ชื่อเรื่อง สายโลหิต
เขียน | โสภาค สุวรรณ |
จำนวนเล่ม | 964 หน้า (2 เล่ม) |
สำนักพิมพ์ | คลังวิทยา (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3) |
เรื่องย่อ
ในวันแต่งงานของ หลวงเทพ ลูกชายคนโตของเจ้าคุณพิริยะแสนพลพ่าย กับ ลำดวน ลูกสาวคนโตของคุณพระสุสรรณราชา ช่างทองหลวง ขุนไกร น้องชายของหลวงเทพจับได้ว่า ดาวเรือง น้องสาวคนเล็กของลำดวน แอบส่งเพลงยาวและของกำนัลจากหมื่นทิพคู่อริให้กับแม่เยื้อน น้องสาวคนสุดท้อง เพราะกลัวคำขู่ว่าจะฟ้องคุณย่าจนไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนๆกับบ่าวไพร่ ขุนไกรจึงสัญญากับดาวเรืองว่าจะไปคนไปขออนุญาตคุณย่าพาเที่ยวพระนครเสียเอง หลังจากได้ออกไปเที่ยวกับขุนไกรหลายครั้ง ดาวเรืองก็รู้สึกผูกพันกับขุนไกรญาติผู้พี่ผู้ใจดี
ทัพพระเจ้าอลองพญายกเข้าเขตแดนไทยมา ขุนไกรหัวหน้าหน่วยทะลวงพันของกรุงศรีอยุธยาออกรบเป็นแนวหน้าสู้ศึกอย่างกล้าหาญ จนพม่ายกทัพถอยทัพกลับเพราะปืนใหญ่แตกถูกพระเจ้าอลองพญาระหว่างบัญชาการรบ ขุนไกรจึงขอย้ายไปประจำหัวเมืองเหนือเพราะอึดอัดใจเรื่องภายในวังที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ความชะล่าใจเรื่องข้าศึกศัตรูของบรรดาไพร่พล และเรื่องที่ขุนทิพคู่อริจะมาเป็นเขยเล็กของบ้าน เวลาผ่านไปหลายปีแม่เยื้อนตรอมใจตายเพราะทนฤทธิ์เจ้าชู้ของหมื่นทิพไม่ไหว ในคืนเดียวกับแม่ของขุนไกรตกบันไดลงมาเสียชีวิต หลวงเทพจึงส่งข่าวให้ขุนไกรกลับมาพระนครเพื่อทำศพแม่กับน้อง ความดีความชอบในการรบที่หัวเมืองเหนือ ทำให้ขุนไกรได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นหลวง
หลวงไกรได้พบดาวเรืองอีกครั้ง เด็กน้อยที่ตัวเองเคยพาเที่ยวโตเป็นสาวงาม ทั้งสองแต่งงานกันแต่ยังไม่ทันได้เขาหอ หลวงไกรก็ต้องไปทัพ ดาวเรืองได้แต่รอฟังข่าวของสามีอยู่ที่บ้าน ถึงแม้ทัพที่ส่งไปรับข้าศึกที่เมืองธนบุรีแตก หลวงไกรก็ยังไม่กลับบ้าน เลือกที่จะเดินทางไปช่วยฝึกอาวุธชาวบ้านบางระจันต่อ เมื่อเห็นว่าขาดแคลนปืนใหญ่ซึ่งจำเป็นในการรบจึงเดินทางกลับมาพระนครเพื่อขอปืนใหญ่ไปให้ชาวบ้านทำศึกแต่หลวงไกรไม่สามารถกลับไปช่วยชาวบ้านบางระจันเพราะมีคำสั่งให้ประจำตำแหน่งบนเชิงเทินรักษาพระนคร
ข้าศึกล้อมกรุงศรีอยุธยาเกือบสองปีจึงตีกรุงศรีได้สำเร็จเพราะ หมื่นทิพกับข้าราชการบางคนเป็นไส้ศึกส่งเสบียง และ เปิดประตูเมืองให้ หลวงไกรที่ปลอมเป็นชาวบ้านกับดาวเรืองถูกพม่าจับไปใช้แรงงานอยู่ที่ค่ายโพธิ์สามต้น ก่อนจะลอบหลบหนีไปยังเมืองจันทบุรี หลวงไกรอาสาเป็นกองหน้ากอบกู้เอกราชได้สำเร็จ เมืองธนบุรี ยกขึ้นเป็นกรุงธนบุรี หลวงไกรได้เลื่อนเป็นพระสีหราชฤทธิไกร พาดาวเรืองมาปลูกเรือนอยู่ริมคลองหลวง รับราชการเรื่อยมา...
บันทึก...คนอ่าน
นวนิยายเรื่องนี้นำเค้าโครงเรื่องมาจากประวัติศาสตร์ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา จนถึงช่วงกรุงธนบุรีเป็นราชธานี เรียงลำดับเหตุการณ์โดยสังเขปดังนี้
1. ทัพของพระเจ้าอลองพญา ยกมาตีหัวเมืองทาง ทวาย มะริด ตะนาวศรี ทัพไทยที่ยกไปป้องกันแบ่งออกเป็นสองทัพ ทัพหนึ่งยกไปป้องกันมะริด และ ตะนาวศรี อีกทัพหนึ่งตั้งรับข้าศึกอยู่ที่เมืองกุย ผลการรบ ทัพไทยทั้งสองแตกพ่าย
2. ทัพพม่ายกมาถึง สุพรรณบุรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จึงกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตให้ขุนหลวงหาวัดพระอนุชา ลาผนวชกลับว่าช่วยว่าราชการป้องกันบ้านเมือง ทัพไทยที่ยกไปตั้งรับที่สุพรรณบุรี ทัพพม่าได้ชัย เข้าถึงกรุงศรีอยุธยา ตั้งทัพหลวงอยู่ที่บ้านกุ่ม มังระราชบุตรกับมังฆ้องนรธาตั้งค่ายอยู่ที่ทุ่งโพธิ์สามต้น
3. ปืนใหญ่แตกถูกพระเจ้าอลองพญาระหว่างบัญชาการรบ พม่าจึงถอนทัพกลับไป พระเจ้าอลองพญาสิ้นพระชนม์ระหว่างยกทัพกลับกรุงอังวะ
4. มังระราชบุตรได้ราชสมบัติ บัญชาให้มังมหานรธาเป็นแม่ทัพฝ่ายใต้ยกทัพมาทางทวาย ฝ่ายเหนือให้เนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพ เข้าตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ หมายให้ทั้งสองทัพมาบรรจบกันที่กรุงศรีอยุธยา
5. ชาวบ้านค่ายบางระจัน สู้รบอย่างกล้าหาญ สามารถตีพม่าแตกได้หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกตีแตกเพราะขาดปืนใหญ่ที่จะใช้ยิงต่อสู้ข้าศึก หลังจากนั้นไม่นานกรุงศรีอยุธยาก็ถูกตีแตก
6. พระยากำแพงเพชร ต่อมาคือพระเจ้าตากสิน รวบรวมไพร่พลอยู่ที่เมืองจันทบุรี ยกทัพทางเรือไปขับไล่พม่าออกจากแผ่นดิน โดยเริ่มจากธนบุรี กู้อิสรภาพคืนจากพม่า หลังจากนั้นทรงตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี
อ่านเนื้อเรื่องช่วงแรกๆ ชอบครอบครัวของดวงเรืองมาก ทั้งคุณย่านิ่ม พระสุวรรณราชาคุณพ่อของดาวเรือง พี่ลำดวน รู้สึกถึงความอบอุ่นในวิถีชีวิตแบบไทยๆ แถมยังมีพี่ขุนไกรพาไปเที่ยวอีก(ชักอิจฉา) แต่พอเริ่มมีสงคราม บรรยากาศของเรื่องจะหนักขึ้น บทสนทนาของตัวละครหลักๆ ปลุกเลือดรักชาติได้ดีจริงๆ บางตอนน้ำตาแทบไหล ยังดีที่มีเรื่องรักๆใคร่ๆมาคั่นบ้าง ไม่งั้นเลือดรักชาติได้เดือดพล่านจนหยุดไม่อยู่แน่ ตั้งแต่คู่ของพี่เยื้อน พี่เลี้ยงนางเอกกับพันสิงห์คนสนิทของขุนไกร พอนางเอกเป็นสาวก็เป็นทีดาวเรืองกับหลวงไกรบ้าง ฉากเด็ดอันเลื่องลือคนไม่พ้นตอนเก็บสายบัวระหว่างทางไปวัดพุทไธสวรรย์ อ่านนี้แล้วชักอยากมีแฟนเป็นทหาร ยิ่งได้รักเดียวใจเดียวแบบหลวงไกรยิ่งสมบูรณ์แบบ แต่ก็ต้องพึ่งตัวเองได้เพื่อเตรียมพร้อมรับข่าวร้ายตลอดเวลาเหมือนดาวเรือง
สำหรับเรื่องนี้ใช้คำว่าชอบคงไม่พอ ต้องใช้คำว่า ตกหลุมรัก ตอนเด็กๆได้ดูที่นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์เมื่อปี 2538 เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ยังร้องเพลงประกอบละครได้เลย
ข้าคือชายชาญชาติทหารวิญญาณแห่งนักรบไทย
ศึกนี้หรือศึกไหนหัวใจไม่เคยหวั่นเกรง
แล้วความรักข้าก็คือ ดวงใจเจ้าดวงนี้เอง
ใครหาญมาข่มเหง ข้างเองจะหยุดมัน
ออกศึกข้านึกแต่รบ และรบ
จบศึกข้านึกแต่รักเจ้าเท่านั้น
หากรอดชีวิตกลับมาหากัน
ขอให้เจ้านั้นดูแลหัวใจ
ชีพพลีนี้เพื่อแผ่นดิน
วิญญาณต้องมามลาย
ยังขอป้องปกไว้
ด้วยสายโลหิตของเรา
อ่านจบไปหาดูอีกรอบใน youtube ละครฉายตั้งแต่ปี 2538 นับแล้วตอนนั้นอายุ 13 พี่หนุ่ม ศรราม ยังเอ๊าะๆอยู่เลย กบสุวนันท์ ตอนนี้ก็แต่งงานมีลูกไปแล้ว การดำเนินเรื่องเทียบกันแล้วเหมือนถอดออกมาจากบทประพันธ์เลย ไม่เหมือนหลังๆนี้เพิ่มโน่นนี่ยืดเยื้อจนน่าหงุดหงิด เรื่องนี้เป็นละครอมตะนิรันดร์กาลของช่อง 7 ถ้าเอามาทำใหม่อยากรู้จริงว่าใครจะได้เป็นหลวงไกรน๊า...
1st Rewrite: 15 กุมภาพันธ์ 2563
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น