ชื่อหนังสือ | ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนางานได้ |
เขียน | ผศ.เธียรชัย พันธ์คง |
จำนวนหน้า | 198 |
สำนักพิมพ์ | postbook |
version | Meb Ebook |
อ่านจบเเมื่อ | 28 ตุลาคม 2561 |
โปรยปกหน้า
สุดยอดเคล็ดลับเพิ้อปรับปรุง “กระบวนการทำงาน” ในทุกระดับและทุกสายอาชีพ ลดขั้นตอน ขจัดความผิดพลาด เสริมด้วยไอเดียริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับผู้ที่กำลังแสวงหสความก้าวหน้าให้ตนเองทุกคน
บันทึก…คนอ่าน
ช่วงกำลังหาไอเดียพัฒนางานเพื่อทำตำแหน่งชำนาญการแต่ยังไม่รู้จะทำเรื่องอะไรดี เลยกดหนังสือมาหลายเล่มไว้อ่านเป็นไอเดีย ตัดสินใจกดจากชื่อเรื่องโดยที่ไม่ได้ทดลองอ่านเนื้อหาก่อน แล้วเราก็ได้มาเจอกับแนวคิดที่คุ้นเคยเมื่อสมัยทำงานโรงงานอาหารแช่แข็งตอนจบใหม่ ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น Kaizen นั่นเอง ถึงแม้เราจะคุ้นเคยกับการเอาไปใช้ในการพัฒนางานในกระบวนการผลิตเพื่อลดเวลา ลดcost ฯลฯ อ่านแล้วยิ่งนึกถึงความหลัง ในแง่ของการกระตุ้นให้เห็นถึงประโยชน์ในการพัฒนางานโดยใช้หลัก Kaizen ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ แต่วิธีในการนำเสนอของเล่มนี้ เหมือนรวมเอาความเรียงสั้น ๆ ภายใต้หัวข้อเดียวกัน มาจัดเรียง บางความเรียงก็พูดถึงแนวคิด บางอันยกตัวอย่าง เลยรู้สึกถึงความไม่ต่อเนื่องของเนื้อหา อาศัยวงข้อความที่ชอบแล้วมาเรียงร้อยกันอีกที
แนวคิดจากหนังสือ
เคล็ดไม่ลับ 2 ข้อ ที่จะทำให้คุณเก่งในงาน คือ
1. รู้กระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ อันได้แก่การคลี่ขั้นตอนการทำงานออกมาให้เห็นภาพทั้งหมดว่า งานเราเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ศึกษาแต่ละขั้นตอนให้ละเอียดว่า “ทำอย่างไร” ใช้เวลาเท่าไหร่” “มีเอกสาร หรือประกาศ ระเบียบอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง” ที่สำคัญ ขั้นตอนไหนมี “เดทไลน์” หรือ “จุดที่ควรระวัง” อะไรบ้าง จะทำให้เราจัดสรรความเอาใจใส่ได้ถูก ว่าอะไรควรเข้มงวดหรือควรผ่อนปรน
2. รู้ว่าพัฒนางานอย่างไร ในความเป็นจริงทุกสิ่งรอบตัวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉะนั้นเราจึงควรหาวิธีปรับปรุงงานทุก ๆ วัน
มีหรือไม่? งานบางงานไม่ควรทำแต่ต้น
กระบวนการหรือขั้นตอนบางขั้นตอนไม่มีคุณค่า
เอกสารหรือแบบฟอร์มที่เลิกทำก็ไม่เสียหายอะไร
การตั้งคำถาม “เลิก ลด เปลี่ยน” กับปัญหาหรืองานนั้นสำคัญยิ่ง
การทำไคเซ็นนั้นให้ทำแบบค่อยเป็นค่อยไปแบบต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องคิดปรับปรุงเรื่องใหญ่ ๆ แบ่งออกเป็น 3 step คือ
1. ป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิด (Proof) คือ แก้ปัญหาให้หมดสิ้น หรือการทำให้เป็นเลิศ
2. ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นได้ยาก หรือลดปัญหาให้เหลือน้อยที่สุด (Relieve)
3. แม้จะเกิดปัญหา แต่ผลกระทบจะน้อย (Save) หรือหากเกิดปัญหาก็ขอให้พบเจอได้ง่าย
หลายคนเข้าใจถูกต้องแล้วว่า ไคเซ็น คือการปรับปรุงงานของตนเอง แต่อย่าลืมงานที่เกี่ยวข้องกับเราด้วย ว่าเมื่อเราปรับปรุงงานของเราแล้ว ผลการไคเซ็นไปกระทบกับงานใครบ้าง เป็นไปได้มากทีเดียวที่เมื่อปรับปรุง “งานเราดีขึ้น” แต่ทำให้งานโดยรวม “แย่ลง” อย่างนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฉะนั้นหากงานเกี่ยวข้องกันก็ควรจะร่วมมือกันแก้ปัญหาเป็นทีม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น