สงครามพลิกจักรวาล

 

ชื่อหนังสือ	สงครามพลิกจักรวาล
ชื่อภาษาอังกฤษ	Ender’s Game
เขียน	ออรสัน สก็อตต์ การ์ด
แปล	อมฤต โอภาสเศรษฐกุล
จำนวนหน้า	350
สำนักพิมพ์	แพรว
version	Naiin E book
อ่านจบเมื่อ	15 กันยายน 2561
version	movie
ดูจบเมื่อ	3 กันยายน 2561

 

เรื่องย่อ

    การถูกเอามอนิเตอร์ที่ถูกฝังอยู่หลังคอออก นำมาซึ่งการกลั่นแกล้งของเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งนอกจากต้องสู้ให้ชนะแล้ว เอนเดอร์ต้องป้องกันการแก้แค้นที่จะมีขึ้นตามมา เด็กชายวัยเพียง 6 ปี ซึ่งเป็นบุตรคนที่ 3 ในยุคที่ประชากรล้นโลก จนต้องออกกฎหมายห้ามมีบุตรเกิน 2 คน จึงต้องลงมือกับคู่ต่อสู้ที่นอนหมดทางสู้อยู่บนพื้น

   เอนเดอร์กลับบ้านไปเผชิญกับการถูกปีเตอร์พี่ชายคนโตกลั่นแกล้งถึงขึ้นขู่ฆ่า ซึ่งวาเลนไทน์พี่สาวคนรองออกโรงปกป้องเขาเหมือนเคย ทั้ง 3 คนเป็นเด็กที่ฉลาดอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งกองยานนานาชาติหมายตาให้หนึ่งในพวกเขาทำหน้าที่ผู้บัญชาการในการรบกับพวกบักเกอร์ เอเลี่ยนที่มาโจมตีโลกเมื่อหลายสิบปีก่อน ปีเตอร์กับวาเลนไทน์ไม่ผ่านการประเมินด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ถึงอย่างนั้น ปีเตอร์ไม่พอใจที่เอนเดอร์ติดมอนิเตอร์ไว้นานกว่าเขา 1 ปี

   กราฟฟ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรอบรมเบื้องต้นแห่งโรงเรียนการสงครามที่วงแหวนหมู่ดาว มาเชิญเอนเดอร์ไปเข้าเรียน เพราะพฤติกรรมหลังการถอดมอร์นิเตอร์คือการทดสอบขั้นสุดท้าย แต่วิธีการสอนที่เอนเดอร์ต้องรับมือต่างออกไป กราฟฟ์ทำให้เด็กคนอื่นเห็นเขาเป็นศัตรูตั้งแต่เริ่มเดินทางในกระสวยอวกาศ แม้ว่าเอนเดอร์จะถูกโดดเดี่ยว แต่เขาก็มีวิธีจัดการกับมันจนในที่สุดเขาก็ไม่โดดเดี่ยว แต่พวกครูไม่ปล่อยให้เขาอยู่อย่างสงบนานนัก เอนเดอร์ถูกเลื่อนเข้าประจำการหน่วยรบซาลาแมนเดอร์ ซึ่งผู้บัญชาการไม่พอใจที่ต้องเสียหัวหน้าหมวดมองเขาเป็นตัวไร้ประโยชน์ ยกเว้นเพตรา ผู้หญิงคนเดียวในหน่วยรบ เธอเป็นเพื่อนกับเอนเดอร์และช่วยฝึกให้เขาในช่วงเวลาว่างหลังอาหารเช้า นอกเหนือจากนี้เอนเดอร์ทำได้เพียงสังเกตการซ้อมของหน่วยเพราะเขาได้รับคำสั่งให้นั่งทำการบ้านอยู่มุมห้อง และไม่อนุญาตให้ยิงเมื่อเข้าสู่่สมรภูมิ แต่การยอมขัดคำสั่งในการต่อสู้ครั้งหนึ่งของเอนเดอร์ทำให้เขาได้ย้ายไปอยู่หน่วยรบหนู หน่วยรบที่เอนเดอร์ได้แสดงฝีมือจนเป็นที่ยอมรับ เอนเดอร์ได้เลื่อนเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบมังกร ซึ่งเขาได้รับมอบหมายนายทหารใหมถึง 3/4 แต่หน่วยรบของเขาไม่เคยแพ้ แม้ว่าการสู้รบในแต่ละครั้งจะไร้ความยุติธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ เอนเดอร์รู้ดีว่าพวกครูคือศัตรูของเขา ในวันที่เอนเดอร์หมดความอดทน กับการต้องสู้แบบ 2 รุมหนึ่ง เขาเอาชนะโดยไม่ใส่ใจต่อกำลังรบ เอนเดอร์กลับได้เลื่อนไปเรียนโรงเรียนบัญชาการ แต่ก่อนไปพวกเขาให้เอนเดอร์ใช้เวลาสั้น ๆ บนโลก และการพูดคุยกับวาเลนไทน์ทำเอนเดอร์ยอมไปโรงเรียนบัญชาการ

    เมื่อเอนเดอร์เอาชนะทุกศึกกับซิมูเลเตอร์ ศัตรูคนใหม่ก็ถูกส่งมายืนตรงหน้าเขา เมเซอร์ แร็คแฮม วีรบุรุษสงครามบักเกอร์คราวก่อน คราวนี้เอนเดอร์ได้ฝึกบัญชาการกับผู้บังคับฝูงบินซึ่งล้วนเป็นคนคุ้นเคยจากโรงเรียนการสงคราม ทำให้การฝึกกลายเป็นเรื่องสนุก แต่มันไม่ยืนยาวเมื่อความกดดันในการเอาชนะทวีความรุนแรงจนเกินจะทนทาน จนเมื่อการสอบไล่มาถึง เอนเดอร์ต้องต่อสู่กับกองยานของข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่านับพันเท่า การเอาชนะด้วยการทำลายดาวของฝ่ายตรงข้าม โดยไม่สนความสูญเสียด้วยความคิดเพียงว่าหากทำให้ตนเองอันตรายเกินไป เขาจะไม่ต้องเล่นเกมส์นี้อีก กลับกลายเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ของจริง เพราะตั้งแต่เมเซอร์มาอยู่ตรงหน้าเขา ทุกศึกคือการรบจริง เอนเดอร์เสียใจมาก เขาไม่ว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษแต่คือฆาตกร

 

บันทึก…คนดู

     หลัง ๆ จะไม่ค่อยเขียนถึงหนังที่ฉายทางฟรีทีวี แต่เรื่องนี้ชอบมากเป็นพิเศษ ต้องบันทึกความทรงจำกันสักหน่อย ครั้งแรกได้ดูคือ program รอบดึกของช่อง mono29 แค่ครึ่งหลัง น่าจะต้องแต่ตอนที่เมเซอร์ แร็คแฮม บุกเข้าไปหาเอนเดอร์ในห้อง ชอบฉากบัญชาการรบมาก จนถึงขนาดที่คืนนั้นเลิกนอนทั้งที่ควรจะสลบต่อเพราะต้องเหนื่อยจัดประชุม 2 งานในวันเดียว ต้องเปิด net ดูซ้ำอีกรอบตั้งแต่ต้น แถมยังวนเวียนดูฉากบัญชาการรบอีกหลายตลบ หลงรักหนุ่มน้อย เอนเดอร์ ในเรื่องนี้แบบสุด ๆ จะเรียกว่า โดนตก ก็ได้แถมตามดูหนังที่ Asa แสดงนำไปอีก…ถือว่าอาการหนักพอดู อยากซื้อเก็บแต่ไล่ดูใน itune ก็ยังไม่เปิดขาย…แต่ DVD ยังมีอยู่ จะเก็บแผ่นดีไหมนะ

 

บันทึก…คนอ่าน

    ควักตังค์เปย์อีบุ๊คนิยายเรื่องนี้มาในวันเดียวกับที่ได้ดูหนังเลย เพราะไล่อ่านบทวิจารณ์ที่ส่วนใหญ่บอกว่า ถึงแม้ตัวหนังค่อนข้างเดินตามเนื้อเรื่องในหนังสือ แต่ก็ยังตกประเด็นอันลุ่มลึกบางส่วน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหนังสือมีรายละเอียดในส่วนนี้มากกว่า เพราะอธิบายในประเด็นเกี่ยวกับ ปมคนที่ 3 ของเอนเดอร์ว่าเหมือนเป็นความกระอักกระอ่วนของพ่อแม่ที่พวกเขาจำเป็นต้องแหกกฎทั้งที่ไม่อยากทำ ซึ่งเป็นตัวผลักหนึ่งให้เอนเดอร์ต้องเข้าโรงเรียนการสงคราม เพราะมิฉะนั้นแล้ว เขาจะเสียเหตุผลของการคงอยู่ และต้องเผชิญโชคชะตาของการต้องถูกทำให้ล้อมรอบด้วยศัตรูตลอดเวลาเพื่อกดดันให้เด็กที่อายุเพียง 6 ขวบ ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ซึ่งเอนเดอร์ก็มีวิธีผูกมิตร ในขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง ช่วงนี้อ่านเพลินดี ยิ่งดูหนังมาก่อนจะนึกภาพตามได้ตลอด

   แต่ช่วงพีคที่สุดคงเป็นฉากการรบครั้งสุดท้าย ที่หลาย ๆ คนคิดว่าเอนเดอร์เทพขนาดนั้น ทำไมใช้กลยุทธ์ง่าย ๆ อย่างการใช้ทั้งหมดที่มีปกป้องยาน MD เพื่อยิงใส่ยานข้าศึก ซึ่งการเลือกใช้กลยุทธ์นี้มันมันมีที่มาที่ไปจากการถูกกดดัน เอนเดอร์อยากจะเลิกเล่นเกมของพวกผู้ใหญ่เสียที เลยใช้วิธีสู้แบบไม่สนความสูญเสีย เมื่อมารู้ทีหลังว่ากองยานที่เขาไม่เคยใส่ใจล้วนมีผู้เสียชีวิต เอนเดอร์ถึงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฆาตกร บวกเพิ่มไปกับที่รู้สึกว่าตัวเองฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกบักเกอร์ที่เขาเริ่มรู้ว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะโจมตี

   และสุดท้าย แม้ว่านิยายเรื่องนี้จะพูดถึงการทำสงคราม แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงคุณค่าของสันติภาพ และความไร้สาระของสงคราม ซึ่งบางครั้งเกิดขึ้นเพียงเพราะ สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เท่านั้นเอง