เรื่องย่อ
ผลของอาการบาดเจ็บและไข้รากสาดน้อยทำให้หมอวัตสันถูกส่งกลับมาประเทศอังกฤษเพื่อพักรักษาตัวเป็นเวลา 9 เดือน ด้วยเบี้ยเลี้ยงอันน้อยนิดทำให้หมอไม่สามารถพักอยู่ในโรงแรมตลอดไปได้ พอดีกับที่เพื่อนเก่าของวัตสันซึ่งได้พบกันโดยบังเอิญแนะนำให้เขาได้รู้จักกับ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เพื่อนร่วมห้องทดลองเคมีที่โรงพยาบาลซึ่งกำลังหาคนมาหารค่าเช่าห้องอยู่พอดี ทั้งสองจึงได้พำนักอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าหมายเลข 221 บี ถนนเบเกอร์ เชอร์ล็อคประกอบอาชีพเป็นนักสืบที่ปรึกษาทั้งแก่ตำรวจ และผู้คนที่ประสบปัญหา โดยใช้การอนุมาน ซึ่งทำให้วัตสันซึ่งคอยเฝ้าดูการสืบสวนทึ่งอยู่เสมอ วัตสันจึงใช้เวลาว่างที่มีทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเชอร์ล็อค และนำบันทึกคดีต่างๆที่ได้พบเห็นมาเขียนเป็นนิยายลงในนิตยสารจนได้รับความนิยม
ตัวละครสำคัญ
บันทึก…คนอ่าน
นิยายเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นเป็นพิเศษในโอกาครบรอบ 120 ปี เชอร์ล็อค โฮล์มส์ มีคำอธิบายประกอบพิมพ์ด้วยกระดาษสีที่แตกต่างกันตลอดทั้งเล่ม อ่านเล่มนี้แล้วได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของ sherlock เยอะมาก เรื่องบางเรื่องที่กล่าวถึงในนิยายแล้วเราเข้าใจว่าเป็นจริงตามประวัติศาสตร์อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ อ่านเล่มนี้จบแล้วยิ่งตอกย้ำข้อคิดที่ว่า จงอย่าเชื่อคนง่าย ให้ยิ่งหนักแน่นเข้าไปอีก ก็นะ นักเขียนนิยายก็คนเหมือนกัน มีเข้าใจผิดบ้างอะไร้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา เล่มนี้เนื้อหาแบ่งเป็น 2 ภาค ภาคแรกจะเกี่ยวกับการสืบคดีของเชอร์ล็อค ภาคที่ 2 จะเกี่ยวกับอดีตของเจฟเฟอร์สัน โฮป ถึงจะรู้อยู่เลาๆว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างไรจากเนื้อหาในครึ่งแรก แต่ตอนอ่านครึ่งหลังก็ยังอดเอาใจช่วยให้สองพ่อลูกหนีพ้นจากพวกนิยมลัทธิมีเมียมากไม่ได้
บันทึก…คนอ่าน
หยิบมาอ่านเมื่อไหร่ก็อ่านเพลิน และทึ่งกับความสามารถของยอดนักสืบคนนี้เสมอ เราให้ฉายาเขาว่า เจ้าพ่อ crime scene ค่ะ เล่มนี้เป็นนิยายนักสืบเล่มแรกที่ได้อ่านเป็นจริงๆ เป็นจังจากห้องสมุดโรงเรียนสมัย ม.ต้น และเป็นที่รู้กันว่าสำนวนแปลที่อ่านแล้วได้อารมณ์ย้อนยุคที่สุด ต้องสำนวนแปลของ อ. สายสุวรรณ แต่เพื่อนบอกคนก็บอกว่าอ่านยากนะคะ เพราะไม่คุ้น อารมณ์ประมาณปลัดศรัณย์เรียก ริน ว่าหล่อนนั่นแหละ แอบชอบปกฉบับพิมพ์นี้ ขรึมดี
จำหลักเชอร์ล็อคโฮล์มส์
เรื่องย่อ
โฮล์มส์เข้าช่วยเหลือในการสืบเรื่องการหายตัวไปอย่างลึกลับของ มิส อลิศ อลิสแตร์ ลูกสาวของลอร์ดอลิสแตร์ ระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศอินเดีย เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ศพของกะลาสีเรือที่ถูกทิ้งลงบนถนนหลวง ซึ่งมีหลักฐานบางอย่างบ่งชี้ว่าเขากำลังเดินทางมาหาโฮล์มส์กลับนำความคืบหน้าอย่างไม่น่าเชื่อมาสู่คดีอันมืดมน
บันทึก….คนอ่าน
ตอนนี้ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นค่ะว่าตกลงแล้วหนูยักษ์ตามคำบอกเล่าของกะลาสีเรือมาทิลด้า บริกส์มันเป็นตัวอะไรกันแน่ ยิ่งเป็นสัตว์จากสุมาตราด้วยก็อาจความเป็นไปได้ว่ามันเป็นหนูจริงๆ แต่แล้วการไล่ล่าหนูยักษ์กลับมาบรรจบกับคดีลักพาตัว เรื่องบ้าๆที่เกิดเพราะคนโรคจิตคนเดียว
บันทึก…คนดู
จำหลักเชอร์ล็อค โฮล์มส์อีกรูปแบบหนึ่ง โดยผู้ผลิตคือ สถานี BBC เอง คราวนี้โฮล์มส์ถูกพาข้ามเวลามาจากยุควิคตอเรีย มาสู่ยุคของควีนอลิซาเบซที่ 2 ค่ะ สิ่งปลูกสร้างต่างๆถูกเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น London eyes ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในปี 2000 ตั้งตระหง่านคู่กับสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับเมืองมานานอย่างหอนาฬิกาบิ๊กเบน เห็นว่ามีแค่ 3 ตอน แต่แต่ละตอนมีความยาวถึง 90 นาที เรียกว่าดูกันมันส์สะใจไปเลย จะว่าไปนี่ถือเป็นจำหลักเชอร์ล็อคโฮล์มส์ที่เราชอบที่สุดในตอนนี้เลยค่ะ
แค่ได้ดูตอนแรกก็รู้สึกได้เลยค่ะ ว่าซีรีย์เก็บรายละเอียดความโฮล์มส์ได้ดีมาก นี่เป็นโฮล์มส์ที่ถอดมาจากนิยายเกือบ 100% ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทาง วิธีการในการสืบคดี ความงี่เง่าที่เป็นเอกลัษณ์ของเขาแบบที่แฟนนิยายระรู้สึกคุ้นเคยกันดี สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมีเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆเพื่อให้เข้ากับยุค IT อย่างเช่น เราได้เห็นโฮล์มส์เขียนบทความของเขาลงในเว็บไซด์ส่วนตัว ส่วนนิยายของด็อกเตอร์วัตสันก็เขียนลงใน blog แทนที่จะเป็นนิตยสาร ใช้วิธีส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือแทนที่โทรเลข ใช้แท็กซี่เป็นพาหนะแทนที่จะใช้รถม้าเหมือนสมัยก่อน ซึ่งดูแล้วไม่ขัดใจนะคะ นอกจากความสุขที่เราได้เห็นโฮล์มส์โดดออกมาจากหนังสือ มาสืบคดีใหม่ๆให้เราได้ตื่นเต้นกันแล้ว ต้องขอชมในส่วนของคีดว่าทำได้ซับซ้อน และน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว จนบางครั้งพวกที่เคยชินกับความยาวของซีรีย์ปกติซึ่งอยู่ที่ 45 นาทีแอบเหนื่อยเหมือนกันว่ามันจะซับซ้อนไปไหน อย่างเรื่องในตอนที่ 2 the blind banker นี่เอาไปทำเป็นหนังที่ฉายตามโรงภาพยนตร์ได้สบายๆ
ซีซั่นที่ 2 ต่อเนื่องกับตอนท้ายของ ซีซั่นก่อนซึ่งเป็นจุดที่คนดูกำลังลุ้นกันว่า พอมอร์ริอาตี้เปลี่ยนใจแล้วจะเป็นยังไง และแล้วโทรศัพท์สายหนึ่งก็เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ขำสีหน้าตอนที่มอร์ริอาตี้กับโฮล์มส์บุ้ยใบ้กันเรื่องโทรศัพท์ที่มาขัดจังหวะ แล้วเรื่องก็จบลงง่ายๆตรงที่มอร์ริอาตี้มีเรื่องที่ต้องไปจัดการวันนี้เลยไม่ว่างตายซะงั้น เรื่องนี้สาววายจิ้นกันกระจายค่ะ ก็นะคู่นี้เคมีมันเข้ากันจริงๆ ขนาดเราโครโมโซมสาววายค่อนข้างง่อยยังรู้สึกได้ แล้วคนเขียนบทก็เหมือนจะรู้นะคะ มีตบมุกล้อเลียนให้เห็นประจำ ว่าเค้าไม่ได้ชอบกันแบบนั้น
โฮล์มส์ซีซั่นนี้เหมือนจะเพิ่มดีกรีวีน เหวี่ยงตามประสาสาวน้อยเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัดตั้งกะต้นเรื่อง ไม่ว่าใครหน้าไหนโดนหมดไม่ว่าลูกค้า แต่ที่ฮาที่สุดคงเป็นตอนพี่น้องทะเลาะกัน ถ้าจำไม่ผิดฉบับดั่งเดิมสองคนพี่น้องก็ดูรักกันดี แต่สำหรับเวอร์ชั่นนี้มีบทงัดข้อกันตลอด แต่ไม่ออกแนวน่ารักประมาณพี่ชายจู้จี้กับน้องชายเอาแต่ใจ ตอนแรกของซีซั่นที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโฮล์มส์ซีรีย์ ไอรีน แอ็ดเลอร์ สาวคนที่มารับบทนี้ตอนแรกเราคิดว่าเธอดูอายุมากไปหน่อย เมื่อเทียบกับโฮล์มส์ แต่พอดูๆไปความก็เปลี่ยนความคิด อันที่จริงเธอก็เหมาะกับบทนี้เหมือนกัน ผู้หญิงจะแกร่งได้มันต้องมีประสบการณ์ ฮาเสียงข้อความที่เธอตั้งให้โฮล์มส์สุดๆ สมกับเป็นตัวแสบประจำเรื่องจริงๆ ฮาตอนนี้หมอวัตสันเสนอชื่อตัวเองเป็นชื่อลูกตอนเห็นสองคนนี้เถียงกัน ก็นะถ้าไม่ขโมยซีนด้วยวิธีนี้หมอแกไม่ได้เกิดแน่
ตอนนี้นอกจากไอรีนแล้วโฮล์มส์แสดงความเอาใจใส่มิสซิสฮัดสันได้น่าเอ็นดูมาก ตอนที่เธอโดนจับเป็นตัวประกัน พอเอาคืนซะ ล่อโจรซะเจ็บหนักแล้วแก้ตัวว่ามันตกจากชั้น 2 แต่แลดเตรดยังถามว่ามันตกลงไปกี่รอบทำไมถึงได้น่วมขนาดนี้ โฮล์มส์ก็กวนกลับว่าไม่ได้นับ สงสัยไอ้โจรนั่นจะเป็นง่อยไปตลอดชีวิต ดูตอนนี้แล้วอยากเป็นมิวซิสฮัดสันขึ้นมาตงิด ตงิด
รู้สึกว่าซีซั่น 2 นี่คนเขียนบทจะใส่มุกน่ารักน่าเอ็นดูไว้เยอะมาก ตอนสองเรายังได้เห็น ท่านั่งเด็กมีปัญหา หรือตอนที่โฮล์มส์อยากบุหรี่จนต้องไปสูดควันของชาวบ้าน แต่ที่เด็ดสุดยกให้บัตรผ่าน กูเข้าได้ ของ มายครอฟต์ค่ะ ตอนสองนี่แอบเคืองเชอร์ล็อคตอนใช้เพื่อนลองยา ให้เราเป็นวัตสันหน่อยไม่ได้แม่จะเหวี่ยงให้กระเจิง
จบ season 2 อย่างดงามด้วยตอนสุดเร้าใจ กับความหวาดระแวงที่บุคคลรอบข้างมีต่อเชอร์ล็อค ดูไปก็แอบสงสารหมดวัตสันไป เพราะเป็นคนเดียวที่ยังเชื่อในตัวเชอร์ล็อคอย่างไม่คลอนแคลนเลยอยากให้เชอร์ล็อคแก้ตัวบ้าง พี่แกฉุนขนาดไปวีนแตกกับไมครอฟตอนที่รู้ว่าพี่ชายของเชอร์ล็อคเป็นคนปล่อยข้อมูลให้เมอริอาร์ตี้เพื่อแลกกับรหัสโปรแกรมที่สามารถเปิดประตูได้ทุกบาน กับเกมสุดท้ายที่เดิมพันด้วยชีวิต และความเจ็บปวดที่ต้องเห็นเพื่อนโดดตึกตายต่อหน้า ถึงแม้คนรอบข้างจะต้องจมอยู่ในความเศร้าในตอนจบ แต่ก็ทิ้งปมไว้ว่าเชอร์ล็อคยังไม่ตาย
เริ่ม season 3 ด้วยการเฉลยว่าเชอร์ล็อกรอดตายมาได้อย่างไร แต่ที่กรี๊ดสุดคงเป็นจูบที่โครตเท่ และผละออกแบบไม่อาวรณ์ ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน แต่คนดูกรี๊ดและสงสารอีกฝ่ายไปพร้อมกัน ก่อนจะมารู้ทีหลังมาเป็นเพียงทฤษฎีหนึ่งเท่านั้น แถมมีอันที่ฮากว่าอย่างทฤษฎีแบบสาววายด้วย
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปสองปี ทุกคนรู้ความจริงและมานั่งเสียใจกับการจากไปของยอดนักสืบ โดยเฉพาะตำรวจ เวลาสองปีที่ทำให้วัตสันว่างจากเพื่อนตัวป่วนไปมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ที่ฮาเป็นตอนที่เชอร์ล็อกกลับมาสารภาพกับจอห์นว่าเขายังไม่ตา แต่เพื่อนกลับไม่สนใจเพราะกำลังจะขอสาวแต่งงาน ยื่งมาเล่นมุกหนวดไม่ถูกที่ถูกเวลาเลยทำให้วัตสันจี๊ด โดดขย้ำคอเพื่อนตัวดีซะเลย และจบลงด้วยการมานั่งให้เพื่อนซักฟอก
ตอนที่ 2 เป็นบรรยากาศอลวนในงานแต่งงานของวัตสัน เป็นตอนที่แสดงให้เป็นความน่ารักของเชอร์ล็อกที่พยาย๊าม พยายามเพื่อเพื่อนรักโดยผ่านสุนทรพจน์ของเพื่อนเจ้าบ่าว ไม่ว่าจะเป็นการพยายามกันมือที่ 3 ที่จะมาแทรกในชีวิตครอบครัวของเพื่อนในอนาคต เกลี้ยกล่อมเด็กถือแหวนแต่งงาน พยามกล่อมให้ไมครอฟมางานแต่ง แถมมีแอบซึ้งจนเจ้าตัวยังงง แถมพอพยามจะจัดปาร์ตี้สละโสดให้เพื่อนด้วยการพยายามควบคุมปริมาณแอลกอฮอร์ด้วยกระบอกตวง ให้สามารถอยู่ได้จนผับเลิกก็ดันไม่สำเร็จ จบด้วยการมานอนในตารางให้แลดเตรคมาพาตัวออกไป ขั้นสุดด้วยการแต่งเพลงวอลล์ให้คู่แต่งงาน ปิดท้ายด้วยการบอกข่าวดี แต่ก็น่าเศร้าที่สุดท้ายเขาจะต้องกลับออกจากงานไปอย่างโดดเดี่ยวก็ตาม ตอนที่ 3 ตัวร้ายทีกุมความลับของคนทั้งโลก เล่นได้น่าขยะแขยงมาก เสียดายบทน้อยไปหน่อย แอบชอบฉากที่เชอร์ล็อกโดนยิง ซับซ้อนดี จะจบลงด้วยลางของการกลับมาของมอร์ริอาตี้
ตอนพิเศษ The Abominable Bride ที่สาวกต้องกรี๊ด เพราะคราวนี้ย้อนกลับไปยุควิคตอเรียแท้ ๆ ตามต้นฉบับนิยาย ฉากเปิดเรื่องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่หมอวัตสันกลับมาอังกฤษใหม่ ๆ และกำลังหาห้องเช่ามาเจอกับโฮล์มสที่กำลังเฆี่ยนศพอย่างเมามัน ก่อนที่จะติ๊งต่างว่าเวลาของการอยู่ร่วมกันผ่านไปแล้วหลายปี หมอวัตสันชินกับการเป็นผู้ช่วยนักสืบแล้ว เป็นตอนเดียวที่ยัดบรรยากาศทุกอย่างมาจนครบ ลุคใส่สูทเนี๊ยบ ๆ หวีผมเรียบหล่อลากมากค่ะพี่น้อง การติดต่อสื่อสารกันด้วยโทรเลข ได้เห็นไมครอฟเวอร์ชั่นตุ้ยนุ้ย แถมหมอวัตสันแต่งงานแล้ว มอร์ริอาตี้ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับผีเจ้าสาวที่กลับมาไล่ยิงคนได้เข้ากับบรรยากาศอึมครึมของยุคนั้น ดูแล้วน่าตื่นเต้นดี แถมตอบจบมีความพัวพันให้ต้องทำความเข้าใจกันเบา ๆ ว่าตกลงนี่มันอะไรยังไง
Season 4 บรรยากาศ Bromance ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเรื่อง season นี้ค่อนข้างจืดจาง แถมได้สืบคดีแบบที่เราชอบแค่ต้นตอนแรก พอรู้ว่าอะไรอยู่ในกอไผ่ก็เป็นดราม่าเมียหนี ตามด้วยเมียตาย แต่ไม่ได้ตายธรรมดาเพราะ version บทของนางเป็นสายลับเก่าที่วางมือมามีลูกมีผัว แต่เรื่องมันไม่ง่ายตามธรรมชาติของคนขี่หลังเสือ เชอร์ล็อคตั้งใจจะปกป้องครอบครัวของเพื่อนรัก แต่กลับหลายเป็นแมรีเอาตัวเข้ามาบังเชอร์ล็อคกำลังจะโดนยิง พ่อเจ้าพระคุณเลยโดนเพื่อนเกลียด เราว่าแค่นี้เรื่องก็แน่นพอแล้ว ไม่น่าใส่ประเด็นเรื่องหมอวัตสันแอบมีชู้ทางใจเข้ามาเลย มันดูลอย ๆ ชอบกล หลังจากนั้นชีวิตของเชอร์ล็อคก็ดิ่งลงเหว ตัดมาตอนที่ 2 การฉีดหน้ากากคนดีของที่ชั่วขนาดสร้างโรงพยาบาลมาเพื่อฆ่าคน นี่อย่างลุ้นว่าหมอวัตสันจะคิดได้ก่อน หรือเชอร์ล็อกจะตายก่อน กับมุกง่าย ๆ อย่างเครื่องอัดเสียงจร้า ก่อนที่จะปิด season นี้ด้วยน้องสาวคนสุดท้องของตระกูลโฮล์มส์ ที่ฉลาดเกินไปจนอันตรายเลยถูกจับไปขังที่เกาะโดดเดี่ยว เลยถึงเวลาเอาคืน พี่ชายสองคนกับหมอวัตสันที่คิดว่าตัวเองเป็นคนคุมเกมแต่กลับโดนตลบหลัง ตอนนี้เล่นปมเกี่ยวกับจิตใจเยอะมาก แต่แอบเซ็งตอนจบปิดง่ายไปหน่อย ที่เทพขนาดนี้กินรวบ 3 ตอนยังได้
เรื่องย่อ
ลอร์ด เฮนรี่ แบล็ควู้ด ฆาตกรซึ่งใช้มนต์ดำฆาตกรรมหญิงสาว 5 ราย ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตฟื้นกลับมาจากความตาย เขาฆ่าบิดาตัวเองเพื่อขึ้นเป็นหัวหน้าลัทธิแทน โฮล์มส์และหมอวัตสันต้องกลับมารับหน้าที่ตามล่าลอร์ดแบล็กวู๊ดอีกครั้ง เป้าหมายแผนบูชายันต์สุดของแบล็ควู๊ดคือตึกรัฐสภา ใครที่เข้าข้างเขาจะมีชีวิตรอด ใครขัดขืนตาย โฮล์มส์เข้าไปหยุดยั้งแผนการร้ายได้สำเร็จ และเปิดโปงเบื้องหลังเวทย์มนตร์ของแบล็ควู๊ด - 18 ตุลาคม 2555
game of shadows
ท่ามกลางเหตุระเบิดหลายครั้งอันสืบเนื่องมาตากความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมัน โฮล์มห์ช่วยหมอฮอฟแมนสตาห์ลจากระเบิดปลิดชีวิตแต่ไม่สามารถป้องกันการลอบสังหารด้วยยาพิษได้ จดหมายลับที่โฮล์มส์ได้มาจากเหตุการณ์ครั้งนั้นนำโฮล้มส์ไปหา มาดามซิมซา หมอดูยิปซี ซึ่งเธอเองก็ถูกตามเอาชีวิตเช่นกัน ต้นเหตุของเรื่องนี้น่าจะมาจาก เรเน่ พี่ชายของเธอ เมื่อแผนการถูกขัดขวาง เมอริอาตี้สั่งสอนโฮล์มส์ด้วยการส่งคนไปเก็บคู่สามีภรรยาวัตสันที่กำลังเดินทางไปฮันนี่มูน โฮล์มส์ตามไปช่วยไว้ได้ เขาฝากแมรี่ภรรยาของเพื่อนไว้กับพี่ชาย ส่วนหมอวัตสันเขาขอร้องให้ตามไปขัดขวางเหตุวางระเบิดที่ฝรั่งเศส ความผิดพลาดในการสันนิษฐานสถานของโฮล์มส์ทำให้ไปขัดขวางเหตุระเบิดที่แท้จริงได้ทัน จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบว่าการระเบิดเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับปกปิดการลอบยิงเจ้าของโรงงานผลิตอาวุธหนักซึ่งเมอริอาตี้เข้าซื้อหุ้นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าของกิจการนั้นโดยสมบูรณ์ แผนต่อไปของศาสตราจารย์คือการลอบสังหารกลางที่ประชุมสันติภาพที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งคราวนี้โฮล์มส์ทำได้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากหมอวัตสันและมาดามซิมซา – 12 ตุลาคม 2555
บันทึก…คนดู
ภาพยนตร์จากนิยายสืบสวนเรื่องโปรด ซึ่งไม่ว่าจะทำออกมาคราใดสาวกต้องตามไปเสพ แต่คำวิจารณ์หลังจากดูจบเป็นอีกเรื่องนึงนะคะ อย่างแรกที่ถูกใจคือ ภาพค่ะ เนื่องจากเรื่องนี้ยังยึดสถานที่ดั่งเดิมตามบทประพันธ์ นั่นก็คือ ลอนดอนในยุควิคตอเรีย ดังนั้นเรื่องฉากจะอาศัยกราฟฟิกซ้อนทับในส่วนของฉากระยะไกล ทำออกมาได้สวยดีทีเดียว
บุคลิกของโฮล์มส์ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะแตกต่างจากที่เราคุ้นเคยในนิยาย เริ่มจากความแนบเนียนในการปลอมตัวจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ออกไปแนวฮาซะด้วยซ้ำ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พอหลอกตาชาวบ้านที่ไม่คุ้นเคยได้ ในส่วนความคิดในเรื่องลัทธินิยมโสดของคุณนักสืบดูจะลดๆลงไปออกเป็นแนวไม่อยากให้เพื่อนรักแต่งงานเพราะหวงมากกว่า กลิ่น Y นี่คลุ้งดีจริงๆ
ในส่วนของหมอวัตสันนี่ก็ไม่แพ้กัน ภาคนี้พี่แกเลือดร้อน และบ้าดีเดือดกว่าฉบับนิยายเยอะ ประมาณว่ายิงก่อนถามที่หลัง มีต่อย มีฉากตีกันด้วยเหอะ แต่ที่ชอบมากๆสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ วัตสันปากจัดขึ้นเยอะ กัดโฮล์มส์ตลอดๆซึ่งเข้ากับโฮล์มส์แบบรั่วๆดีเหมือนกัน แต่ที่ติดตาสุดยกให้ ท่าเต้นหลุดโลกกลางคาราวานยิปซีค่ะ
สรุปว่าทุกคนถูกปรับบุคลิกด้วยการเพิ่มความฮาเหมือนกันหมด บวกกับเพิ่มฉากออกแรงเพื่อไม่ให้หนังโฉ่งฉางมีสีสันมากขึ้น สรุปว่าเป็นหนังที่ดูเพลินดีแต่ไม่กรี๊ดนักสืบ
เรื่องนี้จะมีฉากอนุมานภาพล่วงหน้าในความคิดของโฮล์มส์ ก่อนที่จะลงมือจริง ซึ่งใช้ในการอธิบายความสามารถในการลำดับเหตุการณ์จากการสังเกตของโฮล์มส์ให้เป็นรูปธรรม ฉากแบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักดูแล้วน่าสนใจดีเหมือนกัน
ฉากที่ชอบก็มีตอนที่โฮล์มส์วางกลไกเพื่อนพาเพื่อนหนีคนที่ลอบทำร้ายบนรถไฟ แผนซ้อนแผน กลไลซ้อนกลไก ตื่นตาดีเหมือนกัน ชอบฉากที่ทำให้เห็นว่ากลไลต่างๆทำงานยังไงเป็นภาพช้านี่ชอบสุดๆ กับตอนหนีออกจากโรงงานผลิตอาวุธ ภาพช้าของไม้ที่กระจายตอนโดนลูกปืนนี้มันให้อารมณ์การไล่ล่าดีจริงๆ
ในส่วนของเนื้อเรื่องภาคแรกจะเกี่ยวกับเวทมนต์คาถาลัทธิมืดซึ่งน่าสนใจดี แต่น่าขัดใจนิดหน่อยตรงที่ไม่น่ามีบทของไอรีนเพิ่มเข้ามาเพราะไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องโดยรวมแต่อย่างใดนอกจากมาว่าจ้าง และป่วน โดยส่วนตัวแล้วมีความเห็นว่าน่าจะปล่อยให้โฮล์มส์กับหมอวัตสันสืบกันแค่สองคนเหมือนกับภาพ 2 (ซึ่งเราดันดูก่อน และชอบมากกว่าภาคแรก) จะดีกว่า
เรื่องย่อ
โฮล์มส์ถูกใส่ร้ายว่าลับเปลี่ยนสร้อยคอโบราณระหว่างนำสร้อยที่เพิ่งได้กลับคืนมาจากการสืบสวนไปเก็บในตู้นิรภัยต่อหน้าต่อตาเจ้าของ แต่เชอร์ล็อคไม่ใส่ใจเดินหน้าสืบสวนคดีฆาตกรรม บิชอปไนท์บริดก์ ซึ่งถูกทรมานจนถึงแก่ชีวิต การสันนิษฐานขึ้นต้นบ่งชี้ว่า คนร้ายมีจุดประสงค์เพื่อชิงของอย่างหนึ่งแต่คนร้ายไม่ได้ของสิ่งนั้นไป โดยหลักฐานบ่งชี้ว่าคนร้ายน่าจำเป็นพวกเหลือเดนแถวไวท์ชาเปลที่ถูกจ้างวานให้ทำงาน โฮล์มส์สืบจนรู้ว่าคนร้ายเป็นสัปเหร่อประจำสถานพยาบาล ซึ่งพบกลายเป็นศพอยู่ในบ้านของตนเอง แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น ยิ่งสืบก็ยิ่งเหมือนมีเงาที่มืดมิดยิ่งกว่าอยู่เบื้องหลัง แถมโฮล์มยังถูกใส่ร้ายหนักขึ้นเรื่อยๆ จนแม้แต่วัตสันเองก็ยังลังเลที่จะเชื่อมั่นในตัวจนของเพื่อนรัก
บันทึก…คนเล่น
เกมนี้จำลองขึ้นตอนการสืบสวนมาได้ค่อยข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสถานที่เกิดเหตุ การอนุมานจากหลักฐานที่พบ การตรวจวิเคราะห์ ซึ่งต้องทำให้ถูกต้องตามขึ้นตอนถึงจะไปต่อได้ เลยทำให้การดำเนินเกมออกจะเชื่องช้าพอสมควร เพราะต้องเดินวนหาหลักฐานในห้องให้ครบ ไม่งั้นไปต่อที่อื่นไม่ได้ ครั้นจะหันไปถามวัตสัน คำใบ้ทั้งหลายก็ไม่ได้ช่วยให้รู้อะไรเพิ่มขึ้น ยังดีที่สามารถกดข้ามปริศนาที่แก้ไม่ตกได้ มิฉะนั้นคนเล่นคงเบื่อจนเลิกเล่นไปก่อนที่จะจับคนร้ายได้
อันที่เรากดข้ามทุกครั้งก็คือ การตรวจเปรียบเทียบสารพิษ รู้อยู่ว่าสีที่เกิดขึ้นหลังจากหยดสาร จะช่วยให้เรารู้ว่าสารที่ต้องการสืบหาคือสารอะไร แต่ไม่รู้ว่าต้องลงตารางกันอีท่าไหน เลยอดเหรียญตรานักเคมีเลย…
ส่วนที่น่าประหลาดใจที่สุดของเกมนี้ คงเป็นตอนที่เราได้สวมบทบาทเป็นโทบี้ สุนัขจมูกไวแสนรู้ หนึ่งในผู้ช่วยของโฮล์มส์ด้วย ซึ่งในเกมช่วงนั้นโทบี้ดูจะฉลาดเกินหน้าเกินตาโฮล์มส์ที่ได้แต่เดินตามต้อยๆมาก
กว่าจะเล่นจนจบใช้เวลาโขเหมือนกัน เล่นได้วันละนิดละหน่อยเพราะพอติดตรงไหนก็ตรงเลิก ตื้อไปก็ปวดหัวเปล่าๆ โดยรวมแล้ว เรื่องราวในเกมนี้สนุกสนานซับซ้อนซ่อนเงื่อนใช้ได้ ได้เดินทางไปในบรรยากาศลอนดอนในยุควิคตอเรีย ที่ฟินที่สุดคงเป็นการจำลองแถบไวท์ชาเปล สถานที่ซึ่งเกิดคดี แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ อันลือลั่น แต่ด้วยความอืดอาดของการดำเนินเกม คงได้เล่นแค่รอบเดียว ไม่มี replay แน่นอน
Sherlock Holmes DS The mystery of the mommy
เรื่องย่อ
Sherlock ต้องเข้าไปสืบคดีการฆ่าตัวตายของนักอียิปต์วิทยาคนหนึ่ง ซึ่งในบ้านของพี่แกก็เปรียบเหมือนพิพิธภัณฑ์มัมมี่เลยทีเดียว รวมไปถึงกลไกปริศนาต่างๆที่ติดตั้งไว้ในบ้าน Sherlock ซึ่งถูกขอร้องให้เข้าไปสืบต้องหาทางแก้ปริศนาต่างๆเพื่อผ่านไปยังห้องถัดๆไปเพื่อสำรวจและรวบรวมข้อมูลต่างเพื่อใช้ในการสืบคดี
บันทึก…คนเล่น
สำหรับคนที่อยากเป็นนักสืบ ประเภทชอบใช้แว่นขยายส่องตามพื้น เพื่อหาหลักฐานต่างๆ สามารถเล่นเกมนี้ได้เพลินๆ เพราะจะต้องส่องทุกซอกทุกมุมจริงๆเพื่อหาของที่จะมาประกอบปริศนา โดยส่วนตัวส่องจนเกือบจะอ้วกไปอยู่เหมือนกัน จนบางครั้งไม่ไหวต้องดู trick ที่ให้มาบ้าง เพราะส่องเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซักที อาจเป็นเพราะบรรยากาศของสถานที่ในเกม ที่เขาทำให้มันดูมัวๆเหมาะกับความลึกลับ แต่เป็นอุปสรรคสำคัญกับทัศนวิสัย
แต่สำหรับคนที่ชอบไขคดีจากหลักฐานต่างๆ คืดว่าคงผิดหวัง เพราะในตอนท้ายหลังจากหยุดระเบิดลงได้ แทนที่จะให้เราคลี่คลายคดีเองจากหลักฐานเอกสารต่างๆที่หามาได้ ผลปรากฎว่า Movie ตอนจบ Dr. Wattson โผล่มาคุณ Sherlock ที่รักก็จัดการเฉลยเองเสร็จ แล้วก็เด้งกลับมาที่หน้า Menu ไปซะเฉยๆ แบบงงๆ จนแทบจะตะโกนด่าเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะให้เก็บพวกเอกสารตามรายทางมาทำแป๊ะไร เพราะสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ เฮ้อ... สำหรับเกมนี้ใช้เวลาเล่นไม่นานเท่าไหร่ โหลดมาวันจันทร์ พฤหัสก็จบ แต่จริงๆสมควรจะจบตั้งแต่วันพุธแล้ว ถ้าไม่ติดว่าตาถั่วหา funnel ที่จะใช้ประกอบกลไกถอดระเบิดไม่เจอ ก็แบบว่าฉากมันมืดๆมัวๆนี่เนอะ...
ผลของอาการบาดเจ็บและไข้รากสาดน้อยทำให้หมอวัตสันถูกส่งกลับมาประเทศอังกฤษเพื่อพักรักษาตัวเป็นเวลา 9 เดือน ด้วยเบี้ยเลี้ยงอันน้อยนิดทำให้หมอไม่สามารถพักอยู่ในโรงแรมตลอดไปได้ พอดีกับที่เพื่อนเก่าของวัตสันซึ่งได้พบกันโดยบังเอิญแนะนำให้เขาได้รู้จักกับ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เพื่อนร่วมห้องทดลองเคมีที่โรงพยาบาลซึ่งกำลังหาคนมาหารค่าเช่าห้องอยู่พอดี ทั้งสองจึงได้พำนักอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าหมายเลข 221 บี ถนนเบเกอร์ เชอร์ล็อคประกอบอาชีพเป็นนักสืบที่ปรึกษาทั้งแก่ตำรวจ และผู้คนที่ประสบปัญหา โดยใช้การอนุมาน ซึ่งทำให้วัตสันซึ่งคอยเฝ้าดูการสืบสวนทึ่งอยู่เสมอ วัตสันจึงใช้เวลาว่างที่มีทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเชอร์ล็อค และนำบันทึกคดีต่างๆที่ได้พบเห็นมาเขียนเป็นนิยายลงในนิตยสารจนได้รับความนิยม
ตัวละครสำคัญ
นิยาย
เรื่อง | สืบคดีสีเลือด |
โดย | อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ |
แปล | ก. ชำนะ |
ความยาว | 368 หน้า |
สำนักพิมพ์ | เชอร์ล็อคโฮล์มส์ |
บันทึก…คนอ่าน
นิยายเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นเป็นพิเศษในโอกาครบรอบ 120 ปี เชอร์ล็อค โฮล์มส์ มีคำอธิบายประกอบพิมพ์ด้วยกระดาษสีที่แตกต่างกันตลอดทั้งเล่ม อ่านเล่มนี้แล้วได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของ sherlock เยอะมาก เรื่องบางเรื่องที่กล่าวถึงในนิยายแล้วเราเข้าใจว่าเป็นจริงตามประวัติศาสตร์อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ อ่านเล่มนี้จบแล้วยิ่งตอกย้ำข้อคิดที่ว่า จงอย่าเชื่อคนง่าย ให้ยิ่งหนักแน่นเข้าไปอีก ก็นะ นักเขียนนิยายก็คนเหมือนกัน มีเข้าใจผิดบ้างอะไร้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา เล่มนี้เนื้อหาแบ่งเป็น 2 ภาค ภาคแรกจะเกี่ยวกับการสืบคดีของเชอร์ล็อค ภาคที่ 2 จะเกี่ยวกับอดีตของเจฟเฟอร์สัน โฮป ถึงจะรู้อยู่เลาๆว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างไรจากเนื้อหาในครึ่งแรก แต่ตอนอ่านครึ่งหลังก็ยังอดเอาใจช่วยให้สองพ่อลูกหนีพ้นจากพวกนิยมลัทธิมีเมียมากไม่ได้
ชื่อเรื่อง | เรื่องสั้น เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ชุด การผจญภัย |
เขียน | เซอร์อาร์เทอร์ โคแนน ดอยล์ |
แปล | อ. สายสุวรรณ |
จำนวนหน้า | 299 |
สำนักพิมพ์ | แพรว |
บันทึก…คนอ่าน
หยิบมาอ่านเมื่อไหร่ก็อ่านเพลิน และทึ่งกับความสามารถของยอดนักสืบคนนี้เสมอ เราให้ฉายาเขาว่า เจ้าพ่อ crime scene ค่ะ เล่มนี้เป็นนิยายนักสืบเล่มแรกที่ได้อ่านเป็นจริงๆ เป็นจังจากห้องสมุดโรงเรียนสมัย ม.ต้น และเป็นที่รู้กันว่าสำนวนแปลที่อ่านแล้วได้อารมณ์ย้อนยุคที่สุด ต้องสำนวนแปลของ อ. สายสุวรรณ แต่เพื่อนบอกคนก็บอกว่าอ่านยากนะคะ เพราะไม่คุ้น อารมณ์ประมาณปลัดศรัณย์เรียก ริน ว่าหล่อนนั่นแหละ แอบชอบปกฉบับพิมพ์นี้ ขรึมดี
จำหลักเชอร์ล็อคโฮล์มส์
เรื่อง | หนูยักษ์แห่งสุมาตรา |
โดย | รีชาร์ด แอล บอยเอ้อร์ |
แปล | ปาริชาต รัตนสีมา |
ความยาว | 295 หน้า |
สำนักพิมพ์ | เชอร์ล็อคโฮล์มส์ |
เรื่องย่อ
โฮล์มส์เข้าช่วยเหลือในการสืบเรื่องการหายตัวไปอย่างลึกลับของ มิส อลิศ อลิสแตร์ ลูกสาวของลอร์ดอลิสแตร์ ระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศอินเดีย เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ศพของกะลาสีเรือที่ถูกทิ้งลงบนถนนหลวง ซึ่งมีหลักฐานบางอย่างบ่งชี้ว่าเขากำลังเดินทางมาหาโฮล์มส์กลับนำความคืบหน้าอย่างไม่น่าเชื่อมาสู่คดีอันมืดมน
บันทึก….คนอ่าน
ตอนนี้ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นค่ะว่าตกลงแล้วหนูยักษ์ตามคำบอกเล่าของกะลาสีเรือมาทิลด้า บริกส์มันเป็นตัวอะไรกันแน่ ยิ่งเป็นสัตว์จากสุมาตราด้วยก็อาจความเป็นไปได้ว่ามันเป็นหนูจริงๆ แต่แล้วการไล่ล่าหนูยักษ์กลับมาบรรจบกับคดีลักพาตัว เรื่องบ้าๆที่เกิดเพราะคนโรคจิตคนเดียว
ชื่อเรื่องภาษาไทย - มิสเตอร์ โฮล์มส์
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ - A Slight Trick of the Mind
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ - A Slight Trick of the Mind
เขียน - มิตช์ คิลลิน
แปล - ขีดขิน จินดาอนันต์
จำนวนหน้า - 242
สำนักพิมพ์ - แพรว
อ่านจบเมื่อ - 10 ก.พ. 2562
เรื่องย่อ
ปี 1949 เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ซึ่งอำลาอาชีพนักสืบมาเลี้ยงผึ้งในบ้านไร่อันห่างไกลที่ซัสเซ็กซ์กับคุณนายมันโรแม่บ้านและโรเจอร์บุตรชายวันรุ่นของเธอที่มักจะมาคอยช่วยเหลือชายชราดูแลผึ้ง รวมถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัว
โฮล์มเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปตามคำเชิญของคุณอุเมซากิซึ่งมีความสนใจในพืชตระกูลมะแขว่นซึ่งเชื่อว่าช่วยรักษาสุขภสพเช่นเดียวกับนมผึ้งที่โฮล์มส์รับประทานอยู่เป็นประจำ
ระหว่างที่โฮล์มไม่อยู่ โรเจอร์จะแอบเข้าไปในห้องทำงานของโฮล์มส์เมื่อมีโอกาสเพราะเขาเคารพนับถือในตัวของนักสืบ โดยเฉพาะต้นฉบับสั้น ๆ ที่ยังเขียนไม่เสร็จเรื่อง "นักเล่นพิณแก้ว" ซึ่งเป็นเรื่องของคุณนายแอนน์ เคลเลอร์แห่งฟอร์ทิสโกรฟซึ่งใช้เสียงของพิณแก้วในการเยียวยาจิตใจที่เศร้าหมองจากการแท้งบุตรตามความต้องการของสามี แต่จิตใจของโฮล์มส์เหมือนจะสั่นไหวเพียงแค่ได้เห็นเพียงแค่รูปถ่าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยวิถีทางที่ไม่คาดคิด
โรเจอร์เสียชีวิตอย่างกะทันหัน โฮล์มส์สันนิษฐานว่าเป็นเพราะตัวต่อที่โรเจอร์พยายามทำลายรังของมันเพื่อปกป้องพวกผึ้ง โฮล์มส์รู้สึกเสียใจกับกับเรื่องนี้ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามดึงตัวเองออกมาจากความเศร้าจากการสูญเสียเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับเขาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งดูเหมือนจะยากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เขาหวนนึกถึง คุณนายแอนน์ เคลเลอร์ และนำต้นฉบับ นักเล่นพิณแก้ว กลับมาเขียนต่อจนจบ
โฮล์มเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปตามคำเชิญของคุณอุเมซากิซึ่งมีความสนใจในพืชตระกูลมะแขว่นซึ่งเชื่อว่าช่วยรักษาสุขภสพเช่นเดียวกับนมผึ้งที่โฮล์มส์รับประทานอยู่เป็นประจำ
ระหว่างที่โฮล์มไม่อยู่ โรเจอร์จะแอบเข้าไปในห้องทำงานของโฮล์มส์เมื่อมีโอกาสเพราะเขาเคารพนับถือในตัวของนักสืบ โดยเฉพาะต้นฉบับสั้น ๆ ที่ยังเขียนไม่เสร็จเรื่อง "นักเล่นพิณแก้ว" ซึ่งเป็นเรื่องของคุณนายแอนน์ เคลเลอร์แห่งฟอร์ทิสโกรฟซึ่งใช้เสียงของพิณแก้วในการเยียวยาจิตใจที่เศร้าหมองจากการแท้งบุตรตามความต้องการของสามี แต่จิตใจของโฮล์มส์เหมือนจะสั่นไหวเพียงแค่ได้เห็นเพียงแค่รูปถ่าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยวิถีทางที่ไม่คาดคิด
โรเจอร์เสียชีวิตอย่างกะทันหัน โฮล์มส์สันนิษฐานว่าเป็นเพราะตัวต่อที่โรเจอร์พยายามทำลายรังของมันเพื่อปกป้องพวกผึ้ง โฮล์มส์รู้สึกเสียใจกับกับเรื่องนี้ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามดึงตัวเองออกมาจากความเศร้าจากการสูญเสียเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับเขาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งดูเหมือนจะยากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เขาหวนนึกถึง คุณนายแอนน์ เคลเลอร์ และนำต้นฉบับ นักเล่นพิณแก้ว กลับมาเขียนต่อจนจบ
บันทึก...คนอ่าน
เห็นชื่อ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ บนหน้าปกต้องนึกถึงคดีสืบสวน แรกหยิบเล่มนี้ติดมือมาจากงานสัปดาห์หนังสือเราก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน แต่เนื่องจากโฮล์มส์ในเล่มนี้อายุถึง 93 ปี ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดิน เรื่องจะออกไปวิ่งไล่จับคนร้ายจึงตัดออกไปได้ นิยายเล่มนี้จึงเป็นการเดินทางภายในจิตใจของโฮล์มส์ แบบไม่ต้องมาหาเหตุผลโน่นนี่เหมือนตอนสมัยโฮล์มส์หนุ่ม ๆ ตามชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ
คดี นักเล่นพิณแก้วในอดีต ที่ยกมาเล่าผ่านเรื่องสั้น ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนแต่สื่อถึงสิ่งที่โฮล์มส์ไม่ค่อยจะแสดงออกในวัยหนุ่ม อย่างการมีใจให้หญิงสาว แถมยังเริ่มต้นเพียงแค่การได้เห็นรูปถ่ายซึ่งสามีของเธอนำมาเป็นข้อมูลในการว่าจ้าง อ่านจนจบก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอ อย่างไอรีนพอรู้ว่าเป็นเพราะเธอต่อกรกับเขาได้ แต่กับคุณนายแอนน์ เคลเลอร์นี่คงเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ใช้เหตุผลมาอธิบายไม่ได้ล้วน ๆ เช่นเดียวกับเรื่องของพ่อของคุณอุเมซากิที่โฮล์มส์ตัดสินใจสร้างเรื่องราวขึ้นมาเองเพื่อเยียวยาชายผู้โหยหาบิดาซึ่งเชื่อว่าเขาเคยพบโฮล์มส์ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งภรรยาและลูก และหายสาบสูญไป ซึ่งคนที่คุ้นเคยกับการแสดงออกของโฮล์มส์จะแปลกใจกับการตัดสินใจแบบนี้
เรื่องความตื่นเต้นจากการไขคดีเป็นอันยกไว้ โดยส่วนตัวสิ่งที่นิยายเล่มนี้ต้องการสื่อ ผ่านการนำเรื่องของนักเล่นพิณแก้ว คุณอุเมซากิ และโรเจอร์ มาผูกโยงและเล่าไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน คือ ความรู้สึกภายในจิตใจของโฮล์มส์ ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงอันสัจจะธรรมของชีวิต ซึ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อนักสืบชื่อก้องโลกที่ตอนนี้สังขารร่วงโรยตามวันเวลา การสูญเสียคนสำคัญในชีวิตเพียงไม่กี่คน แม้จะปลีตัวมาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวกับฝูงผึ้ง ทำให้เขามีพื้นที่ในในชีวิตให้กับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น และโฮล์มส์ก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไป
คดี นักเล่นพิณแก้วในอดีต ที่ยกมาเล่าผ่านเรื่องสั้น ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนแต่สื่อถึงสิ่งที่โฮล์มส์ไม่ค่อยจะแสดงออกในวัยหนุ่ม อย่างการมีใจให้หญิงสาว แถมยังเริ่มต้นเพียงแค่การได้เห็นรูปถ่ายซึ่งสามีของเธอนำมาเป็นข้อมูลในการว่าจ้าง อ่านจนจบก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอ อย่างไอรีนพอรู้ว่าเป็นเพราะเธอต่อกรกับเขาได้ แต่กับคุณนายแอนน์ เคลเลอร์นี่คงเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ใช้เหตุผลมาอธิบายไม่ได้ล้วน ๆ เช่นเดียวกับเรื่องของพ่อของคุณอุเมซากิที่โฮล์มส์ตัดสินใจสร้างเรื่องราวขึ้นมาเองเพื่อเยียวยาชายผู้โหยหาบิดาซึ่งเชื่อว่าเขาเคยพบโฮล์มส์ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งภรรยาและลูก และหายสาบสูญไป ซึ่งคนที่คุ้นเคยกับการแสดงออกของโฮล์มส์จะแปลกใจกับการตัดสินใจแบบนี้
เรื่องความตื่นเต้นจากการไขคดีเป็นอันยกไว้ โดยส่วนตัวสิ่งที่นิยายเล่มนี้ต้องการสื่อ ผ่านการนำเรื่องของนักเล่นพิณแก้ว คุณอุเมซากิ และโรเจอร์ มาผูกโยงและเล่าไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน คือ ความรู้สึกภายในจิตใจของโฮล์มส์ ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงอันสัจจะธรรมของชีวิต ซึ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อนักสืบชื่อก้องโลกที่ตอนนี้สังขารร่วงโรยตามวันเวลา การสูญเสียคนสำคัญในชีวิตเพียงไม่กี่คน แม้จะปลีตัวมาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวกับฝูงผึ้ง ทำให้เขามีพื้นที่ในในชีวิตให้กับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น และโฮล์มส์ก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไป
Series
ชื่อเรื่อง | sherlock |
ดูถึง | season 1 – 3 ตอน |
season 2 – 3 ตอน | |
season 3 – 3 ตอน | |
sp - The Abominable Bride season 4 - 3 ตอน | |
ดูจบเมื่อ | 14 มีนาคม 25ุ62 |
บันทึก…คนดู
จำหลักเชอร์ล็อค โฮล์มส์อีกรูปแบบหนึ่ง โดยผู้ผลิตคือ สถานี BBC เอง คราวนี้โฮล์มส์ถูกพาข้ามเวลามาจากยุควิคตอเรีย มาสู่ยุคของควีนอลิซาเบซที่ 2 ค่ะ สิ่งปลูกสร้างต่างๆถูกเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น London eyes ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในปี 2000 ตั้งตระหง่านคู่กับสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับเมืองมานานอย่างหอนาฬิกาบิ๊กเบน เห็นว่ามีแค่ 3 ตอน แต่แต่ละตอนมีความยาวถึง 90 นาที เรียกว่าดูกันมันส์สะใจไปเลย จะว่าไปนี่ถือเป็นจำหลักเชอร์ล็อคโฮล์มส์ที่เราชอบที่สุดในตอนนี้เลยค่ะ
แค่ได้ดูตอนแรกก็รู้สึกได้เลยค่ะ ว่าซีรีย์เก็บรายละเอียดความโฮล์มส์ได้ดีมาก นี่เป็นโฮล์มส์ที่ถอดมาจากนิยายเกือบ 100% ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทาง วิธีการในการสืบคดี ความงี่เง่าที่เป็นเอกลัษณ์ของเขาแบบที่แฟนนิยายระรู้สึกคุ้นเคยกันดี สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมีเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆเพื่อให้เข้ากับยุค IT อย่างเช่น เราได้เห็นโฮล์มส์เขียนบทความของเขาลงในเว็บไซด์ส่วนตัว ส่วนนิยายของด็อกเตอร์วัตสันก็เขียนลงใน blog แทนที่จะเป็นนิตยสาร ใช้วิธีส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือแทนที่โทรเลข ใช้แท็กซี่เป็นพาหนะแทนที่จะใช้รถม้าเหมือนสมัยก่อน ซึ่งดูแล้วไม่ขัดใจนะคะ นอกจากความสุขที่เราได้เห็นโฮล์มส์โดดออกมาจากหนังสือ มาสืบคดีใหม่ๆให้เราได้ตื่นเต้นกันแล้ว ต้องขอชมในส่วนของคีดว่าทำได้ซับซ้อน และน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว จนบางครั้งพวกที่เคยชินกับความยาวของซีรีย์ปกติซึ่งอยู่ที่ 45 นาทีแอบเหนื่อยเหมือนกันว่ามันจะซับซ้อนไปไหน อย่างเรื่องในตอนที่ 2 the blind banker นี่เอาไปทำเป็นหนังที่ฉายตามโรงภาพยนตร์ได้สบายๆ
ซีซั่นที่ 2 ต่อเนื่องกับตอนท้ายของ ซีซั่นก่อนซึ่งเป็นจุดที่คนดูกำลังลุ้นกันว่า พอมอร์ริอาตี้เปลี่ยนใจแล้วจะเป็นยังไง และแล้วโทรศัพท์สายหนึ่งก็เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ขำสีหน้าตอนที่มอร์ริอาตี้กับโฮล์มส์บุ้ยใบ้กันเรื่องโทรศัพท์ที่มาขัดจังหวะ แล้วเรื่องก็จบลงง่ายๆตรงที่มอร์ริอาตี้มีเรื่องที่ต้องไปจัดการวันนี้เลยไม่ว่างตายซะงั้น เรื่องนี้สาววายจิ้นกันกระจายค่ะ ก็นะคู่นี้เคมีมันเข้ากันจริงๆ ขนาดเราโครโมโซมสาววายค่อนข้างง่อยยังรู้สึกได้ แล้วคนเขียนบทก็เหมือนจะรู้นะคะ มีตบมุกล้อเลียนให้เห็นประจำ ว่าเค้าไม่ได้ชอบกันแบบนั้น
โฮล์มส์ซีซั่นนี้เหมือนจะเพิ่มดีกรีวีน เหวี่ยงตามประสาสาวน้อยเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัดตั้งกะต้นเรื่อง ไม่ว่าใครหน้าไหนโดนหมดไม่ว่าลูกค้า แต่ที่ฮาที่สุดคงเป็นตอนพี่น้องทะเลาะกัน ถ้าจำไม่ผิดฉบับดั่งเดิมสองคนพี่น้องก็ดูรักกันดี แต่สำหรับเวอร์ชั่นนี้มีบทงัดข้อกันตลอด แต่ไม่ออกแนวน่ารักประมาณพี่ชายจู้จี้กับน้องชายเอาแต่ใจ ตอนแรกของซีซั่นที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโฮล์มส์ซีรีย์ ไอรีน แอ็ดเลอร์ สาวคนที่มารับบทนี้ตอนแรกเราคิดว่าเธอดูอายุมากไปหน่อย เมื่อเทียบกับโฮล์มส์ แต่พอดูๆไปความก็เปลี่ยนความคิด อันที่จริงเธอก็เหมาะกับบทนี้เหมือนกัน ผู้หญิงจะแกร่งได้มันต้องมีประสบการณ์ ฮาเสียงข้อความที่เธอตั้งให้โฮล์มส์สุดๆ สมกับเป็นตัวแสบประจำเรื่องจริงๆ ฮาตอนนี้หมอวัตสันเสนอชื่อตัวเองเป็นชื่อลูกตอนเห็นสองคนนี้เถียงกัน ก็นะถ้าไม่ขโมยซีนด้วยวิธีนี้หมอแกไม่ได้เกิดแน่
ตอนนี้นอกจากไอรีนแล้วโฮล์มส์แสดงความเอาใจใส่มิสซิสฮัดสันได้น่าเอ็นดูมาก ตอนที่เธอโดนจับเป็นตัวประกัน พอเอาคืนซะ ล่อโจรซะเจ็บหนักแล้วแก้ตัวว่ามันตกจากชั้น 2 แต่แลดเตรดยังถามว่ามันตกลงไปกี่รอบทำไมถึงได้น่วมขนาดนี้ โฮล์มส์ก็กวนกลับว่าไม่ได้นับ สงสัยไอ้โจรนั่นจะเป็นง่อยไปตลอดชีวิต ดูตอนนี้แล้วอยากเป็นมิวซิสฮัดสันขึ้นมาตงิด ตงิด
รู้สึกว่าซีซั่น 2 นี่คนเขียนบทจะใส่มุกน่ารักน่าเอ็นดูไว้เยอะมาก ตอนสองเรายังได้เห็น ท่านั่งเด็กมีปัญหา หรือตอนที่โฮล์มส์อยากบุหรี่จนต้องไปสูดควันของชาวบ้าน แต่ที่เด็ดสุดยกให้บัตรผ่าน กูเข้าได้ ของ มายครอฟต์ค่ะ ตอนสองนี่แอบเคืองเชอร์ล็อคตอนใช้เพื่อนลองยา ให้เราเป็นวัตสันหน่อยไม่ได้แม่จะเหวี่ยงให้กระเจิง
จบ season 2 อย่างดงามด้วยตอนสุดเร้าใจ กับความหวาดระแวงที่บุคคลรอบข้างมีต่อเชอร์ล็อค ดูไปก็แอบสงสารหมดวัตสันไป เพราะเป็นคนเดียวที่ยังเชื่อในตัวเชอร์ล็อคอย่างไม่คลอนแคลนเลยอยากให้เชอร์ล็อคแก้ตัวบ้าง พี่แกฉุนขนาดไปวีนแตกกับไมครอฟตอนที่รู้ว่าพี่ชายของเชอร์ล็อคเป็นคนปล่อยข้อมูลให้เมอริอาร์ตี้เพื่อแลกกับรหัสโปรแกรมที่สามารถเปิดประตูได้ทุกบาน กับเกมสุดท้ายที่เดิมพันด้วยชีวิต และความเจ็บปวดที่ต้องเห็นเพื่อนโดดตึกตายต่อหน้า ถึงแม้คนรอบข้างจะต้องจมอยู่ในความเศร้าในตอนจบ แต่ก็ทิ้งปมไว้ว่าเชอร์ล็อคยังไม่ตาย
เริ่ม season 3 ด้วยการเฉลยว่าเชอร์ล็อกรอดตายมาได้อย่างไร แต่ที่กรี๊ดสุดคงเป็นจูบที่โครตเท่ และผละออกแบบไม่อาวรณ์ ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน แต่คนดูกรี๊ดและสงสารอีกฝ่ายไปพร้อมกัน ก่อนจะมารู้ทีหลังมาเป็นเพียงทฤษฎีหนึ่งเท่านั้น แถมมีอันที่ฮากว่าอย่างทฤษฎีแบบสาววายด้วย
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปสองปี ทุกคนรู้ความจริงและมานั่งเสียใจกับการจากไปของยอดนักสืบ โดยเฉพาะตำรวจ เวลาสองปีที่ทำให้วัตสันว่างจากเพื่อนตัวป่วนไปมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ที่ฮาเป็นตอนที่เชอร์ล็อกกลับมาสารภาพกับจอห์นว่าเขายังไม่ตา แต่เพื่อนกลับไม่สนใจเพราะกำลังจะขอสาวแต่งงาน ยื่งมาเล่นมุกหนวดไม่ถูกที่ถูกเวลาเลยทำให้วัตสันจี๊ด โดดขย้ำคอเพื่อนตัวดีซะเลย และจบลงด้วยการมานั่งให้เพื่อนซักฟอก
ตอนที่ 2 เป็นบรรยากาศอลวนในงานแต่งงานของวัตสัน เป็นตอนที่แสดงให้เป็นความน่ารักของเชอร์ล็อกที่พยาย๊าม พยายามเพื่อเพื่อนรักโดยผ่านสุนทรพจน์ของเพื่อนเจ้าบ่าว ไม่ว่าจะเป็นการพยายามกันมือที่ 3 ที่จะมาแทรกในชีวิตครอบครัวของเพื่อนในอนาคต เกลี้ยกล่อมเด็กถือแหวนแต่งงาน พยามกล่อมให้ไมครอฟมางานแต่ง แถมมีแอบซึ้งจนเจ้าตัวยังงง แถมพอพยามจะจัดปาร์ตี้สละโสดให้เพื่อนด้วยการพยายามควบคุมปริมาณแอลกอฮอร์ด้วยกระบอกตวง ให้สามารถอยู่ได้จนผับเลิกก็ดันไม่สำเร็จ จบด้วยการมานอนในตารางให้แลดเตรคมาพาตัวออกไป ขั้นสุดด้วยการแต่งเพลงวอลล์ให้คู่แต่งงาน ปิดท้ายด้วยการบอกข่าวดี แต่ก็น่าเศร้าที่สุดท้ายเขาจะต้องกลับออกจากงานไปอย่างโดดเดี่ยวก็ตาม ตอนที่ 3 ตัวร้ายทีกุมความลับของคนทั้งโลก เล่นได้น่าขยะแขยงมาก เสียดายบทน้อยไปหน่อย แอบชอบฉากที่เชอร์ล็อกโดนยิง ซับซ้อนดี จะจบลงด้วยลางของการกลับมาของมอร์ริอาตี้
ตอนพิเศษ The Abominable Bride ที่สาวกต้องกรี๊ด เพราะคราวนี้ย้อนกลับไปยุควิคตอเรียแท้ ๆ ตามต้นฉบับนิยาย ฉากเปิดเรื่องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่หมอวัตสันกลับมาอังกฤษใหม่ ๆ และกำลังหาห้องเช่ามาเจอกับโฮล์มสที่กำลังเฆี่ยนศพอย่างเมามัน ก่อนที่จะติ๊งต่างว่าเวลาของการอยู่ร่วมกันผ่านไปแล้วหลายปี หมอวัตสันชินกับการเป็นผู้ช่วยนักสืบแล้ว เป็นตอนเดียวที่ยัดบรรยากาศทุกอย่างมาจนครบ ลุคใส่สูทเนี๊ยบ ๆ หวีผมเรียบหล่อลากมากค่ะพี่น้อง การติดต่อสื่อสารกันด้วยโทรเลข ได้เห็นไมครอฟเวอร์ชั่นตุ้ยนุ้ย แถมหมอวัตสันแต่งงานแล้ว มอร์ริอาตี้ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับผีเจ้าสาวที่กลับมาไล่ยิงคนได้เข้ากับบรรยากาศอึมครึมของยุคนั้น ดูแล้วน่าตื่นเต้นดี แถมตอบจบมีความพัวพันให้ต้องทำความเข้าใจกันเบา ๆ ว่าตกลงนี่มันอะไรยังไง
Season 4 บรรยากาศ Bromance ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเรื่อง season นี้ค่อนข้างจืดจาง แถมได้สืบคดีแบบที่เราชอบแค่ต้นตอนแรก พอรู้ว่าอะไรอยู่ในกอไผ่ก็เป็นดราม่าเมียหนี ตามด้วยเมียตาย แต่ไม่ได้ตายธรรมดาเพราะ version บทของนางเป็นสายลับเก่าที่วางมือมามีลูกมีผัว แต่เรื่องมันไม่ง่ายตามธรรมชาติของคนขี่หลังเสือ เชอร์ล็อคตั้งใจจะปกป้องครอบครัวของเพื่อนรัก แต่กลับหลายเป็นแมรีเอาตัวเข้ามาบังเชอร์ล็อคกำลังจะโดนยิง พ่อเจ้าพระคุณเลยโดนเพื่อนเกลียด เราว่าแค่นี้เรื่องก็แน่นพอแล้ว ไม่น่าใส่ประเด็นเรื่องหมอวัตสันแอบมีชู้ทางใจเข้ามาเลย มันดูลอย ๆ ชอบกล หลังจากนั้นชีวิตของเชอร์ล็อคก็ดิ่งลงเหว ตัดมาตอนที่ 2 การฉีดหน้ากากคนดีของที่ชั่วขนาดสร้างโรงพยาบาลมาเพื่อฆ่าคน นี่อย่างลุ้นว่าหมอวัตสันจะคิดได้ก่อน หรือเชอร์ล็อกจะตายก่อน กับมุกง่าย ๆ อย่างเครื่องอัดเสียงจร้า ก่อนที่จะปิด season นี้ด้วยน้องสาวคนสุดท้องของตระกูลโฮล์มส์ ที่ฉลาดเกินไปจนอันตรายเลยถูกจับไปขังที่เกาะโดดเดี่ยว เลยถึงเวลาเอาคืน พี่ชายสองคนกับหมอวัตสันที่คิดว่าตัวเองเป็นคนคุมเกมแต่กลับโดนตลบหลัง ตอนนี้เล่นปมเกี่ยวกับจิตใจเยอะมาก แต่แอบเซ็งตอนจบปิดง่ายไปหน่อย ที่เทพขนาดนี้กินรวบ 3 ตอนยังได้
Movie
เรื่องย่อ
ลอร์ด เฮนรี่ แบล็ควู้ด ฆาตกรซึ่งใช้มนต์ดำฆาตกรรมหญิงสาว 5 ราย ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตฟื้นกลับมาจากความตาย เขาฆ่าบิดาตัวเองเพื่อขึ้นเป็นหัวหน้าลัทธิแทน โฮล์มส์และหมอวัตสันต้องกลับมารับหน้าที่ตามล่าลอร์ดแบล็กวู๊ดอีกครั้ง เป้าหมายแผนบูชายันต์สุดของแบล็ควู๊ดคือตึกรัฐสภา ใครที่เข้าข้างเขาจะมีชีวิตรอด ใครขัดขืนตาย โฮล์มส์เข้าไปหยุดยั้งแผนการร้ายได้สำเร็จ และเปิดโปงเบื้องหลังเวทย์มนตร์ของแบล็ควู๊ด - 18 ตุลาคม 2555
game of shadows
ท่ามกลางเหตุระเบิดหลายครั้งอันสืบเนื่องมาตากความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมัน โฮล์มห์ช่วยหมอฮอฟแมนสตาห์ลจากระเบิดปลิดชีวิตแต่ไม่สามารถป้องกันการลอบสังหารด้วยยาพิษได้ จดหมายลับที่โฮล์มส์ได้มาจากเหตุการณ์ครั้งนั้นนำโฮล้มส์ไปหา มาดามซิมซา หมอดูยิปซี ซึ่งเธอเองก็ถูกตามเอาชีวิตเช่นกัน ต้นเหตุของเรื่องนี้น่าจะมาจาก เรเน่ พี่ชายของเธอ เมื่อแผนการถูกขัดขวาง เมอริอาตี้สั่งสอนโฮล์มส์ด้วยการส่งคนไปเก็บคู่สามีภรรยาวัตสันที่กำลังเดินทางไปฮันนี่มูน โฮล์มส์ตามไปช่วยไว้ได้ เขาฝากแมรี่ภรรยาของเพื่อนไว้กับพี่ชาย ส่วนหมอวัตสันเขาขอร้องให้ตามไปขัดขวางเหตุวางระเบิดที่ฝรั่งเศส ความผิดพลาดในการสันนิษฐานสถานของโฮล์มส์ทำให้ไปขัดขวางเหตุระเบิดที่แท้จริงได้ทัน จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบว่าการระเบิดเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับปกปิดการลอบยิงเจ้าของโรงงานผลิตอาวุธหนักซึ่งเมอริอาตี้เข้าซื้อหุ้นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าของกิจการนั้นโดยสมบูรณ์ แผนต่อไปของศาสตราจารย์คือการลอบสังหารกลางที่ประชุมสันติภาพที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งคราวนี้โฮล์มส์ทำได้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากหมอวัตสันและมาดามซิมซา – 12 ตุลาคม 2555
บันทึก…คนดู
ภาพยนตร์จากนิยายสืบสวนเรื่องโปรด ซึ่งไม่ว่าจะทำออกมาคราใดสาวกต้องตามไปเสพ แต่คำวิจารณ์หลังจากดูจบเป็นอีกเรื่องนึงนะคะ อย่างแรกที่ถูกใจคือ ภาพค่ะ เนื่องจากเรื่องนี้ยังยึดสถานที่ดั่งเดิมตามบทประพันธ์ นั่นก็คือ ลอนดอนในยุควิคตอเรีย ดังนั้นเรื่องฉากจะอาศัยกราฟฟิกซ้อนทับในส่วนของฉากระยะไกล ทำออกมาได้สวยดีทีเดียว
บุคลิกของโฮล์มส์ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะแตกต่างจากที่เราคุ้นเคยในนิยาย เริ่มจากความแนบเนียนในการปลอมตัวจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ออกไปแนวฮาซะด้วยซ้ำ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พอหลอกตาชาวบ้านที่ไม่คุ้นเคยได้ ในส่วนความคิดในเรื่องลัทธินิยมโสดของคุณนักสืบดูจะลดๆลงไปออกเป็นแนวไม่อยากให้เพื่อนรักแต่งงานเพราะหวงมากกว่า กลิ่น Y นี่คลุ้งดีจริงๆ
ในส่วนของหมอวัตสันนี่ก็ไม่แพ้กัน ภาคนี้พี่แกเลือดร้อน และบ้าดีเดือดกว่าฉบับนิยายเยอะ ประมาณว่ายิงก่อนถามที่หลัง มีต่อย มีฉากตีกันด้วยเหอะ แต่ที่ชอบมากๆสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ วัตสันปากจัดขึ้นเยอะ กัดโฮล์มส์ตลอดๆซึ่งเข้ากับโฮล์มส์แบบรั่วๆดีเหมือนกัน แต่ที่ติดตาสุดยกให้ ท่าเต้นหลุดโลกกลางคาราวานยิปซีค่ะ
สรุปว่าทุกคนถูกปรับบุคลิกด้วยการเพิ่มความฮาเหมือนกันหมด บวกกับเพิ่มฉากออกแรงเพื่อไม่ให้หนังโฉ่งฉางมีสีสันมากขึ้น สรุปว่าเป็นหนังที่ดูเพลินดีแต่ไม่กรี๊ดนักสืบ
เรื่องนี้จะมีฉากอนุมานภาพล่วงหน้าในความคิดของโฮล์มส์ ก่อนที่จะลงมือจริง ซึ่งใช้ในการอธิบายความสามารถในการลำดับเหตุการณ์จากการสังเกตของโฮล์มส์ให้เป็นรูปธรรม ฉากแบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักดูแล้วน่าสนใจดีเหมือนกัน
ฉากที่ชอบก็มีตอนที่โฮล์มส์วางกลไกเพื่อนพาเพื่อนหนีคนที่ลอบทำร้ายบนรถไฟ แผนซ้อนแผน กลไลซ้อนกลไก ตื่นตาดีเหมือนกัน ชอบฉากที่ทำให้เห็นว่ากลไลต่างๆทำงานยังไงเป็นภาพช้านี่ชอบสุดๆ กับตอนหนีออกจากโรงงานผลิตอาวุธ ภาพช้าของไม้ที่กระจายตอนโดนลูกปืนนี้มันให้อารมณ์การไล่ล่าดีจริงๆ
ในส่วนของเนื้อเรื่องภาคแรกจะเกี่ยวกับเวทมนต์คาถาลัทธิมืดซึ่งน่าสนใจดี แต่น่าขัดใจนิดหน่อยตรงที่ไม่น่ามีบทของไอรีนเพิ่มเข้ามาเพราะไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องโดยรวมแต่อย่างใดนอกจากมาว่าจ้าง และป่วน โดยส่วนตัวแล้วมีความเห็นว่าน่าจะปล่อยให้โฮล์มส์กับหมอวัตสันสืบกันแค่สองคนเหมือนกับภาพ 2 (ซึ่งเราดันดูก่อน และชอบมากกว่าภาคแรก) จะดีกว่า
Game
ชื่อเกม | The testament of Sherlock Holmes |
platfrom | PS3 |
clear time | 21.40 |
clear date | 24 พฤษภาคม 2556 |
เรื่องย่อ
โฮล์มส์ถูกใส่ร้ายว่าลับเปลี่ยนสร้อยคอโบราณระหว่างนำสร้อยที่เพิ่งได้กลับคืนมาจากการสืบสวนไปเก็บในตู้นิรภัยต่อหน้าต่อตาเจ้าของ แต่เชอร์ล็อคไม่ใส่ใจเดินหน้าสืบสวนคดีฆาตกรรม บิชอปไนท์บริดก์ ซึ่งถูกทรมานจนถึงแก่ชีวิต การสันนิษฐานขึ้นต้นบ่งชี้ว่า คนร้ายมีจุดประสงค์เพื่อชิงของอย่างหนึ่งแต่คนร้ายไม่ได้ของสิ่งนั้นไป โดยหลักฐานบ่งชี้ว่าคนร้ายน่าจำเป็นพวกเหลือเดนแถวไวท์ชาเปลที่ถูกจ้างวานให้ทำงาน โฮล์มส์สืบจนรู้ว่าคนร้ายเป็นสัปเหร่อประจำสถานพยาบาล ซึ่งพบกลายเป็นศพอยู่ในบ้านของตนเอง แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น ยิ่งสืบก็ยิ่งเหมือนมีเงาที่มืดมิดยิ่งกว่าอยู่เบื้องหลัง แถมโฮล์มยังถูกใส่ร้ายหนักขึ้นเรื่อยๆ จนแม้แต่วัตสันเองก็ยังลังเลที่จะเชื่อมั่นในตัวจนของเพื่อนรัก
บันทึก…คนเล่น
เกมนี้จำลองขึ้นตอนการสืบสวนมาได้ค่อยข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสถานที่เกิดเหตุ การอนุมานจากหลักฐานที่พบ การตรวจวิเคราะห์ ซึ่งต้องทำให้ถูกต้องตามขึ้นตอนถึงจะไปต่อได้ เลยทำให้การดำเนินเกมออกจะเชื่องช้าพอสมควร เพราะต้องเดินวนหาหลักฐานในห้องให้ครบ ไม่งั้นไปต่อที่อื่นไม่ได้ ครั้นจะหันไปถามวัตสัน คำใบ้ทั้งหลายก็ไม่ได้ช่วยให้รู้อะไรเพิ่มขึ้น ยังดีที่สามารถกดข้ามปริศนาที่แก้ไม่ตกได้ มิฉะนั้นคนเล่นคงเบื่อจนเลิกเล่นไปก่อนที่จะจับคนร้ายได้
อันที่เรากดข้ามทุกครั้งก็คือ การตรวจเปรียบเทียบสารพิษ รู้อยู่ว่าสีที่เกิดขึ้นหลังจากหยดสาร จะช่วยให้เรารู้ว่าสารที่ต้องการสืบหาคือสารอะไร แต่ไม่รู้ว่าต้องลงตารางกันอีท่าไหน เลยอดเหรียญตรานักเคมีเลย…
ส่วนที่น่าประหลาดใจที่สุดของเกมนี้ คงเป็นตอนที่เราได้สวมบทบาทเป็นโทบี้ สุนัขจมูกไวแสนรู้ หนึ่งในผู้ช่วยของโฮล์มส์ด้วย ซึ่งในเกมช่วงนั้นโทบี้ดูจะฉลาดเกินหน้าเกินตาโฮล์มส์ที่ได้แต่เดินตามต้อยๆมาก
กว่าจะเล่นจนจบใช้เวลาโขเหมือนกัน เล่นได้วันละนิดละหน่อยเพราะพอติดตรงไหนก็ตรงเลิก ตื้อไปก็ปวดหัวเปล่าๆ โดยรวมแล้ว เรื่องราวในเกมนี้สนุกสนานซับซ้อนซ่อนเงื่อนใช้ได้ ได้เดินทางไปในบรรยากาศลอนดอนในยุควิคตอเรีย ที่ฟินที่สุดคงเป็นการจำลองแถบไวท์ชาเปล สถานที่ซึ่งเกิดคดี แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ อันลือลั่น แต่ด้วยความอืดอาดของการดำเนินเกม คงได้เล่นแค่รอบเดียว ไม่มี replay แน่นอน
Sherlock Holmes DS The mystery of the mommy
ชื่อเกม | Sherlock Holmes DS The Mystery of the Mummy |
platfrom | NDS |
clear time | 21.40 |
เรื่องย่อ
Sherlock ต้องเข้าไปสืบคดีการฆ่าตัวตายของนักอียิปต์วิทยาคนหนึ่ง ซึ่งในบ้านของพี่แกก็เปรียบเหมือนพิพิธภัณฑ์มัมมี่เลยทีเดียว รวมไปถึงกลไกปริศนาต่างๆที่ติดตั้งไว้ในบ้าน Sherlock ซึ่งถูกขอร้องให้เข้าไปสืบต้องหาทางแก้ปริศนาต่างๆเพื่อผ่านไปยังห้องถัดๆไปเพื่อสำรวจและรวบรวมข้อมูลต่างเพื่อใช้ในการสืบคดี
บันทึก…คนเล่น
สำหรับคนที่อยากเป็นนักสืบ ประเภทชอบใช้แว่นขยายส่องตามพื้น เพื่อหาหลักฐานต่างๆ สามารถเล่นเกมนี้ได้เพลินๆ เพราะจะต้องส่องทุกซอกทุกมุมจริงๆเพื่อหาของที่จะมาประกอบปริศนา โดยส่วนตัวส่องจนเกือบจะอ้วกไปอยู่เหมือนกัน จนบางครั้งไม่ไหวต้องดู trick ที่ให้มาบ้าง เพราะส่องเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซักที อาจเป็นเพราะบรรยากาศของสถานที่ในเกม ที่เขาทำให้มันดูมัวๆเหมาะกับความลึกลับ แต่เป็นอุปสรรคสำคัญกับทัศนวิสัย
แต่สำหรับคนที่ชอบไขคดีจากหลักฐานต่างๆ คืดว่าคงผิดหวัง เพราะในตอนท้ายหลังจากหยุดระเบิดลงได้ แทนที่จะให้เราคลี่คลายคดีเองจากหลักฐานเอกสารต่างๆที่หามาได้ ผลปรากฎว่า Movie ตอนจบ Dr. Wattson โผล่มาคุณ Sherlock ที่รักก็จัดการเฉลยเองเสร็จ แล้วก็เด้งกลับมาที่หน้า Menu ไปซะเฉยๆ แบบงงๆ จนแทบจะตะโกนด่าเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะให้เก็บพวกเอกสารตามรายทางมาทำแป๊ะไร เพราะสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ เฮ้อ... สำหรับเกมนี้ใช้เวลาเล่นไม่นานเท่าไหร่ โหลดมาวันจันทร์ พฤหัสก็จบ แต่จริงๆสมควรจะจบตั้งแต่วันพุธแล้ว ถ้าไม่ติดว่าตาถั่วหา funnel ที่จะใช้ประกอบกลไกถอดระเบิดไม่เจอ ก็แบบว่าฉากมันมืดๆมัวๆนี่เนอะ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น