plot
1,000 ปีต่อมา อิบารากิ เมืองคามิสุที่ 66
เด็กที่ได้แสดงสัญญาณว่าได้รับจิตแห่งพร จะถือว่าจบการศึกษาจากสถาบันชั้นต้น โดยเด็กคนนั้นจะต้องเข้าพิธีเพลิงแห่งการเติบโตที่วัดโชวโจวจิเพื่อผนึก และชำระพลังต้องสาปที่มีในตัว เด็กที่ผ่านพิธีจะต้องอุทิศชีวิตตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ หลังจากนั้นจะมอบมนตราที่บริสุทธิ์และคืนพลังต้องสาปให้ เมื่อผ่านพิธีนี้แล้วเด็กคนนั้นจะได้เข้ามาเรียนในชั้นเรียนปราชญ์ ซากินักเรียนคนสุดท้ายจากสถาบันวากิอยู่กลุ่มในชั้นเรียนปราชญ์เช่นเดียวกับเพื่อนๆที่จบออกมาก่อน หลังจากเรียนไปได้พักหนึ่งเรย์โกะเพื่อนร่วมกลุ่มที่ไม่เก่งเรื่องการใช้พลังต้องสาปหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่กลับไม่มีใครติดใจสงสัย
ในกิจกรรมเข้าค่ายฤดูร้อน กลุ่ม 1 เกิดสนใจเรื่องปิศาจมิโนะชิโระถึงขนาดเอามาเป็นหัวข้อในการเข้าค่าย แต่พอจับตัวได้จริงๆมิโนะชิโระได้พูดถึงตัวตนของตัวเองว่าเป็นสาขาของห้องสมุดสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งเก็บรักษาข้อมูล พวกเด็กๆถามว่าพวกเขาแต่เดิมเป็นใคร มิโนะชิโระเลยเล่าถึงประวัติศาสตร์เมื่อการทดลองพลัง PK ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นจำนวนผู้ใช้พลัง PK ได้เพิ่มมากขึ้น คนพวกนั้นก่อความวุ่นวายให้กับคนธรรมดา นี่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคมืดที่ยาวนานกว่า 500 ปี ผู้คนที่เหลืออยู่น้อยนิดบนโลกมีการจัดระเบียบทางสังคมขึ้นใหม่ โดยเพิ่มกลไกควบคุมพฤติกรรมลงไปในระบบการศึกษา รวมถึงการคัดเด็กที่มีโอกาสฝ่าฝืนกฎออกไป พวกเด็กๆถูกนักบวชจากวัดโชวโจมาพบเข้า จึงถูกผนึกพลังต้องห้ามและพาตัวกลับไป แต่ถูกกองทัพปิศาจหนูโจมตีระหว่างทาง พวกเด็กๆแยกย้ายกันหนี ซาโตรุกับซากิถูกปิศาจหนูต่างถิ่นจับตัวไปขัง แต่ซาโตรุใช้อุบายหลอกยามที่เฝ้าอยู่จนหนีออกมาได้ ทั้งสองได้รับการช่วยเหลือจากปิศาจหนูพื้นเมือง พวกมันพาทั้งสองคนไปที่รังและขอร้องให้ใช้มนตราตอบโต้พวกต่างถิ่น คืนนั้นรังถูกโจมตีซากิกับซาโตรุพยายามหนีออกมา ซากิจำมนตราของซาโตรุได้ เธอเลยลองสะกดจิตเรียกมันกลับมาตอนซาโตรุหลับ ซึ่งก็ได้ผล การตอบโต้ปิศาจต่างถิ่นจึงเริ่มขึ้น แต่พวกมันก็มีเยอะเสียจนซาโตรุใช้พลังจนแทบหมดแรง พอดีที่กำลังเสริมมาถึง ทำให้พวกซากิปลอดภัย ซาโตรุกับซากิเจอกับเพื่อนๆอีก 3 คนตรงจุดจอดเรือแคนูตอนก่อนที่จะเจอกับมาโนะชิโระ พวกเขาวางแผนใช้วิธีของซากิปลดมันตรา เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการหลอกล่อพวกผู้ใหญ่
2 ปีผ่านไป ทุกวันค่อยๆผ่านไปเหมือนปกติ ชุนนักเรียนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในชั้นหยุดเรียน ก่อนไปเขาบอกกับซากิว่าจะไปอยู่ที่บังกะโลพักฟื้น นอกจากนี้ชุนยังคาดคะเนให้ซากิฟังว่า ที่จริงพวกผู้ใหญ่รู้เรื่องที่พวกเขาทำผิดกฎแต่ดูเหมือนจะเลื่อนการลงโทษออกไป อีกทั้งให้ซากิระวังแมวและมอบเครื่องรางป้องกันไว้ให้ พวกเพื่อนๆออกตามหาชุนหลังจากที่เขาไม่มาเรียน 4 วันติดต่อกัน ซาโตรุกับซากิไปตามที่หมู่บ้านที่เป็นบ้านเกิดของชุน สิ่งที่ทั้งสองพบคือทางเข้าหมู่บ้านทุกทางถูกปิดกั้น พอเดินลึกเข้าไปก็พบว่าทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด ร่องรอยว่าที่นั่นเคยเป็นหมู่บ้านถูกทำลายจนหมด คืนนั้นซากิแอบออกไปตามหาชุนตามลำพังอีกครั้ง ๙ากิเจอชุนในอาณาเขตที่เคยเป็นบ้านของเขามาก่อน ชุนเล่าให้ซากิฟังว่า จิตใต้สำนึกของเขาคอยกระตุ้นให้เวทย์ของเขารั่วออกมาจนทำให้ทุกอย่างรอบตัวเกิดการกลายพันธุ์ พ่อกับแม่ก็เสียชีวิตไปด้วย ตอนนี้เขากลายเป็นโกวมะไปแล้ว โกวมะที่ตระหนักว่าคงอยู่บนโลกไม่ได้อีกต่อไป ตอนนี้เขาเองใกล้จะคลุ้มคลั่งเต็มที่ ชุนให้ซากิหนีออกไปได้ทันก่อนที่พลังซึ่งเขาควบคุมมันไม่ได้อีกต่อไปจะทำลายทุกอย่างรวมถึงตัวของเขาเอง
ความทรงจำของพวกเด็กๆเกี่ยวกับชุนถูกบิดเบือน โดยเอาคนอื่นมาสวมแทน ซากิรู้สึกตัวเป็นคนแรก พวกซากิพยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับเพื่อนที่หายไปจากความจริงจำ แต่มาโมรุเริ่มมีท่าทีต่อต้าน มาเรียเลยขอร้องซากิว่าอย่าพูดเรื่องนี้ต่อหน้ามาโมรุอีกเพราะเขาเปราะบางเกินไป โทมิโกะย่าของซาโรตุเปิดเผยตัวว่าเป็นประธานกรรมการบัญญัติทาบทามให้ซากิมารับหน้าที่ต่อ เพราะซากิมีค่าดัชนีบุคลิกสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชั้นเรียนปราชญ์ หลักฐานคือบุคลิกของซากิกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้รวดเร็วถึงแม้จะรู้ประวัติศาสตร์อันโชคเลือด
ซาโตรุหายตัวออกจากบ้าน ซากิ มาโมรุ และมาเรียตามไปพบมาโมรุที่ได้รับความช่วยเหลือจากหนูปิศาจหลังจากประสบอุบัติเหตุ ซาโตรุเล่าว่าเขาถูกเนะโกะดามาชิ ปิศาจที่คอยกำจัดเด็กที่โดนคัดออกตาม คาดว่าตอนนี้เขาคงเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกลบทิ้ง มาเรียกับมาโมรุหนีไปด้วยกัน ส่วนซากิกับซาโตรุกลับมาที่หมู่บ้านทั้งสองโดนกรรมการการศึกษาสอบสวนอย่างหนัก เพราะคนที่หายไปอาจกลายเป็นอัคคิหรือโกวมะซึ่งจะเป็นภัยร้ายแรง โทมิโกะยื่นมือแทรกแซงการพิจารณาคดีของซากิโดยซากิกับซาโตรุจะต้องออกไปตามมาเรียกับมาโมรุกลับมาโดยโทมิโกะจะเป็นคนรับรองความปลอดภัยของทั้งสองคนให้ แต่ทั้งสองคนหามาเรียกับมาโมรุไม่พบมีเพียงจดหมายที่มาเรียฝากไว้กับหนูปิศาจเท่านั้น ทั้งสองกลับไปรายงานที่หมู่บ้านว่าทั้งสองถูกหิมะถล่มทับเสียชีวิตโดยให้หนูปิศาจช่วยทำหลักฐานปลอมขึ้นมา
12 ปีผ่านไป ซากิกับซาโตรุอายุ 26 ปี พฤติกรรมของหนูปิศาจบางกลุ่มเปลี่ยนไป ราชินีถูกควบคุมให้เป็นเพียงเครื่องจักรผลิตลูกหลาน ส่วนการปกครองเป็นของกลุ่มที่มีความสามารถเพียงพอซึ่งเป็นการเลียนแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ความก้าวหน้าทางการทหารก็เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นไปได้สันนิษฐานว่าพวกมันอาจได้ข้อมูลจากโมโนชิโระ แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่านั้นก็เกิดขึ้นเมือเขตแตนยักษ์ซึ่งได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดพ่ายแพ้เขตแดนแมลงขโมยอย่างราบคาบ จากหลักฐานอาวุธที่ไร้การบุบสลายบางส่วนที่พบในสนามรบคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ใช้พรซึ่งไม่ทราบที่มา สภาการปกครองจึงตัดสินใจส่งกองกำลังออกไปกวาดล้างกลุ่มแมลงขโมย แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อพวกบาเกะเนะซุมิโจมตีเขตคามิสุ 66 ซึ่งกำลังจัดงานเทศกาลพอดี
ยกแรกดูเหมือนฝ่ายมนุษย์จะได้เปรียบ แต่เมื่อกลุ่มของซากิและซาโตรุไปลาดตระเวนแถบโรงพยาบาลก็ได้เผชิญหน้ากับ อัคคิ อาวุธลับของฝ่ายตรงข้าม ซากิรู้สึกว่าเด็กคนนั้นน่าจะเป็นลูกของมาเรียกับซาโตรุ โดยแผนของหนูปิศาจคือการลักพาตัวทารกมนุษย์แล้วชุบเลี้ยงให้เข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกัน เมื่อเด็กคนนั้นได้รับพรในอีก 10 ปีให้หลังก็จะใช้ให้โจมตีมนุษย์ซึ่งไม่สามารถตอยโต้พวกเดียวกันได้ ซากิกับซาโตรุหลบหนีกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อเตือนภัย เมื่อโทมิโกะทราบเรื่องก็สั่งให้ซากิกับซาโตรุหนีไปยังวัดโชวโจวจิก่อนที่อัคคิจะบุกมาถึงหมู่บ้าน แม่ของซากิให้เบาะแสอาวุธชีวภาพของอารยธรรมก่อนที่เรียกว่า มือปราบพลังจิต ซึ่งเป็นอาวุธที่คนไม่มีพลังคิดขึ้นเพื่อกำจัดคนที่มีพลัง ซากิกับซาโตรุให้คิโรมารุหัวหน้าของเผ่าแตนยักษ์ที่รอดชีวิตนำทางไปโตเกียวซึ่งเป็นที่ซ่อนอาวุธ
ในที่สุดซากิก็หามือปราบพลังจิตพบ แต่พอถึงเวลาลงมือซากิกลัวว่าซาโตรุจะถูกลูกหลงจนเสียชีวิตไปด้วย ความหวาดกลัวนั้นทำให้โอกาสเพียงหนึ่งเดียวสูญสลายไป เศษเสี้ยวของชุนที่อยู่ในใจของซากิปรากฏตัวออกมาบอกใบ้ให้ซากิรู้ถึงวิธีใช้ความตายย้อนกลับจัดการอัคคิตนนั้น คิโรมารุอาสาเป็นผู้เสียสละในภารกิจนี้แลกเปลี่ยนกับการไว้ชีวิตองค์ราชินีของเขตแตนยักษ์ เมื่ออัคคิตนนั้นสิ้นชีพ ผู้นำของหนูปิศาจถูกจับมารับโทษด้วยวิธี นรกนิรันดร์ ซึ่งเป็นการลงทัณฑ์ที่โหดเหี้ยวที่สุดอย่างหนึ่ง
ซากิได้รับเลือกเป็นหนึ่งคณะกรรมการจริยธรรม และหัวหน้าฝ่ายควบคุมสายพันธุ์จากภายนอก ระหว่างตรวจสอบถึงที่มาของสายพันธุ์หนูปิศาจ ซาโตรุก็เล่าความจริงที่เขาเพิ่งได้รู้จากการตรวจสอบ DNA ของหนูปิศาจว่า พวกเขาน่าจะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีพรซึ่งถูกนำ DNA ของตัวตุ่นใส่เข้าไปจนค่อยๆห่างไกลจากความเป็นมนุษย์จนความตายย้อนกลับไม่มีผลกับผู้ใช้พรเมื่อใช้กำลังจัดการกับอีกฝ่ายเพื่อเป็นการปกป้องเผ่าพันธุ์ของผู้ใช้พร
ซากิแต่งงานกับซาโตรุ เธอหวังว่าเมื่อลูกของเธอกับซาโตรุโตขึ้น สังคมของพวกเขาจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
charecter
episode list : special thank Onigiri FS และ Suzukaze FS@Tirkx.com สำหรับ Fansub ภาษาไทยค่ะ
01 | ฤดูแห่งใบไม้ร่วงโรย | 14 | เกล็ดหิมะ |
02 | เด็กหายไป | 15 | ภาพติดตา |
03 | มิโนะชิโระที่ผิดพลาด | 16 | ที่รักของฉัน ซากิ |
04 | ประวัติศาสตร์อันโชกเลือด | 17 | ย่างก้าวแห่งความพินาศ |
05 | ค่ำคืนร้อนระอุแห่งการหนี | 18 | ดอกไม้สีแดงสด |
06 | การหลบหนี | 19 | ความมืดมิด |
07 | หน้าร้อนที่มืดมิด | 20 | เปียกชุ่ม ท่ามกลางแสงแดดที่หนาวเหน็บ |
08 | ลางบอกเหตุ | 21 | เปลวไฟแห่งอโพคาลิปส์ |
09 | สายลมโหมหระหน่ำ | 22 | โตเกียว |
10 | ยิ่งกว่าความมืด | 23 | ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้น |
11 | แว่วเสียงฟ้าร้องในหน้าหนาว | 24 | กองไฟท่ามกลางความมืด |
12 | ห่วงที่เปราะบาง | 25 | พลังแห่งจินตนาการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง |
13 | รวมตัว |
log
บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปในยุคโบราณที่เรื่องราวเหนือธรรมชาติในสมัยนี้ดูเหมือนมีตัวตน อย่างเรื่องเกี่ยวกับแมวดามาชิที่จะมาเอาตัวเด็กที่ไม่ได้รับจิตแห่งพรในตอนแรก ทำให้เรื่องที่มนุษย์ในอนาคตจะมีพลังพิเศษที่ในเรื่องเรียกว่าพลังต้องสาปกลายเป็นเรื่องที่ไม่รู้สึกแปลกแยก
ชั้นเรียนนักปราชญ์ดูน่าสนใจดี มีทั้งเรียนเรื่องปรัมปราซึ่งเกี่ยวกับความเลวโดยมีวิญญาณร้าย กับวิญญาณบาป วิชานี้ดูๆแล้วน่าจะถูกปรับเนื้อหามาแล้ว เรื่องยอมตัดสะพานโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเองเพื่อไม่ให้วิญญาณร้ายเข้าไปในหมู่บ้านในตอนที่ 1 ไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องในตอนที่ 2 ซึ่งสรุปว่าคนที่กลายเป็นวิญญาณบาปรู้ตัว แล้วเดินจมหายไปในทะเลสาปมันดูผิดปกติไปหน่อย เหมือนคนเลวมากๆที่จู่ๆสำนึกได้มันค่อยข้างผิดความจริงไปหน่อย นอกจากนั้นก็มีใช้พลังจิตเรียงไพ่ วาดรูปด้วยทราย แต่ที่ดูแล้วสนุกไปด้วยยกให้แข่งบอลประเพณี ต้องปั้นตัวหมากเอง แถมมีได้หลายแบบ ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับการวางแผนด้วย
เรื่องที่ทำให้อ้างปากค้างโผล่มาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่ามิโนะชิโระ เอิ่ม ห้องสมุดกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดที่มีอำนาจสะกดจิตได้ แถมพอโดยจับตัวได้ก็ส่งเสียงเตือนเหมือนที่ปกติได้ยินในห้องสมุด แว่บแรกที่ดูคิดในใจเลยว่า คนเขียนคิดเรื่องนี้ออกได้ไงฟระ แต่ที่เหนือกว่าคือนางเอกสุดแสนใจดีกล้าใช้พลังดึงหนวดสัตว์ประหลาดด้วย ที่แท้คุณน้องแอบโหดนะเนี่ย
พอได้ฟังทฤษฎีควบคุมพฤติกรรมของพวกผู้ใช้พลังจิตไม่ให้ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะการแสดงออกด้วยกิจกรรมทางเพศตามแบบลิงโบโนโบะในตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ก็เริ่มสาธิตกันเลยทีเดียว ตอนนี้ลายเส้นเปลี่ยนไป เหมือนเด็กๆทุกคนจะโตขึ้น 4-5 ปีแบบกะทันหัน สงสัยคงปรับเพื่อไม่ให้ภาพดูน่าเกลียดเกินไป ก็นะเด็กอายุ 12 เริ่มแสดงพฤติกรรมทางเพศคงเอาออกทีวีไม่ได้ แต่ความเปลี่ยนแปลงที่น่าแปลกใจที่สุด(หรือที่จริงไม่ได้เปลี่ยนแต่เราเพิ่งเห็นก็ไม่รู้) คือ ซาโตรุ ตัวป่วนประจำกลุ่ม ขอเกริ่นสักนิดก่อนว่าตั้งแต่ดูตอนที่ 1 เข้าใจว่า ชุน เป็นพระเอกมาตลอด(ก็นะ เก่งและแสนดีขนาดนั้น) แต่สำหรับตอนนี้ ซาโตรุ เท่ชวนกรี๊ดที่สุด เป็นคนเดียวที่กลับมาช่วยนางเอก(ซึ่งปกติหน้าที่นี้เป็นของพระเอก) ระหว่างหนีด้วยกันซาโตรุดูมีสมองและมีความเป็นผู้นำสูงมาก จากที่เชียร์ชุนมาตลอด ดูตอนนี้จบแล้วย้ายฐานการอวยมาทางหนุ่มมาดกวนทันที
ในตอนที่ 6 เราจะได้เห็นการใช้พลังแบบเต็มที่ “พระเจ้า จอร์จ มันทำอะไรต่ออะไรได้เยอะไปไหมนั่น” นี่ขนาดพลังอ่อนลงแล้วยังสามารถตัดหินแบ่งเป็นก้อนลูกบาศก์ โยนไปโยนมาได้สบาย ถอนต้นไม้เหวี่ยงไปเหวี่งมาได้สูงมาก เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมสมัยก่อนถึงเกิดความวุ่นวายจากพวกผู้ใช้พลัง คิดๆดูแล้วมันก็น่าคิดวิธีควบคุมอยู่หรอก
ตอนที่ 8 เมื่อพวกเด็กๆกลับเข้ามาในสังคมเหมือนเดิม เรื่องราวก็ดำเนินไปตามมาตรฐานทางสังคม ช่วงต้นของตอนนี้เลยมีดอกลิลลี่บานเต็มไปหมดทั้งโรงเรียน น่าหมั่นไส้มากโดยเฉพาะคู่ชุนกับซาโตรุ ยังดีที่เป็นหนักๆแค่ครึ่งตอนแรก หลังจากนั้นก็เริ่มกลับเข้าปริศนาเหมือนเดิมตอนที่ชุนเริ่มมีอาการผิดปกติ ช่วงนั้นคนปกติคนเดียวอย่างมาโมรุดูน่าสงสารไปเลย ในที่สุดชาตะกรรมที่น่าสงสารของชุนก็ถูกเปิดเผยในตอนที่ 10 เขากลายเป็นปิศาจร้ายโดยที่ไม่เกี่ยวกับเจตจำนงค์ของตนเอง ต้องสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรักโดยที่ตัวเองเป็นต้นเหตุโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายเขาจำเป็นต้องพาตัวเองไปสู่จุดจบเหมือนในตำนานที่เคยเรียนในห้องเรียน คือ ยอมเดินหายลงไปในทะเลสาบด้วยตัวเอง จุดนี้ทำให้เราที่เคยคิดแปลกๆกับเรื่องเล่าในห้องเรียนว่าช่างไม่สมเหตุสมผลเกิดสงสารโกวมะขึ้นมาจับใจ โลกนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดมาจากร่างกายของพวกเขาเองนี่โหดร้ายเหมือนกัน
ซาโตรุกับซากิจับคู่ทำเวรด้วยกันในตอนที่ 11 แม่ยกซาโตรุอย่างเราแฮปปี้มากๆ แต่แอบขัดใจนิดหน่อยตรงที่ว่า ความจริงแล้วสองคนนี้มาอยู่ด้วยกันเพราะหลงรักชุนเหมือนกัน ท่าทางซาโตรุตอนที่โดนสองสาวซักไซ้ไล่เรียงจนหงายหลังฮามาก โตขึ้นนายต้องกลัวเมียแน่ๆเลยซาโตรุเอ๋ย
เริ่มตอนที่ 16 เข้าเกิดความรู้สึกว่าจริงๆแล้วคู่หลักของเรื่องนี้คือ ซากิกับมาเรีย ส่วนซาโตรุของฉันเป็นแค่ตัวสำรองสินะ จะซับซ้อนไปถึงไหนเนี่ย
สำหรับคนช่างคิด สารที่แฝงอยู่ในเรื่องนี้ช่วยบริหารสมองได้เป็นอย่างดี สมแล้วที่เป็นนิยายซึ่งได้รับรางวัล โดยประเด็นหลักที่จับได้ก็คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ สิทธิเสรีภาพในการมีชีวิตอยู่ของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้ใช้พรที่แต่ละคนมีพลังอำนาจล้นฟ้าแต่ก็ต้องถูกคัดออกเมื่อมีวี่แววว่าจะเป็นอันตรายต่อคนอื่น ซึ่งแน่นอนฝ่ายที่ถูกกระทำย่อมคิดว่า นี่ช่างเป็นเรื่องที่อยุติธรรมเสียเหลือเกิน ซึ่งหากใครติดตามจนจบและได้เห็นความหายนะที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้พลังเพียงคนเดียวแล้วอาจจะเอนเอียงกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่โดยส่วนตัวแล้ว ขออย่างเดียวว่าอย่าให้ต้องมีกรรมไปนั่งเป็นกรรมการการศึกษาหรือกรรมการจริยธรรมที่ต้องประกาศิตตัดสินชีวิตคนอื่นเลย
สรุปง่ายๆว่า ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ไหนก็ต่างมีกรรม มีความลำบากของตัวเองที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น และเหนือสิ่งอื่นใดคงต้องเห็นแก่เผ่าพันธุ์ของตัวเองก่อนที่จะไปสงสารเผ่าพันธุ์อื่น เหมือนดังเช่นกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์ในเรื่อง ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหนูปิศาจขึ้นมาจากมนุษย์ด้วยกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความตายย้อนกลับตอนที่ตัวเองไปรังแกคนอื่น
Favorite Scene
ตอนที่ 3 ที่พวกเด็กๆออกไปพายเรือกันในตอนกลางคืน ชุนใช้พลังสะท้อนภาพทะเลดาวลงบนทะเลสาบ สวยมากๆ
หลังจากย้ายมาถือป้ายเชียร์ซาโตรุในตอนที่ 5 กว่าแม่ยกจะได้เฮกรี๊ดอีกรอบก็ปาเข้าไปตอนที่ 16 ที่ทั้งคู่ออกตามหามาเรียกับมาโมรุเลยมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ว่าแล้วฉากที่ซาโตรุกอดปลอบใจซากิตอนพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยมาก และแล้วหลังจากเรื่องเลวร้ายจบลงกองอวยซาโตรุอย่างเราก็ได้เฮ เมื่อพระเอก นางเอกแต่งงานแล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จะว่าไปพอได้เห็นหนุ่มขาลุยอย่างซาโตรุเปลี่ยนมาเป็นหนุ่มอบอุ่นเลี้ยงแมวเหมียวแล้วชวนให้อมยิ้มอยู่ไม่น้อย
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ สะท้อนด้านมืดของมนุษย์ออกมา ต่างฝ่างก็มีเหตุผลของตน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้พรที่ทำให้บาเกะเนสุมิซึ่งเมื่อก่อนเป็นมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์เพื่อปกป้องพวกตนเองจากผลความตายย้อนกลับกับบาเกะเนสุมิที่ต้องการความปลอดภัยมั่นคงและทวงสิทธ์ของฝ่ายตนเอง(มีความฉลาดเท่ามนุษย์และเป็นอดีตมนุษย์) สรุปต่างฝ่างต้องการความอยู่รอดเท่านั้น
ตอบลบ