เรื่องย่อ
อัทสึชิ ถูกไล่ออกจากสถานสงเคราะห์กำลังจะหิวตายอยู่ริมแม่น้ำ ช่วยเหลือ ดาไซ ที่จมน้ำลอยผ่านมา แต่เจ้าตัวดันโวยวานว่ามาขัดขวางการพยายามฆ่าตัวตาย แต่อย่างน้อยก็ยังมีกะใจเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนความช่วยเหลือ ระหว่างกินข้าวร่วมโต๊ะดาไซเล่าว่าพวกเขาสังกัดสำนักงานนักสืบที่รวบรวมคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ คอยสะสางงานที่เจ้าหน้าที่ธรรมดาจัดการไม่ได้ และตอนนี้อยู่ระหว่างการตามล่าเสือกินคน ซึ่งตัวอัทสึชิเองก็เคยเจอเมื่อ 4 วันก่อน อัทสึชิเล่าให้พวกดาไซฟังว่าเหมือนเสือตัวนั้นกำลังไล่ตามเขา ดาไซจึงได้ช่องขอให้อัทสึชิช่วยโดยมีเงินรางวัลตอบแทน แท้จริงแล้วร่างเสือที่พวกดาไซกำลังไล่ล่า คือ อัทสึชิ ดาไซชักนำอัทสึชิเข้าไปทำงานในสำนักงานนักสืบ
อัทสึชิที่เป็นร่างของสมิงเป็นที่ต้องการตัวของพวกมาเฟียท่าเรือเพราะค่าหัวในตลาดมืดที่แพงลิบลิ่ว อัทสึชิจึงถูกพวกนั้นรังควาน ดาไซถูกพวกมาเฟียท่าเรือจับตัวไป รถไฟที่อสึชิกับหมอโยซาโนะโดยสารถูกวางระเบิด อสึชิช่วยเคียวกะนักฆ่าของมาเฟียท่าเรือกลับมาเพราะเห็นว่าเธอถูกหลอกใช้ เคียวกะอยากอยู่กับพวกของอสึชิแต่ก็ถูกซ้อนแผน เมื่อเด็กสาวถูกติดเครื่องติดตามตัวทำให้พวกมาเฟียท่าเรือตามมาจับอสึชิไปได้ แต่ในตอนที่อสึชิกำลังจะถูกส่งออกไปนอกประเทศทางเรือ เคียวกะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยอสึชิโดยแลกกับชีวิตตัวเอง อสึชิไม่ยอมแพ้ สู้สุดชีวิตจนทั้งคู่รอดมาได้ และในที่สุดเคียวกะก็ได้เป็นสมาชิกใหม่ของสำนักงานนักสืบ
season - 2
เคียวกะจะถูกมาเฟียท่าเรือพาตัวกลับไป แต่ กิล มือที่สามเข้ามาขัดจังหวะ พวกมันฝีมือร้ายกาจขนาดทำให้พวกอสึชิบาดเจ็บหนัก ส่วนเคียวกะหายตัวไป หลังจากนั้นสำนักงานก็โดนโจมตีจากศัตรูทั้ง 2 ด้าน ทำให้เสียเปรียบทั้งกำลังคนและกำลังเงิน ท่านประธานจึงสั่งให้พวกเขาย้ายมาตั้งรับที่ฐานลับ
กิลเป็นศัตรูที่ร้ายกาจทั้งกับสำนักงานนักสืบ และมาเฟียท่าเรือ แถมยังมีแผนที่จะทำลายโยโกฮาม่า พวกอัทสึชิขัดขวางไว้ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวและจะปล่อยให้ยืดเยื้อนานเกินไปไม่ได้ อัทสึชิจึงเสนอให้ไปเป็นพันธมิตรกับมาเฟียท่าเรือเพื่อปกป้องเมือง เมื่อพวกโยโกฮาม่าเริ่มเอาคืน แผนเผด็จศึกของฝ่ายตรงข้ามคือการปล่อยให้ โมบิดิค ยานเหาะขนากยักษ์ตกลงมาทำลายโยโกฮาม่า อัทสึชิถูกส่งให้ไปลุยเดี่ยวกับหัวหน้ากิล ผู้มีความสามารถอันไร้ขีดจำกัดตามอำนาจของเงินในกระเป๋าโดยมีอาคุตากางะเป็นตัวช่วย และคอยหาเรื่องเพราะไม่พอใจที่อัทสึชิได้รับการยอมรับจากดาไซ อัทสึชิกับอาคุตางาวะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองเอาชนะหัวหน้ากิลและแย่งการควบคุมมาได้ แต่มีคน HACK ระบบควบคุมไปเสียแล้ว
ดาไซกล่อมให้เคียวกะที่ถูกคุมตัวอยู่ในอากาศยานไร้คนขับทำอะไรสักอย่าง เคียวกะตัดสินใจบังคับให้อากาศยานพุ่งชนโมบิดิคเพื่อเปลี่ยนจุดตกไปที่อ่าวโยโกฮาม่า ทำให้เคียวกะผ่านการทดสอบ ว่าสามารถใช้ชีวิตตัวเองปกป้องคนอื่นได้ เคียวกะที่ควบคุมเจ้าหญิงหิมะหลบหนีออกมาได้ มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกของสำนักงานนักสืบอย่างเป็นทางการ
season - 3
ตัวละครสำคัญ
 | Nakajima Atsushi : เด็กที่ถูกไล่ออกจากบ้านเด็กกำพร้า สามารถแปลงเป็นเสือสมิงได้ |
 | Dazai Osamu : นักสืบเอกชนหน่วยพิเศษ อดีตสมาชิกมาเฟียท่าเรือ ชื่นชอบมาทดลองฆ่าตัวตายด้วยวิธีต่าง ๆ พลังพิเศษ – No longer human : ลบพลังพิเศษชนิดอื่นด้วยการสัมผัส |
 | Edogawa Rampo : เป็นคนเดียวที่ไม่มีพลังพิเศษ แต่เจ้าตัวคิดว่าทักษะที่ใช้อยู่คือพลังพิเศษ พลังพิเศษ – Ultra deduction : สามารถอนุมานเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ |
 | Izumi Kyouka : ถูกบังคับให้เป็นนักฆ่าของมาเฟียท่าเรือ หลังจากพ่อกับแม่ของเธอตาย พลังพิเศษ – Demon Snow : ผู้หญิงหิมะถือดาบซึ่งฟังคำสั่งผ่านโทรศัพท์มือถือของเคียวกะซึ่งตกทอดจากแม่ |
บันทึก…คนดู
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจอย่างแรก คือ ชื่อของตัวเอกอย่าง ดาไซ โอซามุ เป็นความคุ้นเคยเพราะเพิ่งดู series เรื่อง biblia จบไปได้ไม่นาน ความมืดมนของชีวิตฮีทำให้เราจำได้แม่น อย่างในเรื่องนี้ก็ถอดความพยายามฆ่าตัวตายตลอดเวลามาอยู่ในตัวละครด้วย แต่ลดทอนความทะมึนลงไปบ้าง ด้วยความปรารถนาอยากตายอย่างไม่เจ็บปวดบ้าง หรืออยากฆ่าตัวตายพร้อมสาวสวยจนกลายเป็นป้อไปเรื่อง(อันนี้ตรงความจริงตรงที่แกโดดน้ำตายพร้อมคนรัก)
เรื่องนี้ตัวละครเกือบทุกตัวนำต้นแบบมาจากนักเขียน classic ของญี่ปุ่น โดยเอาผลงานชิ้นเอกมาตั้งเป็นชื่อไม้ตาย เป็นแนวความคิดที่แหวกดี น่าเสียดายที่เราไม่ค่อยรู้จัก หรือได้อ่านงานของนักเขียนญี่ปุ่นเท่าไหร่
เปิด season 2 มาด้วยเรื่องราวสมัยที่ดาไซยังอยู่กับพวกมาเฟียท่าเรือ ตอนนั้นดาไซถือว่าเป็นขาโหด แต่ก็พอมีคนที่สนิทสนมด้วยอีก 2 คน อังโกะ เป็นสายระดับสูง กับ โอดะ ที่ทำหน้าที่เก็บกวาดสารพัดเรื่องเพราะเขายึดหลักการว่าจะไม่ฆ่าคน ตัวเอกจริง ๆ ของสี่ตอนนี้น่าจะเป็นโอดะ ผู้มีความสามารถในการมองเห็นอนาคตก่อนที่จะเกิดในชั่วเสี้ยววินาที เมื่ออังโกะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและโอดะได้รับมอบหมายให้ไปสืบหาความจริง สามตอนนี้เดินเรื่องได้เท่ดี มีการหัดเหลี่ยมเฉือนคมเบา ๆ โอดะอยู่กับมาเฟียก็จริงแต่มีความฝันว่าเมื่อเกษียณจะไปเป็นนักเขียนนิยาย แถมยังรับอุปการะเด็กกำพร้าไว้โขยงนึง ซึ่งเป็นจุดอ่อนทำให้เขาต้องกลับมาฆ่าคนอีกครั้ง แถมพี่แกโครตเก่งลุยเดี่ยวเข้าไปในรังศัตรู แถม animator ของเรื่องนี้ทำฉากบู๊ออกมาได้มันมาก โอดะนี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ดาไซเปลี่ยนข้าง
พอจบตอนของดาไซก็เปลี่ยนบรรยากาศเล็กน้อยด้วยความโก๊ะในการทำงานแรกของเคียวกะเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดตัวศัตรูใหม่ที่ร้ายกาจถึงขนาดทำให้ องค์กรกับมาเฟียท่าเรือต้องร่วมมือกัน ทำให้เราได้เห็นคู่หูผสมไร้เทียมทานออกโรง อย่างคู่ two black ระหว่างดาไซกับชูยะ ที่ตีกันไปด้วยสู้กันไปด้วย คู่ถัดไปเปลี่ยนบรรยากาศจากบู๊ลากผลาญมาเป็นการชิงไหวชิงพริบ รัมโปถูกดูดเข้าไปในนิยายสอบสวนสืบสวนเพื่อหาคนร้าย โดยคนเขียนก็คือ แอบมีโรแมนกับคุณหมอเบา ๆ เป็นอีกหนึ่งตอนที่เราชอบมาก ๆ ใน season นี้ และปิดท้ายที่อัทสึชิจับคู่กับอาคุตางาวะ หลังจากโดนอีกฝ่ายเหม็นหน้าที่ได้อยุ่ข้างกายดาไซจนโดนราโชมอนจิ้มทุกครั้งที่สบโอกาส พออาคุตางาวะได้รู้เบื้องลึกของอดีตอันบัดซบที่อัทสึชิเคยผ่านมาก็เหมือนจะญาติดีด้วยนิดนึง จนพอจะเป็น dream team แบบที่ดาไซพยายามปั้นได้อยู่
ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจะดูหนักหนา แต่สุดท้ายก็จบลงได้อย่างเรียบร้อย เสือที่ดีใจเห็นแฟนตัวเองรอดจนกระโดดกอดขนาดนั้น ขอน้องเขาแต่งงานไปเลยก็ได้ โป ที่เป็นคู่แข่งของรัมโปที่มาเที่ยวสำนักงานตอนงานเลี้ยงต้อนรับเคียวกะก็น่ารักดี อันที่จริงรายนี้ก็มีความสามารถในการสืบ น่าดึงตัวมาสังกัดสำนักงานอีกคน
เป็นอีกเรื่องที่สนุกดี เห็นว่า Manga กับนิยาย ยังไม่จบ มีแปลเป็นภาษาไทยด้วย แต่ต้องรอคิวหน่อย รายการหนังสืออยากอ่านนี่ยาวเป็นหางว่าวเลย
Season 3 เริ่ม 3 ตอนแรกด้วยเรื่องราวตอนที่บอสคนปัจจุบันสืบทอดตำแหน่งบอสใหม่ ๆ ด้วยการปาดคอบอสคนเก่า และมีดาไซตอนอายุ 15 เป็นพยานเพียงคนเดียว งานแรกที่ได้รับมอบหมายคือไปสืบเรื่องที่บอสคนก่อนที่ควรจะตายไปแล้วออกมาปรากฎตัวอีกครั้ง โดยจับคู่กับชูยะ คู่หู two black ที่ตอนนั้นยังเป็นแกะ แต่ยอมมาร่วมมือกับพอร์ท มาเฟียด้วยเพราะอยากสืบเรื่อง เทพอสูรเพลิงทมิฬ อาราฮาบากิ ดาไซตอนอายุ 15 เลือดเย็นแบบจิต ๆ กว่าที่เราคุ้ยเคย ส่วนความสามารถในการสืบเรื่องราวก็ระดับน้อง ๆ รัมโปเลย คิดไม่ถึงว่า ชูยะคืออาราฮาบากิ ส่วนเรื่องรุ่นก่อนกับคนร้ายตัวจริงนี่พอเดาออก ตอนท้ายแอบสงสารชูยะ
Quote
“Nobody will ever have perfect knowledge of everything, that’s why the word “potential” exit
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น