| วันที่ | 18 มิถุนายน 2555 |
| เรื่อง | รุ้ง จันทร์ ตะวัน ดาว |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| สำนักพิมพ์ | พิมพ์คำ |
| จำนวนหน้า | 472 บาท |
plot
อนลมาประสานงานการจัดการประชุมระหว่างไทยกับธิโมส์ รุ่งเช้านักข่าวสาวก็เดินทางมาทำข่าวด้วยเครื่องลำเดียวกัน เธอนั่งข้าวชายชาวธิโมส์ที่ลักษณะเหมือนนักท่องเที่ยว ทั้งสองยังได้เจอกันโดยบังเอิญอีกครั้งที่ตลาด เพราะภาษาอังกฤษของเขาดีมากรุ่งเช้าเลยถือโอกาสถามเรื่องแนวร่วมปลดปล่อยธิโมส์ โดยมารู้ที่หลังตอนที่เขาขึ้นปราศรัยว่าเขาคือ ธิม ชาวีย์ ผู้นำแนวร่วมปลดปล่อยธิโมส์
เกิดเหตุระเบิดอนุสาวรีย์สันติภาพ ตามด้วยคลับของลูกสาวรัฐมนตรีถูกไฟไหม้ ผู้คนสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของแนวร่วมฯ ธิมซึ่งไม่มีส่วนรู้เห็นตัดสินใจถอนการเคลื่อไหวจากอลากาส รุ่งเช้าได้รับคำเชิญให้ไปเยือน ดอน ไรวัน ซึ่งเป็นที่มั่นของแนวร่วมฯเพื่อที่เธอจะได้ทราบปัญหาที่แท้จริง หลังจากนั้นความรุนแรงในเมืองหลวงยังเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ มีประชาชนรวมตัวกันขับไล่เจ้าหน้าที่จากไทย เมื่อศาวีรันดาเพื่อพบปะประชาชนก็ถูกต่อต้าน
มีข่าวว่าแนวร่วมฯจับนักข่าวต่างประเทศมากักตัวไว้ อนลที่รู้จักคุ้นเคยกับรุ่งเช้าขอความช่วยเหลือจากศาวีรันกา พวกเขาจึงเดินทางเข้าไปในพื้นที่เพื่อเจรจา แต่เกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อแนวร่วมฯหัวรุนแรงใช้โอกาสนี้บุกสังหารศาวีรันดา ท่วมกลางความชุลมุน อนลหนีไปกับรุ่งเช้า ส่วนศาวีรันดารอดมาได้เพราะความช่วยเหลือของธิม เมื่อสมาชิกแนวร่วมรู้ว่าธิมเป็นคนปล่อยศาวีรันดาไปคนในแนวร่วมก็เกิดความคลางแคลงธิม
ในงานเลี้ยงส่งอนล อนลถูกยิงบาดเจ็บเป็นผลให้ศาวีรันดาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ธิมรู้ดีว่านี่เป็นกับดัก ธิมจึงอาสาเป็นคนเข้าไปฆ่าศาวีรันดาเพื่อไม่ให้แนวร่วมเข้าไปติดกับ แต่พอถึงเวลานั้นเมื่อธิมพบว่า เมล รัฐมนตรีความมั่นคงกำลังจะก่อรัฐประหาร ธิมเลือกที่แลกชีวิตฆ่าเมลเพื่อช่วยศาวีรันดา แนวร่วมที่เหลือนำโดยพี่สาวของธิมบุกเข้าทำเนียบ ศาวีรันดามีคำสั่งให้กวาดล้างผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาดเพื่อแก้แค้นสิ่งที่พวกเขาทำกับแม่ของเธอ ธิมที่บาดเจ็ยสาหัสต้องทนนอนฟังเสียงปืนที่ฆ่าพวกเดียวกัน เขาสิ้นใจหลังเสียงปืนนัดสุดท้ายเงียบลง หลังจากนั้นรุ่งเช้ากับอนลก็เดินทางกลับประเทศไทย
charecter
ศาวีรันดา ครีราโมส์ : ปันตาของธิโมส์ที่ถูกเลือกตั้งเข้ามาด้วยคะแนนเสียท่วมท้น ก่อนก้าวสู่ตำแหน่งด้วยวัยเพียง 26 ปี เป็นเหลนของกษัตริย์การาวัตแห่งราชวงศ์ครีราโมส์ สำเร็จการศึกษาทางด้านกฎหมายจากฮาร์วาร์ด ใครๆตั้งฉายาเธอว่า จันทราแห่งธิโมส์ พ่อและแม่ของเธอถูกพวกชาวีย์ฆ่าในการลุกฮือกวาดล้างพวกเชื้อสายราชวงศ์เมื่อ 10 ปีก่อน
ธิม ชาวีย์ : ผู้นำแนวร่วมปลดปล่อยธิโมส์ ลูกชายของเมธาล ชาวีย์ผู้นำคนแรกของชาวีย์ที่รวมตัวเป็นอย่างเป็นทางการ จบการศึกษาจากออสเตรเลีย เป็นเพื่อนของศาวีรันดา และหลงรักเธอมาตั้งแต่เด็กก่อนจะห่างกันไปเพราะพ่อของเขาเป็นคนลั่นกระสุนสังหารพ่อกับแม่ของเธอ ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง
ดอกเตอร์อนล วโรดม : เลขานุการรัฐมนตรีของไทย
รุ่งเช้า วิริยะกิจจา : นักข่าวของนิตยสารเอเชียรีวิว นิตยสารชั้นนำ เป็นคนไทย
log
เล่มนี้เป็นเล่มแรกของชุดธิโมส์ค่ะ แต่กว่าจะได้หยิบมาอ่านก็อ่านเล่มอื่นไป 8 เล่มแล้ว
เรื่องนี้บรรยากาศต่างจากเล่มอื่นอยู่โขเหมือนกันค่ะ เริ่มเรื่องเหมือนจะเน้นไปทีเรื่องรักๆใคร่ๆ เพราะศาวีรันดาโผล่มาทีไร บรรยากาศเหมือนดอกไม้สีชมพูบานเต็มหน้ากระดาษเมื่อนั้น ครั้งสองครั้งไม่เท่าไหร่ หลายๆครั้งเริ่มขวาง รู้สึกว่าทำไมคนเขียนอวยเธอจัง เนื่องจากอ่านเล่มท้ายๆก่อนเลยพอรู้ว่าธิมกับศาวีรันดารู้จักกัน ตอนอ่านเลยลุ้นว่าเมื่อไหร่สองคนนี้จะเจอกันสักที โน่นค่ะ กว่าจะเจอกันปาเข้าไปบทที่ 31 จาก 48 บท ซึ่งบทก็รันทดมากผิดกับที่คิดไว้ อ่านแล้วสงสารทั้งคู่ แต่เน้นที่ธิมเป็นพิเศษ เพราะรันดาใจร้าย เธอน่าจะบอกรักธิมสักนิดก่อนเขาตาย ความรักในเรื่องนี้ดูมึนๆดีค่ะ รักกันเป็นลูกโซ่ โยงไปโยงมา คนที่ชินกับตัวเอกที่ต้องรักคนเพียงคนเดียวอย่างเราอาจจะขัดใจนิดหน่อย แต่นี่ล่ะความเป็นจริง เราอาจรักคนได้หลายคนแต่สุดท้ายแล้วคนที่จะอยู่กับเราก็มีแค่คนเดียว
อยากอ่านบ้าง
| เรื่อง | รักริมทะเลเมฆ |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| สำนักพิมพ์ | พิมพ์คำ |
| จำนวนหน้า | 546 |
plot ธิโมส์ปัจจุบัน
มีความพยายามที่จะสร้างท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่บริเวณชายหาดทะเลด้านใต้ซึ่งเป็นที่ตั้งของเหล่าวาตีหมู่บ้านชาวประมงริมทะเลเพื่อแข่งขันกับท่าเรือน้ำลึกที่เกาะกริดาห์ของกลุ่มทุนเคเชรี โดยเป้าหมายที่น่าจะเป็นเป้าหมายมากที่สุด คือ รันนาวาตี
กิรันนา วาตีสาวของรันนาวาตีต้องรับมือกับคนที่ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย คนแรกที่เข้ามาเจรจากับเธอ คือ คาเลจากกลุ่มเคเชรีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ เขายืนยันว่าเคเชรีเป็นพันธมิตรในการรักษารันนาวาตี คนที่สองคือ ชาน่า ไกวเลอร์ นักรุ่นใหม่ธุรกิจแห่งกลุ่มทุนบันทรีที่มีจุดมุ่งหมายจะสร้างท่าเรือน้ำลึกที่นี่ กิรันนาช่วยชาน่าไว้ตอนที่กำลังจะจมน้ำ หลังจากนั้นเขาก็พยายามทำตัวสนิมสนมกับคนในรันนาวาตี ภายนอกดูเขาเป็นมิตร เปิดเผยเขายืนยันว่าจะไม่มีการบีบบังคับ แต่จะคุยกันด้วยเหตุผล และ สุดท้าย เค ชายหนุ่มที่มีดวงตาสีน้ำเงินจากเกาะกริดาห์ที่ผลุบๆโผล่มาคอยเตือนกิรันนาให้ระวังเรื่องต่างๆที่จะส่งผลร้ายกับรันนาวาตี
สิ่งแรกที่เริ่มโจมตีรันนาวาตี คือ รูปถ่ายกิรันนา ฝีมือชาน่าที่ลงในหลังสือพิมพ์ที่จะเป็นชนวนให้คนภายนอกเข้าใจผิดว่ารันนาวาตีเป็นพันธมิตรกับกลุ่มบันทรี กิรันนาแก้เกมโดยขอความช่วยเหลือจากคาเลให้เป็นคู่ควงไปรับประทานอาหารเย็นกับชาน่าเพื่อแสดงให้เห็นว่า รันนาวาตีเป็นพันธมิตรกับเคเชรีเช่นกัน หลังจากนั้นก็เกิดเหตุที่หนุ่มชาวประมงของรันนาวาตีถูกฆ่าโดยร้อยเหงือกเหมือนกับปลา ชาวบ้านสงสัยว่าเป็นของฝีมือของพวกเคเชรีที่ดูแลเกาะกริดาห์ ริรันนาบุกไปขอความจริงที่ตึกเคเค และพบว่า เค คือ เคช เคเชรี ผู้มีอำนาจสูงสุดของเคเชรี เขาสาบานว่าไม่ใช่ฝีมือเคเชรี และจะหาคนร้ายมาให้ภายในพรุ่งนี้ วันรุ่งขึ้นเคกับคนของเขาก็พาคนร้ายสองคนที่มีสามารถสืบสาวความสัมพันธ์กับกลุ่มบันทรี มาแสดงให้ชาวบ้านรันนาวาตีดู หลังจากนั้นชาน่าก็ไม่สามารถเข้ามาที่รันนาวาตีได้อีก
การโจมตีระลอกใหม่เริ่มขึ้น พ่อค้าไม่ยอมรับซื้อผลผลิตจากรันนาวาตีแต่เคชก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ต่อมาเกิดภาวะข้าวยากหมากแพงในอลาส โดยกลุ่มผู้ประท้วงชี้ว่ามีสาเหตุมาจากการผูกขาดการขนส่งของกลุ่มเคเชรี ทำให้กระแสเรียกร้องให้มีการสร้างท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ที่รันนาวาตีค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้น แผนสุดท้ายคือการกำจัดกิรันนา เปลี่ยนตัววาตีเพื่อให้อะไรๆง่ายขึ้น เคที่รู้ข่าวจากสายพากิรันนาไปหลบซ่อนที่เคเชรีก่อนที่เธอจะมีอันตราย แต่ผู้ประสงค์ร้ายไม่ลดละ ทันทีที่รู้ระเคะระคายว่ากิรันนาอยู่ที่ไหนก็ส่งคนลอบขึ้นเคเชรีเพื่อกำจัดเธอ แต่ไม่สำเร็จ เคปกป้องเธอได้สำเร็จถึงแม้ว่าเขาจะถูกยิง และบ้านของเขาถูกระเบิดพินาศ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอรู้ว่าศัตรูที่แท้จริงอยู่ใกล้ตัวเธอ กิรันนาลงมารันนาวาตีทันทีที่เคถึงมือหมอ คำสัมภาษณ์จับใจที่แสดงความรักบ้านเกิดของเธอต่อสื่อมวลชน บวกกับแถลงการณ์ของสาวีรันดาถึงผู้อยู่เบื้องหลังเหตุข้าวยากหมากแพ้ที่แท้จริงทำให้ทุกอย่างจบลง
charecter
เคช เคเชรี : ผู้นำกลุ่มธุรกิจธุรกิจเคเค ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในธิโมต์ พ่อของเขาเป็นผู้นำเคเชรี แม่ของเขาเป็นหญิงสาวจากรันนาวาตี คนที่สนิทกับเขาจะเรียกเขาว่า เค
กิรันนา : คนที่สนิมสนมกับเธอ จะเรียกเธอว่า กิกี้ หลังจากเรียนจบปริญญาตรีที่อลาส ก็มารับเป็นวาตี ดูแลรันนาวาตีต่อจากมารดา
คาเล : มือขวาของเคช ทำหน้าที่ดูแลการเงินทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจเคเค คนรักของเขาคือ หญิงวัยกลางคน ชื่อ โรส
log
เรื่องนี้กรี๊ดพระเอกค่ะ โอ๊ย เท่ห์มาก โรแมนติกสุดๆ ผู้ชายตาสีน้ำเงินคนนี้ ชอบที่สุดก็คือตอนขับเฮลิคอปเตอร์ส่องไฟให้นางเอกขับรถ อ่านนิยายเล่มนี้แล้วอยากเห็นภาพทะเลเมฆที่อยู่เคียงข้างทะเลสีครามสุดแสนโรแมนติกสุดๆ (เมืองร้อนบ้านเราคงเป็นไปได้ยาก)
อ่านเรื่องนี้แล้วสำนึกรักบ้านเกิดพลุ่งพล่านค่ะ สงสารคนรันนาวาตีตอนที่ถูกบีบให้ต้องทิ้งถิ่นที่อยู่มากๆ การที่ต้องยอมจำนนกับเหตุผลของคนเมืองที่ยัดเยียดให้ว่า การสร้างท่าเรือจะทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้น ทั้งๆที่เจ้าตัวเขาไม่ได้เต็มใจสักนิด ตัวอย่างจริงๆที่เห็นในความเป็นจริงที่นึกออกก็คงเป็นเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่ชาวบ้านท้ายน้ำเรียกร้องให้สร้างเพื่อลดปัญหาน้ำท่วม ไม่อยากจะบอกเลยว่า จากประสบการณ์ของคนที่อยู่ใต้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สองปีมานี้ บอกได้เต็มปากเลยว่า ถึงมีเขื่อน คนใต้เขื่อนก็น้ำท่วมมิดหัวเหมือนกัน เขื่อนสู้ลานิญญ่าซึ่งเป็นผลกระทบจากประกฎการเรือนกระจกจนกระแสน้ำอุ่นเปลี่ยนทิศทางไม่ไหวหรอกค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดสะสมจากการกระทำของคนทั้งโลก สิ่งที่จำเป็นที่สุดตอนนี้คือ การพัฒนาป่าไม้อย่างยั่งยืนเพื่อรับภัยแล้งติดๆกันที่กำลังจะมาถึงมากกว่า
อยากอ่านบ้าง
| เรื่อง | ดอกไม้และสายลม |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| สำนักพิมพ์ | พิมพ์คำ |
| จำนวนหน้า | 569 |
plot ธิโมส์ปัจจุบัน
ซอร่าหนีการตามล่าของบันทรีมาซ่อนตัวในสวนดอกไม้กลางคาเรนา ซึ่งเงียบสงบแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอลกาสที่เธอเคยอยู่ แค่เพียงได้พบกับซอร่าเพียงครั้งเดียว นานาธีลาแห่งคาเรนาก็รู้ว่าหัวใจของซอร่าว่างเปล่า เธอตั้งใจว่าจะช่วยเติมหัวใจของซอร่าให้เต็ม โดยมีเรนที่ทะเลาะกับซอร่าทุกครั้งที่เจอหน้า คอยให้ความช่วยเหลือแบบไม่ค่อยเต็มใจ แต่หัวใจของทั้งสองก็ค่อยๆเชื่อมถึงกันโดยไม่รู้ตัว
จะมีการเลือกตั้งปันต์คนใหม่ พรรคอนุรักษ์นิยมชูนโยบายจะตัดถนนเชื่อมเหนือใต้ผ่านใจกลางคาเรนา ทำให้คะแนนเสียงของพรรคลดลง การเข้ามาของคณะหาเสียงของพรรคเสรีนิยมทำให้บันทรีรู้ระเคะระคายถึงที่ซ่อนของซอร่าห์ บันทรีเข้ามาล่าซอร่าถึงในสวนของเรน แต่นานาเข้ามาช่วยซอร่าที่กำลังจะถูกยิงจนตัวเองเสียชีวิต ส่วนบันทรีก็ตายด้วยมือของจีลัน ก่อนที่เขาจะเสียสติเพราะความเสียใจกับการตายของมารดา การตายของธีลาทำให้คะแนนในคาเรนาพลิกผัน พรรคธีโมส์ ชาวีย์ของ ดร. วัตราลี ผู้สมัครหน้าใหม่ชนะการเลือกตั้ง ส่วนซอร่าก็ปักหลักอยู่ที่คาเรนาบ้านของเธอกับเรน
charecter
ซอร่า : ญาติของเคช เป็นลูกครึ่งอังกฤษ เคเชรี ทำงานเป็นนางแบบที่มีความเย่อหยิ่งเป็นเอกลักษณ์ และยังรับหน้าที่สืบข่าว กับทำงานอันตรายบางอย่างให้เคเชรี
เรน : หลานชายของโรส คู่รักของคาเล เป็นเจ้าของสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในคาเรน่า
นานา : ธีลา ศูนย์รวมจิตใจของคาเรน่า ลูกชายคนเดียวของเธอชื่อว่า จีลัน เป็นผู้จัดการร้านธีลาการ์เด้น
แมมี : เด็กหญิงกำพร้า ที่นานา กับเรนช่วยกันดูแล
log
โอย พระเอกเรื่องนี้น่ารักอีกแล้วค่ะ ถึงจะเป็นคนละแบบกับเคชก็ตาม หนุ่มชาวสวนดอกไม้ที่แอบกวน อย่างช่วงแรกๆของเรื่องมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งนางเอก อย่างการถอดเครื่องอำนวยความสะดวกที่มีในบ้านออก ตอนหลังแอบสะใจที่ตัวเรนเองนั่นแหละต้องเป็นคนทำไปทำให้เหมือนเดิม อ่านแล้วอยากรู้จริงๆว่าเรนจำใช้วิธีอะไรในการปราบพยศซอร่า
ชอบคำพูดของเรนตอนหนึ่ง ตอนที่ซอร่าท้วงว่าทำไมเรนปล่อยให้น้ำสปริงเกอร์โดนตัวบ้าน ไม่กลัวบ้านไม้พังรึไง แต่เรนกลับหัวเราะตอบว่า เราจะไม่ยอมเสียสละอะไรบางอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองรักบ้างเลยหรือ ตรงนี้เห็นด้วยสุดๆเลยค่ะ เหมือนกับคนรักแมวที่ยอมแต่งตัวโทรม เพื่อจะได้ไปฟัดกับเจ้าตัวดีให้สะใจ โดยไม่ต้องกลัวว่าเสื้อผ้าจะเสียหาย
ตัวละครที่รักที่สุดในเรื่องนี้ยกตำแหน่งให้นานา ธีลาของคาเรน่ามีเสน่ห์จริงๆ รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งเวลาเธอปรากฏตัว ตอนที่เธอเสียนี่ร้องไห้ตามเลยค่ะ คาเรนานี่มีบรรยากาศคล้ายๆทุ่งนาภาคกลางบ้านเรา ชอบสวนดอกไม้ของเรนจังค่ะ อยากมีแฟนหนุ่มเป็นเจ้าของสวนดอกไม้บ้างจัง
อยากอ่านบ้าง
| เรื่อง | ปราสาททรายในสายฝน |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| สำนักพิมพ์ | พิมพ์คำ |
| จำนวนหน้า | 536 |
plot ธิโมส์ปัจจุบัน
บีแบลคส่งชิ้นส่วนหินทรายสีชมพูที่มีจารึกโบราณที่มีคำว่า กีระดารา ไปให้มิชช์เพื่อนที่เป็นนักโบราณคดีประจำเมืองโอจา โครงการขุดค้นที่ ตรีรัชตะ ที่อยู่ในบริเวณบ้านหินของแบลคก็เริ่มขึ้น ตรีดามาสได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีม การต้อนรับแรกที่เธอได้รับจากเจ้าของบ้าน คือ การเอาปืนจ่อหัวไล่ให้ออกไปจากบริเวณบ้านของเขา ตรีดามาสไม่ยอมไปแจ้งตำรวจแต่ก็ดูเหมือนไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร ตรีดามาสเลยใช้วิธีมัดมือชกจนในที่สุดการขุดค้นก็เริ่มขึ้น แบลคพยายามเกลี่ยกล่อมให้ตรีดามาสเข้าใจวิถีทางของเมืองโอจา และรับการคุ้มครองจากเขา แต่ตรีดามาสต่อต้านเพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนของใคร แต่ในที่สุดเธอก็ต้องยอมเพราะคณะขุดค้นถูกข่มขู่
มีการค้นพบมัมมี่ของมัตเต หนึ่งในสองนักรบคุ้มผีเสื้อที่ต่อสู้เคียงข้าง กาย กานาเมซ แต่ ผอ.ไนรา พยายามให้คนนอกเข้าใจว่า มัมมี่ที่พบเป็นของเจ้าหญิง คีรา แต่ตรีอามาสเอาหลักฐานมายืนยันกับสื่อมวลชนจนทำให้เธอถูกเรียกตัวกลับแต่เธอใช้วิธีลาพักร้อนเพื่อกลับมาทำงานที่หลุมขุดค้น พอการขุดค้นเริ่มเป็นรู้เป็นร่าง มีการค้นพบวัตถุโบราณที่น่าจะเป็นสมบัติของเจ้าหญิงคีรา ไนราก็กระพือประเด็นเรื่องโจรขุดสุสานโดยชี้เป้าหมายกลายๆว่าคนๆนั้น คือ แบลค
ในขณะเดียวกันก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในเมืองโอจา ทุกคนในเมืองเข้าใจว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างแบลคกับกลุ่มเตลีมา แบลคเริ่มโต้กลับแบบเงียบๆจนรู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงคือ กลุ่มคลื่นขาว โดยาหัวหน้ากลุ่มบันทรีถูกฆ่า จากหลักฐานที่แบลคส่งให้ตำรวจทำให้แผนการของไนราสั่นคลอน ไนรากับแดคีลหัวหน้ากลุ่มคลื่นขาวบุกมาที่หลุมขุดค้นโดยวางแผนว่าจะฆ่าตรีดามาสเพื่อสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายแบลค แบลคใช้ตัวเองบังกระสุนให้ตรีดามาส ตอนที่ทั้งสองล้มกระแทกพื้นเกิดดินถล่ม แบลค ตรีดามาส ตกลงไป ส่วนแดคีลพลาดตกลงมาด้วย ไนร่าทิ้งให้เขาตาย ข้างล่างเป็นหลุมศพของเรเชนนักรบคุ้มผีเสื้ออีกคนหนึ่ง แบลค ตรีดามาส แดคีลจึงรอดออกมาเปิดโปงแผนร้ายของไนร่าได้ในที่สุด
charecter
แบลค : เป็นหนึ่งในสามผู้มีอิทธิพลของเมืองโอจา แต่มีเพียงเขาที่ทุกคนเรียกเขาว่า บี ซึ่งแสดงถึงการยอมรับนับถือ เขาสืบทอดตำแหน่งนี้ต่อจาก บีแชม ผู้เป็นบิดา
ตรีดามาส : นักโบราณคดีไฟแรง ชื่อของเธอมีความหมายว่า ผู้หญิงที่เกิดในคืนฝนพรำ
log
ตอนนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาที่เมือง โอจา เมืองแห่งสายฝนทางทิศตะวันออกได้ชื่อว่าเป็นเมืองคนดุ เปรียบเทียบกับแผนที่ประเทศไทยก็คงเป็นบริเวณภาคใต้ อ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกเรื่อยๆ ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ การเล่าเรื่องของเล่มนี้ดูเหมือนจะเน้นที่การขุดค้น กับรายละเอียดของมัมมี่แต่ละร่างค่อนข้างเยอะ แถมทิ้งจุดสนใจไว้ให้อยากรู้อีกซึ่งเป็นจุดดึงดูดความสนใจยิ่งกว่าปมประจำเล่มเสียอีก เลยรู้สึกเหมือนว่าเล่มนี้เป็นบทนำของเล่มถัดไปยังไงไม่รู้
อยากอ่านบ้าง
| Date | 27 กันยายน 2554 |
| เรื่อง | ผีเสื้อลายตะวัน |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| ความยาว | 455 |
| สำนักพิมพ์ | ดวงตะวัน |
plot ธิโมส์อดีต
กาย กานาเมซรวบรวมผู้คนเข้าปล้นโจมตีทหารครีราโมส์ซึ่งทำร้ายและเอาเปรียบชาวบ้าน คีราเจ้าหญิงแห่งครีราโมส์ไม่ต้องการจะเข้าพิธีแต่งงานตามคำสั่งของบิดา จึงส่งจดหมายขอให้กายมาช่วย แต่กลับพบว่าคีราไม่ได้ขอร้องเพียงตนเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ขอให้มัตเตแห่งคุ้มผีเสื้อมาช่วยด้วยเช่นกัน กายและมัตเตจึงร่วมมือกันลอบพาคีราหนีพิธีแต่งงาน มัตเตนำทางกายไปยังคุ้มผีเสื้อ ที่นั่นกายชวนให้คุ้มผีเสื้อสร้าง กีระดารา ซึ่งก็คือกำแพงหินซึ่งจะยาวตลอดแนวชายหาดด้านหน้าของแผ่นดินแสงดาวเพื่อป้องกันการรุกรานจากคนต่างแดน ซึ่งผู้นำคุ้มผีเสื้อก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แถมมัตเตและเรเชนสองพี่น้องแห่งคุ้มผีเสื้อยังตามกายกลับไปโอจาด้วย ที่โอจา มัตเตได้ประจักษ์ถึงสิ่งที่กายทำให้แผ่นดินเกิด ทำให้มัตเตยอมรับในตัวกาย มิตรภาพระหว่างทั้งสองแนบแน่นยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเรเชนและคีราที่ต่างก็มีใจตรงกันก็แต่งงาน
กายตกม้าจนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของศัตรู มัตเตพากายหนีได้ทัน แต่ระหว่างพยายามปฐมพยาบาลกาย มัตเตก็ได้รู้ถึงความลับที่กายซ่อนไว้ มัตเตโกรธที่ถูกหลอกลวง แต่สุดท้ายเขาก็ยอมรับความรู้สึกของตัวเองว่าในความโกรธมีความยินดีรวมอยู่ด้วย มัตเตสารภาพความรู้สึกของตัวเองกับกาย หลังจากเหตุการณ์นั้นทั้งสองก็อยู่เคียงข้างกันมาตลอด
charecter
กาย กานาเมซ : ฉายาของเขาคือ คนเถื่อนแห่งเมืองโอจา ผู้ริเริ่มสร้าง กีระดารา พ่อของเป็นคนชาวีย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักคิด ส่วนแม่เป็นคนครีราโมต์ กายรวบรวมคนเป็นกลุ่มก้อนเพื่อต่อต้านการกดขี่จากครีราโมต์ที่อลาส
มัตเต : นักรบแห่งคุ้มผีเสื้อ เป็นพี่ชายของเรเชน ชื่นชอบเรื่องอาวุธ
เรเชน : นักรบแห่งคุ้มผีเสื้อ แต่ที่จริงเขาเป็นศิลปินมากกว่านักรบ อีกทั้งยังเป็นอาลักษณ์จดบันทึกทุกอย่างรอบตัว
คีรา : บุตรสาวของราเมซ เจ้าหญิงของคีราโมส์ เธอถูกพ่อจับคลุมถุงชนจึงส่งจดหมายขอความช่วยเหลือจากกาย และ คุ้มผีเสื้อ หลังจากนั้นก็พำนักอยู่ที่โอจาตลอดมา
log
จุดเด่นของเรื่องนี้ไม่ใช่ความโรแมนติกของพระนาง(แม่เล่นปลอมตัวเป็นผู้ชาย จะไปมีบทโรแมนติกตรงไหนได้เล่า) แต่เป็นแนวความคิดเรื่องชาติบ้านเมืองค่ะ โดยตัวแทนที่เป็นรูปธรรมของความรู้สึกดังกล่าว ก็คือ กีระดารา ซึ่งเป็นปริศนาที่ทุกคนตามหากันในเล่ม ปราสาททรายในสายฝน
กีระดาราของคนที่ชื่อ กาย กานาเมซ คืออะไร ไม่ใช่สุสานอันโอฬารเหมือนอย่างที่ทุกคนฝันหา แต่กลับเป็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าสายตาของทุกคนมาตลอดแต่ไม่มีใครรู้ ซึ่งนั่นคือ แนวกำแพงหินตลอดแนวชายหาดของแผ่นดินแสงดาว ที่อยู่ยงมาถึงแผ่นดินแสงดาวในปัจจุบัน คนที่อ่านเล่มนี้จะต้องประทับใจกับหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่รักในบ้านเกิดเมืองนอน ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ซึ่งกลายจุดกำเนิดของแนวกำแพงหิน สำหรับเรา กาย กานาเมซ เป็นตัวละครที่เรานับถือน้ำใจเธอมาก
ประเด็นของเรื่องนี้ คือ พลังของเพศหญิง ที่ในสังคนสมัยโบราณ ผู้หญิงไม่สามารถทำอะไรเพื่อแผ่นดินได้ นอกจากตดูแลครอบครัว โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า ผู้นำที่ยิ่งหญิง คนที่รวบแผ่นดินแสงดาวให้เป็นปึกแผ่นแท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง
อยากอ่านบ้าง
| Date | 10 พฤษภาคม 2555 |
| เรื่อง | บัลลังก์บุหลัน |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| ความยาว | 431 หน้า |
| สำนักพิมพ์ | ดวงตะวัน |
plot ธิโมส์อดีต
ฑูตกูตูร์ลัทธิความเชื่อใหม่ที่ขึ้นมาอีอำนาจหลังจากครีราโมส์ล่มสลาย จับปราชญ์ลัชชูร์ไปสังเวย เรทัต อินทัต และญีลา รีบพาคนหนุ่มจากอลันจาไปช่วยเหลือ ระหว่างที่เรทัตเข้าไปสอดแนมก่อนการโจมตี เขาได้พบ ซายน์ สาวชาวซีตานำเหรียญทองมาเจรจาขอไถ่ตัวน้องสาวที่ถูกจับมาสังเวย ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายในการบุกเข้าช่วยเหยื่อสังเวย เพื่อความปลอดภัยเรฑัตเลยอุ้มหญิงสาวออกมาด้วย หลังจากนั้นแม่และน้องของซายน์ก็ถูกพวกฑูตกูตูร์พยายามลักพาตัวไปที่โซรังซึ่งเป็นที่หลบซ่อนของเลยาง เจ้าลัทธิอดีตปราชญ์คนสนิทของปันตร์ราเมซพ่อของคีรา โชคดีที่เรทัตพาคนไปช่วยกลับมาได้ทัน เพื่อความสงบสุขของผู้คนในแผ่นดินแสงดาวตามปณิธานของกาย กานาเมซ พวกของเรทัตจึงวางแผนทำลายพวกฑูตกูตูร์ โดยเริ่มจากการป้องกันไม่ให้ฑูตกูตูร์ลักพาตัวพวกซีตาเพื่อรีดไถ่เหรียญทองเป็นค่าไถ่อีกต่อไป พวกของเรทัตตัดสินใจสร้างกระโจมที่พักชั่วคราวบริเวณผาที่ติดกับชายหาดซึ่งเป็นที่ปลูกกระโจมของพวกซีตา โดยเรทัตของให้ซายน์มาช่วยสอนวิธีกางกระโจมที่แข็งแรงมั่นคงแบบที่ซีตาทำได้ อินทัตแอบพาคนจำนวนหนึ่งไปก่อกวนพวกฑูตกูตูร์ พวกฑูตกูตูร์จึงตอบโต้ด้วยการบุกมาเผาที่อยู่อาศัยของคนในอาลาส เมื่อผู้คนต่างหวาดกลัวถึงขนาดมีความคิดที่จะยอมตกเป็นเบี้ยล่าง เรทัตจึงจำต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเพื่อเป็นหลักยึดให้กับผู้คนไม่ให้หลงผิด อาศัยความช่วยเหลือจากคนอลันจา และโมแนตตา ภายใต้การนำของมันเต และ เรเชน ทำให้เรทัตสามารถจับกุมพวกฑูตกูตูร์ที่คิดจะยึดเนินเปดาล เรทัตสังหารเลยาง และขึ้นเป็นปันต์
มีข่าวว่าเวคิน เจ้าเกาะมาคีบันต์กำลังเดินทางมายังแผ่นดินแสงดาว ก็เกิดเหตุการณ์พ่อค้าจากมาคีบันต์กลับถูกฆ่าโดยวิธีการที่ใครๆก็รู้ว่าเป็นฝีมือของฑูตกูตูร์ แถมคนมาคีบันต์อีก 3 คนที่ถูกจับฐานร่วมก่อการกับพวกฑูตกูตูร์ก็ถูกวางยาพิษ ซายน์ที่ไม่อยากให้เกิดสงครามเป็นตัวแทนขึ้นไปเจรจา โดยมีอินทัตไปเป็นเพื่อน ระหว่างที่กำลังเจรจา เหล่าฑูตกูตูร์ที่ถูกคุมขังแหกคุกหนีออกมาก่อความวุ่นวาย แต่ก็ถูกกองกำลังที่เรทัตเตรียมไว้อย่างดีปราบจบราบคาบ
charecter
เรทัต : ลูกชายคนโตของเรเชน และคีรา หรือแฝดพี่ของอินทัต แต่แท้จริงแล้วเขาคือลูกชายของมัตเต และ กาย กานาเมซ ซึ่งเรฑัตเองถึงแม้จะไม่รู้ความจริงก็มีความผูกพันกับกาย และมัตเตอย่างเหนียวแน่น สืบสายเลือกครีราโมต์ผ่านทางยายซึ่งเป็นแม่ของกาย กานาเมซ
ซายน์ : หญิงสาวซีตาผู้มีฝีมือการเจรจาต่อรองเป็นอันดับหนึ่ง แม่ของเธอเป็นหญิงรับใช้ในเรือนครีราโมส์ซึ่งถูกส่งไปบำเรอนักรบต่างชาติ เธอจึงพยายามเต็มที่เพื่อให้แม่หลุดพ้นจากอดีตอันเลวร้าย
อินทัต : แฝดน้องของเรฑัต ลูกชายที่แท้จริงของเรเชน และคีรา
ญีลา : ลูกชายของมูลัช คนสนิทของคีรา เป็นหลานสายตรงของปราชญ์ลัชชูร์
log
เล่มนี้เปิดมาก็เศร้าเลยค่ะ กับพิธีศพของกาย กานาเมซ ซึ่งทุกคนทำตามที่เธอสั่งเสียไว้ว่า ไม่ต้องสร้างสุสาน เพียงนำร่างของเธอออกไปลอยทะเลก็เพียงพอ
แผ่นดินแสงดาวในเล่มนี้เป็นยุคที่เรฑัต กลับมากอบกู้ครีราโมต์ขึ้นมาใหม่ โดยมุ่งหวังว่าจะทำให้แผ่นดินแสงดาวเป็นปึกแผ่นตามเจตนารมณ์ของกาย กานาเมซ โดยมี น้องชายทั้งสอง และซายน์ สาวซีตาเป็นผู้ช่วย เล่มนี้บทหวานๆเยอะค่ะ อ่านแล้วอมยิ้ม แต่ตัวละครโปรดของคนอ่านเล่มนี้กลับไม่ใช่พระเอก แต่เป็น ญีลา วายร้ายหน้าซื่อ ตามคำนิยามของ เรฑัต ซะงั้น
อยากอ่านบ้าง
| Date | 24 พฤษภาคม 2555 |
| เรื่อง | ณ ที่ดาวพรางพร่างรัก |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| ความยาว | 549 หน้า |
| สำนักพิมพ์ | ดวงตะวัน |
plot ธิโมส์ปัจจุบัน
เมื่อ ศาตราอินทัต ครีราโมส์ เดินทางกลับจากการหนีเที่ยวประเทศไทย และถูกตามไล่ล่า ราวัต ครีราโทต์บิดาของเขาก็จัดการหา เลขามาคอยดูแลเขาทุกฝีก้าว เกิดเหตุระเบิดในสถานที่ซึ่งอินทัตไปปรากฏตัว ทุกคนรอบตัวเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมปลดปล่อยธิโมต์ แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ มีแหล่งข่าวหนึ่งรายงานว่า มาริศ พี่ชายฝาแฝดของอินฑัตเป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อเหตุ แต่ที่น่าแปลกใจไม่แพ้กันคือ ท่านราวัตดูจะไว้เนื้อเชื่อใจ วางความปลอดภัยของลูกชายสุดที่รักให้ ฌาคีย์ ที่เป็นเพียงเลขาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ แม้แต่การเห็นชอบข้อเสนอของอินฑัตที่จะเอาตัวเองเห็นเหยื่อล่อ มาริศ
เหตุการณ์ร้ายยังคงเกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้กลุ่มผู้นิยมครีราโมส์ ลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ปันต์วัตราลีดูแลความปลอดภัยของครีราโมส์ให้มากกว่านี้ แต่สิ่งที่ช่วยให้เรื่องราวไม่บุกลามปานปลาย คงเป็นข่าวที่บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาริศ ศาตราอีกคนมีส่วนเกี่ยวข้อง และจุดมุ่งหมายคือการเรียกร้องความสนใจ จนคืนวันงานประมูลเพื่อการกุศลที่ษีลวีรา บ้านพักต่างอากาศของศาวีรันดา อินฑัตถูกลวงออกไปฆ่า เพื่อให้ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดใช้ความตายของครีลาโมส์เป็นบันไดนำไปสู่สิ่งที่ต้องการ แต่เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อความจริงเปิดเผยว่า อินฑัตแท้จริงแล้วคือ มาริศ ที่ปลอมตัวมาเพื่อปกป้องน้องชาย และล่อให้ตัวการโผล่หางออกมา เมื่อผู้ก่อการรู้ว่า ถูกล้อมโดยกลุ่มคนจำนวนมากที่มีอาวุธครบมือ การยิงต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดโดยมามาริศเป็นตัวประกันก็เริ่มขึ้น ฌาคีย์ฝ่าดงกระสุนลงไปช่วยมาริศ และเอาตัวเข้าปกป้องเขาจนได้รับบาดเจ็บ
charecter
มาริศ ครีราโมส์ : แฝดพี่ที่ใครๆก็เปรียบเทียบว่าเหมือน กูตูร์ เป็นลูกที่พ่อไม่ค่อยสนใจ แต่เขาก็ได้ใช้ชีวิตตามใจตัวเอง
อินทัต ครีราโมส์ : แฝดน้อยซึ่งเปรียบเหมือนเฮกัล เป็นลูกที่ท่านราวัตรักและสนใจมากที่สุด ต้องอยู่ในกรอบ และเป็นให้ได้อย่างที่พ่อของเขาต้องการ
ฌาคีย์ : พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะโจรปล้นตั้งแต่เธออายุได้ 10 ขวบ ถึงแม้ว่าโจรร้ายคนนั้นจะตายด้วยมือของเธอ แต่ฌาคีย์ก็ยังมีแผลในใจว่า เธอน่าจะตัดสินใจฆ่าให้เร็วกว่านั้น มิฉะนั้นแล้วการสูญเสียคงไม่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเธอก็กลายเป็นคนที่วิ่งเข้าใส่อันตราย
log
ตอนอ่านเรื่องนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นกับการดำเนินเรื่งเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่ากระโดดข้ามไปอ่านสดับเสียงรักแล้วเลยพอเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไรสัก 50 % ส่วนที่ไม่รู้อีก 50 % คือคนร้ายตัวจริง ซึ่งอ่านๆไปสักกลางเล่มคนที่ชอบนิยายลึกลับน่าจะเดาได้ เพราะคนเขียนบอกใบ้ผ่านคำบรรยายความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร
พระนางเรื่องนีัไม่ได้ถูกตาต้องใจเราเป็นพิเศษ ออกจะมึนงงด้วยซ้ำว่าไปหวั่นไหวกันตรงไหนฟระ พฤติกรรมกวนอารมณ์ของพระเอกมันน่าตบหัวมากกว่านะ ดีที่นางเอกเป็นมืออาชีพ เป็นเราหน่อยไม่ได้ ได้ยิงไส้แตกกันมั่งแล้ว
ฉากที่ชอบที่สุด เป็นตอนงานประมูลการกุศลที่คฤหาสน์ศาวีรันดาค่ะ เพราะเป็นที่รวมของพระนางภาคปัจจุบันในเล่มก่อนๆ ทุกคน คิดถึงจริงๆ
อยากอ่านบ้าง
| Date | 16 พฤษภาคม 2555 |
| เรื่อง | สดับเสียงรัก |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| ความยาว | 576 หน้า |
| สำนักพิมพ์ | ดวงตะวัน |
plot ธิโมส์ปัจจุบัน
ดร. วัตราลีเดินทางไปเปิดหอศิลป์ซึ่งดัดแปลงมาจากบ้านของอดีตรัฐมนตรี เมลร์ ทูนาโมที่ล่วงลับได้ไม่ถึงวัน หอศิลป์แห่งนั้นก็ถูกเพลิงไหม้ ทุกคนสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือ “แนวร่วมปลอดปล่อยธิโมต์” วัตราลีเดินทางไปสำรวจที่เกิดเหตุตามลำพังในตอนกลางคืน ที่นั่นเขาได้พบกับเอด้า ทูนาโม ที่แอบเข้าโดยบังเอิญ วัตราลีและเอด้าถูกแอบถ่ายภาพโดยไม่รู้ตัว ภาพดังกล่าวซึ่งอยู่ในมุมที่ชวนให้เข้าใจผิดถูกนำมาลงในหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์พร้อมข้อความโจมตีในเรื่องศีลธรรม ถึงแม้ศาวีรันดากับวัตราลีจะออกมาแถลงว่า ทั้งสองคนเคยรู้จักกัน และออกไปทำงานสืบสวนที่เกิดเตุด้วยกันเท่านั้น ชีวิตส่วนตัวของเอด้าก็ยังถูกรบกวน วัตราลีจึงตัดสินใจชวนเอด้าให้มาแสดงตัวเป็นแฟนของเขาเพื่อกลบกระแสข่าวลือ ซึ่งทุกอย่างก็ดูไปได้สวย จากข่าวโจมตีเหลือเพียงข่าวซุบซิบอยู่พักเดียว การขุดคุ้ยเรื่องต่างๆของทั้งวัตราลีและเอด้าออกมาโจมตีก็เริ่มต้นขึ้นอีก เรื่องเพชรวาโญ ที่ถูกขโมยจนมาปรากฎเป็นเข็มกลัดรูปสายรุ้งของเอด้า ซึ่งวัตราลีก็คอยดูแลเอด้าอยู่ไม่ห่าง
วัตราลีตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งคนที่รู้เรื่องนี้มีเพียงแม่ น้องชาย และเอด้า แต่เมื่อฝ่ายคู่แข่งมีความเคลื่อนไหว วัตราลีสงสัยว่าเอด้าอาจเป็นคนคอยส่งข่าว เขาจึงพูดจาทำร้ายจิตใจเอด้าจนเธอหายไปจากชีวิตเขา ในวันที่เขาต้องไปเปิดถนนวงแหวนรอบธิโมต์ช่วงสุดท้าย เอด้าซึ่งรู้ระแคะระคายว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง อีกทั้งเป้าหมายอาจเป็นชีวิตของวัตราลีรีบเดินทางไปเตือนเขาในวินาทีคับขัน ทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังซึ่งเป็นคนในครอบครัวของวัตราลีนั่นเองต้องแสดงตัว และเมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง คนๆนั้นก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
เมื่อความเศร้าจากความสูญเสียบรรเทาลง วัตราลีไปขอโทษเอด้า คราวนี้เขาชวนเธอมาเป็นแฟนกันจริงๆ แต่เอด้าขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก่อนที่จะกลับมาลงเล่นการเมือง และแต่งงาน
charecter
ดร. วัตราลี - ปันต์คนปัจจุบันของธิโมต์ หัวหน้าพรรคธิโมส์ ชาวีย์ ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมัยแรก ก่อนหน้านี้เขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยครีราโมต์
เอด้า ทูนาโม - ลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรี เมลร์ ทูนาโม ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์ความรุนแรงที่ทำเนียบครีราโมต์ หลังจากที่บิดาของเธอเสียชีวิต ศาวีรันดา ก็รับตัวเธอมาดูแล เป็นหนึ่งในสมาชิกแนวร่วมปลดปล่อยธิโมต์
log
อ่านเล่มนี้แล้วแอบมีใจให้หนุ่ม family man อย่าง ดร.วัตราลีซะแล้ว ทั้งๆที่ตอนที่อ่านเรื่องดอกไม้กับสายลมจินตนาการว่า ดร.วัตราลีน่าจะเป็นชายวันกลางคน หัวล้าน ท่าทางใจดี แต่พออ่านเรื่องนี้กลับกลายเป็น ชายหนุ่มอายุสามสิบกว่าที่ดูดี แถมยังโสก โว้ว ต้องรีบเปลี่ยนภาพลักษณ์ในหัวอย่างด่วยจากลุงชวน เป็น คุณอภิสิทธิ์ทันที แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ พี่แกกินหญ้าอ่อนค่ะ เอด้า นางเอกเรื่องนี้ของเราเพิ่งจะอายุ 19 (ขา ดร. แกเฉียดตารางแบบหวุดหวิด) เนื่องจากเธอเติบโตมาโดยไม่ได้รับความอบอุ่นจากบิดาเท่าที่ควร พอมาเจอผู้ใหญ่ใจดี ครอบครัวอบอุ่น กับบรรยากาศวันแห่งความรักของธิโมต์ นางเอกก็เลยตกหลุมรักคนแก่ (เป็นเราก็ใจแกว่ง ดร.แกเวลาจะหวานน้ำผึ้งยังเรียกพี่) ตอนที่ชอบมากๆของเล่มนี้ ยกให้บรรยากาศงานเทศกาลวันเธมส์ เพราะโดยส่วนตัวโปรดปรานงานแบบนี้ แถมพระเอกยังน่ารักมาก บอกรักผ่านดาวกระดาษเล่นเอาสาวๆใจละลาย
นอกจากตัวเองแล้ว ยังถูกใจตัวละครปริศนาซึ่งก็คือ เรเวียร์ นายคนปัจจุบันแห่งคุ้มผีเสื้อ ซึ่งท่าทางพี่แกจะเก็บปริศนาไว้กับตัวหลายกระบุง อยากอ่านเล่มที่พี่แกเป็นพระเอกเต็มๆเร็วๆจังเลย แต่คงต้องไปตามเก็บเล่มที่อ่านข้ามก่อนเป็นอันดับแรก
อยากอ่านบ้าง
| วันที่ | 31 พฤษภาคม 2555 |
| เรื่อง | รัตติกาลยาตรา |
| เขียน | ดวงตะวัน |
| ความยาว | 571 หน้า |
| สำนักพิมพ์ | ดวงตะวัน |
plot ธิโมส์อดีต
โซยาเข้าใจว่าพ่อกับแม่ตั้งใจจะหว่านล้อมให้เธอต้องระดาลัยกับเรียว ลูกชายของท่านอาญีลา ในคืนก่อนที่คณะเดินทางจากเคเชรีจะมาถึงเนินเปดาล โซยาลอบออกจากเรือนกลางดึก เพื่อลงเรือหนีไปมาคีบัน แต่ระหว่างรอเวลาเรือเล็กมาขนคน โซยาถูกชายชาวต่างชาติที่เมามายเข้าใจผิดว่าเธอเป็นโสเภณี โชคดีที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือไว้ เขาเป็นคนเคเชรีชื่อเรเวียร์ ส่วนโซยาก็แนะนำตัวว่า เธอชื่อ แซม เพื่อปิดบังฐานะที่แท้จริง แซมเดินทางไปมาคีบันโดยมีเรเวียร์ตามไปส่งเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้หญิงที่ต้องเดินทางคนเดียว เพื่อความปลอดภัยของของแซมทั้งสองจึงแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเป็นสามี ภรรยากัน
เมื่อเดินทางไปถึงมาคีบัน แซมกับเรเวียร์เช่าเรือนแรมพักอยู่ด้วยกันระหว่างออกตามหา โซยา น้องสาวของซายน์ แล้วทั้งสองก็ตามหาพบ โซยากับเดย์เปิดสำนักเดยา แต่ตอนนี้โซยาเสียชีวิตแล้ว มีลูกสาวรุ่นราวคราวเดียวกับแซมชื่อว่า ดานีย์ ดานีย์ชวนให้แซมมาพักที่สำนักเดยา ส่วนเรเวียร์เมื่อหมดหน้าที่เขาตั้งใจว่าจะกลับธิโมส์กับเรือเที่ยวถัดไป แต่เมื่อถึงเวลาต้องก้าวขาขึ้นเรือจริงๆ เรเวียร์กลับรู้สึกเป็นห่วงแซมอย่างรุนแรง เขาเลือกหัวใจตัวเองกลับมาหาแซม แต่ภาพที่เรเวียร์กลับมาเห็นตำตาคือ มาร์คินเจ้าเกาะมาคีบันนำตัวแซมเข้าไปในวัง
สาเหตุที่มาร์คินให้พาโซยาเข้ามาในวังด้วยเพราะเขาจำสร้อยที่โซยาสวมได้ ว่าเป็นสร้อยที่เขาสั่งให้ทำขึ้นเพื่อฝากให้พ่อค้าชาวมาคีบันไปมอบให้ซายน์สาวชีตาคนงามเมื่อสิบกว่าปีก่อน มาร์คินขอให้โซยาเป็นเพื่อนกับเขา เรเวียร์มาดักรอแซมอยู่ที่หน้าสำนักเดยา เรเวียร์สารภาพสิ่งที่เขารู้สึกกับแซม ซึ่งเธอเองก็ใจตรงกับเขาเหมือนกัน วันรุ่งขึ้นมีทหารมารอรับแซมเข้าไปพบกับมาร์คิน ทำให้เรเวียร์หึง ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง แซมเลยหนีเข้าไปอยู่ในวังของมาร์คิน 2 วัน ดานีย์กับเตร์คินหลายชายของมาร์คินใช้โอกาสที่เรเวียร์อยากเข้าไปตามหาแซมในวังของมาร์คิน ซ้อนแผนบุกยึกอำนาจจากมาร์คิน โดยตั้งใจจะโยนความผิดเรื่องสังหารเจ้าเกาะให้เรเวียร์รับไป แต่เรเวียร์บังเอิญได้ยินความเข้าเสียก่อน เรเวียร์ตามหาแซมท่ามกลางความวุ่นวายจนพบ ฉวมกับเรเวียร์พามาร์คินลงเรือหนีไปธิโมส์ ระหว่างโดยสารอยู่บนเรือมาร์คินหลุดปากเรื่องสถานะภาพที่แท้จริงของแซมให้เรเวียร์ฟัง ทำให้เรเวียร์ที่เพิ่งจะคืนดีกับแซมได้ไม่นานมีท่าทีเปลี่ยนไป เมื่อเดินทางมาถึงธิโมส์ ครอบครัวของโซยารีบมารับเธอด้วยความยินดี แต่สิ่งที่ทำให้โซยาตกใจที่สุด คือ การที่เรเวียร์เรียกพ่อของเธอว่าท่านลุง ที่แท้เรเวียร์ก็คือเรียว ลูกชายของท่านอาญีลาที่โซยาหนีระดาลัยนั่นเอง โซยารู้ต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ท่าทีของเรียวเปลี่ยนไปทันทีที่ได้รู้ว่าเธอเป็นใครแล้วว่าคือคำว่าร้ายชายเคเชรีที่เธอไม่ต้องการระดาลัยด้วยทั้งที่โซยาไม่เคยแม้แต่จะพบหน้า โซยาพยายามขอโทษเรียว เพื่อให้ทั้งสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
เตร์คินยกทัพมาคีบันมาที่ธิโมส์เพื่อตามล่าตัวมาร์คิน กลางศึกครั้งนี้เรียวเอาตัวเข้ารับดาบแทนเรทัตจนบาดเจ็บสาหัส การสู้รบจบลงเมื่อจับตัวการใหญ่เตร์คินกับ เดย์ได้ หลังจากเรทัตสังการเดย์ตามโทษที่เขาเคยลั่นวาจาไว้แล้ว มาร์คินก็เดินทางกลับมาคีบันพร้อมกองทัพที่ตอนแรกตั้งใจยกมาตามล่าตัวเขา เรียวรอดพ้นจากความตายหลังจากรักษาตัวจนหายดี โซยาขอให้เรียวระดาลัยกับเธอกลางงานมอบธีลาโมส์ให้กับครีลาโมส์รุ่นที่สอง
charecter
โซยา : บุตรสาวคนโตของปันต์เรทัต กับ ซายน์ แต่เอลัยมักจะเรียกเธอว่า แซม
เรียว : บุตรชายคนเดียวของญีลากับคิม เรทัต เรียกเขาว่า เรเวียร์ที่แปลว่า ลูกชายที่เขาปรารถนา
log
อันที่จริงหยิบงานของดวงตะวันเล่มนี้มาอ่านเป็นเล่มแรก แต่พออ่านๆไปสักพักเปิดไปเจอด้านหลัง “อ้าว เล่มนี้เป็นเล่มล่าสุดที่เพิ่งออกมานี่นา” เลยได้แต่อ่านคร่าวๆเพื่อไม่ให้เสียตังค์ฟรีก่อนที่จะไปเปลี่ยนเอารักที่ริมทะเลเมฆมาอ่าน
เรื่องนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างจากบรรยากาศของเล่มก่อนหน้าตรงที่ เล่มนี้เป็นบรรยากาศของหนุ่มสาวที่ตกหลุมรักกันและกันเป็นครั้งแรก เป็นความรักใสๆที่ยังไม่มีสำนึกเรื่องหน้าที่มาเพิ่มจนเป็นปัจจัยให้ต้องปวดหัว และอาจเป็นเพราะอ่านนิยายมาพอสมควร ทันทีที่ตัวละครที่ชื่อ เรเวียร์ ปรากฏตัวออกมา รู้สึกเลยว่า นี่ต้องเป็นเรียว ลูกชายของญีลาแน่ๆ เป็นความรู้สึกจากตัวละกดชื่อที่คล้ายกันกระมัง แบบว่ามุกนี้เอามาใช้ในนิยายสืบสวนบ่อยๆ ความสนุกเลยอยู่ตรงที่ความอยากรู้ว่า เมื่อโซยารู้ความจริงแล้วจะเป็นอย่างไร ก็นะเล่าด่าฝ่ายตรงข้ามไว้เยอะ เรื่องนี้ชอบตัวละครชื่อ เรียว เป็นพิเศษ หนุ่มเคเชรีนี่ม่เสน่ห์เหลือร้ายจริงๆ
อยากอ่านบ้าง
อ่านรุ้งจันทร์ตะวันดาวแล้วหลงรักธิม
ตอบลบ