ตื่นเช้ามาแบบสุดชื่นมาก ๆ ตอนแรกวันนี้วางแผนว่าจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ วัดโน่นนี่นั่นตามที่ไปหาข้อมูลมา แต่สุดท้ายก็พับไปหมดค่ะ ประเด็นคือกลัวหลงทางแล้วกลับมาไม่ทันขึ้นรถ เราเหมือนจะใช้ความกล้าหมดไปตั้งแต่ตอนที่ขึ้นเครื่องบินมาซะแล้ว เลยตัดสินใจว่าไหน ๆ ได้ใช้ตังค์ตังเองเป็นค่าโรงแรม 5 ดาว ครั้งแรก ใช้เวลากับมันให้คุ้มค่าดีกว่า อันดับแรกไปกินอาหารเช้ากันก่อน ให้เรียงลำดับอาหารโรงแรมในประเทศที่เคยไปก็ยังคงเป็น 1.ไทย 2.เยอรมัน 3.จีน พี่ไทยเราชนะทั้งเรื่องความหลากหลายและความอร่อยค่ะ
กลับขึ้นมาขอเปิดหน้าต่างดูทิวทัศน์สักหน่อย วิวจากชั้น 8 ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป เราพักห้อง 0807 อย่างที่บอกไปแล้วถ้าได้พักห้อง 0805 จะฟินขนาดไหน วิวจากหน้าต่างของเราเป็นชิงช้าสวรรค์ กับบึงน้ำขนาดใหญ่
ส่วนภารกิจต่อไปที่แอบหนักใจพอดูตอนที่เปิดเข้ามาในห้องคร้้งแรก คือการพยายามยักของพรีเมี่ยมบรรดามีลงกระเป๋าเดินทางขนาด 18 นิ้ว เพราะนอกจากของตัวเองที่ต้องพยายามรื้อ packaging ที่ไม่จำเป็นออกเพื่อลดพื้นที่แล้ว ยังจะมีของฝากซื้อที่จะต้องลงไปส่งออเดอร์ตอน 10 โมงอีกจ้า เนื่องจากของในลิสต์ที่ซื้อได้คราวนี้ไม่โดนเท่าไหร่ บวกกับส่วนหนึ่งก็ซ้ำกับของที่กองอยู่ในห้อง ก็เลยเน้นซื้อเฉพาะของคนที่ขาดเท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลือหมดไปกับการนั่งเล่นในห้อง กับพยายามจัดการถ้าแก่น้อยที่วางแถมไว้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปจะได้ไม่ต้องขนกลับ คือกินแทนข้าวกลางวันนั่นเอง พอ 14.00 น. ก็เตรียมตัวไปดูคอนเสิร์ต
เดินทางด้วยรถทัวร์ข้ามเมืองไปยังสถานที่จัดการแสดงตามเส้นทางเดิม เห็นว่าวันนี้ไม่ต้องใช้สายคล้องคอแล้วเพราะอะไรสักอย่าง ก็ไม่เป็นไรเพราะคราวนี้พอรู้ทางแล้ว อันดับแรกเรารีบดิ่งไปที่บู๊ทขายของหน้าคอนเสิร์ตก่อนเลยจ้า แต่เรื่องไม่เหมือนกับที่คุยกันไหว เหมือนออเดอร์ที่น่าจะส่งมาตั้งแต่ก่อนเที่ยงกับไม่มีการจัดการเท่า แบบว่าเพิ่งจะมาเริ่มจัดแล้วเรียกชื่อทีละคนโดยไม่มีเครื่องขยายเสียงช่วย ซึ่งสมาชิก Global Package ก็เป็นตามชื่อ ต่างก็เป็นคนต่างชาติทั้งนั้น รอไปรอมาให้สั่งใหม่ เราตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่าขอเท ใกล้ถึงเวลาแล้ว ไหนจะต้องไปต่อคิวเข้าห้องน้ำอีก
ที่นั่งวันนี้เป็นที่นั่งด้านซ้าย แถว 2 จากด้านหน้า ถือว่าไม่เลว เพราะนั่งหน้าสุดจะสูงกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนิดเดียว ก็ถือว่าว่าใกล้น้องเข้าไปอีกนิด ปิดไฟแล้วลำดับการแสดงจะคล้าย ๆ กับคอนเสิร์ตเมื่อวาน วันนี้มีการถ่ายทอดสดผ่าน WeTV ด้วย ค่อยไปเปย์เพิ่มย้อยหลังจะได้รู้ว่าน้องคุยไรกัน เปิดด้วยเพลง valuable โดย Naomi Wang วันนี้ใส่ชุดดำจ้า
ส่วนที่ต่างจากเมื่อวานคือวันนี้เปลี่ยนจากการเล่นเกมมานั่งคุยกันแบบยาว ๆ ป๋อวันนี้กับทรงผมแบบ wet look ใส่สูท เท่กว่าเมื่อวาน แต่เมื่อวานน่ารักนุบนิบกว่า ส่วนคนพี่นั้นใส่สูทแนว navi น่ารักมาก ๆ ถือว่าพี่สไตลิสต์แก้ตัวจากชุดซามูไรแบบงง ๆ ของเมื่อวานได้ เนื่องจากวันนี้คนมาเยอะ นั่งเรียงกันสลับกันตอบคำถาม เราผู้ฟังไม่รู้เรื่องนอกจากชื่อเลยเน้นที่การใช้กล้องส่องทางไกล ส่องพี่น้องตรงกลางเวที เรียกว่าเก็บทุกโมเม้นจ้า มาดูย้อนหลังพร้อมซับไตเติ้ล คำถามแรกเกี่ยวกับคนที่ได้เจอเป็นคนแรกในกองถ่าย และคงไม่มีคำตอบของใครจะหงายเงิบเท่ากับลูกชายฉาน นางตอบแบบผมโครตภูมิใจว่า คนที่เจอเป็นคนแรกคือ...คนรับรถจ้า...และนางก็ถูกใจกัน จนวันนี้กลายมาเป็นคนขับรถประจำตัว (ตรงมากค่ะคุณลูก) ส่วนจ้านเจอศิษย์พี่ก่อน ป๋อจ้านเจอกันเป็นหมู่ตอนอ่านบท ตอนกินข้าวกลางวันในโรงอาหาร ส่วนหัวข้อที่ 2 ก็ว่าด้วยเรื่องรูปที่ถ่ายในกอง ของป๋อเป็นถ้ำสระเหมันต์ ตอนนั้นไม่มีเน็ต ส่วนจ้านเป็นมุมหลังคา
แขกรับเชิญพิเศษอีกท่านในวันนี้ คือ อ.หลินไห่ Producer เพลงของซีรีย์เรื่องนี้ ผลงานของอาจารย์น่าประทับใจจริง ๆ เห็นว่าใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจ เพลงฉินของป๋อแกก็ถึงขนาดปรับตามท่าที่ป๋อดีด(ซึ่งนางเพิ่งหัดเล่น) แบบว่าโครตเก่ง แล้วก็ขอบคุณป๋อ จ้านที่ถ่ายทอดเพลงไร้พันธนาการออกมาได้เป็นอย่างดี ส่วนหัวข้อสุดท้ายที่คุยกันคือซีนปิดกล้องของแต่ละคน ฉากสุดท้ายส่วนใหญ่จะเป็นปู่เย่เทียน ขึ้นอยู่กับว่าอยู่มุมไหนกัน สองคนนี้คือฉากที่เว่ยอิงโดดหน้าผา
สุดท้าย ก่อนเข้าสู่การแสดงช่วงถัดไปมีการถ่ายรูปรวมกับแฟน ๆ ที่อยู่ในฮอลล์ กะดูจากระยะแล้ว วันนั้นเรานั่งอยู่แถว 2 ดูจากแนวไฟบนหลังคาแล้วน่าจะอยู่ตรงส่วนที่ป๋อกับจ้านยืนบังพอดี555 แต่ก็ถือว่าได้ถ่ายรูปด้วยกันละเนอะ ช็อตนี้ขาดไห่ควานที่ต้องไปเตรียมตัวหลังเวที น่าเสียดาย
- เพลง Can't help / ไม่อาจฝืน ธีมของซีเฉิน โดย หลิวไห่ควาน : เพลงของคนหล่อแบบเศร้า ๆ แต่พอดูในจอใกล้ ๆ แล้วไหงเหมือนพี่แกดูซีด ๆ
- เพลง Qinghe Jue / คำบอกล่าที่ชิงเหอ ธีมของพี่น้องสกุลเนี่ย โดย หวังอี้โจว + จี้หลี่ : สองพี่น้องที่ดูเหมือนไม่ถูกกัน แต่รักกันมาก พอมาอยู่บนเวทีด้วยกันแล้วสองคนนี้อย่างเท่ ร้องจบแล้วมีสัมภาษณ์แบบสั้น ๆ ด้วย
- เพลง Hate เกลียดชีวิต ธีมของจินกวงเหยา โดย จูซิงเจี๋ย
- เพลง woodland เสียงรำพันจางพงไพร ธีมของเวินฉิง โดย เกาฉิวจื่อ : จำน้องคนนี้ได้แม่น แม่สาวร่างอวบนิด ๆ ลูกศิษย์ของป๋อจาก Produce101 ที่เหมือนป๋อจะคุยเล่นด้วยเยอะที่สุดแล้ว เพราะนางฮา
- เพลง parting แค้นจาก ธีมของเจียงเฉิง โดย วั่งจัวเฉิง ที่ตัวจริงนุ่มนิ่มผิดกับในเรื่องเลยจ้า ร้องเพลงเพราะมากเลยสมกับจบเอกขับร้อง
- เพลง Utter Innocence ใจบริสุทธิ์ ธีมของเวินหนิง โดยอวี๋ปิน วันนี้มาแบบเรียบ ๆ เป็นคนเดียวที่ลงทุนวาดเส้นเลือดดำ เอกลักษณ์ของคนที่เคยโดยตราพยัคฆ์ทมิฬควบคุม
ช่วงนี้ธีมเพลงคู่มารัว ๆ เลยจ้า
- เพลง Never see you again จากนิรันดร์ ธีมของเจียงเยี่ยนหลี กับ จินจื่อเซวียน โดย หยางฉีอวี้ และเหลียงซินอี๋ เพลงหวาน ๆ ของคู่รักที่ใจนึงก็หมั่นหน้าฝ่ายชาย อยากให้ศิษย์พี่เชิดใส่ให้นานอีกหน่อย จะได้สำนึก
- เพลง Hard to let go ใจที่วางไม่ลง ธีมของเจียงเยี่ยนหลี โดย อิ๋นหลิน และเฮาอวี้เฉิน บนเวทีเป็นธีมสระบัวมาเลย แถมพี่เขยก็ขึ้นมาร้องเอง เสียดายที่ศิษย์พี่ไม่ได้มา ก่อนจบพี่เขยยังมาถามว่า ค่ำคืนนี้ทุกคนมีหัวใจที่วางไม่ลงกันไหม แหม...ถ้าวางลงคงไม่มาถึงนี่
- เพลง Never bully the young เยาวว์วัยแค่ไหนอย่าข่มเหง โดยแก๊ง EDM แห่งเฉินฉิงลิ่ง จุ้ยเสวี่ย เจิ้งฝานซิง กัวเฉิง ซีเผยซิน บอกตรง ๆ ว่าแอบขัดใจกับคอสตูมน้อง กัวเฉิง สูทธรรมดานี่รอดอยู่คนเดียว ส่วนฝานเซิงชุดซามูไร กับ เผยซินที่เสื้อแขนบานมาเลย ร้องจบเพลงนี้มีสัมภาษณ์เผยซินก็เป่าปี่เป็นคนแรก กัวเฉิงเหมือนจะฮึบไหว แต่พอฝานซิงตอกมาอีกรอบ
- เพลง Lonely town เมืองเดียวดาย โดย เฉินจั๋วเสวียน หลี่ป๋อเหวิน ซ่งจี้หยาง เพลงนี้ร้องกัน 2 คน อาจิง กับ ซ่งหลาน ส่วนเสี่ยวซิงเฉินใส่ชุดดำพันผ้าผูกตาออกมารำพัด น้องอาจิงยังยังสวยพรุ้งพริ้ง ส่วนเสี่ยวซิงเฉินก็มามาดควีนมาก ปิดท้ายเรียกเสียงกรี๊ดกับตอนที่ซ่งหลานดึงแขนเสี่ยวซิงเฉินให้ลุกขึ้นยืน
- เพลง no one know โดย โจวเซิน เซวียนหยางสำหรับเราแล้วนี่แหละควีนตัวจริง หลงรอยยิ้มนางตั้งแต่ตอนได้ดู teasor แต่ที่อึ้งกว่าคือตอนที่รู้ว่าคนร้องเพลงนี้ที่จริงแล้วเป็นผู้ชายจ้า ตอนดูคอนเสิร์ตรอบเมื่อวานนี้อย่างเหวอ ฝีมือการร้องนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะตอนหลัง ๆ เราจะคุ้นหน้าเขามาก ๆ เพราะไปออกรายการบ่อยพอสมควร
- เพลง เด็กใหม่ไม่กลัวเกรง อันนี้เป็นโชว์พิเศษ ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 5 หนุ่ม ได้แก่ เจิ้งฝานเซิง หลี่ป๋อเหวิน ซ่งจี้หยาง อวี๋ปิน จี้หลี่ และเฉาอวี้เฉิน ที่เราเรียกว่าเป็นอาลิ่งบอยแบน ดูแล้วใช้ได้เลยทั้งที่มีเวลาซ้อมแค่วันเดียว
และแล้วก็มาถึงช่วงช่วงที่รอคอย และก็เป็นสัญญาณว่างานเลี้ยงใกล้ถึงเวลาเลิกรา
- เพลง Do not forget มิเลือมเลือน โดยหวังอี้ป๋อ เสียงกรี๊ดกลับมาดังกระหึ่มอีกครั้ง คุณแม่ก็กลับมาจับปลา 2 มืออีกครั้ง ไหนจะกล้องส่องทางไกล ไหนจะกล้องมือถือ วันนี้พิเศษกว่าเมื่อวานตรงนี้ขึ้นเครนเข้ามาใกล้ชิดแฟน ๆ อีกหน่อย แต่แออบมีเคืองตรงที่เครนกระตุกแบบมากพอที่จะผวาเกาะราวแทบไม่ทัน ตอนที่อยู่ใในคอนเสิร์ตไม่ทันได้สังเกต แต่พอมาดูย้อนเห็นเงาบาง ๆ ในตาน้อง นี่ออาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้ร้องเพลงนี้บนเวทีใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเราก็หวังว่าจะได้เจอเห็นน้องร้องเพลงนี้อีกในงานครบรอบ 5 ปี 10 ปี
- เพลง A song of my heart "เรื่องราวบนเฉินฉิง" โดย เซียวจ้าน ตอนขึ้นเหมือนจะมีไต่คีย์ไม่ถูกเบา ๆ ตามประสาคนมึน กับไม่ค่อยสบาย แต่ตอนโบกมือให้แฟน ๆ บนเครนอย่างน่ารัก ตอนเดินไป stand by เห็นอี้ป๋อขึ้นมากับไฮโดรลิกนี่ถึงกับร้องว้าว555
- เพลง The Untamed ลุกพ่อหนุ่มชุดเอี้ยมกับหมวกฟางนี้สร้างความฮือฮามาก มิน่าพี่จ้านถึงกับร้องว้าว วันนี้เหมือนรู้กันแล้วว่าน้องจะช่วยพี่ไต่คีย์หน่อย เพราะรู้ว่าไม่สบาย บรรยากาศตอนร้องเพลงนี้สดใสมาก
VTR รวม cut ฉากขอลา ข้าไปนะ พบเจอวันหน้า ของตัวละครต่าง ๆ ขึ้นมาติด ๆ กัน นักแสดงทุกคนกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง โดยยืนเป็นกลุ่ม ๆ ตามตระกูล เพื่อกล่าวคำอำลา "เกาสือ" ตามบทบาทของตัวละครที่ได้รับทีละคน โคมประจำตระกูลก็จะค่อย ๆ ลอยขึ้นไป นักแสดงค่อย ๆ ลงจากเวทีไปรู้สึกบีบหัวใจเหมือนกัน แต่ละคนมีเงาน้ำตา โดยเฉพาะพี่จ้าน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น