ถนนสายนี้ หัวใจไม่เคยลืม

IMG

ชื่อภาษาไทย  -  ถนนสายนี้ หัวใจไม่เคยลืม
ชื่อภาษาอังกฤษ  -  Always sunset on third street
platform  -  DVD
ดูเมื่อ  -  ภาค 1     30 มกราคม 2553
              ภาค 2     29 พฤษภาคม 2562

เรื่องย่อ

      ฉากหลังของเรื่องราว คือ สมัย ค.ศ. 1958 สามสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ณ ถนนสายที่ 3 ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ก่อสร้าง โตเกียวทาวเวอร์

      บ้านสองหลังในย่านการค้าที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน หลังหนึ่งคือ ครอบครัวซูซุกิ ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ซึ่งเปิดร้านรับซ่อมรถ โดยรับ มัตสึโกะ นักเรียนสาวที่เพิ่งจบใหม่มาเป็นลูกจ้างคนหนึ่ง ตอนแรกเธอคิดว่าจะได้ทำงานเป็นเลขา แต่กลับต้องมาทำหน้าที่เป็นช่างซ่อมรถ

     ขณะเดียวกันบ้านตรงข้าม ร้านขนมเล็กๆซึ่งเป็นที่อาศัยของ ชางาวะ นักเขียนนิยายที่พยายามเขียนส่งชิงรางวัลแต่ยังไม่สำเร็จเสียดี เขาไปหลงคารม ฮิโรมิ เจ้าของร้านเหล้าสาว อดีตนางระบำเปลี้องผ้า จนรับเอา จุนโนะสุเกะ เด็กซึ่งเป็นลูกของเพื่อนเธอมาดูแล เรื่องบังเอิญที่น่าแปลกใจก็คือ เด็กคนนั้นเป็นแฟนตัวจริงของนิยายที่เขาเขียน

ภาค 2

     พ่อของจุนโนะสุเกะกลับมากดดันให้ชางาวะยอมปล่อยให้เด็กชายกลับไปอยู่ที่บ้าน ถึงชางาวะจะลำบากเรื่องเงินแต่ก็ยังยืนยันที่จะดูแลเด็กชายต่อไป อีกฝ่ายจึงยื่นเงื่อนไขว่าอย่างน้อยจุนโนะสุเกะจะต้องมีชีวิตที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

     ปัญหาทางการเงินชางาวะยิ่งหนักขึ้น จุนโนะสุเกะยอมอดข้าวเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในบ้าน พ่อของจุนโนะสุเกะจึงกลับมาทวงสัญญาและยิ่งได้เห็นฮิโรมิที่ตอนนี้กลับเป็นเต้นระบำเปลื้องผ้ามีเสี่ยมาติดพัน เขาจึงมุมานะที่จะเขียนนิยายเรื่องใหม่ส่งชิงรางวัลอาคุตางาวะเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แถมผลงานของเขายังได้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลอาคุตางาวะ

     มีคนมาบอกว่าตัวเองเป็นหนึ่งในกรรมการ หากอยากให้ชางาวะได้รางวัลจะต้องใช้เงินล๊อบบี้ คนในถนนสาย 3 ช่วยกันลงขัน แต่กลับโดนหลอก อาคุตางาวะพลาดรางวัลแต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือ ฮิโรมิที่กลับมาหาเขาหลังจากได้อ่านนิยายในนิตยสาร และพ่อของจุนโนะสุเกะยอมให้ชางาวะดูแลเด็กชายต่อเพราะเขาได้เห็นสิ่งที่สำคัญกว่าเงิน

บันทึก...คนดู

       อ่านนิตยสาร honeymoon เล่มที่พาไปเที่ยวย่านเก่าของโตเกียว แล้วเขาเกริ่มบรรยากาศในย่านนั้นว่าเหมือนกับหนังเรื่องนี้ พอดีกับได้เดินร้าน DVD ระหว่างรอน้องชายมาเลี้ยง MK สุกี้ เลยได้หนังเรื่องนี้มาดู

       ชอบฉากของหนังเรื่องนี้มาก เป็นญี่ปุ่นยุคที่กำลังเริ่มพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรม บรรยากาศเก่าๆที่น่าออกไปเดินเล่น และถ่ายรูปตามท้องถนน ในเรื่องเราจะได้เห็นรถไฟ ที่ยังเป็นรถจักรไอน้ำ รถรางที่วิ่งตามท้องถนน นอกจากนั้นยังมีตู้เย็นที่ใช้น้ำแข็ง

       ต่อจากบรรยากาศก็เป็นความฮาของเรื่อง โดยเฉพาะ คุณซูซูกิ ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถ พี่แกจะโมโหร้ายมาก ตอนที่ขำที่สุดก็ตอนที่เขากล่าวหาว่า มัตสึโกะ โกหกว่าซ่อมรถได้  อาละวาดซะยกใหญ่ แม่กับลูกชาย รวมถึงบ้านตรงข้ามช่วยกันห้ามก็ไม่ค่อยจะอยู่ แต่ที่จริงเขาเป็นคนอ่านผิดเอง เลยต้องมาคุกเข่าขอโทษหน้าตู้เก็บของ พร้อมลูกชาย ซึ่งคอยส่งสายตากำราบให้พ่อพูดขอโทษ
     
      ส่วนเรื่องครึ่งหลังนี่สุดยอด ดูไปเช็คน้ำตาไป
  • เริ่มจากคุณหมอที่ต้องสูญเสียครอบครัวระหว่างที่วิ่งไปหลุมหลบภัย จนบัดนี้เขาก็ยังห่อไก่ย่างกลับบ้านเหมือนทุกที 
  • การตามหาแม่ของเด็กน้อย จุนโนะสุเกะ ที่ต้องผิดหวัง และไม่มีกระทั่งค่ารถกลับบ้าน แต่โชคดี้แม่ของ อิปเป เย็บเหรียญไว้ที่รอยประของเสื้อ บอกว่าเป็นเครื่องรางให้เอาออกมาใช้ยามจำเป็น ทั้งสองเลยนั่งรถกลับบ้านได้ หลังจากกลับมาถึงบ้านน้องก็เอาสตางค์ทอนกลับมาคืนแม่ ดูแล้วคิดถึงคนที่จากไปขึ้นมาจับใจ
  • ปากกาที่ ชางาวะ นักเขียนให้จุนโนะสุเกะเป็นของขวัญจากซานต้าคลอส เพื่อของขวัญชิ้นนี้เขาถึงขนาดไปยืมเงินมาจากคุณซูซุกิเลย แล้วก็วางแผนให้คุณหมอแต่งเป็นซานตาคลอสให้
  • คำขอแต่งงานของชางาวะ ที่มีเพียงกล่องแหวนให้ฮิโรมิ เพราะตอนนี้เขามีเงินพอที่จะซื้อแค่กล่องเท่านั้น ของข้างในเขาจะซื้อให้ในอนาคต ฮิโรมิขอให้เขาใส่ให้ วันรุ่งขึ้นเธอต้องปิดร้านเพื่อไปเต้นระบำเปลื้องผ้าใช้หนี้ค่ารักษาพ่อของเธอซึ่งป่วยอยู่
  • จุนโนะสุเกะที่พ่อมารับไปอยู่ด้วย หลังจากพยายามไล่อยู่นาน แต่สุดท้าย ชางาวะก็แพ้ใจตัวเองออกวิ่งตามไป ซึ่งก็พบกับจุนโนะสุเกะที่หนีกลับมาพอดี
      หลังจากดูจบแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงได้มาถึง 12 รางวัลจาก Japan academy award 2006 โดยเฉพาะรางวัลกำกับศิลป์นี่เห็นด้วยสุดๆ

     ภาค 2 ซื้อแผ่น DVD มาดองไว้นานมาก กว่าจะได้ดูทิ้งช่วงห่างจากการดูภาคแรกเกือบสิบปี
   
     เปิดเรื่องมาด้วยบรรยากาศหนังสัตว์ประหลาด ก๊อตซิล่าพังโตเกียวจบยับแต่ที่ไหนได้เป็นแค่นิยายของยางาวะ นึกว่าจะเปลี่ยนแนวซะแล้ว ช่วงเวลาของภาค 2 tokyo tower เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน คนกำลังเห่อต่อคิวขึ้นไปดูวิว ศูนย์กลางในการดำเนินเรื่องภาคนี้คือนิยายของชางาวะ คราวนี้เขาเขียนได้ดีถึงขนาดที่ว่าใครต่อใครอ่านแล้วร้องไห้ หรือรู้สึกอบอุ่นใจ ตอนที่พ่อของจุนโนะสุเกะจะมาเอาลูกชายกลับไปอยู่ด้วย แล้วว่าชางาวะว่าไม่มีพรสวรรค์แล้วแล้วคุณพ่อซูซุกิก็ขึ้นสิ ว่าด่าเขาขนาดนี้ได้อ่านหรือยัง ต่างคนต่างเปย์มาคนละเล่ม เขาแซะว่าตอนจบคนรักได้กลับมาอยู่ด้วยกันมันไม่ตรงกับความจริง แต่พอฮิโรมิมาเท่านั้นแหละ คดีพลิกเลยจ้า

     ฮิโรมิที่จะมีเศรษฐีรับไปเลี้ยงดูกลับมายอมลำบากกับชางาวะ ช่างน้อยก็อุตส่าห์ให้โอกาสหลังคนขี้โกงกลับเนื้อกลับตัวได้ ขนาดอิปเปย์น้อยยังมีลูกพี่ลูกน้องสาวมาสัญญาว่าจะเป็นเจ้าสาวให้...ภาคนี้มันเป็นหนังของคนมีคู่ชัด ๆ 

ความคิดเห็น