บิเบลียบันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ

 

 

ชื่อภาษาไทย	บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น	Biblia Koshodo No Jikentecho
เขียน	En Mikami
ภาพประกอบ	Hagu  Koshijima
แปล	พลอยทับทิม  ทับทิมทอง
อ่านถึง	1  ตอนคุณชิโอริโกะกับเหล่าลูกค้าผู้แปลกประหลาด 2  ตอนคุณชิโอริโกะกับคืนวันแห่งปริศนา 3  ตอนคุณชิโอริโกะกับสายสัมพันธ์ที่ไม่เลือนหาย 4  ตอนคุณชิโอริโกะกับปริศนาสองหน้า 5 ตอนคุณชิโอริโกะกับสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยง
สำนักพิมพ์	Animag Book
วันที่อ่านจบ	28 กันยายน 2561

 

เรื่องย่อ

     หนังสือเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของเจ้าของ

     ไดสุเกะเอาหนังสือเก่าที่มีลายเซ็นของนักเขียนซึ่งเป็นสมบัติของคุณยายที่เพิ่งเสียมาขายที่ร้านหนังสือเก่าที่ชื่อ Biblia ชิโอริโกะ หญิงสาวเจ้าของร้านบอกเขาว่าลายเซ็นนั้นเป็นของปลอมที่คุณยายของไดสุเกะเป็นคนเขียนปลอมขึ้นมาเอง เพื่อปิดบังชื่อของคนที่มอบหนังสือให้เธอเป็นของขวัญ อีกทั้งยังสันนิษฐานว่าคนๆนั้นเป็นคนรักที่ไม่อาจแต่งงานกันของคุณยาย ตอนแรกไดสุเกะไม่เชื่อ แต่พอลองถามข้อมูลต่างๆจากแม่ ก็พบว่ามีหลายเรื่องที่ตรงกับข้อสันนิษฐานของชิโอริโกะอย่างน่าประหลาด แถมเขายังพบว่าคนๆนั้นมีตัวตนอีกทั้งยังมาเคารพศพของคุณยายด้วย ไดสุเกะออกตามหาตามที่อยู่ที่เขียนไว้ในสมุดลงนามงานศพก็หาไม่พบ เขาจึงตัดสินใจกลับไปขอร้องให้ชิโอริโกะเล่าเรื่องที่เธอสามารถอ่านได้จากหนังสือของคุณยายให้เขาฟัง ในที่สุดความลับที่ไม่เคยบอกใครก็ถูกส่งถึงผู้รับได้ในที่สุด ชิโอริโกะเห็นว่าไดสุเกะให้ความสำคัญกับหนังสือ เลยชวนให้เขามาทำงานด้วยกันที่ร้านหนังสือเก่า Biblia

     หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ มักจะมีการปล่อยขายหนังสือเก่าหายาก ชิโนคาวะ จิเอโกะ แม่ของชิโอริโกะ กลับมาปรากฏตัวที่ร้าน ประจวบเหมาะกับที่ลูกค้าเก่าต้องการให้ช่วยไขปริศนาในการเปิดตู้นิรภัยเพื่อแลกกับการขายหนังสือสะสมของเอโดงาวะ รัมโป แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ ของที่เก็บอยู่ในนั้นอาจจะเป็นต้นฉบับที่หายสาปสูญของรัมโป ชิโอริโกะ ไขปริศนาได้ก่อน ก่อนจากกันจิเอโกะชวนให้ชิโอริโกะเดินทางไปด้วยกัน แม้จะเกลียดแม่แต่โลกของหนังสือเก่าก็น่าหลงใหล ในชั่วขณะนั้นเสียงของไดสุเกะที่เรียกชื่อเธอทำให้ชิโอริโกะปฏิเสธคำชวนของแม่

     ไดสุเกะสารภาพรักกับชิโอริโกะ แต่หญิงสาวสัญญาว่าจะให้คำตอบภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งหมายความว่า ไดสุเกะต้องรอถึงสองเดือนกว่า ที่ต้องการเวลามากขนาดนั้นเป็นเพราะชิโอริโกะต้องการพบแม่ก่อนเพื่อยืนยันอะไรบางอย่าง ชิโอริโกะรู้ว่าตนเองเหมือนแม่มากจึงกลัวว่าจะทำให้ไดสุเกะต้องรอคอยเหมือนพ่อ แต่แม่จะยอมพบเธอก็ต่อเมื่อผ่านบททดสอบที่ถูกส่งมาให้ได้เสียก่อน หลังจากได้พบแม่ ชิโอริโกะตอบรับความรู้สึกของไดสุเกะ

    

ตัวละครสำคัญ

	โกระ ไดสุเกะ :      หนุ่มว่างงาน ที่อ่านหนังสือทีไรเป็นตาลายไปเสียทุกที ชิโอริโกะให้เขามาช่วยทำงานที่ร้าน เป็นคนเดียวที่ชอบฟังชิโอริโกะเล่าเรื่องหนังสือ
	ชิโนคาวะ ชิโอริโกะ :      เจ้าของร้านหนังสือเก่า Biblia เข้ามารับช่วงร้านเมื่อสองปีก่อนหลังจากที่คุณพ่อเสีย ส่วนชิโนคาวะ จิเอโกะ แม่ของเธอที่ได้ชื่อว่ามีความรู้เรื่องหนังสือเก่าดียิ่งกว่าลูกสาวหายสาปสูญไปได้ 10 ปีแล้ว หญิงสาวเกลียดแม่ของเธอเป็นที่สุด

 

บันทึก…คนดู

  

     เรื่องนี้เป็น light novel ที่ตอนนี้มียอดขายสูงมากในญี่ปุ่น มีการเอาไปทำเป็นหนังสือการ์ตูนด้วย แต่ตอนนี้ออกมาแค่ไม่กี่ตอน ส่วนนิยายยังไม่มีคนแปล อยากจะอ่านคงต้องรออีกนานมากถึงมากที่สุด เลยต้องเบนเข็มมาที่ละครที่น่าจะออกมาให้ได้ดู(แบบรู้เรื่อง) ได้เร็วที่สุดแล้วเลยตั้งตาดูละครเรื่องนี้เป็นพิเศษ

     สำหรับพระเอกเรื่องนี้ เราเพิ่งได้ดูผลงานของเขาเป็นครั้งแรก ความรู้สึกแรก คือ ช่างเลือกพระเอกได้หน้าตาธรรมดาเหมาะกับบทมาก แต่ด้วยความที่เป็นคนสูงยาวเข่าดีผิดกับคนญี่ปุ่นโดยทั่วไป พอรวมกันแล้วเลยออกมาเป็นอะไรที่พอดี

    สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่แปลกออกไปจากที่คุ้นเคยตรงที่นางเอกช่างสังเกตของเราจะอ่านเรื่องราวต่างๆจากร่องรอยและเรื่องราวที่อยู่ในหนังสือมือสอง ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่สามารถทำได้กับหนังสือทุกเล่ม แต่แค่นี้ก็ทึ่งกับความคิดริเริ่มของคนเขียนแล้ว จะว่าไปเรื่องนี้ก็คงสามารถจับเข้ากลุ่มกับเรื่อง เฮียวกะ ได้กระมัง หลังจบแต่ละตอน จะมีคำบรรยายประกอบภาพอธิบายเรื่องราวของหนังสือที่กล่าวถึงในเรื่องสั้นๆด้วย น่าเสียดายที่ไม่มีคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ ดูจบตอนแรกรู้สึกถึงความกว้างใหญ่ของโลกแห่งหนังสือได้เลย

 

      หลังจากรอมานาน แฟนซับเจ้าประจำที่เคยทำออกมาให้ดู 4 ตอนก็ไม่มีผลงานออกมาเสียที เลยย้ายสายไปดูที่มีคนแปลลงใน alive แต่ด้วยความที่ที่เก่าแปลดีมาก พอดูใน alive เลยค่อนข้างขัดใจเล็กๆ หลังจากลองชิมลางทำ fansub ด้วยตัวเองครั้งแรกกับเรื่อง nazodi the movie เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นค้างอยู่ที่ตอนที่ 5 คนไขลาน (ตอนแรกแปลเป็นลานนาฬิกาสีส้ม ดีนะที่รู้ตัวก่อน)มาทำต่อ ซึ่งเป็นงานที่ทำแล้วเพลินมากถึงมากที่สุดจริงๆ ถ้าสนใจลองเข้าไปเป็นสมาชิก Jdramath แล้วไปรับได้เลยค่ะ ได้อะไรดีๆจากที่นี้มาเยอะ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันบ้าง

  

     ตอนที่ 6 กล่าวถึงเรื่องของคนที่สะสมหนังสือ ซึ่งอยากได้หนังสือถึงขนาดที่ทำร้ายคนอื่นได้ โดนในตอนท้ายของตอนที่ 5 ชิโอริโกะจะถูกถีบตกบันไดที่สูงมาก โดยได้รับบาดเจ็บแค่ขาหัก (ซึ่งโชคดีมาก จากท่าทางการถีบและความสูงแล้ว นางอาจถึงตายได้) และคนร้ายกลับเป็นคนไม่ใกล้ไม่ไกล คันไซคุงที่โผล่มาหลายตอนแล้ว หนุ่มหน้าตาเกลี้ยงเกลาแต่แอบโหดนะเนี่ย

 

    ตอนที่ 10 - 11 ดูกันมาเกือบทั้งเรื่อง ในที่สุดก็มีหนังสือที่เราเคยอ่านโผล่มาในที่สุด กับเรื่อง ชมรมนักสืบรุ่นเยาว์ หรือในชื่อไทย แก๊งจิ๋วเจาะคดี ของเอโดงาวะ รัมโป ซึ่งจำได้ว่าเคยไปค้นซื้อมาจากกระบะลดราคาในบู๊ท ส.ส.ท. ในงานสัปดาห์หนังสือ เพราะคุ้นๆ กับการกล่าวถึงหลายต่อหลายครั้งในการ์ตูนสืบสวน โดยเฉพาะโคนัน(ที่ตอนนี้เลิกอ่านไปนานโขละ) โปรดอย่าถามว่าอ่านแล้วรู้สึกยังไง เพราะจะขอตอบเลยว่าจำไม่ได้ ตัวหนังสือเองก็ไม่รู้ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้วด้วย สองตอนนี้เป็นเวทีให้ชิโอริโกะ ประลองฝีมือกับแม่ของตัวเองที่กำลังตามหาต้นฉบับที่ควรจะสาปสูญไปในชักโครกของ เอโดงาวะ รัมโป สองตอนนี้เต็มไปด้วยการถอดรหัสเพื่อไขปริศนา พลิกไปพลิกมาตลอด ค่อนข้างชอบเลยค่ะ ถือว่าเป็นการปิดฉาก series อย่างสวยงาม

 

บันทึก…คนอ่าน

      ส่วน version นิยายที่ได้มาภายหลังจากแปล series เสร็จมาได้สักพัก จากร้านนายอินทร์ อ่านเทียบดูแล้วก็เห็นว่ามีส่วนที่ดัดแปลงไปบ้าง อย่างน้องของชิโอริโกะในนิยายเป็นน้องสาวที่ดูแก่นๆ คุณชิดะก็เป็น homeless ที่อาศัยอยู่ใต้สะพานไม่ได้อยู่ที่ร้านของชิโอริโกะ ชิโอริโกะเองเเล่ม 1 ก็เดี้ยงอยู่ในโรงพยาบาลตลอดไม่ได้เพิ่งโดนถีบตกบันไดในตอนที่ 6 ส่วนเจ้าของร้านกาแฟที่ชอบสอดรู้ไปทุกเรื่องนั้นเพิ่มเข้ามาเป็นสีสันใน version TV ส่วนรายละเอียดคดีก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก

     เล่มที่ 2 ชิโอริโกะกลับมาทำงานที่ร้าน แต่ก็ยังมีอาการบาดเจ็บหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ให้พระเอกตัวโตของเราคอยช่วยเหลือให้ใจเต้นบ้าง เล่มนี้ด้านความสัมพันธ์ของตัวละคร นึกถึงเพลง เบา เบา ของ singular ค่ะ เราเอาใจช่วยนายนะ ไดสึเกะ เลี้ยวกลับมาแก่นหลังของเรื่อง นั่นคือเรื่องราวของหนังสือมือ 2 สำหรับเล่มนี้ไม่หนักชนิดเลือดตกยางออกเหมือนเล่มแรก แต่ก็มีการเปิดเข้าสู่ปมหลักเรื่องแม่ของนางเอกค่ะ สำหรับเรา เล่มนี้ก็ยังอ่านเพลินเหมือนเดิม สำหรับคนที่เคยดู series ในนิยายแตกต่างกัน คือ น้อยกว่าในด้านสีสันแต่มากกว่าในด้านความโรแแมนติก อ่านเล่มนี้แล้วอยากไป slow life มุดร้านหนังสือ แถวคามาคุระสักอาทิตย์ เก็บตังค์หยอดปุก...

     เล่มที่ 3 ท่ามกลางเรื่องราวหนังสือเก่า แต่เล่มมีต้องเพิ่มการเอาใจช่วยพัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก ทุกคนรอบข้างรู้ต่างความรู้สึกของไดสึเกะกันหมดแล้ว ไม่มีใครโดดมาขวางแต่อย่างใด แต่ยังไม่มีใครอ่านความรู้สึกของชิโอริโกะออก Fighting นะ เล่มนี้ตอนที่ชอบที่สุด เป็น ตอนที่ 2 นิทานภาพที่มีแรคคูณ จระเข้ และ สุนัข สำหรับโครงเรื่องเราพอรู้มาบ้างจากตอนดูละคร แต่ในนิยายบรรยายได้ซึ้งมาก คนในครอบครัว ถึงแม้จะไม่ถูกกันขนาดออกจากบ้านแต่สายสัมพันธ์ของครอบครัวยังคงอยู่เสมอ นั่งอ่านมาในรถไฟกลั้นน้ำตาแทบแย่ เล่มนี้ปริศนาแต่ละตอนที่เข้ามามีส่วนสำคัญให้ไดสึเกะ (รวมถึงคนอ่าน) ได้ทำความรู้จักกับจิเอโกะแม่ของชิโอริโกะ มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ

    เล่ม 4 เล่มนี้เป็นนิยายเรื่องยาว ที่กล่าวถึงหนังสือของ เอโดะงาวะ รัมโปะ และเป็นนักเขียนคนแรกที่เราเคยอ่านผลงานของเขา ซึ่งในเรื่องนี้ก็กล่าวถึงด้วย  ซึ่งก็คือเรื่อง ขบวนการนักสืบเยาวชน แล้วก็สมกับที่เรื่องนี้ว่าด้วยนิยายสายสอบสวน ความเข้มข้นนี่ถึงขั้นสุด ไหนจะต้องหาวิธีเปิดตู้นิรภัยล็อค 3 ชั้น ไหนจะต้องสืบแข่งกับคุณแม่ ไหนจะปมเเรื่องความสัมพันธ์ เสียดายที่เคยรู้เรื่องมาก่อนจากตอนดูละคร ไม่งั้นได้ตามติด อ่านชนิดหามรุ่งหามค่ำแน่ เป็นเล่มที่เราชอบที่สุดในซีรีย์นี้ และที่สำคัญโกระไปเดต แล้วก็บอกชอบชิโอริโกะแล้วเสียด้วย แต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับ ต้องรอเล่มถัดไป

    เล่ม 5 เป็นปริศนาสั้น ๆ 3 ตอนที่อบอวลไปด้วยความรักเหมือนกับสถานการณ์ของตัวละครเอก ถึงแม้ความรักของภรรยาที่ตามหาสามีที่ทิ้งไปหลักจากล้มละลาย หนังสื่อเก่าที่ทำให้ลูกเข้าใจว่าพ่อเห็นหนังสือสำคัญกว่าแม่ที่กำลังจะตาย มรดกหนังสือสูงค่าจากพี่ชายที่ไม่ถูกกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้งดงามไปเสียทั้งหมด แต่ต่างก็เป็นแง่มุมของความรัก เหมือนกับชิโอริโกะที่รักไดสุเกะ แต่ก็กลัวว่าจะทำให้เขาเจ็บปวด แต่มุมมองของไดสุเกะตอนปิดเรื่องที่แสนจะเรียบง่าย เล่นเอาคนฉลาดเหวอไปเหมือนกัน ไดจังนายเท่มาก