งานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.๙

     งานใหญ่ที่คนไทยทุกคนพร้อมใจกันทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไม่ว่าใครถ้ามีโอกาสไม่ว่างานใหญ่ งานเล็ก ต่างยินดีทำ เราเองมีโอกาสทำดอกไม้จันถวาย ได้มาจับดอกไม้ประดิษฐ์อีกครั้งหลังจากสมัยใส่คอซองก็คราวนี้ ส่วนวันถวายพระเพลิงมีหลายคนที่ไปบำเพ็ญประโยชน์เป็นอาสาสมัครส่วนเราตั้งใจไว้แล้วตั้งแต่วันที่ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย ตอนนั้นไม่ได้ไปเฝ้าท่านตอนเสด็จจากโรงพยาบาลศิริราชมาพระบรมมหาราชวัง ก็ขอให้ได้ไปส่งท่านในวันงาน คราวนี้เราออกตัวตั้งแต่เนิ่น ปีใหม่ ลงกรานต์ไม่ขอหยุดเพิ่ม แต่งานนี้พี่ขอ ส่งใบลาตั้งแต่วันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2560

วันที่ 25 ตุลาคม 2560

     ลาเต็มวันก็จริงแต่กว่าจะได้ออกจากห้องก็ประมาณบ่ายสองโมง พอดีตรงกับช่วงเทศกาลกินเจ เลยเตรียมตัวไปเยอะหน่อย ซื้อขนมปังเจจาก 7-11 ติดกระเป๋าไปด้วย ตอนตรวจกระเป๋าก่อนเข้าเขตเกาะเมืองยังโดนตำรวจแซวว่าอยู่ได้ 3 วัน

 

      หลังจากหมายกำหนดงานวันพระราชพิธีออกฯ ก็เกิดการแย่งโรมแรมกันเป็นการใหญ่ ทำให้ครั้งนี้มีโอกาสได้นอนห้องแบบหอพักรวมเป็นครั้งแรกกับ 89 Hostel ห้องใหญ่ขนาด 8 เตียง กับห้องน้ำรวม กว่าจะเดินเข้าตรอกมาถึงที่พักก็ราว ๆ 5 โมงเย็น เพิ่งรู้ว่าด้านหลังนิทรรศรัตนโกสินทร์มีโฮสเทลอยู่หลายที่ แถมได้วิวโลหะปราสาทด้วย มาถึงก็รองท้องด้วยข้าวเหนียวไก่ทอดที่ได้รับแจกมาระหว่างทาง เพื่อความไม่เรื่องมากก็ออกเจเลยก็แล้วกัน อิ่มแล้วจะได้ออกไปเดินเล่น

   

    ที่ริมถนนผู้คนจับจองที่นั่งกันเต็มไปหมด จากข่าวเห็นว่ามาเข้าคิวเพื่อที่จะเข้าไปในมณฑลพิธีกันตั้งแต่วันจันทร์ ลองเดินไปดูก็เดินได้สุดแค่ตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลยเดินกลับมาตั้งหลักที่ตรงพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ รอส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 10 กลับจากพระราชพิธี

วันที่ 26 ตุลาคม 2560

  

     แต่งชุดจิตรลดาออกมาจากที่พักตอน 7 โมงเช้ามาที่ลานคนเมือง กะว่าน่าจะได้ถวายดอกไม้จันเสร็จก่อนเที่ยง แต่ขอบอกว่าเราดูถูกคนไทยมากเกินไป เพราะเอาเข้าจริงคนเยอะมาก ๆ ไปเข้าแถววนไปวนมาในวัดสุทัศน์ ที่น่าแปลกสำหรับงานแบบนี้คือ ตอน 4 โมงเย็นซึ่งเป็นช่วงพักพระราชพิธี มีฝนตกลงม จะว่าแปลกก็แปลกเพราะปรกติงานแบบนี้จะต้องเตรียมการมาอย่างดี แต่ก็ช่างพอเหมาะเพราะตกแบบไม่กระทบพระราชพิธี พระราชาจิกมี ทรงตรัสว่า สำหรับชาวภูฏาน ฝนแบบนี้คือคำอวยพรจากฟากฟ้า ซึ่งเราว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น กว่าเราจะได้วางดอกไม้จันก็ประมาณ สอง ทุ่ม ใช้เวลา 13 ชั่วโมง ตอนเราถวายดอกไม้จันตรงกับช่วงที่ราชอาคันตุกะถวายดอกไม้จัน เห็นแต่ละพระองค บางองค์ก็เคยมางานฉลองสิริราชสมบัติเมื่อ 10 ปีก่อน เข้าไปถึงพระเมรุมาศจำลองแล้วน้ำตาหยดเลย หลังจากนั้นก็ออกมารอช่วงถวายพระเพลิงจริงที่ตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กว่าจะหักใจเดินกลับที่พักก็เกือบ 5 ทุ่ม

วันที่ 27 ตุลาคม 2560

  

     ตอนแรกกะไว้ว่าวันนี้จะไปดูอุโมงค์ดอกไม้ที่ปากคลองตลาด แต่ก่อนไปขอไปกราบท่านให้ใกล้ที่สุดก่อน แต่พอไปถึงปรากฎว่าเขาเปิดให้เข้า ตัวเองโชคดีมาก ๆ ได้มีโอกาสรับท่านจากพระเมรุมาศกลางท้องสนามหลวงกลับพระบรมมหาราชวัง ถึงจะต้องนั่่งกลางแดดก็ยอม ตอนริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระโกศพระบรมอัฐิ เคลื่อนผ่าน จากที่เคยเห็นพระองค์จริง ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นองค์จริงพระองค์ท่าน คือตออนส่งเสด็จไปทุ่งมะขามหย่อง คราวนี้มารับพระองค์กลับแต่ภาพที่เห็นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว… แค่เห็นไกล ๆ ทำนบน้ำตาก็พัง…. เราจะถือว่าการได้มีโอกาสได้รับเสด็จกลับคือการที่พระองค์จะสถิตย์อยู่กับพวกเรา แล้ววันหนึ่งเมื่อเวลามาถึงเราจะได้กราบพระบาทอีก