ผ้าห่มผืนสุดท้าย

the-last-blanket-2016-poster

 

เรื่องย่อ

      พลทหารท็อป (ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์) ได้รับมอบหมายให้ลำเลียงศพทหาร 3 นาย จากเหตุปะทะกับผู้ก่อการร้ายบริเวณชายแดนกลับสู่ญาติพี่น้อง โดยนอกจากไม่เต็มใจ เขายังดูถูกหน้าที่นี้ กระทั่งโดนให้ทำรายงานเกี่ยวกับนายทหารที่เสียชีวิต ความคิดก็เริ่มเปลี่ยนไป ด้วยชีวิตของนายทหารทั้งสามในรายงานเล่มนั้นทำให้ได้เรียนรู้ความรัก ความเสียสละ และความจงรักภักดีต่อแผ่นดิน จนพลทหารท็อปยินดีนำศพที่คลุมด้วยธงไตรรงค์อันเป็นผ้าห่มผืนสุดท้าย กลับบ้านอย่างสมเกียรติ

    ผู้พันโตมร (รับบทโดย อ้น สราวุฒิ) ทหารหน่วยเก็บกู้ระเบิดผู้มีความเป็นทหาร เด็ดขาด และ ลูกสาวของเขา (รับบทโดย ชาช่า ริต์ตา) ซึ่งเกลียดทหาร เธอมักจะเปลี่ยนสีผมหรือแต่งตัวแรง ๆ แต่เธอเกลียด สีเขียว ผู้พันโตมรพยายามอบรมสั่งสอนลูก แต่ก็ไม่วายตะคอกตามความเคยชิน แต่ยิ่งทำให้
     ต่อ (รับบทโดย จูเนียร์ กรวิชญ์) หมอที่มาเป็นทหารเพราะ แป้ง (รับบทโดย ดิว อริสรา) เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนที่ฝันอยากแต่งงานกับทหาร  
     ผู้กองป้อง (รับบทโดย โอ อนุชิต) และผู้กองเป้ (รับบทโดย อ้น กรกฎ) ทหารสองพี่น้องที่ประจำการอยู่ภาคใต้ ทิ้งผู้เป็นแม่ (รับบทโดย เหมี่ยว ปวันรัตน์) สองที่น้องทะเสาะกันอยู่เรื่อย แต่พอแม่ลงมาเยี่ยมเพื่อดูว่าลูกอยู่กันปลอดภัยดีหรือเปล่า เพื่อให้แม่สบายใจทั้งสองจึงคิดแผนการหลอกให้แม่คิดว่าภาคใต้ไม่ได้น่ากลัวแบบในข่าวอย่างที่แม่เห็นทุกวันนี้

บันทึกคนดู

WP_20160403_13_57_14_Rich WP_20160403_16_10_14_Pro

      ความอยากในการดูเรื่องนี้เกิดจาก การห่างหายในการดูการแสดงมานานพอสมควร บวกกับลุงตู่ชวนไปดูผ่านการชวนคุยวันศุกร์ เปิด web ดูบัตรวันสุดท้ายยังไม่เต็ม แถมราคาน่ารัก และจัดไป  

     ไปดูละครเวทีก็หลายครั้ง เพิ่งดูตัวว่าไม่เคยดูละครพูดเลย จัดแต่ละครเพลงล้วน ๆ มาเจอละครที่พูดอย่างเดียว แถมสงสัยจะดูแต่ละครฟอร์มใหญ่เพราะเพิ่งเจอการใช้ทรัพยากรในการทำฉากแต่น้อยและใช้อย่างคุ้มค่า รวมไปถึงแรงงานของนักแสดงที่ต้องยกโต๊ะ เก้าอี้ เลื่อนฉากที่ตัวเองต้องเล่นด้วย

    เปิดเรื่องมาเจอโลงคลุมธงชาติอยู่ 3 โลง ก็สะเทือนใจร้องไห้นำหน้าเรื่องไปแล้วจ้า ออกตัวแรงมากเลยเรื่องนี้ ไม่รู้จะรีบไปไหน เพราะในส่วนตัวเนื้อเรื่องที่ประกอบด้วยเรื่องราวของสามครอบครัว ที่ต่างก็มีสมาชิกเป็นทหาร แต่ต่างบทบาท ไม่ว่าจะเป็นพ่อ เป็นคนรัก เป็นลูกและเป็นพี่ จะมีซึ้งอยู่เป็นช่วง ๆ  (รอบนี้พี่อั๋นเสียงแหบมากเลย ไม่สบายปะตัว) โดยสามเรื่องนี้ร้อยเข้าด้วยกันผ่านการทำการบ้านของพลทหารที่ถูกผู้บังคับบัญชาลงโทษ เรื่องราวที่ได้รับรู้นั้นทำให้พลทหารเปลี่ยนไป ทั้ง 3 คนเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันก็จริง แต่ฉากที่จำได้แม่น คงเป็นพาร์ทของ 2 พี่น้อง กับการที่ผู้กองป้องที่รู้ว่าตัวเองบาดเจ็บ ยอมอยู่เป็นคนสุดท้าย เพื่อระเบิดบังเกอร์ถ่วงเวลาศัตรู โดยก่อนที่จะกดระเบิด เขาร้องเพลงชาติ

    ข้อดีของการดูละครรอบสุดท้าย และถือเป็นกำไร อันเป็นที่รู้กันของคนดู คือ ผู้กำกับและผู้อยู่เบื้องหลังจะเดินขึ้นมาบนเวที ชวนคนดูคุย และขอบคุณแฟน ๆ แบบอบอุ่นเป็นพิเศษ

Quote

     “ถ้ามันเป็นสิ่งที่ต้องมีใครสักคนทำ การที่เราอาสาทำมันจะอะไรนักหนา”

ความคิดเห็น