ชื่อเรื่อง - Mr. Brain
จำนวนตอน - 8
ดูจบเมื่อ - 4 ตุลาคม 2552
เรื่องย่อ
สึคุโมะ ริวสึเกะ ประสบอุบัติเหตุป้ายโฆษณาพังลงมาทับ สมองของเขาได้รับความกระทบกระเทือน แต่ด้วยความมหัศจรรย์ของสมองที่มนุษย์คาดไม่ถึง เขาสามารถฟื้นตัวได้ในสุด
หลังจากนั้นสึคุโมะเรียนทางด้านประสาทวิทยา ในที่สุดก็ย้ายมาเป็นหัวหน้าหน่วยประสาทวิทยาที่ IPS สถาบันวิจัยทางนิติวิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่น โดยมี ยูริ คาสึเนะ ที่ย้ายมาจากฝ่ายเคมีเป็นผู้ช่วย สึคุโมะได้เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีอาชญากรรมต่าง ๆ โดยนำหลักทางประสาทวิทยาเข้ามาประยุกต์ใช้ ควบคู่ไปกับหลักฐานด้านอื่น ๆ โดยร่วมมือกับเพื่อนร่วมสถาบันวิจัย
บันทึก...คนอ่าน
พระเอกในดวงใจ คิมุระ ทาคุยะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้เรามองข้ามเรื่องความร่วงโรยตามวัยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตลอด แต่เรื่องนี้ที่ไม่ปลื้มทรงผมของพระเอก โดยส่วนตัวไม่ชอบทรงผมแบบนี้ ไม่ว่าคนทำจะหล่อหน้าใสยังไงก็เถอะ แล้วบรรดาชายในสังกัดก็ชอบทำผมทรงนี้กันเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นลุง hyde และ ตา Micky ซึ่งตอนนี้ปรับปรุงกันไปแล้ว แต่ก็ต้องมาปวดใจกับทาคุยะอีกจนได้
เรื่องที่สองคือ custom ที่แสนประหยัด เพราะทั้งเรื่องพี่แกใส่สูทขาไม่เท่ากันอยู่ชุดเดียว แต่ยังไงก็เท่ห์ น่าจะเล่นหนังนักสืบมาตั้งนานแล้ว เล่นเอาฉันบ้ากินกล้วยไปเป็นอาทิตย์ทีเดียว
ส่วนเนื้อเรื่อง คนดูสุดแสนจะตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีที่เอามานำเสนอ ถึงแม้ว่าตัวเองจะเรียนทางด้านนี้ก็เหอะ ประมาณว่าถ้าทำได้ขนาดนี้จริง ฉันจะยอมไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น lab ภาพ ที่สมารถปรับความชัดขนาด scan เห็นลายนิ้วมือ lab เสียงที่สามารถนำข้อมูลมาประเมินรูปหน้าได้เลย ฝ่ายเคมี ฝ่ายชีววิทยา ไฮเทคสุดๆ
สิ่งประทับใจลำดับถัดไปของ series เรื่องนี้คือ การ์ตูนอธิบายหลักการทางประสาทวิทยาของพระเอก น่ารักมากๆเลย ชอบสุดๆ เสียดายที่มีน้อยไปหน่อย ภาค 2 ขอเยอะกว่านี้นะ
ส่วนนี่ก็เป็นโฉมหน้าบรรดาดารารับเชิญ แต่ละคนระดับพระเอก นางเอกทั้งนั้น ชอบที่สุด คือ ยาคุมิ เล่นเป็นฆาตกรแบบโหดได้อีก สงสัยว่าเจ๊แกจะเล่นเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมจนเบื่อแล้ว พอได้เปลี่ยนบรรยากาศเลยเอาซะเต็มเหนี่ยว
ปิดท้ายด้วยเรื่องขำๆ อันได้แก่มุกกล้วยล่อลิง เวลาตำรวจต้องการความช่วยเหลือจากสึคุโมะ ต้องหอบกล้วยมาเป็นเครื่องสังเวยไปเสียทุกครั้ง ขำสุดก็ตอนที่หัวหน้าที่ไม่ถูกกับสึคุโมะต้องมาขอให้ช่วย แล้วแบกกล้วยมาด้วยสีหน้าปุเลี่ยน ๆ นี่แหละ นอกจากนี้ก็ต้องเป็นมุขที่เวลาคนโกหกแล้วส่วนใหญ่จะมองไปทางด้านซ้ายบน อันนี้ก็ใช้บ่อย
1st rewrite : 17 กุมภาพันธ์ 2562
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น