เรื่อง | เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา |
เขียน | กัลฐิดา |
ความยาว | 5 เล่ม |
สำนักพิมพ์ | สถาพรบุ๊ค |
การกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรม
เซเวนยกเลิกการใช้หนังสืออย่างสมบูรณ์ 9 ปีหลังจากที่คุณลุงของเธอหายไป เฟมีลที่เหลือตัวคนเดียวเลยถูกไล่ออกจากงานบรรณารักษ์ในบ้านเกิดของตัวเอง ระหว่างทางกลับบ้านเฟมีลได้รับหนังสือเล่มหนึ่งจากชายแปลกหน้า บนปกเขียนว่า sevena เฟมีลนำหนังสือมาเปิดอ่านที่บ้านตอน 1 ทุ่ม ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด พอสถาณการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เฟมีลก็รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่พาเธอมายังอีกมิติหนึ่งจากเฟลามีน หญิงวัยกลางคนที่แนะนำตัวว่าเป็นแม่นมของเธอ พร้อมกับยื่นการกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรมจดหมายของลุงที่หายไปของเฟมีลให้ ในจดหมายนอกจากจะเขียนบรรยายถึงเรื่องราวต่างๆแล้ว ยังมีปริศนาที่ชักนำให้ดฟมีลออกไปทำความรู้จักกับคฤหาสน์ที่ย้ายมาอยู่ในมิติใหม่
เฟมีลเข้ารับการทดสอบเพื่อเข้าเรียนที่ sevena sorsery scการกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรมhool ตามคำสั่งของลุงจนได้ ในโรงเรียนเฟมีลได้เรียนรู้เรื่องราวต่างของมิติที่เรียกว่าเซวีน่า รวมถึงเรื่องที่ว่า คุณลุง ของเธอมีชื่อจริงว่า ศาสตราจารย์ ฟามีร์ กูเร็ต แถมเขาไม่ได้มีศักดิ์เป็นลุง แต่เป็นตาของเธอต่างหาก
บทพิสูจน์ความสามารถ
ปีการศึกษาใหม่ เฟมีลได้เลื่อนเป็นเจสเทิร์น ต้องเวียนไปเรียนตามรัฐต่างๆที่ละ 1 เดือน ตอนไปเรียนที่ฟอริโซ่ เฟมีล มอรีล และลีโอได้พบกับนางคูมี คนในตำนานของเซวีน่า นางเล่าให้ฟังว่ามอรีลสืบเชื้อสายมาจากคูมีร่า อาจารย์ของนางคูมี นางคูมีส่งมอบดวงตาพฤกษา และ ฟอรี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ให้มอรีลก่อนที่นางจากจากโลกนี้ไป ที่บาซิลล่า เฟมีลต้องต่อสู้กับอาคีร่าทายาทผู้สืบบัลลังก์เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งองครักษ์แห่งเร็คซีตามความต้องการของสภาซีซ่าร์ ซึ่งเฟมีลก็สามารถทำได้อย่างสวยงาม แต่ทว่าระหว่างที่เฟมีลกำลังใช้ชีวิตอย่างสดใส ผนึกความทรงจำของเฟมีลก็คลายออก เฟมีลนึกออกในที่สุดว่าทำไมเธอถึงไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ จำได้ว่าเธอเป็นคนฆ่าปู่ สิ่งนี้ทำให้เฟมีลฝันร้ายอยู่ แต่ลีโอก็มักจะคอยอยู่เคียงข้างปัดเป่าฝันร้ายให้เฟมีล หลังจากการพิจารณาความทรงจำในอดีตทำให้เฟมีลรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือ ซีเลส อินดิโก้ คนที่อาจเป็นผู้ก่อตั้งเซวีน่าคนที่ 8
มหานครเซวีน่าคือหนึ่งเดียว
เฟมีลและเพื่อนๆได้เลื่อนเป็นชั้นฮอยเต้อย่างปลอดภัย ปีนี้เธอต้องตัดสินใจว่าจะต้องไปเรียนต่อที่ไหน แต่ก่อนหน้านั้นเฟมีลต้องรับบัญญัติแห่งไฟ เป็นเจ้าวิหคไฟคนใหม่ ซึ่งทำให้เธอมีอำนาจที่จะสามารถสลายคำสาปที่พันธนาการพ่อกับแม่ ทำได้เฟมีลได้พ่อและแม่กลับคืนมา
เบาะแสของรอยยิ้มศิลา และภาคีวาโยที่หายไปปรากฏขึ้น พวกเฟมีลตามรอยนั้นไปจนได้เผชิญหน้ากับซีเลสอินดิโก้ เขาจับมอรีลไปเพื่อใช้เลือดของเธอเป็นวัตถุดิบฝนการสร้างอัญมณีชิ้นที่ 8 เฟมีล เซอรัส ลีโอตามไปช่วยมอรีล ระหว่างการต่อสู้ เฟมีลพอจนซีเลสได้สติ ทำให้เขาเห็นดีเลนน่า คนรักที่ยอมอุทิศตัวเป็นร่างเวทย์ของกังหันราตรี อัญมณีของดาโรก้า เพื่อทฤษฎีสมบูรณ์แบบของเซวีน่าเสร็จสมบูรณ์ เฟมีลสร้างอัญมณีชิ้นที่ 8 ขึ้น โดยใช้ซีเลสเป็นร่างเวทย์ เพื่อให้ซีเลสกับดีเลนน่าได้อยู่ด้วยกันตลอดไป เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี เฟมีลตัดสินใจไปเรียนที่ดาโรก้า เพื่อเป็นจอมเวทย์รัตติกาล สาขาอัญมณี
พันธสัญญาแห่งอาณาจักร
ท่ามกลางบรรยากาศของเทศกาลโรเซร่า หญิงสาวผมสีม่วงอ่อนตกลงมาในอ้อมแขนของไมค์ ซึ่งเป็นสัญญาณแห่งการทวนพันธสัญญาระหว่างเดอ คูลนิ่ง กับ เดอ กราฟ อีกครั้ง
ไมค์ได้พบกับหญิงสาวที่ชื่อ ชาร์เพรย์เชรีอีกครั้งในฐานะรุ่นพี่จอมเวทย์ฝึกหัดกับรุ่นน้องในความดูแล ชาร์เพรย์เชรีเป็นคนในตระกูล เดอ กราฟ คนแรกที่ไมค์เอลได้พบในรอบ 5 ปี แต่ที่น่าแปลกคือ ดูเหมือนจะมีสิ่งอื่นนอกจาก ชื่อ เดอ กราฟ ที่สะกิดความสนใจของเขา ประกอบกับไมค์เอลมักจะไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาในตอนที่หญิงสาวต้องการความช่วยเหลือเพราะอาการป่วยประจำตระกูล ทำให้ไมค์เองได้ใกล้ชิดหญิงสาวมากขึ้น
มีผู้บุกรุกจากมิติเซกัน มิติคู่ขนานของเซวีน่า พวกเขาใช้วิทยาการเวทชนิดพิเศษผ่านมนตรากั้นอาณาเขตของแต่ละเมือง โดยจุดหมายอยู่ที่วินด์โคลโล แต่ยังไม่ทราบจุดประสงค์ที่แน่นอน ทางการเซวีน่าจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ทางตระกูลเดอ คูลนิ่ง มีคำสั่งขอตัวพวกเฟมีลและชาร์เพรย์เชรีไปช่วยงานที่วินด์โคลโล ย่าของไมค์เล่านิทานเก่าแก่ซึ่งกล่าวถึงต้นกำเนิดของเซวีน่าให้แขกผู้มาเยือนฟัง หลังจากมีข่าวว่าจารึกโบราณภาษาจินเนย์หายไปจากพิพิธภัณฑ์
คูมีร่า ผู้วางรากฐานแห่งเซวีน่า และโรเซร่า ลมหายใจแห่งภูติผู้ปลูกต้นไม้ต้นแรกในวินด์โคลโลเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เกิดจากกราเฟร่า เจ้าแห่งภูติต้นไม้ และโรเซสจ้าวแห่งสายลมซึ่งเกี่ยวข้องกับอัญมณีศักดิ์สิทธิ์แห่งเซวีน่า และเป็นที่มาของการแต่งงานระหว่างเดอ กราฟ และ เดอ คูลนิ่งในทุกรุ่น และเวลานั้นกำลังจะเดินทางมาถึงอีกครั้ง ซึ่งไมค์เองก็เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่เป็นพิเศษกับชาร์เพรย์เชรี หญิงสาวที่เพิ่งพบกันได้ไม่นาน ยิ่งได้ฟังอดีตอันแสนเศร้าของผู้ให้กำเนิด จนเป็นที่มาของสีผมและสีตาที่แตกต่างจากเดอ กราฟ คนอื่นๆยิ่งทำให้เขามั่นใจในคำตอบของตนเอง
ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึงพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของชาร์ดพรย์เชรี แต่ก่อนที่มันจะสิ้นสุดลง ไทม์กับลีโอเปิดมิติหยุดเวลาของเธอไว้ด้วยนาฬิกาแห่งฟรานเชสก้า พร้อมกับการเปิดเผยความจริงเบื้องหลังพันธะสัญญา พวกเขาออกเดินทางเพื่อฟื้นคืนชีวิตให้แก่จ้าวแห่งภูติสายลม และภูติต้นไม้ โดยเศษเสี้ยวของดวงจิตแห่งภูติสายลมถูกเก็บไว้ในหนังสือ ที่ชาร์ล ไดแอนแพนไทร์ นำไปซ่อนไว้ให้พ้นจากผู้มีพลังธาตุ เชเฟอร์จ้าวแห่งสายลมจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยยื่นข้อแลกเปลี่ยนกับชาวเซกันให้ช่วยตามหา โดยไมค์ต้องเป็นผู้สละเลือดเพื่อการฟื้นคืน ส่วนจิตของกราเฟร่านั้นอยู่ที่ต้นไม้อันเป็นศูนย์กลางของป่าแห่งสายลม ซึ่งต้องใช้วิทยาการไมโอพลาสของชาวเซกันสร้างร่างเนื้อให้เธอ บวกกับเลือดของชาร์เพรย์เชรี ซึ่งจะได้ลมหายใจของผู้เป็นที่รักกลับคืนมาด้วยพันธะสัญญาแห่งเดอ คูลนิ่ง ซึ่งไมค์ก็ตัดสินใจเลือกอย่างไม่ลังเล
และแล้วพิธีกรรมสุดท้ายในการส่งมอบอัญมณีชิ้นที่ 8 แด่เจ้าแห่งภูติทั้ง 3 เพื่อให้เซวีน่าสมบูรณ์แบบก็ถูดจัดขึ้น เพื่อก่อกำเนิดสามเหลี่ยมที่แข็งแกร่งที่สุดในเซวีน่า ซึ่งทำหน้าที่ดูแลโลกแห่งนี้ตลอดกาล
ปริศนาทรายสีดำ
หลังจากความช่วยเหลือเมื่อ 2 ปีก่อน สภากลางของเซวีน่ากับสภากลางของซีเนสตร้ามีข้อตกลงเพิ่มเติม โดยการส่ง โยราเน่ เอ็ดกราด และ บาร์น มิชชาร์ฟ มาให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาการเวทย์แก่เซวีน่า พวกเฟมีลได้รับคำสั่งให้เข้าอบรม และออกสำรวจหาวัตถุดิบที่เข้ากับวิทยาการเวทย์เหล่านั้น รวมถึงคอยจับตามองความเคลื่อนไหวของชาวเซกันที่อาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝง
เกิดเหตุวัตถุประหลาดพุ่งเข้าชนเข็มนาฬิกาของหอนาฬิกาไซเอนจนเสียหาย วัตถุชิ้นนั้นไม่ใช่ของที่ทำขึ้นในเซวีน่า หนทางแก้ปัญหามีเพียงการนำทรายสีดำจากพื้นที่สีเทาของดาโรก้ามาหลอมเพื่อทำเป็นเข็มนาฬิกาอันใหม่โดยเร็วที่สุด ลีโอซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการปกครองอาสานำทีมเข้าไปค้นหาทราบสีดำ แต่เพื่อให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นความลับ พวกเขาจะออกเดินทางไปพร้อมกับคณะสำรวจวัตถุดิบของแผนกพัฒนาการเวทย์
กุญแจที่จะเปิดสู่หุบเขาทีทอเรี่ยนซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวที่พบทรายสีดำ คือ ชิ้นส่วนแห่งความลับ 12 ชิ้นที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่สีเทาภายใต้ความคุ้มครองของชนพื้นเมืองของดาโรก้า คนที่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนเหล่านี้ได้มีเพียงคนที่สืบสายเลือดของนักเดินทางแห่งรัตติกาล และต้องได้รับการยอมรับจากผู้ถือกุญแจ เมื่อเข้าสู่เขตพื้นที่สีเทาได้ไม่นาน นัวร์ ชิ้นส่วนปริศนาชิ้นแรก เดินทางมาหา ลีโอ เป็นสัญญาณว่าการทดสอบได้เริ่มขึ้นแล้ว
กรอโฟน่า เปลวเพลิงแห่งความฝันเข้าโจมตีสมาชิกของกลุ่มเดินทางซึ่งมาจากหน่วยพัฒนาการเวทย์ กรอโฟน่าเป็นไฟที่สามารถเผาไหม้รอยแผลในจิตใจคนได้แต่ต้องแลกกับความเจ็บปวดที่ไมาอาจทานทน ซึ่งชนเผ่าที่น่าจะใช้อัคคีนิรมิตนี้ได้มีเพียงเหล่าผู้บูชาเปลวเพลิง กรอโฟน ผู้รักษาชิ้นส่วนแห่งความลับชิ้นที่ 5 เฟมีลรับสาร์นท้าประลองจากเผ่ากรอโฟน เข้าสู่การต่อสู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตนเอง และการปลดบ่วงมนตราที่กักเก็บพลัง ถึงแม้จะได้รับชัยชนะแต่เฟมีลก็ไม่สามารถควบคุมพลังที่ล้นออกมาได้ ลีโอห่อหุ่มร่างของเฟมีลด้วยเกราะดิน และต้องรีบพาเธอไปยังทางสายน้ำรินของเหล่าภูติ พวกลีโอมุ่งหน้าไปพบกับหัวหน้าเผ่าราวิน ผู้คุ้มครองชิ้นส่วนแห่งความลับชิ้นที่ 6 เพื่อเข้ารับการทดสอบและขอร้องให้เธอช่วยเฟมีล ซึ่งต้องแลกเปลี่ยนด้วยหยาดน้ำตาของลีโอ จุดหมายถัดไปคือ เผ่า เดมีน ซึ่งเป็นเผ่าของเมดิน่า ภรรยาของดีดาเรน ต้นตระกูลของลีโอ ณ หมู่บ้านนี้ลีโอและเฟมีลได้รับรู้ถึงเรืองราวของดีดาเรนจากผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจของเขา รวมถึงการไปเยือนศาสตราจารย์จอมเวทย์ ซีเลส อินดีโก้ และพาสโซ่ เลกิน่า ผู้เฝ้าประตูทางเข้าสู่หุบเขาทีทอเรี่ยน แหล่งกำเนิดทรายสีดำ ซึ่งแท้จริงแล้วคือเบรดี้คริสตัลที่ซึมซับเลือดจากฟรานเชสก้าที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองรัฐเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน โยราเน่ เอ็ดกราดซึ่งเป็นผู้ก่อการโจมตีหอนาฬิกาไซเอน ก็ได้บรรลุความปรารถนาของตนเองเช่นกัน เมื่อภารกิจลับของเฟมีลคือการพาเขาไปพบกับ ดีดาเรน ฟรานเชสก้า สำหรับดีดาเรน และ คูมีร่า โยราเน่ คือ อนาคตซีเนสชิฟ ที่จะช่วยสร้างความสมดุลระหว่างมิติ เพื่อนบ้านที่จะช่วยให้เซวีน่าสงบสุข โดยแลกกับความช่วยเหลือจากดีดาเรน
ตัวละครสำคัญ
เฟมีล ไดแอนแพนไทร์/ฟรานเชสก้า : ที่โลกเธอเป็นเด็กพิเศษที่มีความสามารถด้านดนตรีและยิมนาสติก โดยเฉพาะเปียโน แต่เฟมีลต้องทำงานเป็นบรรณารักษ์ตามวิชาโทที่เรียนเพราะไม่มีตำแหน่งว่าง ที่เซวีน่าเธอเป็นทายาทของตระกูลไดแอนแพนไทร์ที่ร่ำรวยที่สุดใน zone ซึ่งเป็นเจ้าของสิ่งตีพิมพ์ทุกชนิดยกเว้นหนังสือพิมพ์ เธอเป็นลูกสาวของ เชน ไดแอนแพนไทร์นักดนตรีเวทย์ที่เก่งที่สุดของเซวีน่า หลานตาของศาสตราจารย์จอมเวทย์ ฟามีร์ หลานยายของ ศาสตราจารย์ไอริณ หญิงเหล็กแห่งวงการศึกษา เฟมีลมีความสามารถในระดับไวท์โกล์ เป็นเด็กธาตุไฟบริสุทธิ์ เป็นเจ้าของอัญมณีเตโชปักษา กับเกล็ดตะวัน เธอเลือกเรียนเป็นจอมเวทรัตติกาล สาขาอัญมณีชั้นพิเศษ ก่อนจะมาเรียนต่อที่ สปีเย่ แต่งงานกับลีโอ ฟรานเชสก้า ว่าที่เจ้าผู้ครองรัฐ หญิงสาวถือสมบัติล้ำค่าแห้งเซวีน่า คู่หูของเธอ คือ อัคคา วิหกไฟ ร่างเวทย์ของ อัคคา ซีซานีน ลีโอ ฟรานเชสก้า : ว่าที่ผู้ครองรัฐดาโรก้าคนต่อไป ผู้มีผลการเรียนเป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่สอบเข้าจนเรียนจบ ผู้มีความสามารถของนักเดินทางแห่งรัตติกาล สามารถแปลงร่างเป็นลีโอน่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของดินอต้า เป็นผู้เก็บรักษารอบยิ้มศิลาครึ่งนึงเพราะ คัลเรลล่า อิบเซนผู้รักษาคนปัจจุบันคือคุณแม่ของเขา เขาเป็นผู้ครอบครองกังหันรัตติกาล อัญมณีแห่งดาโรก้า ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยดูแลความปลอดภัยของปราการรัตติกาลตั้งแต่เป็นจอมเวทย์ฝึดหัด ไปเรียนต่อที่ปราการซินเทลล่า แผนกการปกครอง ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากรรมการปกครอง มอรีล มารีล/เอนเซล : เป็นเด็กธาตุน้ำเพราะมาจากวารีเน่ บ้านของเธอเป็นฟาร์มโมลี เพราะฐานะของเธอไม่ดี เฟมีลเลยให้เธอมาอยู่ที่บ้านด้วย เธอสืบเชื้อสายมาจากคูมีร่า อาจารย์ของนางคูมี เป็นเจ้าของอัญมณีดวงตาพฤกษา ซึ่งทำให้เธอมีพลังพิเศษในการรับรู้ความจริงของสิ่งต่างๆ นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้ชนะการแข่งขันคัลล่าคาเปโล่ที่อายุน้อยที่สุดในวารีเน่ ภรรยาเจ้าผู้ครองรัฐวิลด์โคลโลคนปัจจุบัน ไมค์เอล เดอ คูลนิ่ง : คู่หูของลีโอ เขาเกิดที่วินด์โคลโลในตระกูล เดอ คูลนิ่งซึ่งสืบเชื้อสายมาจากโรเซส ภูติแห่งสายลมผ่านทางเทพีโรเซร่า เขาถูกส่งมาอยู่ที่ดาโรก้าเพรไปเรียนต่อที่ปราการซินเทลล่า แผนกการปกครอง าะเกิดปีเดียวกับลีโอ ตามคำบอกที่ว่า เดอ คูลนิ่ง ต้องอยู่คู่กับฟรานเชสก้าเสมอ ชาร์เพรย์เชรี เดอกราฟ : รุ่นน้องของพวกเฟมีล เกิดที่ฟอริโซ่รัฐแห่งพฤกษา เป็นคนของตระกูล เดอ กราฟ ซึ่งถือสิทธิขาดในการปกครองคูมีร่าฟอเรสผืนป่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเซวีน่า เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของคาร์น เดอคูลนิ่ง และกราเฟตผู้นำตระกูลเดอ กราฟ พ่อที่แท้จริงของเธอ คือ เชรี ภูติฐานันดรสูง ส่วนแม่ของเธอ คือ กราเตรา เดอ กราฟ ผู้ควบคุมป่า |
อ่านช่วงแรกๆรู้สึกว่าสำนวนมันแปลกๆสักหน่อย ถ้าจะให้คำนิยายก็คงประมาณว่าเล่าเรื่องละเอียดเกินไปละมั้ง เวลาบรรยายเหตุการณ์จะเล่าทีละขั้น เป็นเหตุเป็นผลจนไม่เหลือพื้นที่ให้คนอ่านจินตนาการต่อเลย แอบสงสัยว่า ท่าทางคนเขียนน่าจะเรียนสายวิทย์บรรยายการสังเกตตัวอย่างแบบวิทยาศาสตร์มากๆ แต่หลังจากนั้นก็พัฒนาขึ้นมากๆ จนเรากลายเป็นแฟนคลับของเธอไปโดยปริยาย
ลีโอ พระเอกเรื่องนี้เป็นแนวที่ชอบเลยค่ะ เงียบขรึม เก่ง มีชาติตระกูล ว่าไปก็คล้ายๆคาโลของหัวขโมยแห่งบารามอสเหมือนกันนะ ส่วนนางเอกก็ประมาณ ร่าเริง แจ่มใส พูดมาก เห็นแก่กิน สวย และเก่ง perfect ค่ะ นอกจากพระนางหนุ่มหล่อ สาวสวยแล้ว ปริศนาในเรื่องนี่ก็น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงออโรร่าที่ปลอมตัวมาเป็นลอลิน ความลับที่ยังไม่เปิดเผยของเฟมีล ตรงนี้ช่วยดึงในเรื่องน่าติดตามมาก
เล่ม 2 เริ่มมีกลิ่นไปความรักชัดเจนขึ้น คู่ของลีโอกับเฟมีลที่มักจะเจอกันโดยบังเอิญจนมีฉากชวนให้อมยิ้มมากขึ้น พี่ไคท์คู่หมั้นของเซ เรื่องราวตอนเด็กๆของสองคนนี้น่ารักมาก และสายลมของมอรีล สรุปว่าสาวๆกลุ่มเฟมีลขายออกทุกคนเป็นที่น่าอิจฉายิ่งนัก เล่มนี้โลกของเซวีน่ากว้างขึ้นตามท้องเรื่องที่นักเรียนจะต้องไปเรียนที่รัฐต่างๆทั้ง 7 รัฐ ทึ่งกับจินตนาการในการสร้างโลกแฟนตาซีของคนเขียนจริงๆ ลองมานึกๆดู ไม่แน่ว่าสเกลฉากของเรื่องนี้ใหญ่กว่าแฮรี่เสียอีก
เล่ม 3 ในที่สุดปริศนาต่างๆก็คลี่คลาย แอบเดาถูกว่าป้าเฟที่จริงคือแม่ของเฟมีลล่ะ เล่มนี้ทั้งลีโอทั้งเฟมีลต่างรู้แน่ใจในความรู้สึกของอีกฝ่ายแล้ว คู่นี้เลยหวานกันสุดๆ ชอบตอนที่ทั้งสองคนไปแสดงดนตรีด้วยกันที่เพลาโต้ ความจริงเปิดเผยว่าลีโอขอเฟมีลแต่งงานตั้งกะเล่ม 1 โดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัว เขินแทนอ่ะ
หลังจากจบเล่ม 3 เฟมีลกับลีโอ และเพื่อนๆต่างก็มีคนรักกันหมด เหลือแต่ไมค์คนเดียวที่ยังไม่มี
เจ้าของหัวใจ ในเล่ม 4 ไมค์เลยโดนจับคู่กับเขาบ้าง แต่ธีมที่น่าประทับใจจนกลบความโรแมนติกของไมค์เสียมิด คือ ความเสียสละของบรรพชน ทั้งภูติที่เป็นของขวัญจากธรรมชาติ ผู้ใช้เวท และผู้ไร้เวทที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันตลอด 3,000 ปี ซึ่งก็คือการสร้างความสมบูรณ์แบบแก่เซวีน่า อ่านแล้วทึ่งกับความนึกคิดของพวกเขาจริงๆ
สำหรับเล่ม 5 กับการตามหาความลับทั้ง 12 ของดีดาเรน ฟรานเชสก้า เป็นเล่มที่สนุกมากๆอีกเล่มหนึ่ง โดยเฉพาะการตามหาความลับ 3 ชิ้นแรก ที่ทั้งลีโอ และเฟมีลในฐานะฟรานเชสก้าคนหนึ่งต้องเข้ารับการทดสอบ ซึ่งมีเพียงส่วนนี้ที่เหมือนการทดสอบจริงๆ หลังจากนั้นจะเป็นการเรียนรู้เรื่องราวของดีดาเรนเสียมากกว่า แต่ก็เป็น plot ที่่สนุกมากๆ แอบอยากรู้ตอนที่ดีดาเรนตัดสินใจแต่งงานกับเมดิน่าจังเลย…
Favorite scene
ภาค 4 พันธะสัญญาแห่งอาณาจักร ตอนที่ 40 – 41
ชาวเซกันร้องขอให้เทพีโรเซร่า เพื่อพาเธอไปช่วยเหลือมิติของตน พวกเขามองมาเซวีน่าเป็นดินแดนที่โชคดี เซเฟอร์จึงแสดงให้เขาเห็นถึงที่มาของความโชคดีเหล่านั้นว่ามาจากความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้เซวีน่าเป็นโลกที่สมบูรณ์แบบ
“สองมือ และหนึ่งสมองที่คิดเพียงแต่จะมาขอความช่วยเหลือน่ะรึ เจ้าลองมองเข้าไปในเซกันของเจ้า แล้วถามตัวเองก่อนดีกว่าว่าเพื่อนพ้องและพี่น้องของเจ้าคืนอะไรให้กับโลกบ้านเกิดของเขาบ้าง พวกเขาดีแต่ตักตวงและแก่งแย่งผลประโยชน์กัน แม้แต่สิ่งที่ไม่ใช่ของพวกเขา ทำลายได้แม้กระทั่งบ้านของตัวเอง แล้วอย่างนี้จะให้คนนอกเข้าไปช่วยเหลือ มันไม่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไปหน่อยหรือ”
เรื่อง | ลินคอร์น ไดอะรี |
เขียน | กัลฐิดา |
จำนวนหน้า | 787 |
สำนักพิมพ์ | สถาพรบุ๊คส์ |
version | meb E book |
อ่านจบ | 11 กรกฎาคม 2559 |
เรื่องย่อ
ได้เวลาที่ลินคอร์นจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนเวทย์แห่งเ๙วีน่า นอกจากเพื่อน ๆ ที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก เขาได้เพื่อนใหม่เข้ามาในกลุ่มอีกคนอย่าง ลิล่า ซีซานีน เด็กสาวที่แตกต่างจากขนบเดิมเหมือนกับตัวเขา แต่ความไม่มั่นใจที่เด็กสาวมักแสดงออกมาทำให้ลินคอร์นหงุดหงิด ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะทดสอบด้วยการแกล้งเธออยู่เรื่อย ลินคอร์นให้ลิล่าสู้กับเขาทุกวัน และพาเธอร่วมทีมไปทำภารกิจด้วย
ลิล่าจำเป็นต้องเข้าประลองบนเวทีแฟเรนเทียร์ในฐานะผู้ถือสาร์นแห่งไฟ ซึ่งลินคอร์นก็ได้รับเชิญเหมือนกัน ลิล่าได้แสดงฝีมือแต่ความพ่ายแพ้ของเธอทำให้ลินคอร์นโกรธแต่ผู้ชนะบนเวทีในวันนั้นคือ ลินคอร์น ซึ่งทำให้เขาต้องขึ้นเวที พรีสเตจ เพื่อเป็นคู่แข่งของลิล่า หลังจากนั้นลินคอร์นพาลิล่าเข้าไปในพื้นที่สีเทาเพื่อไปพบซีเลส อินดิโก้ ซึ่งนอกจากจะให้การทดสอบที่แสนยากลำบาก ยังช่วยอธิบายความเป็นมาของลิล่าให้หญิงสาวฟังด้วย ความจริงที่ว่าเธอเป็นความหวังของบาซิล่า
พรีสเตจเริ่มขึ้น คราวนี้ผู้ชนะเลิศหลังการต่อสู้อย่างดุเดือดกับลินคอร์นคือ ลิล่า ทำให้เธอเป็นตัวเก็งในฐานะว่าที่เจ้าผู้ครองรัฐบาซิลล่า ควบตำแหน่งเจ้าหญิงผู้ได้หัวใจของเจ้าชายพเนจรอย่างลินคอร์น
เรื่อง | Baria’s mission ปริศนามาลีโรนี่ |
เขียน | กัลฐิดา |
จำนวนหน้า | 1,012 |
สำนักพิมพ์ | สถาพรบุ๊คส์ |
version | meb E book |
อ่านจบ | 16 สิงหาคม 2559 |
เรื่องย่อ
ลินคอร์นรวมทีมเพื่อทำภารกิจตามหาพืชประดิษฐ์มารีโลนี่ในป่าคูมีร่า ฟิเรส ตามคำขอร้องของ ชิลด์ คาโรต้า เพื่อส่งเข้าประกวดในงานเกสต์ราวน์ ซึ่งบาเรียก็เป็นหนึ่งในทีมคราวนี้โดยถือโอกาสทดสอบสิ่งประดิษฐ์ของทีมของเขาด้วย แต่ที่พิเศษ คือ ดาลัน ว่าที่ไวเอนคนต่อไปร่วมทำภารกิจครั้งนี้ด้วย
คณะเดินทางวางแผนเดินทางล่วงหน้าคณะสำรวจชุดใหญ่เพื่อฟื้นฟูจุดเสื่อมโทรมคูมีร่า ฟอเรสได้รับมอบหมายภารกิจพ่วงหลายอย่างจากบรรดาผู้มีอำนาจในเซวีน่า โดยมีบาเรียเป็นกุญแจสำคัญในการทำภารกิจ โดยสิ่งแรกที่ต้องทำคือการสอดแนมพฤติกรรมของร้านมินนี่ทอย ซึ่งสิ่งที่พวกเขาพบในพื้นที่สีเทาคืออุปกรณ์ดูดพลังเวท ซึ่งไม่น่าจะมีตัวตนอยู่ในเซวีน่า แถมสิ่งที่คณะเดินทางต้องประสบพบเจอหลังจากย่างเท้าเข้าไปในคูมีร่า ฟอเรสไม่นาน คือ มารูนก้า พายุหมุนไอเวทย์ และที่ตามมาติด ๆ คือ มารีโลนี่ ที่พวกเขาตามหา ซึ่ลไล่ตามพร้อมกับดูดพลังเวทย์จากต้นไม้ที่มันเคลื่อนผ่าน แถมสิ่งที่เป็นแกนกลางคือ กี่ทอผ้า ที่กำลังทอลวดลายอักขระมนตรา โคตัลนำมันออกมาก่อนที่จะทอเสร็จเพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่อาณาเขตเวทย์ของสามเหลี่ยมมารูนก้าจะปิดตัวลง โคตัลทอผ้าที่นำออกมาจากมารีโลนี่จนเสร็จ ผ้าทอผืนนั้นให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตกึ่งภูติ แถมยังมอบจุมพิตแห่งภูติไพรกับบาเรียโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัว โคตัล ที่เป็นเหมือนพ่อ ตั้งชื่อเธอว่า มารี แวนเวิร์ธ เด็กสาวเกาะติดกับบาเรียไม่ยอมห่างจนชายหนุ่มทำตัวไม่ถูก
มารีโลนี่ยังคงทำงานภายในอาณาเขตเวทย์ของสามเหลี่ยมมารูนก้า แต่สายเลือดแห่งป่าควรมีเพียงหนึ่ง มารีถูกเรียกให้ไปหลอมรวมกับภูติที่กำลังจะถือกำหนด บาเรียที่ต้องการจะรักษาเธอไว้ทำพิธีกรรมผูกชีวิตอย่างเร่งรีบจนสามารถช่วยเธอไว้ได้สำเร็จ ทีมของบาเรียหาทางเจาะเข้าไปในอาณาเขตเวทย์มารูนก้าเพื่ออ่อยเหยื่อปูทางสู่การรวบตัวผู้อยู่เบื้องหลัง โคตัลตามบาเรียเข้าไปในมารีโลนี่ พอดีกับที่ต้นไม้ถูกจู่โจมจนคลั่ง ในนาทีขับขับโคตัลได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากภูติที่ยังไม่เกิด ทำให้เขาตัดสินใจทอผ้าต่อจนเสร็จ และเป็นผู้ได้รับจุมจุมพิตแห่งภูติไพรจากภูติที่เกิดใหม่ หญิงสาวได้ชื่อว่า โลนี่ แวนเวิร์ธ มารีโลนี่หยั่งรากเมื่อจบภารกิจและคืนพลังฟื้นฟูสู่ผืนป่า ภารกิจตามหามารีโลนีของพวกเขาจึงจบลงตรงนี้
โลนี่ เป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งภูติที่เกิดอย่างสมบูรณ์ หน้าที่ของสายเลือดแห่งป่า คือการให้กำเนิดผู้ที่จะถือครองอัญมณีดวงตาพฤกษาคนต่อไป มารี กับ โลนี่ ได้รับการดูแลในฐานะลูกพี่ลูกน้องของฝาแฝดตระกูลแวนเวิร์ธ บาเรียฝากมารีไว้กับครอบครัวแวนเวิร์ธระหว่างเข้าเรียน ส่วนโลนี่เธอรับที่จะเป็นคู่หูกับโคตัลในการเป็นนักค้นหาพันธุ์ไม้ในตำนานจนกว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 จะชัดเจน
เรื่อง | Find The Way |
เขียน | กัลฐิดา |
จำนวนหน้า | 151 |
สำนักพิมพ์ | TSWriter.com |
version | meb E book |
อ่านจบ | 27 สิงหาคม 2559 |
ฟายมีเลีย ดี ฟรานเชสก้า เด็กหญิงที่เกิดในตระกูลฟรานเชสก้านับแต่วันสถาปนาอาณาจักร และเป็นผู้ครองกาลเวลาทั้ง 4 สาย ทายาทแห่งกาลเวลาคนที่ 2 ของตระกูลนักเดินทางแห่งรัตติกาล ทำให้เธอต้องเติบโตภายใต้การดูแลของดีดราเรนจนกว่าจะควบคุมพลังได้
ฟายด์เข้าไปยังมิติลาโคน่าเพราะอยากเรียนรู้ว่าผู้หญิงที่น่าทึ่งอย่างที่เสียสละอย่างมากมายเพื่อเฟมีลเป็นอย่างไร โดยเข้าโรงเรียนกุลสตรีเดอลาเรียและรับตำแหน่งถ้วยน้ำชาของเลตินอร์ตอล เธอได้พบกับ ดีวาซ คาเลอกูล เจ้าชายน้ำแข็งผู้ครอบครองทะเลแห่งการค้า เมื่อทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี ฟายด์ก็จากมิตินั้นมา
ฟายด์ปะทุพลัง เธอย้อนเวลากลับไป 20 กว่าปี ยังมิติลาโคน่า แถมยังตกลงลงบนตัว ดีวาซ คาเลอกูล หญิงสาวไปไหนไม่ได้เพราะไม่สามารถใช้เวทย์ได้เลย จึงจำต้องพยายามเข้าใกล้ดีวาซเพื่อให้สามารถตอบแทนในภายหลังเมื่อจำเป็น แต่ทาทีเย็นชาของดีวาซ ทำให้ฟายด์ฮึดสู้ด้วยการยัดเยียดตัวเองเข้าไปเป็นพนักงานจัดเรียงเอกสารในโครงการ ฟายด์กับดีวาซตกหลุมรักซึ่งกันและกันแต่ฟายด์เลือกที่จะปฏิเสธอีกฝ่ายเพราะความแตกต่าง แต่ในที่สุดฟายด์ตัดสินใจกลับไปหาดีวาซ ทั้ง 2 แต่งงานกัน ก่อนที่ฟายด์จะต้องกลับมาเซวีน่าเพื่อรอเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันเกือบจะนิจนิรันดร์
ตัวละครสำคัญ
ลินคอร์น ดี ฟรานเชสก้า : ทายาทคนที่สองของลีโอ ดี ฟรานเชสก้า เจ้าผู้ครองรัฐดาโรก้า และเฟมีลล่า ไดแอนแพนไทร์ ฉายาของเขาคือ เจ้าชายพเนจร เด็กธาตุไฟบริสุทธิ์ในตระกูลผู้ครองเวทย์แห่งรัตติกาลคนแรกในรอบสามพันปี จึงต้องเติบโตภายใต้การดูแลของ ศาสตราจารย์จอมเวท ซีเลส อินดิโก้ ซึ่งรับเขาเป็นลูกบุญธรรม จอมเวทย์รัตติกาลสาขาอัญมณี |
ลิล่า ซีซานีน : เจ้าของนามแห่งเทพเจ้าแห่งไฟ ลิล เทพีผู้มอบไฟแห่งชีวิต ลูกบุญธรรมของบาฟาเรล หนึ่งในผู้ถือสารแห่งไฟ แต่กลับได้รับฉายา หนอนหนังสือแห่งฟีเรเน่ เธอใช้พฤกษาอาวุธ ชื่อว่า อิกไนท์ จอมเวทย์ฝึกหัดแห่งปราการฟีเรเน่ |
บาเรีย มิชชาร์พ : ลูกชานของบาร์น มิชชาร์พ ชาวเซกัน และ อมีเรีย บราว ตำนานมีชีวิตของแผนกพัฒนาการเวทย์ ทายาทของร้านของเล่น มาสเตอร์บราวน์ เขาเป็นเมเนไทป์ จอมเวทย์พสุธาฝึกหัดแห่งปราการซิลเทลล่า |
โคตัล แวนเวิร์ธ : หนึ่งในลูกชายฝาแฝดของ รองศาสตราจารย์จอมเวทย์ เซเลน่า แวนเวิร์ธ จอมเวทย์พฤกษา หนุ่มเนื้อหอมแห่งปราการฟาเรนเซ่ เค้ามีเป้าหมายในการเป็นนักค้นหาพันธุ์ไม้ในตำนาน มีความสามารถพิเศษ คือ การได้ยินเสียของต้นไม้ |
ฟายมีเลีย ดี ฟรานเวสก้า/ฟายด์ โรเซล : ลูกสาวคนโตของลีโอ ดี ฟรานเชสก้า เจ้าผู้ครองรัฐดาเรก้า และ เฟมีลล่า ไดแอนแพนไทร์ เป็นเด็กหญิงที่เกิดในตระกูลฟรานเชสก้านับแต่วันสถาปนาอาณาจักร และเป็นผู้ครองกาลเวลาทั้ง 4 สาย ทายาทแห่งกาลเวลาคนที่ 2 ของตระกูลนักเดินทางแห่งรัตติกาล |
บันทึก…คนอ่าน
Lincorn Diary ลินคอร์น ไดอะรี
คิดถึงบรรยากาศของเซวีน่าภาคแรกมากเลยค่ะ ช่วงนั้นนิยายแฟนตาซีฝีมือนักเขียนไทยบูมมาก สำหรับเรื่องนี้อ่านจบมาหลายปีแล้ว(นับจากเล่ม 5 เล่มสุดท้ายของภาพที่แล้ว) มีลืม ๆ รายละเอียดไปบ้าง เพราะจักรวาลของเรื่องนี้ใหญ่พอสมควร ซึ่งเล่มนี้ก็มีกล่าวถึงพอควร เราก็เมิน ๆ ไป ( ขี้เกียจอ่านย้อน) โดยรวมเรื่องนี้จะออกแนวอ่านเพลิน ๆ แนวการดำเนินเรื่องไม่ได้แตกต่างจากภาคหลักเท่าไหร่ คือไม่ค่อยมีลุ้นเพราะส่วนใหญ่ตัวละครในเรื่องค่อนข้างเทพ มีไรมาจัดการได้ เสน่ห์ของเรื่องนี้ ปรัชญา ระบบประวัติศาสตร์ เทพกาล เวทมนต์ รายละเอียดของจักรวาลเซวีน่า อ่านแล้วทึ่งมาก
ช่วงต้นคนอ่านจะได้ซึมซับบรรยากาศครอบครัวอบอุ่นของลีโอ ผ่านงานวันเกิดของลินคอร์นที่ทำให้ครอบครัวที่งานยุ่งที่สุดในเซวีน่าได้มาอยู่กันพร้อมหน้า ให้คนอ่านหายคิดถึงตัวละครเก่า ๆ ก่อนที่จะตัดเข้าสู่เรื่องราวของลินคอร์นเมื่อการสอบเข้าโรงเรียนเวทย์แห่งเซวีน่าเริ่มขึ้น หลัก ๆ คือภารกิจเสริมความมั่นใจให้ลิล่า ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่เหมือนเป็นการแกล้งกัน ลินคอร์นน่าหมั่นไส้มาก ก่อนจะค่อยพัฒนาเป็นการคอยดูแล และกลายเป็นหวงตามรอยคุณพ่อลีโอ
Baria’s mission ปริศนามาลีโรนี่
ชุดนี้เป็นรุ่นลูกเรื่องที่ 2 ต่อจากลินคอร์น ไดอารี่ โดยตัวเอกของเล่มนี้คือ บาเรีย มิชชาร์พ เด็กเมเนไทป์คนแรกที่เข้าเรียนในโรงเรียนเวทย์แห่งเซวีน่าได้ โดยจุดเริ่มต้นคือภารกิจที่เป็นคำขอร้องจาก ชิลด์ คาโรต้า หัวหน้าห้องถึงลินคอร์นให้เเป็นหัวโจกในการรวบรวมสมาชิก โดยในช่วงแรกระหว่างการรวบรวมสมาชิกนั้น จะเน้นเล่าถึงการใช้ชีวิตประจำวันของเหล่าจอมเวทฝึกหัดที่แยกย้ายไปเรียนคนละที่ให้แฟนพันธุ์แท้ได้รับรู้ความเป็นไปของเด็ก ๆ โดยเฉพาะบาเรีย (ส่วนคู่ลินคอร์น กับลีล่านี่หวานล้ำหน้าชาวบ้านมากทั้งในชีวิตประจำวัน รวมถึงการหาของขวัญที่ต้องทำเซอร์ไพร์จนชาวบ้านเดือดร้อน /คนอ่านอิจฉาเฟ้ย)
ภารกิจของจริงเริ่มประมาณบทที่ 21 กับการสอดแนมการทดลองของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นสนามให้เพื่อน ๆ ของลินคอร์นได้แสดงความสามารถกันเสียทีแบบน้ำจิ้ม ก่อนที่จะได้เข้าป่ากันจริง ๆ ในบทที 31 บทเด่นสุด ๆ ในภาคนี้นอกจากบาเรียแล้ว ลำดับ 2 คือ โคตัล ที่ได้ชื่อว่าแสบที่สุดในรุ่นลูก โดยทั้งคู่มีนางเอก (ที่ไม่ธรรมดา) เป็นของตัวเองด้วย แต่เนื่องจากซึนหนักมาก + โลกส่วนตัวสูงกันทั้งคู่ บาเรียที่เจอสาวไร้เดียงสา กลับบอกให้เธอเชื่อสิ่งที่เขาพูด ไม่ใช่เสียงที่ได้ยินจากการอ่านใจ แต่ชาวบ้านชาวเมืองเขารู้สึกกันหมดว่า พ่อคนนี้น่ะใส่ใจดูแล แถมพอรู้ตัวก็โครตหวงด้วย คู่นี้เราเฉยมากโดยส่วนตัวขอบคู่โคตัลที่ตอนแรกเล่นตัวไม่ตัดสินใจสักที แต่พอผ่านพิธีผูกชีวิตแล้ว พ่อจ้าพระคุณมีหอม มีจูบ (แต่ยังปากแข็ง บอกยังไม่ได้รักนะเอ็ง) ส่วนโลนี่ตอนแรกดูเหมือนมั่นใจในการพยายามพิชิตใจโคตัลแต่ไหงกลับไม่เข้าใจเรื่องความรักซะได้(หรือมันเป็นซีนที่สร้างมาเพื่อให้โคตัลตบมุกฟิน) ที่ขโมยซีนสุด ๆ ขอถวายมงกุฎให้ พี่ดาลัน ว่าที่ไซเอน คนต่อไป(ฉากในหอนาฬิกานี่มันช่าง…) อยากอ่านตอนที่ภูตินาฬากาตนต่อไปฟื้นขึ้นมาจัง ขอตอนพิเศษเฉพาะสองคนนี้เลยได้ไหม
ในส่วนปริศนาหลักของมาริโลนี่ ซึ่งเริ่มจากการกำเนิด อันเกี่ยวพันกับสภาพของป่า ดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ แต่แอบแป๊กนิดหน่อย ตรงการตอบโต้ที่ว่าเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย (จินตนาการจากคำพูดของชาร์แพย์เชรี กับกราเตรา ไว้โหดกว่านี้เยอะ)
Find the way
เล่มนี้หนาแค่ร้อยกว่าหน้า แอบไม่ชินเพราะภาคก่อน ๆ ของรุ่นนี้หนาเป็นพัน เนื่องจากเล่มนี้เนื้อเรื่องส่วนชีวิตในวัยเรียนเหมือนเล่มก่อน กลิ่นอายของความโรแมนติก ระหว่าง ฟายด์ กับ ดีวาซ เลยชัดขึ้น คู่นี้ก็น่ารักเหมือนกัน เนื้อเรื่องตอนเริ่มจีบกันจริงจังตั้งแต่ตอนที่ 8 น่ารักมาก แอบอยากอ่านรายละเอียดธรรมเนียมการจีบอย่างเป็นทางการ 7 วันจัง น่าจะฟิน
Quote
“หัวใจของเราจะบอกเราเองว่า ใครคือคนที่เรารัก ใครคือคนที่เรามอบหัวใจให้ ไม่ว่าจะเป็นมนตราบทไหน คำทำนายแบบใดก็สู้เสียงของหัวใจเราไม่ได้หรอก คูมีร่ารู้ตัวดีว่าดีดาเรนรักเธอมากแค่ไหน รู้ดีเหมือนกับรู้ว่าหัวใจของเธอไม่ได้มีไว้ให้ชายคนนี้ แต่ดีดาเรนก็ยังคงมอบความรักให้เธอ กาลเวลาที่คงอยู่และหมุนเวียนอยู่รอบๆเซวีน่าคือหลักฐานที่ดีที่สุด เพราะมันคือความรักทั้งหมดที่ผู้ชายที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกนี้มอบให้แก่หญิงสาวที่เขารักเพียงคนเดียว มอบให้กับโลกและปณิธานอันยิ่งใหญ่ของเธอคนนั้น”
“ข้อดีของการอยู่มานานก็อย่างนี้แหละ เราสามารถละทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว ละทิ้งน้ำตาที่เคยรินไหล ละทิ้งหัวใจที่เคยแหลกสลายเมื่อรู้แน่แก่ใจโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆออกมาจากปากคนที่เรารักว่าเขาไม่รักเรา ละทิ้งทุกอย่างเพื่อให้เหลือเพียงความสุขที่ได้รัก เราละทิ้งความคิดที่ว่าเรารักเขาข้างเดียว เปลี่ยนเป็นยอมรับว่าเขาไม่อาจรักเรา แต่เราจะรักเขา ทุกอย่างก็เลยดำเนินต่อไปได้แทนที่จะร้องไห้เสียใจยามเมื่อเขาไปหาคนอื่นก็เปลี่ยนเป็นดีใจที่เขากลับมาหาเรา กลับมาหาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน กลับมาหาแม้เขาจะจะจากไปที่ไหนสักแห่งที่ไกลแสนไกล แต่ในที่สุดเขาก็จะกลับมา กลับมาหาฉัน ความคิดแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”
เมดิน่า ภาค 5 ปริศนาทรายสีดำ 47 รักแรก
“ทุกคนที่เกิดมามีหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าเราจะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ตาม พวกเราล้วนเกิดมาเพื่อทำประโยชน์ให้ใครสักคนเสมอ”
อมีเรีย บราวน์ Baria’s mission ปริศนามารีโลนี่ บทที่ 23 ครอบครัวมิชชาร์พ
“มนุษย์ทุกคนอยู่ได้ด้วยหัวใจของคนสำคัญของเรา เราอยู่เพื่อตัวเอง…อยู่เพื่อดูแลหัวใจของใครอีกคนที่อยู่ในใจเรา เพื่อเราจะได้มีตัวตนในโลกนี้ต่อไป มีตัวตนในหัวใจของใครบางคนที่สำคัญต่อเรา”
เฟมีล Find the Way บทที่ 9 วันครอบครัว
อุดหนุนหนังสือ
เล่ม 1 / เล่ม 2 / เล่ม 3 / เล่ม 4 / เล่ม 5
เล่ม 1 / เล่ม 2
เล่ม 1 / เล่ม 2
ท่าทางคนเขียนน่าจะเรียนสายวิทย์บรรยายการสังเกตตัวอย่างแบบวิทยาศาสตร์มากๆ
ตอบลบพี่กัลเป็นหมอฟัน 55