| ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | The Cuckoo’s Calling |
| เขียน | Robert Galbraith |
| แปล | ขจรจันทร์ |
| จำนวนหน้า | |
| สำนักพิมพ์ | Nanmeebooks |
ภาพปกจาก : www.mebmarket.com
plot
จอร์น บริสโตว์ ว่าจ้างให้สไตรก์สืบสวนการตายของน้องสาวบุญธรรม ลูลา แลนดรี อีกครั้ง เพราะเขาไม่ชื่อว่าเธอจะกระโดดลงมาจากห้องพักเพื่อฆ่าตัวตายอย่างที่ตำรวจสรุปสำนวนคดีไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เขาสงสัยว่าจะเป็นการฆาตกรรม และเป็นฝีมือของชายที่กล้องวงจรปิดจับได้ ซึ่งเขาตั้งฉายาให้ว่า นักวิ่ง
สไตร์ไล่สอบถามตั้งแต่ยามหน้าตึกหมายเลข 18 คนขับรถประจำของลูลา สามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน หญิงสาวเพื่อนจากสถาบำบัดที่อยู่กัลลูลาเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับกระดาษโน๊ตสีฟ้าที่หายไป สไตรก์ค้นพบว่าลูลากำลังตามหาพ่อที่แท้จริงซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่เธอโดนฆาตกรรม
charecter
| คอร์โมรัน สไตรก์ : นักสืบเอกชนซึ่งมีหนี้สินรุงรัง เพิ่งเลิกกับชาร์ลอตต์คู่หมั้นเลยต้องระเห็ดมานอนที่สำนักงาน อดีตทหารผ่านศึกที่สูญเสียขาข้างหนึ่งในสงคราม เขาเป็นลูกชายของจอนนี โรกบี นักร้องนำวงดนตรีร็อกเจ้าของรางวัลแกรมมีหลางครั้ง ที่เกิดกับแฟนเพลง เชามีน้องสาวต่างพ่อหนึ่งคน |
| โรบิน เอลลาคอตต์ : หลังจากรับหมั้นแมตทิวเพื่อนชายที่คบกันมานาน มาทำงานเป็นเลขานุการชั่วคราวให้กับ เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ระหว่างรอสัมภาษณ์งานประจำ มีความใฝ่ฝันแต่เด็กว่าอยากทำงานสืบสวน |
log
ได้เล่มนี้มาจาก promotion เปิดตัว the1books ใช้แค่ 1 คะแนนแลกเท่านั้นเอง ถึงไม่ได้อยากออ่านมาแต่เดิมแต่ใครละคะจะอดใจไหว ถูกเหมือนได้เปล่าก็เลยจัดมาอย่าให้เสีย
เล่มนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานของ J.K. Rowling ที่เปลี่ยนแนวไปเขียนสอบสวน แต่ข่าวรั่วจนคนเค้ารู้ทั้งบางเลยแม่ ตอนเห็นเห็นปกครั้งแรกคิดว่าจะได้หลุดเข้าไปอยู่ในบรรยากาศสมัยวิคตอเรีย แต่ผิดคาดค่ะ เป็นนิยายสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วย ปาปารัสซี ซึ่งมีการกล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่าเป็น referrence ด้วย สงครามในอัฟกานิสถาน แถมในยุคนี้ การหาข้อมูลประวัติลูกค้าไม่ยากเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งผู้ตายเป็นคนดัง serch หาใน google เดี๋ยวเดียวทุกอย่างก็ออกมาให้รู้ประหนึ่งเราไปปลูกบ้านอยู่ข้างๆเค้าก็ไม่ปาน แล้วมันจะเหลืออะไรให้สืบอีกไหมเนี่ย
แต่ความจริงของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่พยานวัตถุเสมอไป การพูดคุยเพื่อขุดคุ้ยข้อมูลแวดล้อมคือสิ่งที่สไตรก์ทำ แถมยังได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าเชื่อออกมาอีกด้วย ทักษะที่สำคัญคือการมองผ่านข้อเท็จจริงที่บิดเบือนเพื่อปิดปังความเน่าเฟะของตนเอง คือตัวละครแต่ละตัวก็มีผลประโยชน์ของตัวเอง อ่านไปก็แอบนึกไปว่า ในสังคมนี้เนี่ยหาคนที่เป็นปกติมีบ้างไหม
ถึงแม้ว่าในเรื่องนี้การสืบสวนของตำรวจในตอนแรกจะลงความเห็นผิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็แอบเห็นใจความลำบากของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในการควานหาตัวคนร้ายของตำรวจ ผู้พิทักษ์กฎหมายที่นอกจากต้องพึ่งพยานหลักฐานที่คนสมัยนี้มีความรู้พอที่จะอำพรางกับคำให้การของพยานที่บางครั้งก็ตกหล่นจุดสำคัญๆ อย่างไม่ตั้งใจอันเนื่องมาจากอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นผลจากสิ่งเร้ารอบข้าง ยังไม่รวมการบิดบังความจริงเพื่อปกป้องตนเอง กว่าจะค้นหาความจริงได้ก็ต้องสอบไปสอบมา ให้ลูกล่อลูกชน เล่นเอาเหนื่อย
เรื่องนี้ไม่ค่อยมีฉากแอ็คชั่น ส่วนใหญ่เป็นการถาม ถาม และ ถามแต่ก็น่าสนใจว่า สไตร์จะพลิกคดีได้ยังไง ในมุมมองของเราคดีแบบนี้มันดูมืดแปดด้านยิ่งกว่าคดีฆาตกรรมโหดเสียอีก
อุดหนุน E book
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น