พระมหาชนก The Phenomenon Live Show

     “อันตัวข้าเกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์ ประเสริฐสุดคือมนุษย์ผู้เก่งกล้า เหนือความเก่งคือผู้ใช้ปัญญา แต่เหนือปัญญาคือผู้มีความเพียร หากแม้นว่ามีปัญญาเป็นที่ 1 รู้ลึกซึ้งทุกวิชาการอ่านเขียน แม้ได้ชื่อว่าเป็นผู้คงแก่เรียน แต่ไม่เพียรปฏิบัติก็อับจน ถึงเงยหน้าก็ต้อ้งก็อายฟ้า ถึงก้มหน้าก็ยังต้องอายสถน แม้ตายจากก็ยังต้องอายผู้คน เป็นพระตนไม่เคยพยายาม”

พระมหาชนก WP_20150208_001[1] WP_20150208_003[1]

     การแสดงเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 87 ปี 5 ธันวาคม 2557 จึงมีการหยิบเอาพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก มาจัดแสดงในรูปแบบละครเวที โดยมีการสร้างเวทีกลางน้ำขนาดใหญ่บริเวณสวนเบญจกิตติ โดยเปิดแสดงตั้งแต่วันที่ 1-9 ธันวาคม และเนื่องจากได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลามจึงมีผู้สนับสนุนให้เปิดกระแสดงเพิ่มเติมจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2557 ซึ่งขอสารภาพตามตรงว่าตกข่าวแบบที่สุดของที่สุด เนื่องจากโทรทัศน์ที่บ้านเสีย เพราะหลอดภาพผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน กว่าจะเปิดติดแต่ละครั้งต่อให้เธอชาร์ตพลังประหนึ่งอุลตร้าแมนมาปราบเหล่าร้าย เลยไม่ได้ดูข่าวกับเขามารู้ว่ามีงานแบบนี้ก็ตอนที่คุณน้องชายซึ่งทำงานอยู่โรงงานยาสูบซึ่งตั้งอยู่ติดกับสวนเบญจกิตติไปดูมาก่อน แล้ว post ลง facebook นั่นแลจึงได้หูตาสว่าง ไหวตัวทันก่อนจะสายเกินไป

      เนื่องจากบัตรเข้างานนั้นไม่มีการซื้อขาย เป็นบัตรแจกฟรีที่ต้องใช้วิทยายุทธ์หลายแขนงไม่ว่าจะเป็นการโทรหา bug 1113 ที่โทรติดยากโครตเพราะการแข่งขันสูง หรือการไปเข้าแถวเพื่อรอรับบัตรหน้างาน หรือแม้กระทั่งการเป็นลูกค้าใช้บริการทางการเงินต่างๆ ในกรณีของเขาแล้วใช้บริการ bug 1113 แล้วไม่เป็นผลเลยต้องใช้วิธีวานคุณน้องชายช่วยมาต่อคิวให้หน่อย แต่ก็ไม่ทันบัตรล็อตแรกอยู่ดี เลยต้องไปยืนต่อแถวรอลุ้นบัตรจากผู้สนับสนุนที่หลุดเพราะไม่มีผู้มารับ ระหว่างยืนรอก็ได้ประสบพบเห็นกับเหตุการณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถามขอบัตรจากคนที่เดินผ่านไปมา(แถมได้ด้วย) แต่เนื่องจากบัตรไม่พอกับจำนวนพวกพ้องที่ขนกันมา บวกกับความเกรงใจที่ยังพอมีอยู่เลยแบ่งกันไปคนละครึ่ง แต่สุดท้ายก็จบลงที่การมาอ้อนวอนกันเองโดยยกข้ออ้างต่างๆนานาเพื่อให้ฝ่ายยอมเสียสละบัตรให้โดยที่มีเรายืนอยู่ตรงกลาง การเอาบัตรมาเร่ขายแบบไม่กระโตกกระตากแล้วก็มีคนซื้อ แต่ที่เด็ดสุดคงเป็นการที่จู่ๆพ่อแม่ญาติโกโหติกานับสิบชีวิตที่จู่ๆโผล่เข้ามาในแถวแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยตอนที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีการตัดบัตรหลุดจองมาแจก โดยที่คนที่ต่อคิวข้างหลังไม่รู้จะทำอย่างไรทั้งที่โวยวายแล้วแต่นางก็ยังหน้าด้าน โดยใช้เหตุผลว่า แล้วจะให้คนแก่มายืนรอเหรอ หลังจากได้เขามาแล้วยังมีหน้ามาภูมิใจว่าด่าตอกหน้าคนที่โวยวายได้ ฉันก็ได้แต่คิดในใจตามประสาไม่อยากมีเรื่องว่า แหมคนมันชุลมุนแถมยังเบียดเพื่อให้พนักงานนับคนเข้าไม่งั้นคงมีเฮ แต่ยังดีที่ตอนเดินออกมามีบัตรมาเพิ่มอีก

DSCF9576 DSCF9577 MAHAJANAKA

     เราได้ที่นั่ง zone C4 ซึ่งเป็นโควต้าของลูกค้าธนาคารกรุงเทพต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ที่นั่งตรงนี้เมื่อหันหน้าเข้าเวทีแล้วจะอยู่ด้านซ้ายซึ่งเป็นจุดที่เรือของพระมหาชนกจอดอยู่ค่ะ ส่วนสีหน้าท่าทางของนักแสดงนั้น เนื่องจากระยะจากเวทีค่อนข้างไกล ต้องพึ่งจอบาร์ไก้ที่ตัดตั้งอยู่เอา ความพิเศษของรอบนี้ ทางผู้จัดงานได้รับเกียรติสูงสุดจาก สมเด็จพระอัยยิกา อาชิ เคซัง โชแดง วังชุก แห่งราชวงศ์ภูฏาน เข้าชมการแสดงบริเวณ ซึ่งที่ประทับอยู่บริเวณเวทีกลางน้ำ zone A หลังการกล่าวเปิด และการฉายภาพเบื้องหลังการเตรียมการ และแล้วการแสดงเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.

DSCF9582 DSCF9588 DSCF9597

      การแสดงเริ่มขึ้นประมาณ 20.30 น. เริ่มด้วยเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีโดยต้นเสียง คือ อาจารย์ กิต the voice Thailand season 2 ตามด้วยเพลงความฝันอันสูงสุด ซึ่งร้องออกมาได้กระหึ่มและซึ้งมากจากปกติเวลาร้องเพลงนี้จะแค่น้ำตาคลอ แต่คราวนี้หยดลงมาเลยค่ะ หลังจากนั้นก็เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องเนื่องจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเสีย  หลังจากนั้นจะเป็นการแสดงการร้องเพลงประสานเสียงที่มีเนื้อหาเล่าถึงการสร้างบ้านแปลงเมือง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ชอบเนื้อเพลงมากๆ โดยเฉพาะท่อนนี้

      “หลายพันปีผ่านมีทั้งดีและร้าย กี่สมัยบ้านเรือนก็ยังตั้งอยู่ มหาราชกี่องค์ที่ทรงอุ้มชู คือนิทานตำนานมาสู่ดินแดนไทยแห่งนี้ให้ร่มเย็น รัตนโกสินศกสองร้อยปี ไทยนี้เรืองเฟื่องฟูสู่ยุคใหม่ มาเป็นประชาธิปไตย ฟ้าก็ยังรุ่งเรืองพลัง พระราชาผู้ทรงเมตตา อุทิศกายและใจเพื่อปวงประชา พ่ออยู่หัวผู้วางตนอยู่เคียงดิน ทุกลมหายใจคือคนไทยทุกคน ”

หลังจากนั้นไฟฟ้าก็เกิดขัดข้องอีกรอบ เวลาที่จะเริ่มแสดงจึงถูกเลื่อนออกไปอีกราวครึ่งชั่วโมง อ.กิต เลยช่วยออกมาร้องเพลงผ่อนคลายบรรยากาศไม่ให้ผู้ชมเบื่อ คราวนี้เลยได้ฟังเพลง My way ที่แกร้องประกวดแบบสดๆ

    หลังจาก clip เล่าเรื่องกำเหนิดของพระมหาชนก การแสดง่จริงๆก็เริ่มขึ้นบนเรือลำเภาที่จอดอยู่ตรงหน้าเรา พระมหาชนกล่องเรือสินค้าเพื่อไปค้าขายยังดินแดนสุวรรณภูมิเพื่อหาทุนรอนมาใช้ในการทวงราชสมบัติคืน ระหว่างทางก็ได้เห็นปูทะเล โดยปูยักษ์โผล่มาให้เห็นทางเวทีอีกด้าน ก่อนที่เรือสำเภาจะเจอกับลมพายุอับปางลง พระมหาชนกที่เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และด้วยความเพียรจังสามารถว่ายอยู่ในมหาสมุทรได้นานถึง 7 วัน ตอนที่หย่อนพี่ปอซึ่งแสดงเป็นพระมหาชนกลงทะเลสาบคนปรบมือกันเกรียว

DSCF9598 พระมหาชนก 3 DSCF9604

      ร้อนถึงนางมณีเมขลาที่ดูเลมหาสมุทรแถบนั้นมาช่วยนำพระมหาชนกขึ้นจากน้ำ พาไปส่งยังกรุงมิถิลานคร ได้เห็นจากจอ นางมณีเมขลา เคทลียา อิงลิช ที่มารับบทนี้สวยมากๆ

     ในขณะนั้นกรุงมิถิลาร้างกษัตริย์ เหล่าเสนาอำมาตย์ทำตามคำสั่งเสียของพระราชาองค์กร ด้วยการปล่อยราชรถเสี่ยงทางซึ่งมาหยุดอยู่ตรงแท่นดินที่พระมหาชนกนอนอยู่ ซึ่งก็สามารถทำตามเงื่อนไขในที่กำหนดได้ลุล่วงทั้งหมด หลังจากอภิเษกกับพระธิดา ครองนครมถิลาสืบมา

พระมหาชนก 5

     อีกฉากที่สำคัญของเรื่อง คือ การทำลายต้นมะม่วงที่ให้ผลรสเลิศจนย่อยยับ ซึ่งทำให้พระมหาชนกทรงได้คิดที่จะสร้างสถานศึกษานามปูทะเล ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้กับนางมณีเมขลา เพื่อพระราชทานความรู้แก่ประชาชน หลังจากนั้นเป็นการร้องเพลงซึ่งเป็นธีมหลัก โดยวันนี้เป็น ฟอร์ด สมชัย ไกรยูรเสน แต่ ณ ตอนนั้นเรารีบลงจากสถานที่จัดแสดงอย่างด่วน เพราะตอนนั้นเกือบสี่ทุ่มแล้ว กลัวกลับไม่ทัน เพราะคนที่อยู่ในสถานที่แสดงก็เรือนหมื่น กลับบ้านพร้อมข้อคิดดีๆมากมายค่ะ

credit รูปภาพประกอบระหว่างแสดง :

tcctv.co.th

www.faceofsiam.com

ดูย้อนหลัง :

https://www.youtube.com/watch?v=yL-IU4Uvc8s

ความคิดเห็น