ภาค 1 : สามีของเราถูกลักพาตัวไป ส่วนลูกสาวก็หลับไหล ด้วยมนต์ของแฟรี่ เราต้องออกเดินทางตามเสียงของสามี เพื่อปลดปล่อยเขาออกมา
วิธีการเล่น เราต้องหาของเพื่อเปิดทางไปยังจุดต่อไป เช่น แผ่นไม้ทางเดิน กุญแจ ที่จะมีอยู่หลายๆอันตามที่ต่างๆ จุดเด่นของเกมนี้ คงเป็นปริศนาโน๊ตดนตรี โดยเราต้องเล่นเพลงตามตัวอย่างเพื่อปลดล็อคปริศนา สำหรับคนที่เคยเรียนดนตรีคงไม่ยาก จดโน๊ตเอาไว้แล้วเล่นตามก็สามารถผ่านได้ ติดอยู่ที่ว่าเวลาเล่นไม่ได้เล่นแค่เพลงเดียว ต้องเล่นเป็นชุดๆ เกมนี้จะต่างกับเกมอื่นตรงที่ไม่มีการหาของตาม list
ภาค 2 Eternal maze :
ภาคที่แล้ว เราได้เจอกับสามีที่ถูกจับขังไว้ก็จริง แต่ราขินีแฟรี่มาแย่งเอาตัวเอขไปในนาทีสุดท้าย เราเลยต้องออกเดินทางต่อไปเพื่อเอาสามีคืนมา โดยมีเสียงของแม่สามีช่วยนำทาง (แม่สามีกับลูกสะใภ้รักกันดี แปลกดีเนอะ)
สำหรับภาคนี้ ปริศนาเสียงดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่ส่วนใหญ่จะเป็นปริศนาสลับตำแหน่งแผ่นหิน ซึ่งในบางฉากจะมีแผ่นที่หายไป เราต้องไปหาหินมาแกะสลักใหม่
อันที่จริงผลการเล่นของภาคนี้น่าจะดีกว่านี้ จำได้ว่านั่งเล่นตอนวันเชงเม้ง น้าโทรมาเรียกให้ไปช่วย เลยเปิดเกมทิ้งไว้ กว่าจะหลับมาเล่นต่อก็เกือบบ่ายโมง มารู้ตัวตอนเล่นจบว่า มันบวกเวลาที่เปิดทิ้งไว้ด้วย
สำหรับภาคนี้ชอบคุณต้นไม้นำทางนี้จัง
ภาค 3 the chosen child
เราตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของชายคนหนึ่งที่อยู่ในลูกแก้ว แต่เราจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร เราต้องเดินทางไปผสมยาเพื่อฟื้นความทรงจำ หลังจากนั้นเราจะจำได้ตอนจบภาคที่แล้วลูกสาวของเราถูกลักพาตัวไป เราต้องออกไปตามหา
ภาคนี้จะเพิ่มการใช้ dream jewels สีต่างๆมาผมผสมเพื่อใช้เปิดประตู กว่าจะหาได้แต่ละอันต้องเอาเลนส์ไปใส่กล้องดูดาว จะได้เป้าไปหลอม การผสมน้ำยาที่ต้องเล่นปริศนาเรียงอักษรให้ถูกต้อง สูตรบรรทัดสุดท้ายถึงจะปรากฏ การเดินไปตามทางวงกตอันน่าปวดหัว ปริศนาโน๊ตเพลง แต่จุดที่เล่นแล้วติดกลับกลายเป็นตอนจบ ประมาณว่าติดตรงปริศนาสลับอักษร แล้วก็เลยทิ้งไว้นานจนลืมว่าพอได้ตุ๊กตาหมีแล้วจะต้องเอาไปวางตรงไหน มาเล่นอีกทีต้องเดินหาอยู่เป็นชั่วโมง สุดท้ายมาลงที่เชิงบันไดตรงบ้านเก่า แล้วเกมก็จบ เพลียหัวใจกับความมึนของตัวเองชะมัด
ภาค 5 book of water :
ภาคนี้เป็นการเดินทางเพื่อช่วยคุนพ่อของลูกสาวค่ะ ขนานไปกับการเดินทางของคุณแม่
ภาคนี่เราได้เจอปริศนาเก่ามาเล่าใหม่หลายอัน ไม่ว่าจะเป็นการส่องดาวหาเบ้าหลอม การผสมน้ำยา แต่ปริศนาที่ปวดหัวที่สุดยกให้การต่อวงจรไฟฟ้า นั่งหมุนอยู่นานมาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น