ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ปมปริศนา ม.4 ห้องกรงนก

ชื่อภาษาญี่ปุ่น Torikago gakkyu เรื่องและภาพ Shin  Mashiba 2011 จำนวนเล่มทั้งหมด 7 สำนักพิมพ์ ญี่ปุ่น  Square enix   ไทย   Siam inter comic plot    โรงเรียนสหศึกษาโชโร เป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนน้อย และทุกคนต้องอาศัยอยู่หอพัก มิคาเงะ เด็กใหม่ที่ไร้ความทรงจำ เข้ามาเป็นสมาชิกห้อง 1A บางครั้งเมื่อมิคาเงะมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนนห้องเขาจะมองเห็นเงาของคนๆนั้นมีลายแปลกๆปรากฎขึ้น และในทันใดนั้นมิคาเงะจะถูกเรียนมาพบอาจารย์คุงิอุจิที่ห้องโสตทัศนศึกษาเก่า เพื่อเรียกให้ไปดูภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกอีกโลกหนึ่งที่เขาจากมา ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกระทำของเขาในโลกนี้ การบ้านของมิคาเงะ คือ การซ่อมแซมให้โลกกลับไปเป็นเหมือนเดิมภายในเวลาที่กำหนด ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลาม มิคาเงะแก้ไขความเข้าใจผิดซึ่งเกิดจากการใส่ร้ายของกรรมการรักษากฎไม่ทันเวลา ตอนที่กลับมาตรวจสอบสภาพความเป็นไปของอีกโลกในห้องโสตทัศนศึกษา มิคาเงะทะเลาะกับยุอิไค มิคาเงะถูกยุอิไคผลักกลับไปที่โลกเดิมของเขา ถึงแม้มิคาเงะจะพยายามอย่างสุดความสามารถจนแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นได้สำเร็จ แต่การได้รู้ฐานะที่แท้จริงของตัวเองท

รหัสลับหลังคาโลก

ชื่อภาษาอังกฤษ The tibetan code เรื่อง เหอหม่า แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี จำนวนเล่มปัจจุบัน 1 สำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์บุ๊คส์ plot เล่ม 1      เฉียงปาลาได้รับรูปถ่ายสุนัขขณะบรรยายในพิธีเปิดการกระกวดสุนัขระดับโลกที่บริษัทของเขาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น รูปพวกนั้นเป็นรูปของกิเลนม่วง สัตว์เทพรองบาทของพระพุทธองค์ หรือคือสุนัขทิเบตันมัสทิฟฟ์ที่สมบูรณ์แบบและแข็งแกร่งที่สุดในตำนาน เฉียงปาลาไปเกลี่ยกล่อมฟังซินอาจารย์ของเขาให้ร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งสองเดินทางไปลาซาเพื่อตามหาคนบ้าคนหนึ่งตามคำบอกเพ้อของถังเทาผู้ถ่ายภาพ เมื่อหาพบเฉียงปาลารู้ว่าชายตนนั้นเป็นคนเผ่าเกอปาจากรอยสัก เขามีอาการกลัวสุนัขอย่างรุนแรง เมื่อเฉียงปาลาเอาลูกสุนัขมาขู่เขาจึงยอมเปิดปากเล่าว่าคนอื่นๆในหมู่บ้านถูกกัดตายหมดแล้ว เมื่อรู้ว่าสถานที่ที่ต้องการตามหาเกี่ยวข้องกับเผ่าเกอปา เฉียงปาลาจึงต้องเดินทางกลับไปหาข้อมูลจากที่บ้าน เพราะพ่อของเขาเป็นหนึ่งในปราชญ์ที่ทรงภูมิ ถังหมิ่นน้องสาวของถังเทามาตามหาเฉียงปาลาถึงลาซา เธอเล่าว่าพี่ชายของเธอมีสมุดบันทึกที่จดการผจญภัยทุกอย่างติดตัวอยู่เล่มหนึ่ง ซึ่งมันหายไป การเดินทางเพื่อออ

Asiatique the riverfront

     เป็นโปรแกรมด่วนแทรกเข้ามา ตอนแรกว่าจะไปลันล้าที่กรุงเทพอยู่แล้ว ก่อนไปก็เม้าท์กับคุณน้องชายเรื่องนิทรรศการไททานิค ตอนดึกไม่รู้อารมณ์ไหนคงไปคุยบิ้วคุณแฟนละมั้ง เลยโทรมาบอกว่าไปกันวันอาทิตย์นี้เลย(ตอนนั้นเป็นวันศุกร์) แต่ก่อนอื่นรู้จัก asiatique ไหม เนื่องจากที่นี่เปิดเวลา 17:00 น. ถ้าไปวันอาทิตย์คุณน้องอาจกลับไปทำงานไม่ทัน เลยได้แทรกตารางลงก่อน     พอเอาเข้าจริง วันเสาร์ตัวขี้เกียจเกาะค่ะ บวกกับฟ้าฝนทำท่าจะตก ว่าจะให้คู่รักเค้าไปสวีทกัน แต่คุณน้องชายไม่ลดละโทรมาจิก ก็เลยนั่งรถตู้ออกไป ที่ไหนได้พอถึงกรุงเทพฯฝนตกครับพี่น้อง ฝ่ายโน้นเลยทำท่าจะถอดใจแต่เราตั้งใจออกมาแล้ว บวกกับมีร่มซะอย่างเลยลุยไปก่อน ฝั่งนู้นจะมาไม่มาก็ไม่ว่ากัน การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าจากอนุสาวรีย์ชัยไปลงสถานีสะพานตากสิน ลงบันไดมาแล้วเดินไปที่ท่าเรือทางขวาสุดเลยค่ะ (ท่าที่มีคนมารอเยอะๆนั่นแหละ) มีเรือฟรีรับส่งจากท่าสาธรตั้งแต่เวลา 17:00 – 20:00 น. โดยเรือจะติดธง asiatique สีเลือดหมูสังเกตง่าย ไม่ต้องกลัวขึ้นผิดเลยค่ะ วันนั้นขึ้นเรือประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว ทันได้เห็นแสงทองตอนพระอาทิตย์ตกพอดี         ถึงแล้วจ้า บ

ท้องฟ้าจำลอง

      หมายมั่นปั้นมือมานานแล้วค่ะ สำหรับรายการนี้ ตั้งแต่ดูเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ละมั้ง อันที่จริงพ่อเคยพาไปเที่ยวตอนวันเด็กเมื่อสิบกว่าปีก่อนครั้งนึง แต่เห็นในหนังแล้วก็รู้สึกว่าน่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เลยอยากลองไปอีกครั้ง การเดินทาง          จากท่าน้ำศิริราช นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาไปลงท่าสาธร เดินขึ้นรถไฟฟ้า BTS จากสถานีสะพานตากสิน มาลงที่สถานีเอกมัย ออกทางออก 2 ลงบันไดแล้วหันหลังกลับ เดินย้อนไปทางป้าย seven นะคะ อย่างเชื่อป้ายตรงตีนบันไดเชียว เรานี่แหละเดินไปถึงสถานีพระโขนง ต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับมา ดีนะที่มีบัตรฟรี ค่าเข้าชม       ผู้ใหญ่ 30 บาท ดูได้ทุกอาคาร เปิดบริการ อังคาร – อาทิตย์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์                 มัวแต่โอ้เอ้กับหลังทาง เลยไปไม่ทันรอบ 11:00 น. ซื้อบัตรรอบ 13:00 ระหว่างรอก็ใช้เวลาชั่วโมงกว่าชมส่วนอื่นๆค่ะ อาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ - ตัวอาคารมี 4 ชั้นค่ะ เวลาชั่วโมงกว่าดูผ่านๆยังไม่ทัน     ชั้น 1 วิทยาศาสตร์แสนสนุก ไปนั่งเล่นบนเตียงตะปู ดูพายุหมุน ภาพสามมิติ ธีออส ดวงตาของชาติ ลานนี้คนไหนที่ดูหนังน่าจะคุ้นๆ เวลาถ่ายรูปลงมาเหมือนเป็นยัก