เบอนาร์ด บ่นว่าเอ็ดเวิร์ดชอบเข้ามาวุ่นวายในหัวเขา เขาอยากรู้ความคิดของเอ็ดเวิร์ดบ้าง สองคนก็เลยได้สงบศึกกันชั่วคราว ลองเปรียบเทียบกับในหนัง ระดับความ Y ของบทสนธนาในนิยายนี่ชนะขาด เพราะมีกลิ่นไอของมิตรภาพอยู่ด้วย ผิดกับในหนังที่เน้นบทแย่งผู้หญิง
- ฉากตอนที่เอ็ดเวิร์ดกับเซธในร่างหมาป่าช่วยกันกำจัดวิคตอเรีย ระหว่างการต่อสู้ร่วมมือกันดีมากๆ แถมพอชนะแล้วมีเอามือกับจมูกแตะฉันท์มิตรด้วย ซึ่งอันนี้ในหนังถูกตัดออก น่าเสียดายมากๆ
2ed : 13 พฤษภาคม 2562
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น