plot
พ.ศ. 2483 วนัสเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กของอังศุมาลิน สอบได้ทุนไปเรียนที่อังกฤษ ก่อนเดินทางเขาขอให้อังศุมาลินสัญญาว่าจะรอเขาสัก 5 ปี เมื่อเขากลับมาจะมาทวงถามความรู้สึกที่หญิงสาวมีต่อเขา
พ.ศ. 2484 กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่จังหวัดชุมพร ไทยตกลงยินยอมให้ญี่ปุ่นผ่านแดนไปยังประเเทศอื่นๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใช้เป็นฐานทัพในการทำสงคราม มหาวิทยาลัยของอังศุมาลินถูกปิดเพื่อใช้ตึกเป็นที่ทำการกองทัพญี่ปุ่น สร้างความไม่พอใจให้หญิงสาว ยิ่งกองทัพญี่ปุ่นมาซื้ออู่ต่อเรือที่อยู่ติดกับบ้านสวนของอังศุมาลิน หญิงสาวจึงแอบว่ายน้ำไปสอดแนม หญิงสาวได้พบกับนายช่าง โกโบริ ที่ซ่อมเรืออยู่แถวนั้นโดยบังเอิญ ชายหนุ่มติดตาต้องใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็ไม่มีโอกาสทำความรู้จัก จนเกิดเรื่อง ตาผล ตาบัว ที่อาศัยสวนของอังศุมาลินเป็นที่ซุกหัวนอนก่อเรื่องขโมยน้ำมัน ชายทั้งสองถูกทำโทษให้กลืนน้ำมันต่อหน้าคนไทยในละแวกนั้นเพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง อังศุมาลินทนไม่ไหวเข้าไปห้ามจนมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นเหมือนโดนแกล้งเมื่อทหารใต้บังคับบัญชาของโกโบริบุกรุกเข้าไปในสวนของอังศุมาลิน ซึ่งโกโบริก็เชิญให้หญิงสาวไปเป็นพยานว่า เขาเองก็มีความยุติธรรมในการทำโทษคนของตนเองเช่นกัน หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มักจะมีเหตุให้นายช่างชาวญี่ปุ่นได้มีโอกาสมาที่บ้านสวนหลังนี้เสมอ
โกโบริกับหมอถูกตาผล ตาบัว ลอบทำร้ายในยามวิกาลตอนขากลับจากบ้านของอังศุมาลิน ถึงอังศุมาลินจะเป็นผู้ที่เข้าช่วยเหลือพาสองนายทหารกลับมารักษาตัวที่บ้าน แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้โกโบริได้คิดเป็นครั้้งแรกว่า อังศุมาลิน เกลียดเขาถึงขนาดที่อยากให้เขาตาย ถึงแม้สุดท้ายเธอจะเป็นคนให้ความช่วยเหลือเขาก็ตาม แต่โกโบริก็ไม่สามารถตัดใจจากหญิงสาวได้
ตาบัวจับไข้มาลาเรีย ตาผลมาขอความช่วยเหลือจากอังศุมาลินทำให้โกโบริรู้ตัวคนร้ายที่ลอบทำร้ายตนเอง แต่ก็ยังมีเมตตาไปช่วยรักษาคนเจ็บ อู่ต่อเรือโดนระเบิดเสียหายหนักเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟบางกอกน้อย แม่ทัพใหญ่ลุงของโกโบริจึงต้องลงมาตรวจตราความเสียหายบ่อยกว่าแต่ก่อน และมักจะพบว่าโกโบริออกไปบ้านสวนติดกับอู่ด้วยสาเหตุต่างๆอยู่ร่ำไป จึงอยากตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยการย้ายโกโบริไปประจำที่พม่า เกิดความขัดแย้งระหว่างทหารญี่ปุ่นกับชาวบ้านถึงขนาดเกิดเหตุทะเลาะวิวาท และมีผู้บาดเจ็บ ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพญี่ปุ่นกับประชาชนในท้องถิ่นแย่ลง จึงมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่โดยลดความแข็งกร้าวลง เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง โดยให้โกโบริที่มีความสัมพันธ์อันดีกับชาวตลาดธนบุรีกลับมาประจำที่เดิมในฐานะทหารตัวอย่าง
เชลยฝรั่งจากค่ายที่กาญจนบุรีหนีเข้ามาหลบในบ้านของอังศุมาลินระหว่างที่ออกไปหลบภัยจากการทิ้งระเบิด อังศุมาลินตัดสินใจซ่อนเขาเอาไว้ในบ้าน วันรุ่งขึ้นโกโบริมาขอค้นบ้าน ถึงแม้จะเห็นว่ามีเชลยซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของอังศุมาลินแต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรนอกจากพูดเป็นนัยว่าเขาทราบ มีการโจมตีทางอากาศตอนที่อังศุมาลินอยู่บ้านคนเดียว โกโบริพาเข้าไปหลบในสวน ทั้งสองได้รับบากเจ็บจากของที่ปลิวใส่จนหมดสติอยู่ด้วยกันในคู ชาวบ้านที่ออกมาช่วยกันตามหาเห็นเขาก็เอาไปลือกันเสียหายว่าทั้งสองคนไปแอบพลอดรักกันในสวน โกโบริพยายามจะรักษาเกียรติของอังศุมาลินด้วยการแต่งงานโดยคิดไม่ถึงว่าการแต่งงานของเขาจะถูกโยงกับการเมือง เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของหลวงชลาสินธุ์พ่อของอังศุมาลินที่ถูกสงสัยว่าเป็นเสรีไทย เมื่อสถานการณ์รอบข้างบีบบังคับอังศุมาลินจึงต้องยอมแต่งงานกับโกโบริ โดยใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการย้ายเชลยออกจากสวนของอังศุมาลิน โกโบริมาเห็นตอนที่กำลังขนเชลยออกมาจากสวน เขาเข้าใจได้ทันทีว่านี่เป็นแผนการของอังศุมาลิน โกโบริเสียใจมาก และพยายามที่จะยกเลิกงานแต่งงานเท่าที่จะทำได้แต่ถึงอย่างไรทั้งสองก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานกัน
ทำการใหญ่สำเร็จตาผลตาบัวเกิดได้ใจพาชาวต่างชาติเข้ามาหลยซ่อนที่กระท่อมท้ายสวนอีก แต่คราวนี้กลับเป็นชาวเยอรมันที่เป็นพวกเดียวกับญี่ปุ่น โกโบริรู้เรื่องเข้าก็หาทางช่วยโดยสั่งให้อังศุมาลินไปรื้อกระท่อมปลายนาเพื่อทำลายหลักฐานโดยมีกำนันนิ่มให้ความร่วมมือช่วยตั้งวงรำโทนกลบเหลื่อน โดยมีโกโบริช่วยพูดกับทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาตรวจอีกแรง โกโบริโดนคนในวงรำโทนมอมเหล้าแล้วพามาส่งที่่บ้านของอังศมาลิน คืนนั้นทั้ง 2 มีความสัมพันธ์กัน ถึงแม้จะลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่ยกโทษให้แต่ท่าทีของหญิงสาวที่มีต่อสามีก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งอังศุมาลินได้รับจดหมายจากวนัสแจ้งว่ากำลังจะกลับมาประเทศไทย เธอจึงขอสัญญาจากโกโบริว่าจะให้ความสุขกับเขาแลกกับอิสระภาพเมื่อเธอร้องขอ อังศุมาลินตั้งครรภ์ทำให้โกโบริยิ่งตื่นเต้น
วนัสที่เข้าร่วมกับเสรีไทยลอบเข้ามาในประเทศถูกตำรวจควบคุมตัวได้ โกโบริต้องไปทำหน้าที่ล่ามในการสอบสวน อังศุมาลินพอรู้ระแคะระคายว่าวนัสถูกจับก็กลัวว่าโกโบริจะทำร้ายวนัสจึงทวงสัญญาจากเขา แต่โกโบริตอบว่าตอนนี้เขายังไปจากเธอไม่ได้ หลังเสร็จสิ้นการสอบสวนโกโบริกลับมาบ้านเพื่อที่จะบอกอังศุมาลินว่าเชลยที่ถูกควบคุมตัวมีวนัสรวมอยู่ด้วยจริง โกโบริเล่าให้อังศุมาลินฟังอย่างละเอียดจนหญิงสาวเข้าใจผิดว่าที่วนัสบาดเจ็บเพราะถูกทหารญี่ปุ่นทำร้ายระหว่างการสอบสวน จึงคิดจะเอาชีวิตลูกของตัวเองชดใช้ให้กับเคราะห์กรรมของวนัส แต่โชคดีที่โกโบริช่วยไว้ได้ทันจึงมันเป็นอันตรายถึงขนาดแท้งลูก ทันทีที่อังศุมาลินฟื้นโกโบริก็เอาแต่หลบหน้าเธอ
ข้าราชการส่วนหนึ่งให้ความร่วมมือกับขบวนการเสรีไทย ทำให้เสรีไทยที่ถูกควบคุมตัวสามารถลอบออกมาทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายในเวลากลางคืน วนัสแอบมาพบอังศุมาลินก่อนที่จะไปทำภารกิจ อังศุมาลินคืนสัญญาให้กับวนัส และยอมรับได้อย่างเต็มหัวใจว่าเธอรักโกโบริ พ่อของลูกในท้อง คืนนั้นโกโบริไปที่สถานีรถไฟบางกอกน้อยซึ่งเป็นจุดปฏิบัติการทิ้งระเบิดเพื่อทำลายจุดยุทธศาสตร์ในวันนั้น ชายหนุ่มถูกสะเก็ดระเบิดจะบาดเจ็บสาหัส เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย อังศุมาลินสังหรใจไม่ดีเมื่อรู้ว่าสามีของเธออยู่ที่จุดทิ้งระเบิด หญิงสาวไปทันได้ดูใจและบอกรักโกโบริก่อนที่เขาจะสิ้นลมหายใจ
charecter
log
เรื่องนี้ตอนเด็กๆ เคยดูมาแล้วรอบหนึ่ง ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ สมัยที่พี่เบิร์ดธงชัยแสดงเป็นโกโบริ ส่วนนางเอกคือกวาง กมลชนก เวอร์ชั่นนั้นดังมาก ขนาดเอามารีรันหลายรอบ และเราซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กประถมก็ตามดูเสียเกือบทุกรอบเท่าที่เวลาจะอำนวย หลังจากนั้นถึงจะมีการนำกลับมาทำใหม่ก็ไม่คิดที่จะดู ยิ่งช่วงที่ละครเรื่องนี้ออกอากาศ มีทั้งนำกลับมาทำเป็นภาพยนตร์ (ซึ่งเค้าลือกันว่านางเอกเล่นแข็งมาก ไม่ได้พิสูจน์ตัวตาตัวเองแต่อย่างใด ถึงจะชอบพระเอกมากก็เถอะ) กับละคร ซึ่งแน่นอนก็ไม่คิดจะดูจนกระทั่งวันหนึ่ง เปิดไปเจอหลังจากลงจอไปได้หลายตอน ได้ดูแค่เดี๋ยวเดียวกลับหลาบเป็นว่า ชอบในความพิถีพิถันของผู้สร้างที่บอกเล่าเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ไปพร้อมกับการดำเนินเรื่องของตัวละคร อย่างเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ สมัยที่ยังไม่มีการวางถุงทรายซึ่งอาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงสงคราม รอบพระที่นั่งอนันตสมาคมเต็มไปด้วยน้ำ ผัดไทอาหารโปรดของเราก็เหมือนกัน เพิ่งเกิดในสมัยสงครามโลกนี่เอง
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าโกโบริของภาคนี้เป็นหนุ่มน้อย ที่สดใส ร่าเริง หัวเราะเสียงดังกว่าภาคก่อนๆ ที่โกโบริจะมีมาดผู้นำเกือบตลอดเวลา ตอนแรกยังไม่ค่อยชินต่อพอดูๆไปก็ต้องอมยิ้มกับความน่าเอ็นดู โดยเฉพาะฉากตอนอาบน้ำ หนุ่มๆนายทหารหยอกกันน่าเอ็นดู ไม่ใช่แค่นั้นฉากที่ต้องทำตาเจ็บปวดน่าสงสารโกโบริที่แสนจะร่าเริงก็เอาอยู่เหมือนกัน แต่ไม้ตายที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นตอนที่หันมาอมยิ้มนี่แหละ แทบละลาย ให้ฉันเป็นอังศุมาลินหน่อยไม่ได้
ดูๆไป บี้กับหนูนานี่เล่นละครด้วยกันแล้วน่ารักดี ตอนที่ร่วมมือกันขู่ตาบัวจากที่ไม่ค่อยถูกกันกลับดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จะว่าไปสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้มีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรม ต้องยกความดีความชอบให้ ฝนเหล็ก หรือลูกระเบิดนั่นเอง ถ้าเป็นหนังนำเข้าสมับก่อน สงสัยได้เอาชื่อ มนต์รักฝนเหล็กไปตั้งกันบ้าง
จะว่าไปพระเอก นางเองมีความสัมพันธ์แบบนางเอกเป็นใหญ่ ตามแบบฉบับไทยเกือบตลอกทั้งเรื่อง เริ่มด้วยการที่นางเอกเหวี่ยงใส่พระเอกด้วยเรื่องบางอย่าง พ่อโกโบริของเราก็จะทำหน้าจ๋อย จนนางเอกชักสงสารเผลอถามสารทุกข์สุกดิบไปบ้าง เท่านั้นแหละหน้าชื่นขึ้นมาเลย ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็จะเกิดซ้ำไปซ้ำมาตลอด ซึ่งคนดูก็สงสารพระเอกได้ตลอดเหมือนกัน แต่ตอนที่น่าสงสารที่สุดซึ่งบี้ก็เล่นออกมาได้ดี คือ หลังจากที่เขาได้คุณกับอังศุมาลินที่กระท่อมของตาผลตาบัวหลังงานหมั้น ด้วยความรู้สึกน้อยใจที่เธอใช้วันสำคัญที่เขาเฝ้ารอทำงานใต้ดิน นี่ถ้าไม่เห็นว่าตอนเดินจากไปอังศุมาลินก็เสียใจเหมือนกันละก็นางโดนแน่ โทษฐานมาทำพระเอกของฉันร้องไห้หนัก
หลังจากแต่งงานกันแล้วหลังจากตอนที่ 15 อะไรๆก็ดูจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฉากเข้าหอน่ารักๆแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย หรือไม่ก็ฉากรีดความลับจากปากภรรยาของนายช่างที่ใช้คนอื่นเป็นตัวช่วย แต่ที่ฟินที่สุดต้องยกให้หลังจากที่ทั้งสอง แลกเปลี่ยนสัญญากันว่า อังศุมาลินจะให้ความสุขกับโกโบริแลกกับอิสระของเธอ โกโบริเลยกล้าที่จะรุกภรรยามากขึ้นทั้ง ทั้งพยายามสอนให้เธอบอกรักเขาแต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จสักที ยิ่งพอรู้ว่าภรรยาท้องยิ่งเอาใจสารพัด น่ารักมาก หวานกันได้แค่ 5 ตอนอุปสรรคก็บังเกิด แหมอยากจะไปเป็นขวาดหนามถ่วงเวลาวนัสไว้สักปี สองปี จะรีบกลับไทยทำไมก็ไม่รู้ ชริ
ตอนที่อังศุมาลินโดดลงมาจากบันไดเรือนเพราะเข้าใจผิดคิดว่าวนัสโดนทำร้าย ณ ตอนนั้นโกรธนางมาก ที่อะไรๆก็ใส่ร้ายสามีที่แสนดีตลอดๆ หลังจากนั้นตาผลกับตาบัวมายืนยันว่าที่เชลยบาดเจ็บเป็นเพราะโดดร่มลงมาในสภาพภูมิประเทศที่ไม่ดี จนนางสำนึก แต่ก็สายไปแล้วเพราะโกโบริเข้าใจผิดไปไกลโข แต่ถึงจะไม่ชอบนางยังไงตอนสุดท้ายที่ต้องยอมรับความจริงว่าต้องสูญเสียคนรักไปในเวลาอันสั้น มีเวลาแค่ให้พร่ำบอกคำรักเพื่อส่งความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ในใจให้ชายหนุ่มได้รู้ คราวนี้โกโบริที่ได้ครอบครองหัวใจรักของหญิงสาวแต่เพียงผู้เดียว จะได้มีความสุขอย่างแท้จริงเสียที ชอบฉากจบที่โกโบริกอดแม่กับลูกไว้ในอ้อมแขน ถ้าทำเป็นลืมๆว่าพ่อตายไปแล้วก็พอหลอกตัวเองได้ว่าเรื่องนี้จบแบบ happy ending ละนะ ว่าแต่คำสัญญาที่ว่าจะมาเจอกันตอนเทศกาลทานาบาตะแค่ปีละครั้งมันน้อยไปหน่อย
เห็นว่าในกองถ่ายมีคนญี่ปุ่นที่ทำหน้าที่คอยดูแลด้านการถ่ายทอดวัฒนธรรมญึ่ปุ่น ตอนสัมภาษณ์คนในกองจะเรียกเขาว่า พี่โช ในเรื่องแกรับยทเป็นเคย์สุเกะ นายทหารคนสนิทของโกโบริ จะว่าไปก็ได้เห็นหน้าแกบ่อยๆในละครไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุญผ่องของช่อง thaiPBS หรือเรื่องรอยฝันตะวันเดือน ของช่อง 3 แต่เรื่องนี้สะดุดตาที่สุด
favorite scene
Quote
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น